ในประเทศที่เปรียบเหมือนสวะนี้ การมีเงินเทียบเท่ากับการ มีอำนาจ และ ยศถาบรรดาศักดิ์ ยิ่งมีเยอะแค่ไหน ก็ยิ่งมีหน้าตาบน สังคม มากเท่านั้น แต่สิ่งที่เขาเคย กระทำ ใน อดีต มันกำลังจะ กลับมาทำลาย พวกเขาโดยที่ไม่รู้ตัว “ ในโลกนี้ มีความยุติธรรมซะที่ไหน ”
อาชญากรรม,ลึกลับ,วัยว้าวุ่น,ดราม่า,อื่นๆ,พล็อตสร้างกระแส,เพื่อน,รักไม่สมหวัง,การทรยศหักหลัง,ฆาตกรรมหักมุม,18+,ชาย-ชาย,ชาย-หญิง,หาฆาตกร,สืบสวนสอบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Crime of violence #จับให้ได้ใครคือฆาตกรในประเทศที่เปรียบเหมือนสวะนี้ การมีเงินเทียบเท่ากับการ มีอำนาจ และ ยศถาบรรดาศักดิ์ ยิ่งมีเยอะแค่ไหน ก็ยิ่งมีหน้าตาบน สังคม มากเท่านั้น แต่สิ่งที่เขาเคย กระทำ ใน อดีต มันกำลังจะ กลับมาทำลาย พวกเขาโดยที่ไม่รู้ตัว “ ในโลกนี้ มีความยุติธรรมซะที่ไหน ”
.
.
ในประเทศที่เปรียบเหมือนสวะนี้
การมีเงินเทียบเท่ากับการ
มีอำนาจ และยศถาบรรดาศักดิ์
ยิ่งมีเยอะแค่ไหน ก็ยิ่งมีหน้าตาบน
สังคม มากเท่านั้น
แต่สิ่งที่เขาเคย กระทำ ใน อดีต
มันกำลังจะกลับมาทำลาย
พวกเขาโดยที่ไม่รู้ตัว
.
.
“ หากคนที่ทำเรื่องสกปรก
ไล่ฆาตกรรมคนเป็นว่าเล่น
ไม่ใช่คนที่คิดไว้...คุณจะทำอย่างไร ? ”
.
.
“ หากคนที่คุณมีความสัมพันธ์ด้วย
เป็นคนที่คุณทั้งรักทั้งเกลียด...คุณจะทำอย่างไร ? ”
.
.
“ หากคนที่ทำให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น
กลับกลายเป็นตัวคุณเอง...คุณจะทำอย่างไร ? ”
.
.
______________________________________________________________
*เนื้อหาเรื่องนี้มีคำพูดหยายคายแบบเพื่อนคุยกัน
TRIGGER WARNING
Attempted murder
: มีการพยายามฆ่า
Abuse
: การทำร้าย ใช้ความรุนแรง
Blood
: มีเลือด
Blackmail
: มีการข่มขู่ให้ทำตาม
Bullying
: การบูลลี่, การกลั่นแกล้งรังแก
Classism
: การเหยียดชนชั้น
Coercion
: การใช้ความสัมพันธ์หรืออำนาจที่เหนือกว่า
เพื่อบังคับหรือโน้มน้าวให้อีกฝ่ายต้องยอมทำ
ในสิ่งที่ไม่ได้อยากทำ
corpse
: ศพ
Depression
: อาการซึมเศร้า
Drug abuse/Drug misuse
: การใช้ยาหรือสารเคมีต่างๆ แบบผิดวิธี
Gore
: เนื้อหามีความโหดร้าย
Humiliation
: การทำให้อีกฝ่ายได้รับความอับอาย
Mental illness
: มีอาการป่วยทางจิต
Major character death
: มีตัวละครหลักตาย
Murder
: การฆาตกรรม
sexual explicit
: เนื้อหามีความโจ่งแจ้งในเรื่องเพศ
Toxic relationship
: ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ
นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
ในด้านพฤติกรรม ความรุนแรง และการใช้ภาษา
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้น
จากจินตนาการของผู้เขียน
เหตุการณ์และตัวละคร ไม่มีอยู่จริง
ผู้เขียนไม่มีเจตนาที่ไม่ดีในการเขียนนะครับ
_______________________________________________
สวัสดีครับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เขียนเลยครับ มีอะไรให้ปรับปรุงคอมเมนต์พูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้เลยนะครับฝากตัวด้วยครับผม
* หากภาพประกอบไม่สวยขออภัยด้วยนะครับวาดเองครับผม ยังไม่มีเงินจ้าง🥲
มีการบรรยายเนื้อหาค่อนข้างมาก
.
.
.
เช้าวันที่อากาศสดใสเสียงนกกางเขนส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วตั้งแต่เช้าตรู่ มันเป็นนกที่ขยันตื่นก่อนใครมันร้องเสียงใสปลุกให้คนทั้งเมืองตื่นเพื่อมาชมบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ขึ้น..แต่ไม่ใช่กับชาวเมืองกรุง เพราะสำหรับพวกเขาแล้วนกตัวนี้ไม่ได้มีความพิเศษใด ๆ นอกจากทำให้รำคาญเพียงอย่างเดียว
‘ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ ’
“ What the jib jib shit ! ”
หญิงสาวตื่นมาด้วยความหัวเสียจากเสียงร้องของตัวอะไรไม่รู้ที่ดังอยู่ข้างนอกกระจกหน้าต่างบานใหญ่ เธอลุกขึ้นจากเตียงนอนที่แสนนุ่มนวลราวกับปุยเมฆแล้วเดินไปเปิดม่านออกอย่างแรงจนเกิดเสียงดังของลูกล้อราวม่านกระทบกัน มองซ้ายที ขวาทีหาต้นตอของเสียง
“ I can see you ” พูดจบเธอก็เปิดประตูกระจกหน้าต่างออกกว้าง
“ Hey there Stop making annoying noises now ! ” เธอพูดออกไปเพื่อให้ต้นตอนั้นหยุดทำเสียงที่น่ารำคาญ
หญิงสาวไม่รู้ว่าข้างล่างมีคนสวนกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ คนสวนมองขึ้นไปยังห้องที่เปิดหน้าต่าง เผยให้เห็นว่าคุณหนูของบ้านนั้นกำลังพูดคุยอยู่กับ...
คนสวนหันหน้ามองตามสายตาของโฟร์ไปแล้วพบกับ...นก
“ คุณหนูเล็กคุยกับนก ” คนสวนพูดพึมพำเบา ๆ
ไม่นานเสียงริงโทนโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นซึ่งทำให้เขาอารมณ์เสียหนักว่าเดิม
“ What ? ”
( โฟร์..ตื่นแล้วรึยัง ? )
“ ก็ถ้าไม่ตื่นแล้วใครรับสายไม่ทราบ ? ”
( โอเค อาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว มีประชุมกันจำได้ใช่ไหม ? )
“ อืม ”
( ให้กูไปรับที่คอนโดไหมหรือจะมาเอง )
“ กูอยู่บ้าน เดี๋ยวไปเอง ”
เสียงจากปลายสายเงียบลงโฟร์เลยกดวางสายไป เธอปิดผ้าม่านลงแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการประชุมที่เธอและล็อตเต้จัดขึ้นเองในวันนี้ แน่นอนว่าจัดขึ้นที่คลับของไทม์เพื่อนในกลุ่ม
ณ. ไนท์คลับ บีบีคลับ
ล็อตเต้และไทม์ยืนรอโฟร์อยู่ที่ตรอกทางเดินด้านหลังของไนท์คลับด้วยท่าทีที่พร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
“ อย่าทำให้ห้อง Supreme one กูมีปัญหานะ ”
“ เออน่า ไม่มีอะไรเสียหายแน่นอน ”
“ โฟร์มาละ ”
สองหนุ่มหันไปมองเพื่อนสาวของเขาที่กำลังเดินเข้ามาด้วยเสื้อและกระโปรงผ้าไหมออร์แกนซ่าสีดำแบรนด์โปรดเธอชาเนล เธอเดินเข้ามาด้วยท่าทีที่มั่นคงและพร้อมรับมือกับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นจากการประชุมนี้ในครั้งนี้
“ จะไปเดินแฟชั่นวีกเหรอคนสวย ” ไทม์พูดแซวเพื่อนของเขา
“ จะเข้าร่วมศึกทั้งทีก็ต้องสวยเป็นธรรมดา ”
“ สวยพอแล้วครับ ขึ้นไปชั้นสี่กันดีกว่าพวกนั้นน่าจะมากันครบแล้ว ”
“ อย่าทำให้ห้องกูเป็นรอยหรือเปื้อนเลือดสัตว์เลี้ยงมึงนะโฟร์ ”
“ not able to commit to that right , sorry ”
“ กูว่าแล้วไง..ไอเต้มึงช่วยห้ามผู้มีพระคุณกูด้วย ฝากด้วยเพื่อน ” ไทม์พูดพรางเอามือตบบ่าล็อตเต้
“ เออน่า ไม่ขนาดนั้นหรอก ” พูดจบล็อตเต้ก็เดินนำหน้าโฟร์ไปที่ประตูทางเข้าด้านหลังเพื่อขึ้นลิฟท์ไปยังชั้น Supreme ห้อง หนึ่ง
ประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้นสี่ ชายหนุ่มเดินนำหญิงสาวไปยังห้องหมายเลขหนึ่งที่อยู่สุดทางเดินด้านซ้ายทั้งคู่เดินไปตามทางเดินที่มีแสงไฟมืดสลัว พวกเขาเดินผ่านห้องหมายเลขเจ็ด ห้า สาม และในที่สุดก็ถึงห้องที่เขารอคอย..ห้องหมายเลขหนึ่ง
ล็อตเต้หยิบคีย์การ์ดขึ้นมาสแกนทำให้ประตูอัตโนมัติถูกเปิดออก ทุกสายตาที่นั่งกันอยู่จับจ้องมาที่ล็อตเต้และโฟร์ บ้างก็มองเหมือนจะเหยียดกัน บ้างก็มองด้วยท่าทีที่สั่นกลัวบางอย่าง
ส่วนใหญ่ทุกคนในห้องนี้รู้ฤทธิ์ของโฟร์ดีจากคำซุบซิบนินทากันภายในบริษัท หรืออาจจะมีคนโชคดีเคยโดนโฟร์ทำอะไรมาก่อนแล้วก็ได้
ล็อตเต้เดินเข้าไปยังโต๊ะกลมลายหินอ่อนสีดำที่ถูกล้อมไปด้วยเก้าอี้เบาะหนังสีน้ำตาลบลูเน็ต เขาลากเก้าอี้ออกมาเล็กน้อยเพื่อให้เพื่อนของเขานั่ง
ชายหนุ่มก็เดินไปหยิบสำรับไพ่ประจำกลุ่มมา 1 สำรับ จำนวน 52 ใบและนำมาแจกให้กับทุกคนที่นั่งอยู่คนละหนึ่งใบรวมถึงโฟร์เพื่อนของเขาด้วย
ล็อตเต้แจกไพ่ให้โฟร์คนแรกวนทางซ้าย ทุกคนในโต๊ะมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ และในที่สุดก็มีชายวัยกลางคนภายในโต๊ะทนความสงสัยไม่ไหวจึงเอ่ยถามขึ้น
“ หนูโฟร์ คือลุงไม่ได้มีเวลามานั่งเล่นไพ่กับหนูหรอกนะ ถ้าไม่มีอะไรลุงว่าแยกย้ายกันกลับดีกว่า..เห็นด้วยใช่ไหมทุกคน ? ” เมื่อพูดจบเขาก็หันมองคนอื่นที่นั่งอยู่เพื่อส่งสายตาให้เห็นด้วยกับคำที่เขาพูด แต่ไม่มีใครสบตาเขาสักคน
“ กฎของห้องนี้คืออะไรรู้ไหมคะคุณดนัย..ล็อตเต้อ่านกฎให้คณะกรรมการฝ่ายบริหารทุกคนฟังหน่อย ” โฟร์หยิบไพ่ของตนเองขึ้นมาดูแล้วยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย
ล็อตเต้เดินไปหยิบกระดาษแข็งสีดำขอบทองที่บาร์แชมเปญ เขากระแอมเล็กน้อยก่อนอ่านกฎของห้องให้ทุกคนฟัง
“ ผู้เช่าสถานที่สามารถกำหนดเวลาเข้า-ออกห้องนี้ได้แต่เพียงผู้เดียว หากผู้ที่ได้รับเชิญละเมิดกฎ ผู้เช่าสามารถพาไปห้อง Save 001 และสามารถใช้อุปกรณ์ภายในห้องนั้นได้หนึ่งอย่าง " ล็อตเต้พูดพรางมองสีหน้าทุกคน
คนที่นั่งอยู่บ้างก็นั่งฟังอย่างตั้งใจแต่ส่วนมากก็ทำหูทวนลมไม่ฟังสิ่งที่เด็กหนุ่มกำลังอธิบาย
" หากดีลเลอร์ทำการแจกการ์ดไพ่ให้ทุกคนแล้วจะไม่สามารถเลิกเล่นกลางคันได้ หากผู้เล่นละเมิดกฎ ดีลเลอร์จะทำการเรียกการ์ดของไนท์คลับมาพาตัวออกไปที่ห้อง Save 003 เพื่อกักตัวผู้เล่นเอาไว้ในนั้นเป็นเวลาหนึ่งวันโดยไม่มีไฟ อาหาร และอุปกรณ์อื่น ๆ ให้แม้แต่ชิ้นเดียววงเล็บกฎสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามคำสั่งของผู้เช่าสถานที่และดีลเลอร์ ”
เมื่อพูดจบล็อตเต้ก็เดินถอยออกมายืนทางด้านหลังเก้าอี้ที่เพื่อนเขานั่งอยู่
“ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ลุงไม่เข้าใจ ” ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืนด้วยความฉุนเฉียวจนทำให้เก้าอี้ล้มคว่ำลงกับพื้นห้อง
ล็อตเต้ส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะรีบเข้าไปที่เก้าอี้เพื่อตั้งขึ้นตามเดิมและใช้สองมือของเขาจับไหล่ชายวัยกลางคนบีบและกดลงจนชายคนนั้นนั่งลงบนเก้าอี้เพราะสู้แรงกดของชายหนุ่มไม่ไหว
“ ถ้าลุงอยากจะเข้าใจมากขึ้นก็ลองแหกกฎสักข้อดูสิคะ...คนอื่นจะได้เข้าใจด้วยว่ากฎ เป็น แบบ ไหน ” โฟร์พูดด้วยสีหน้าและท่าทางที่ขี้เล่น
ห้องเงียบลงเมื่อโฟร์พูดจบ ทุกคนภายในโต๊ะมีสีหน้ากังวลกันอย่างเห็นได้ชัด มีเพียงแต่ชายวัยกลางคนคนเดิมที่เหมือนจะพยายามแอบทำอะไรบางอย่างอยู่ข้างตัวเขาแต่ไม่พ้นสายตาของดีลเลอร์อย่างล็อตเต้อยู่ดี
“ ห้ามใช้มือถือขณะเล่นนะครับ เพราะอาจจะเกิดการโกงขึ้นได้ ” พูดจบล็อตเต้ก็คว้ามือถือนั้นมาและนำไปใส่ไว้ในกล่องโลหะพร้อมล็อคกุญแจเอาไว้
“ นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ ถึงขั้นยึดโทรศัพท์กันเลยหรือ ลุงไม่ใช่คนหนุ่มคนสาวนะที่จะมาเล่นอะไรแบบนี้ เอามือถือลุงคืนมา ให้ลุงออกจากห้องนี้แล้วลุงจะไม่พูดเรื่องนี้กับพ่อของแก..โฟร์ ” ชายวัยกลางคนพูดด้วยความหัวเสีย
“ คิดจะขู่กันในที่ของหนูเหรอคะคุณลุง..อืมม อยากสร้างกฎข้อต่อไปแล้วสิ ” โฟร์พูดพร้อมกับลุกขึ้นและค่อย ๆ โน้มตัวเข้าไปหาชายกลางคน
โฟร์แบมือพร้อมกับกระดิกนิ้วชี้เพื่อส่งซิกให้ล้อตเต้เอากระดาษกฎและปากกามาให้เขา ล็อตเต้ยื่นของให้เพื่อน โฟร์กลับมานั่งลงที่เก้าอี้ของเขาอีกรอบพร้อมกับบรรจงเขียนบางอย่างลงกระดาษแข็งเมื่อเพื่อนเขียนเสร็จ ล็อตเต้ก็ได้หยิบกระดาษนั้นขึ้นมา
“ กฎที่ผู้เช่าได้เขียนใหม่เมื่อสักครู่ถือเป็นความลับทั้งหมดไม่สามารถเปิดเผยได้ กฎใหม่มีอยู่ สาม ข้อ และหากใครพลาดฝ่าฝืนกฎ ผู้นั้นจะโดนนำตัวไปที่ห้อง Save 007 แน่นอนว่าบทลงโทษเป็นความลับเช่นกัน ”
“ มีใครจะพูดหรือคัดค้านอะไรอีกไหมคะ ? ..โฟร์เห็นช่วงนี้ฮิตเรื่องของสุ่มกันเลยอยากลองเล่นบ้าง แต่ของสุ่มของโฟร์อาจจะโหดไปหน่อย หวังว่าคงไม่ว่ากันนะคะ รบกวนดีลเลอร์เอากล่องสุ่มมาหน่อยค่ะ ” โฟร์มองไปที่เพื่อนของเขาที่ยืนอยู่ข้างหน้ากล่องสุ่มที่ว่า
ล็อตเต้หยิบกล่องขึ้นมาแล้วเดินเอาไปให้คนภายในโต๊ะหยิบฉลากที่เขียนของสุ่มเอาไว้ทีละคน เมื่อจับฉลากกันเสร็จแล้วล็อตเต้ก็เช็คว่าใครได้อะไรบ้างเพื่อประกาศให้ทราบโดยให้ทุกคนรับรู้ทั่วกัน
“ ขออนุญาตเฉลยการสุ่มจากด้านซ้ายไปขวานับจากคุณอวิชชานะครับ ท่านแรกคุณบุญทรง คณะกรรมการฝ่ายบริหารที่สอง..ปากกาที่ทำมาจากโลหะทั้งแท่งปลายแหลมคม ท่านที่สองคุณภูมิ เลขาคณะกรรมการฝ่ายการตลาดสอง ขวดเปล่าแชมเปญ ท่านที่สามคุณวัฒนา คณะกรรมการฝ่ายบริหารสอง เชิงเทียน...”
“ เดี๋ยวก่อน ทำไมผมได้เชิงเทียนล่ะมันใช้ทำอะไรได้ ? ”
“ วิธีการใช้งานแล้วแต่ผู้เล่นครับ...ท่านที่สี่ คุณปลอดประสพ คณะกรรมการฝ่ายบุคคล ที่เปิดจุกขวดไวน์ ท่านที่ห้า คุณฉลอง คณะกรรมการฝ่ายบริหารสอง สนับมือโลหะ ท่านที่หก คุณภูมิศิษฏ์ คณะกรรมการฝ่ายบริหารสาม ไม้เบสบอล ท่านที่เจ็ด คุณนาที คณะกรรมการฝ่ายบริหารสาม รหัสตู้เซฟ ท่านที่แปด คุณดนัย ประธานคณะกรรมการฝ่ายบริหาร เช็คเงินสด 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาท) และท่านสุดท้าย คุณอวิชชา ผู้บริหารสูงสุด..ได้รับการป้องกันจากดีลเลอร์”
ในขณะที่ล็อตเต้พูดถึงของที่คุณดนัยได้เป็นเช็คเงินสด ทุกคนบนโต๊ะก็ได้มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจและมีบางคนที่ทำหน้าไม่พอใจ
พูดจบล็อตเต้ก็ได้ออกจากห้องเพื่อไปหยิบของทั้งหมดมาให้ผู้เล่นทุกคน เขาให้การ์ดนำของทั้งหมดมาวางไว้ที่ตรงหน้าแต่ละคน เมื่อครบแล้วล็อตเต้ถามคำถามขึ้นอีกรอบ
“ ผมจะถามครั้งสุดท้ายก่อนเริ่มเกมส์นะครับ ใครไม่พร้อมที่จะเล่นเกมส์นี้ยกมือขวาขึ้นแล้วผมจะให้การ์ดนำผ้าปิดตาเพื่อพาไปห้อง Save 002 นะครับ..ไม่มีใครยกมือ งั้นในฐานะที่ผมเป็นดีลเลอร์ของเกมส์นี้ ผมขอสั่งให้ทุกคนเปิดการ์ดตรงหน้าขึ้นครับ ”
“ ผมไม่พร้อมครับ ”
_______________________________
What the jib jib shit ! / จิ๊บ ๆ อะไรวะ !
I can see you / ( ฉันอยากจะเห็นแก )
Hey there Stop making annoying noises now ! / เฮ้ตรงนั้นน่ะหยุดทำเสียงนั้นเดี๋ยวนี้ ( คุยกับนก )
not able to commit to that right , sorry / ตอนนี้ยังรับปากไม่ได้ ขอโทษนะ
*ผิดตรงไหนขออภัยด้วยครับ
_______________________________
มีอะไรให้ไรท์ปรับแก้บอกมาได้เลยนะครับ 🥹