อาถรรพ์รัก 7 ปีมันมีจริงไหมนะ? ธาม x เกี๊ยว เป็นแฟนที่รักเอยเตยหอมรักนี้ไม่มีหมดโปรโมชั่นกันมาโดยตลอด จนกระทั่งมีบททดสอบครั้งใหญ่เข้ามาให้ทั้งคู่พิสูจน์รักแท้...

ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ - ตอนทีี 8 เปิดเผยตัวตน โดย Richma @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,น่ารัก,แฟน,รักวัยรุ่น,มหาวิทยาลัย,วัยว้าวุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

น่ารัก,แฟน,รักวัยรุ่น,มหาวิทยาลัย,วัยว้าวุ่น

รายละเอียด

อาถรรพ์รัก 7 ปีมันมีจริงไหมนะ? ธาม x เกี๊ยว เป็นแฟนที่รักเอยเตยหอมรักนี้ไม่มีหมดโปรโมชั่นกันมาโดยตลอด จนกระทั่งมีบททดสอบครั้งใหญ่เข้ามาให้ทั้งคู่พิสูจน์รักแท้...

ผู้แต่ง

Richma

เรื่องย่อ



ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ






Happy Anniversary…

สุขสันต์วันครบรอบ 7 ปี…


ปึง!


แต่ก็เท่านั้นแหละ…

เสียงประตูที่ดังขึ้นบ่งบอกให้รู้ว่าแฟนของฉันเทวันครบรอบ 7 ปีของเราแบบกลางคันแล้วเลือกที่จะออกไปหาเพื่อนแทนที่จะอยู่ด้วยกัน


ให้มันได้อย่างนี้สิ!!



สารบัญ

ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 1 อาถรรพ์รัก 7 ปี,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 2 หายไปทั้งคืน,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 3 ทะเลาะกัน,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 4 ประชดประชัน,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 5 เข้าใจผิด,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 6 ตาสว่าง,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 7 รู้สึกผิด,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 8 เปิดเผยตัวตน,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 9 จบปัญหา,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-ตอนทีี 10 แน่ใจ,ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ-บทส่งท้าย รักแรก รักเดียว (จบ)

เนื้อหา

ตอนทีี 8 เปิดเผยตัวตน

ฉันตื่นเช้ามาก็เห็นว่าธามนอนกอดฉันอยู่ แต่ว่าด้วยความที่ฉันยังรู้สึกแย่กับเรื่องที่ผ่านมา แล้วฉันก็ไม่พร้อมที่จะคุยอะไรกับเขาในตอนนี้ด้วย ฉันก็เลยรีบแต่งตัวแล้วหนีมาที่มอคนเดียวก่อนที่ธามจะตื่น

แต่ว่าเช้าขนาดนี้ ฉันจะทำอะไรดีละเนี่ย!

ด้วยความที่มามอเช้ามากๆ ทำให้ตอนนี้ที่มอแทบจะไม่มีคนอยู่เลย มีแต่ยามกับแม่บ้านแล้วก็นักศึกษาแค่บางคนที่เหมือนมาทำกิจกรรมในมอก็เท่านั้น

เห้ออออ~

ได้แต่มานั่งถอนหายใจอยู่ใต้ตึกคณะของตัวเอง นั่งทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ฉันไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อไปดี…

ฟุ่บ!

“สวัสดีค่ะพี่เกี๊ยว”

ฉันที่ตอนแรกนั่งก้มหน้าอยู่พอเงยขึ้นมาก็เจอกับตัวต้นเรื่องที่นั่งยิ้มหวานสยองอยู่ตรงข้ามกัน

เช้าขนาดนี้ยัยนี่มาทำอะไรที่มอเนี่ย!

“ออกไป!” ฉันพูดเสียงนิ่ง ไม่มีอารมณ์จะมาเถียงอะไรกับคนตรงหน้าในตอนนี้หรอก แค่เห็นหน้ายัยเฟย์ก็รู้สึกพะอืดพะอมแล้ว

“เฟย์แค่อยากมีคุยกับพี่เกี๊ยวเรื่องพี่ธามค่ะ”

“ฉันไม่อยากคุยกับเธอ…” ฉันตอบกลับแทบจะในทันทีที่ยัยนี่พูด

“แต่เฟย์ว่าเราควรคุยกันนะคะ ไปคุยกันตรงหลังคณะที่เงียบๆ ก็ได้ เฟย์อยากเคลียร์กับพี่”

คราวนี้ฉันหยุดคิดไปนิดหนึ่งว่ายัยนี่มันจะมาไม้ไหนอีก แต่พอลองคิดดูการได้คุยกันก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ละมั้ง

“ไปสิ…”

ปากฉันมันดันไวกว่าความคิดไปเสียได้ ฉันจึงตอบตกลงพร้อมกับลุกเดินนำไปทางด้านหลังคณะในทันที ระหว่างที่เดินก็ไม่ลืมที่จะแอบเข้ามือถือตัวเองแล้วเปิดอัดเสียงเอาไว้ด้วย เผื่อว่ายัยนี่เผยธาตุแท้หรือแสดงละครน้ำเน่าอะไรมา อย่างน้อยฉันก็มีหลักฐานว่ารุ่นน้องของธามคนนี้มันตอแหล!

“เฟย์ขอพูดตรงๆ … พี่เกี๊ยวเลิกกับพี่ธามไปเถอะค่ะ ยังไงตอนนี้พี่ธามก็คิดว่าพี่เป็นผู้หญิงร้ายๆ ไปแล้ว ยื้อต่อไปก็มีแต่พี่ที่จะเจ็บ เฟย์เป็นห่วงพี่นะคะ” ท้ายประโยคยัยเฟย์พูดเสียงอ่อนแสร้งเหมือนว่าเป็นห่วงฉันเสียเต็มประดา แต่นั่นมันก็ยิ่งทำให้ฉันหมั่นไส้ยัยนี่มากขึ้นไปอีก

“แล้วอะไรทำให้เธอมั่นหน้าว่าถ้าฉันเลิกกับธามแล้วเขาจะไปคบกับเธองั้นเหรอ?” ฉันถามออกไปแต่ก็ต้องชะงักไปนิดหน่อยเพราะสายตาของเฟย์ในตอนนี้มันดูหลอนแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้

ดวงตาคู่นั้นจ้องมาที่ฉันอย่างเขม็งและดูแข็งกร้าวผิดกับตอนเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นอย่างกับคนละคน

“ฮ่าๆๆ โทษนะพี่เกี๊ยว! พี่คิดว่าคืนที่พี่ธามหายไปน่ะ มันมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราบ้างเหรอ” ยัยนี่หัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกับสาวเท้าเดินเข้ามาหาฉันไปด้วยในตอนที่พูด

“เป็นบ้าหรือไง!”

ฉันตอบกลับพร้อมกับถอยหลังหนีไปด้วย ในใจก็แอบหวั่นกับรุ่นน้องคนนี้อยู่เหมือนกัน เพราะดูเหมือนเธอจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่ได้เลย

“เฟย์ไม่ได้บ้าหรอกค่ะ! แต่ถ้าพี่เกี๊ยวยังดื้อด้านพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้เฟย์อาจจะเป็นบ้าขึ้นมาก็ได้”

หมับ!

พูดจบยัยนี่ก็จับเข้าที่แขนทั้งสองข้างของฉันพร้อมกับบีบจนรู้สึกเจ็บไปหมด ตัวแค่นี้เอาแรงมาจากไหนเยอะแยะเนี่ย

“คืนนั้นธามไม่ได้อยู่กับเธอแค่สองคน อีกอย่างธามน่ะ… ไม่เอาคนแบบเธอหรอกนะเฟย์ คิดว่าคนอย่างเธอดึงดูดธามมากนักหรือไง แฟนฉันเขาก็เลือกนะ” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มเยาะคนตรงหน้าไปด้วย พยายามไม่แสดงสีหน้าว่าเจ็บจากการกระทำของยัยนี่

“กรี๊ดดด แกอีเกี๊ยว!”

พลั่ก!

ตุ้บ!!!

ไม่รู้ว่ายัยนี่เกิดคลั่งอะไรขึ้นมาหลังจากที่ฉันพูดจบ เฟย์ก็กรี๊ดเสียงดังด้วยความโมโหอย่างเลือดขึ้นหน้าพร้อมกับผลักฉันล้มลงไปกับพื้นจนทำให้เข่ากับศอกของฉันเป็นแผลได้เลือดเลยแหละ

เจ็บชะมัด นี่เรื่องมันมาถึงขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย!

แต่ที่โชคร้ายไปกว่านั้น…

มือถือของฉันที่ใช้อัดเสียงทั้งหมดเอาไว้มันดันกระเด็นหลุดมือจนไปกระแทกกับเสานี่สิ

“นี่แกอัดเสียงเอาไว้ด้วยงั้นเหรอ!” เมื่อเฟย์เห็นแบบนั้นก็หันมาถามย้ำกับฉันด้วยน้ำเสียงโมโหอย่างสุดขีด

“จะทำอะไรน่ะ” ฉันถามขึ้นอย่างตกใจเมื่อเฟย์เดินไปเก็บมือถือของฉันขึ้นมา ก่อนจะทำเรื่องที่ทำเอาฉันต้องตาค้าง

ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!

“ทำลายหลักฐานไง แกจะได้ไม่มีอะไรไปบอกคนอื่น!”

ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!

“หยุดนะยัยบ้า! เป็นบ้าไปแล้วหรือไง!”

ฉันรีบลุกขึ้นไปแย่งมือถือของตัวเองจากมือของยัยโรคจิตนี่ทันที ถึงแม้ว่าในตอนนี้มันจะพังไปมากแล้วก็ตาม เพราะยัยนี่เล่นเอามือถือฉันไปทุบกับเสาจนหน้าจอแตกไปหมด

ยัยนี่มันโรคจิตชัดๆ เลย

“ฉันทำได้ยิ่งกว่านี้อีก แกคิดจะเอาคลิปเสียงไปแฉฉันกับทุกคนงั้นเหรอ อย่าหวังเลย”

“หยุดนะอีบ้า! เอามือถือฉันมานี่”

พลั่ก!

รอบนี้เป็นฉันเองที่ผลักยัยเฟย์ล้มลงไปกับพื้น แล้วรีบไปหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาพบว่าหน้าจอมันแตกไปหมดแล้วแถมเครื่องก็ดับไปแล้วด้วยมือถือเครื่องหนึ่งมันไม่ใช่ราคาถูกๆ เลยนะ แถมคลิปเสียงที่อัดไว้ก็คงหายไปหมดแล้ว

“หึ! คลิปนั่นมันหายไปจากโลกแล้ว ฮ่าๆๆ” เฟย์หัวเราะด้วยความสะใจเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของฉัน

“ฉันจะบอกอะไรให้ว่ากล้องวงจรปิดตรงนี้มีนะ เผื่อแกไม่เห็นถ้าฉันไปขอทางมอดูยังไงก็มีหลักฐานอยู่ดี อีกอย่าง… กล้องสมัยนี้บันทึกเสียงได้ด้วยนะ อีโง่!!!”

ฉันหันไปพูดพร้อมกับยิ้มเยาะอีกครั้ง แต่เอาเข้าจริงฉันก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่ากล้องของมหาวิทยาลัยมันจะใช้ได้จริงแล้วคมชัดแบบที่โม้ไปเมื่อกี้หรือเปล่า

พูดไปก่อนก็แล้วกันเพราะอย่างน้อยนั่นก็ทำให้ยัยนี่หน้าเสียลงไปได้

“แกอย่าอยู่เลยอีเกี๊ยว…”

“ทำอะไรกันน่ะ!!!”

เสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังในตอนที่เฟย์พยายามจะลุกขึ้นมาจัดการฉัน แต่พอธามปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขายัยนี่ก็ทำสำออยแล้วล้มลงไปอีกครั้ง

“พี่เกี๊ยวอย่าทำเฟย์เลย เฟย์ขอโทษค่ะ”

ตามด้วยการปรับโหมดอัตโนมัติของยัยจิตป่วยนี่จากคนโมโหร้ายกลายเป็นคนน่าสงสารต่อหน้าทุกคนในทันที

ส่วนฉันในตอนนี้ก็ดันเป็นจังหวะนรกอีกจนได้!

เพราะตอนที่ทุกคนมาเห็นมันเหมือนกับว่าฉันกำลังจะเข้าไปทำร้ายยัยเฟย์อะไรนี่เลย… ฉันคงดูแย่ในสายตาทุกคนอีกแล้วสินะรอบนี้

“พี่ธาม… ช่วยเฟย์ด้วยค่ะ” ยัยรุ่นน้องหน้าด้านนี่หันไปพูดกับแฟนของฉันด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นคนถูกกระทำอย่างเต็มที่

“ไปช่วยรุ่นน้องนายสิ! คราวนี้ก็คงคิดว่าฉันทำอีกใช่ไหมล่ะ!!” พอเห็นว่าธามหันมามองฉันก็เลยพูดออกไปด้วยความน้อยใจ เพราะภาพที่เห็นมันก็ชวนให้เข้าใจผิดแบบนั้นจริงๆ หลักฐานอะไรก็ไม่มีพูดไปก็ดูเหมือนแก้ตัวอีก

“จะบ้าเหรอเกี๊ยว…”

“เออ! ฉันมันบ้าไปแล้ว ถ้าที่ผ่านมานายไม่รู้จักนิสัยฉันขนาดนั้นก็เลิกกันไปเลยก็ได้ ฉันเองก็เหนื่อยกับเรื่องประสาทแดกพวกนี้แล้วเหมือนกัน” ฉันพูดไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างสุดกลั้น “ฮรึก~ เลิกกันไปเลย เลิกกันให้มันจบๆ ไป”

“ฉันหมายถึงเธอจะบ้าหรือไง! คิดว่าฉันไม่รู้จักแฟนตัวเองดีจนใครมาใส่ร้ายอะไรเธอฉันก็เชื่อไปหมดอย่างนั้นเหรอ?”

“ก่อนหน้านี้นายก็เป็นแบบนั้น… ฉันเหนื่อยแล้วธาม เหนื่อยกับเรื่องพวกนี้ ถ้ามันไปต่อไม่ได้ก็เลิกกันไปดีกว่า”

“ไปกันใหญ่แล้วเกี๊ยว… อย่ามาพูดว่าจะเลิกกันอีกนะ” ธามพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาฉันและจับมือฉันไว้โดยที่ไม่สนใจรุ่นน้องของตัวเองที่นั่งอยู่บนพื้นรอให้เขาไปช่วยเลยสักนิด “ฉันไม่มีวันเลิกกับเธอ ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลยสักครั้งด้วย”

“ฮรึกก~ ฮรือออ~”

“รักแรกรักเดียวของธามยังไงก็ต้องเป็นเกี๊ยวคนเดียว”