อาถรรพ์รัก 7 ปีมันมีจริงไหมนะ? ธาม x เกี๊ยว เป็นแฟนที่รักเอยเตยหอมรักนี้ไม่มีหมดโปรโมชั่นกันมาโดยตลอด จนกระทั่งมีบททดสอบครั้งใหญ่เข้ามาให้ทั้งคู่พิสูจน์รักแท้...

ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ - ตอนทีี 5 เข้าใจผิด โดย Richma @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,น่ารัก,แฟน,รักวัยรุ่น,มหาวิทยาลัย,วัยว้าวุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

น่ารัก,แฟน,รักวัยรุ่น,มหาวิทยาลัย,วัยว้าวุ่น

รายละเอียด

อาถรรพ์รัก 7 ปีมันมีจริงไหมนะ? ธาม x เกี๊ยว เป็นแฟนที่รักเอยเตยหอมรักนี้ไม่มีหมดโปรโมชั่นกันมาโดยตลอด จนกระทั่งมีบททดสอบครั้งใหญ่เข้ามาให้ทั้งคู่พิสูจน์รักแท้...

ผู้แต่ง

Richma

เรื่องย่อ



ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ






Happy Anniversary…

สุขสันต์วันครบรอบ 7 ปี…


ปึง!


แต่ก็เท่านั้นแหละ…

เสียงประตูที่ดังขึ้นบ่งบอกให้รู้ว่าแฟนของฉันเทวันครบรอบ 7 ปีของเราแบบกลางคันแล้วเลือกที่จะออกไปหาเพื่อนแทนที่จะอยู่ด้วยกัน


ให้มันได้อย่างนี้สิ!!



สารบัญ

ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 1 อาถรรพ์รัก 7 ปี,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 2 หายไปทั้งคืน,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 3 ทะเลาะกัน,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 4 ประชดประชัน,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 5 เข้าใจผิด,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 6 ตาสว่าง,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 7 รู้สึกผิด,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 8 เปิดเผยตัวตน,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 9 จบปัญหา,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 10 แน่ใจ,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-บทส่งท้าย รักแรก รักเดียว (จบ)

เนื้อหา

ตอนทีี 5 เข้าใจผิด

ตอนเช้า…

ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วก็พบกับความว่างเปล่าอีกครั้ง…

ฉันรีบลุกจากเตียงขึ้นในทันทีและก็เดินหาคนที่ควรอยู่ในห้องนี้ไปทั่วแต่ก็ไม่เจอเขา เหมือนอย่างกับแดจาวูแน่ะครั้งก่อนก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่คราวนี้พอหยิบมือถือขึ้นมาดูก็เห็นข้อความจากธามที่ส่งทิ้งไว้ให้


เฟย์ถูกรถเฉี่ยวเมื่อเช้า น้องติดต่อใครไม่ได้เลยฉันเลยต้องออกมาดูน้องก่อน ขอโทษนะเกี๊ยววันนี้เธอไปมอเองอีกวันนะ


ฉันอ่านข้อความนั้นด้วยความรู้สึกที่… บอกไม่ถูกเหมือนกัน

เขาเป็นแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายก็เห็นคนอื่นสำคัญกว่าฉันหรือว่าฉันควรจะเริ่มทำใจได้แล้วนะว่าอะไรๆ มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ฉันปาดน้ำตาที่ไหลลงมาทิ้งไปก่อนจะพาตัวเองเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวสำหรับไปมอ

ไม่นานฉันก็มาถึงด้วยแท็กซี่เหมือนอย่างครั้งที่แล้ว อาจจะต้องเริ่มปรับตัวให้ชินแล้วละมั้งเพราะต่อไปอาจจะต้องใช้บริการแบบนี้บ่อยๆ ก็เป็นได้

เห้อออออ~

“ยัยเกี๊ยวววว!” ฉันหันไปตามเสียงเรียกก็พบกับหลินที่เพิ่งลงจากแท็กซี่มาเหมือนกัน “ทำไมวันนี้มาเองอีกแล้ว?” เพื่อนถามด้วยสีหน้าสงสัย

“ธามไปหายัยนั่น” ฉันตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องนี้เต็มทน

“เมื่อคืนธามมารับแกกลับไปนี่ ไม่ได้เคลียร์กันจนเข้าใจแล้วเหรอ” หลินยังคงถามต่อในขณะที่เราสองคนเดินไปที่คณะด้วย

“ฉันก็คิดว่าเคลียร์เข้าใจหมดแล้วและธามก็บอกว่าเดี๋ยวจบเรื่องวุ่นๆ จะเลิกยุ่งกับน้องไปเลยเพื่อความสบายใจของฉัน แต่พอวันนี้ฉันตื่นมาก็ไม่เจอธามแล้วมีแต่ข้อความที่ทิ้งไว้บอกว่ายัยเฟย์โดนรถเฉี่ยวติดต่อใครไม่ได้ ธามก็เลยต้องไป”

“ว๊อททท?” หลินอุทานออกมาทันทีที่ฉันเล่าจบ “และเช้าตรู่แบบนั้นยัยนั่นมาเดินให้รถเฉี่ยวได้ไงก่อน สร้างเรื่องชัวน์เลยแก”

“ฉันก็คิดแบบนั้นแหละ! น่าโมโหชะมัด”

“เอาเถอะ… ถ้าหมอนั่นจะตาถั่วจนดูไม่ออกขนาดนั้น แต่ยังไงยัยนั่นก็ไม่มีทางแย่งธามไปได้หรอกแก” หลินตบบ่าให้กำลังใจฉันอีกครั้ง

“ใครจะไปรู้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ” ฉันตอบเสียงอ่อนพร้อมกับถอนหายใจออกมา

“จ๊ะเอ๋! เพื่อนสาวทั้งสองคุยอะไรกันอยู่จ๊ะ” แล้วก็เป็นมะนาวนั่นเองที่เดินเข้ามาพร้อมกับกอดคอเราสองคน “เอ้ายัยเกี๊ยวหน้าดูไม่โอเลยเช้านี้นึกว่าคืนดีกับหลัวแล้วซะอีก”

“เรื่องเก่าจบไปเรื่องใหม่มาอีกอะสิมะนาว” หลินนั่นเองที่เป็นคนตอบแทนฉัน

“อะไรยังไงอะ ไหนเหลามาแหลมแหลมเลย”

หลังจากนั้นฉันก็ต้องรีรันเรื่องราวใหม่ทั้งหมดอีกครั้งให้ยัยมะนาวได้ฟัง ซึ่งพอเล่าจบคนใจร้อนแบบมะนาวแทบอยากจะไปกระชากหน้ากากคนดีของยัยเฟย์นั่นออกมากันเลยแหละ

“เป็นฉันนหน่อยไม่ได้ แม่จะตามไปวีนถึงโรงพยาบาลเลย หึ่ย! แล้วทำไมรอบนี้แกดูนิ่งจังล่ะยัยเกี๊ยว” มะนาวถามฉัน

“ไม่รู้สิ… อาจจะเริ่มปลงๆ แล้วมั้ง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดอะ คนจะไปรั้งให้ตายก็คงเอาไว้ไม่อยู่ แค่อย่าให้ยัยเฟย์มาล้ำเส้นฉันมากเกินไปจนทนไม่ไหวก็พอ” ฉันตอบไปตามความจริง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมากมายในช่วงนี้มันหนักจนฉันรู้สึกเหนื่อย เหมือนแบกไม่ไหวอยากจะวางอยู่ทุกอย่างลงแล้วก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามเส้นทางของมันละมั้ง

“ไม่ได้ค่ะ! อย่าอ่อมยัยเกี๊ยว หลัวเราทั้งคนจะให้คนอื่นมาแย่งไปต่อหน้าต่อตาได้ไง” แต่แล้วความคิดปลงๆ ของฉันก็ถูกเบรคโดยมะนาวเพื่อนสนิทแสนดีคนเดิม

ฉันโชคดีที่มีเพื่อนที่ดีคอยอยู่ข้างๆ ต่อให้เจอเรื่องหนักแค่ไหนอย่างน้อยฉันก็รู้ว่าฉันสามารถพึ่งพาเพื่อนทั้งสองได้เสมอ ทั้งกำลังใจและการเชียร์อัพฉันหลิวและมะนาวทำมันได้ดีเลยทีเดียว

“ฉันรักพวกแกนะ ฮือออ~” ฉันพูดพร้อมกับกอดเพื่อนสองคนเอาไว้

“ไปเรียนกันเถอะเข้าช้าเดี๋ยวอาจารย์ไม่เช็กชื่อให้ ส่วนเรื่องยัยรุ่นน้องตัวดีนั่นอย่าให้แม่เจอนะจะกระชากมาตบจริงๆ ด้วย หึ่ย! โมโหแทน” มะนาวพูดทิ้งท้ายซึ่งนั่นทำให้ฉันหัวเราะออกมากับท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนแทนของเพื่อน


หลังจากที่เราเรียนช่วงเช้าเสร็จ พวกเราสามคนก็ตกลงกันว่าจะหาข้าวกินกันที่โรงอาหารง่ายๆ เพราะว่าวันนี้มีเรียนยาวลากถึงเย็นจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปๆ มาๆ ด้วย

ส่วนเรื่องแฟนของฉัน ตานั่นส่งข้อความมาบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วตอนเย็นนี้เขาจะรอรับฉันกลับไปด้วย แต่ฉันก็ไม่ได้ตอบข้อความเขาไปสักข้อความเดียว

ไม่อยากคุยแล้วต้องมาทะเลาะกันอีก

เกี๊ยวเหนื่อย…

“อ๊ะ! นั่นพวกธามนี่ ไปนั่งตรงนั้นกันยัยเกี๊ยว”

ทันทีที่เดินมาถึงโรงอาหารแล้วมะนาวเป็นคนแรกที่เห็นพวกของธามนั่งอยู่ก่อนแล้วก็ไม่รอช้ารีบลากฉันกับหลิวให้เดินไปนั่งกับพวกนั้นทันที

พอมาถึงโต๊ะฉันก็เห็นสิ่งไม่เข้าพวกหนึ่งอย่าง

เฟย์!!!!

ยัยรุ่นน้องนี่นั่งอยู่ข้างธามและตามตัวมีแผลนิดหน่อย ซึ่งก็คงมาจากที่บอกว่าโดนรถเฉี่ยวนั่นแหละนะ

“เกี๊ยว~ เธอไม่ตอบข้อความของธามเลยนะ”

ทันทีที่ธามเห็นฉันเขาก็เข้ามาหาทันทีพร้อมกับเปลี่ยนที่นั่งจากข้างเฟย์มานั่งข้างๆ ฉันแทน ธามก็เป็นแบบนี้เวลาที่เขาทำผิดแล้วอยากจะมาอ้อนหรือง้อก็จะใช้แทนตัวเองด้วยชื่อเสมอ

“ฉันเหนื่อย…” ฉันพูดออกไปตามที่รู้สึก

“ที่รักเหนื่อยตรงไหน เดี๋ยวธามนวดให้เอาไหม? ไม่สิเดี๋ยวไปซื้อข้าวให้กินก่อนดีกว่านี่ก็เที่ยงแล้ว เกี๊ยวมีเรียนตอนบ่ายด้วย เอาเหมือนเดิมเนอะ”

ฉันไม่ได้ตอบอะไรธามไปแต่ก็พยักหน้าตามที่เขาบอกเพราะขี้เกียจจะเลือกอะไรในตอนนี้ อีกอย่างธามก็รู้ดีว่าฉันชอบกินอะไรบ้างอยู่แล้ว เพราะเราอยู่ด้วยกันมานานจนรู้ใจกันไปเสียทุกอย่างยังไงล่ะ

“ถ้างั้นฉันกับหลิวก็ไปซื้อข้าวด้วยเลยแล้วกันนะ” มะนาวพูดขึ้นพร้อมลุกขึ้นยืนกับหลิว

“เฟย์นั่งอยู่นี่ก็ได้ถ้าไปไม่ไหว เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้” นายหันมาพูดกับยัยรุ่นน้องนี่ซึ่งเธอก็ตอบตกลงด้วยน้ำเสียงที่ชวนน่าเห็นใจ

แหวะ! อยากอ้วกกับการแสดงห่วยๆ นี่ชะมัด

ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าทั้งโต๊ะเหลือแค่ฉันกับเฟย์สองคนเท่านั้นเพราะคนอื่นๆ ต่างก็แยกกันไปซื้อข้าวหมด รู้งี้ฉันไปกับธามด้วยก็ดีหรอกอยู่กับยัยนี่สองคนแล้วอึดอัดเป็นบ้าเลย

“เมื่อเช้าเฟย์โดนรถเฉี่ยวค่ะ” จู่ๆ เฟย์ก็พูดขึ้นมา “พี่ธามรีบมาหาเฟย์ทันทีที่รู้เรื่องเลยนะคะ พี่เขาดู… เป็นห่วงเฟย์มากกก” ประโยคท้ายยัยนี่เน้นเสียงเหมือนจะย้ำเรื่องที่เธอคิดเอาเองว่าธามเป็นห่วงเธอมาก

“แล้วไง!” ฉันตอบกลับไปสั้นๆ ซึ่งทำให้เฟย์ที่ยิ้มเยาะเย้ยอยู่ในตอนแรกหุบยิ้มลงทันทีก่อนจะเปลี่ยนเสีหน้าและแววตาไปอย่างกับคนละคน

นี่คือจะแสดงตัวตนจริงๆ ที่ไม่แอ๊บออกมาแล้วใช่ไหมนะ?

“เฟย์ก็แค่อยากบอกให้รู้อะค่ะ เพราะอีกไม่นานคนแถวนี้อาจจะโดนเขี่ยทิ้งก็ได้ ของที่อยู่มานานจนรู้ไส้รู้พุงกันแบบนั้นมันจะไปสู้ของใหม่ที่สดใสเร้าใจกว่าได้ยังไงจริงไหมคะ คิคิ”

พูดไปยัยนี่ก็หัวเราะชอบใจไปด้วย ไม่ปกติหรือเปล่าเนี่ยมาพูดเรื่องที่จะแย่งแฟนคนอื่นได้หน้าระรื่นขนาดนี้ คนดีที่ไหนเขาทำกัน

“น้องเกิดเดือนกล้าปีมั่นหรือไงคะ ถึงได้เข้าใจอะไรผิดผิดไปเองคนเดียวแบบนั้น” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มเยาะไปด้วยหนึ่งที ถึงแม้ว่าในใจจะเดือดแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าฉันวีนตอนนี้ก็คงเข้าทางยัยนี่พอดีสินะ

“หึ! ทำเป็นชูคอพูดดีไปเหอะ ถ้าพี่เกี๊ยวได้เห็นว่าเมื่อเช้าพี่ธามทั้งประคองทั้งอุ้มเฟย์และถนอมเฟย์ขนาดไหน ไม่อยากจะคิดว่าจะยังเชิดหน้าแบบนี้ได้อีกอยู่ไหมนะคะ ฮ่าๆๆๆ”

ปึง!!

เป็นฉันเองที่มีความอดทนไม่พอ เพราะตอนที่ยัยนี่บอกว่าธามทั้งอุ้มทั้งประคองเธอ ฉันก็เหมือนจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ทันทีก็เลยเผลอทุบโต๊ะเสียงดังจนโต๊ะรอบๆ ต่างก็หันมามองที่เราสองคน

มันจะเกินไปหน่อยไหม!!!

“เกิดอะไรกันขึ้นน่ะ”

ธามและคนอื่นๆ ที่เหมือนจะเดินกลับมาพอดีถามขึ้นด้วยความตกใจ อะไรมันจะจังหวะนรกขนาดนี้ละเนี่ยแบบนี้ก็เข้าทางยัยนี่หมดเลย นี่เดี๋ยวยัยเฟย์คงจะแกล้งสำออยเล่นละครอะไรอีกเป็นแน่

“โอ๊ยย~ เฟย์เจ็บแขนค่ะ”

ผิดจากที่ฉันคิดไว้วะที่ไหนล่ะ ยัยเฟย์ร้องขึ้นมาพร้อมกับลูบแขนตัวเองที่มีผ้าพันแผลพันเอาไว้อยู่

“เห้ยย! เลือดซึมเลยนี่หว่าไอ้ธาม” แล้วนายก็เป็นคนพูดออกมาด้วยความตกใจ ทำให้ธามรีบเข้าไปดูแผลของยัยนั่นทันที

ฉันยังไม่ทันโดนตัวยัยรุ่นน้องนี่เลยสักนิดแล้วแผลมันจะเลือดออกได้ยังไงก่อน หวังว่าธามคงจะไม่เชื่อที่ยัยนี่พูดหรอกนะ…

“เกี๊ยวเธอทำอะไรน่ะ!” แต่ก็เหมือนว่าคำขอของฉันจะไม่เป็นจริงเพราะธามหันมาถามฉันด้วยน้ำเสียงดุทันทีหลังจากที่ดูแผลรุ่นน้องของตัวเองเสร็จ

“ฉันไม่ได้ทำอะไร” ฉันตอบไปตามความจริงด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ไม่ได้ทำแล้วทำไมน้องเป็นงี้อะเกี๊ยว เมื่อกี้เธอก็ดูโมโหใส่น้องอยู่ด้วย” ธามยังคงถามฉันด้วยน้ำเสียงดุ และสายตาเหมือนจะตำหนิฉันด้วย

“นายไม่เชื่อที่ฉันบอกเหรอธาม” ฉันถามออกไป ตอนนี้บอกเลยว่าน้อยใจคนตรงหน้ามาก เขารู้จักฉันมาทั้งชีวิตก็ต้องรู้อยู่แล้วไหมว่าฉันเป็นคนยังไงแต่ทำไมเขาถึงเชื่อคนอื่นมากกว่าฉันกันล่ะ

“ก็ฉันเห็น…”

“เออ! งั้นนายก็เชื่อตามที่นายเห็นไปนั่นแหละ เชิญโอ๋เชิญดูแลกันตามสบายเลย!!” ฉันพูดแทรกขึ้นก่อนที่ธามจะได้พูดจบ แล้วหลังจากนั้นฉันก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันที ไม่อยากจะอยู่ที่ตรงนั้นอีกต่อไป

เสียใจที่สุดก็ตรงที่คนที่คิดว่ารู้จักเราดีกลับไม่เชื่อในคำพูดของเราเลยแม้แต่น้อย ฉันยังจำได้ดีถึงสายตาตำหนิที่ธามมองมา

มันเจ็บปวดเหลือเกิน…