อาถรรพ์รัก 7 ปีมันมีจริงไหมนะ? ธาม x เกี๊ยว เป็นแฟนที่รักเอยเตยหอมรักนี้ไม่มีหมดโปรโมชั่นกันมาโดยตลอด จนกระทั่งมีบททดสอบครั้งใหญ่เข้ามาให้ทั้งคู่พิสูจน์รักแท้...
รัก,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,น่ารัก,แฟน,รักวัยรุ่น,มหาวิทยาลัย,วัยว้าวุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธออาถรรพ์รัก 7 ปีมันมีจริงไหมนะ? ธาม x เกี๊ยว เป็นแฟนที่รักเอยเตยหอมรักนี้ไม่มีหมดโปรโมชั่นกันมาโดยตลอด จนกระทั่งมีบททดสอบครั้งใหญ่เข้ามาให้ทั้งคู่พิสูจน์รักแท้...
ธาม x เกี๊ยว รักเดียวคือเธอ
Happy Anniversary…
สุขสันต์วันครบรอบ 7 ปี…
ปึง!
แต่ก็เท่านั้นแหละ…
เสียงประตูที่ดังขึ้นบ่งบอกให้รู้ว่าแฟนของฉันเทวันครบรอบ 7 ปีของเราแบบกลางคันแล้วเลือกที่จะออกไปหาเพื่อนแทนที่จะอยู่ด้วยกัน
ให้มันได้อย่างนี้สิ!!
ฉันตื่นเช้ามาก็เห็นว่าธามนอนกอดฉันอยู่ แต่ว่าด้วยความที่ฉันยังรู้สึกแย่กับเรื่องที่ผ่านมา แล้วฉันก็ไม่พร้อมที่จะคุยอะไรกับเขาในตอนนี้ด้วย ฉันก็เลยรีบแต่งตัวแล้วหนีมาที่มอคนเดียวก่อนที่ธามจะตื่น
แต่ว่าเช้าขนาดนี้ ฉันจะทำอะไรดีละเนี่ย!
ด้วยความที่มามอเช้ามากๆ ทำให้ตอนนี้ที่มอแทบจะไม่มีคนอยู่เลย มีแต่ยามกับแม่บ้านแล้วก็นักศึกษาแค่บางคนที่เหมือนมาทำกิจกรรมในมอก็เท่านั้น
เห้ออออ~
ได้แต่มานั่งถอนหายใจอยู่ใต้ตึกคณะของตัวเอง นั่งทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ฉันไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อไปดี…
ฟุ่บ!
“สวัสดีค่ะพี่เกี๊ยว”
ฉันที่ตอนแรกนั่งก้มหน้าอยู่พอเงยขึ้นมาก็เจอกับตัวต้นเรื่องที่นั่งยิ้มหวานสยองอยู่ตรงข้ามกัน
เช้าขนาดนี้ยัยนี่มาทำอะไรที่มอเนี่ย!
“ออกไป!” ฉันพูดเสียงนิ่ง ไม่มีอารมณ์จะมาเถียงอะไรกับคนตรงหน้าในตอนนี้หรอก แค่เห็นหน้ายัยเฟย์ก็รู้สึกพะอืดพะอมแล้ว
“เฟย์แค่อยากมีคุยกับพี่เกี๊ยวเรื่องพี่ธามค่ะ”
“ฉันไม่อยากคุยกับเธอ…” ฉันตอบกลับแทบจะในทันทีที่ยัยนี่พูด
“แต่เฟย์ว่าเราควรคุยกันนะคะ ไปคุยกันตรงหลังคณะที่เงียบๆ ก็ได้ เฟย์อยากเคลียร์กับพี่”
คราวนี้ฉันหยุดคิดไปนิดหนึ่งว่ายัยนี่มันจะมาไม้ไหนอีก แต่พอลองคิดดูการได้คุยกันก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ละมั้ง
“ไปสิ…”
ปากฉันมันดันไวกว่าความคิดไปเสียได้ ฉันจึงตอบตกลงพร้อมกับลุกเดินนำไปทางด้านหลังคณะในทันที ระหว่างที่เดินก็ไม่ลืมที่จะแอบเข้ามือถือตัวเองแล้วเปิดอัดเสียงเอาไว้ด้วย เผื่อว่ายัยนี่เผยธาตุแท้หรือแสดงละครน้ำเน่าอะไรมา อย่างน้อยฉันก็มีหลักฐานว่ารุ่นน้องของธามคนนี้มันตอแหล!
“เฟย์ขอพูดตรงๆ … พี่เกี๊ยวเลิกกับพี่ธามไปเถอะค่ะ ยังไงตอนนี้พี่ธามก็คิดว่าพี่เป็นผู้หญิงร้ายๆ ไปแล้ว ยื้อต่อไปก็มีแต่พี่ที่จะเจ็บ เฟย์เป็นห่วงพี่นะคะ” ท้ายประโยคยัยเฟย์พูดเสียงอ่อนแสร้งเหมือนว่าเป็นห่วงฉันเสียเต็มประดา แต่นั่นมันก็ยิ่งทำให้ฉันหมั่นไส้ยัยนี่มากขึ้นไปอีก
“แล้วอะไรทำให้เธอมั่นหน้าว่าถ้าฉันเลิกกับธามแล้วเขาจะไปคบกับเธองั้นเหรอ?” ฉันถามออกไปแต่ก็ต้องชะงักไปนิดหน่อยเพราะสายตาของเฟย์ในตอนนี้มันดูหลอนแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้
ดวงตาคู่นั้นจ้องมาที่ฉันอย่างเขม็งและดูแข็งกร้าวผิดกับตอนเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นอย่างกับคนละคน
“ฮ่าๆๆ โทษนะพี่เกี๊ยว! พี่คิดว่าคืนที่พี่ธามหายไปน่ะ มันมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราบ้างเหรอ” ยัยนี่หัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกับสาวเท้าเดินเข้ามาหาฉันไปด้วยในตอนที่พูด
“เป็นบ้าหรือไง!”
ฉันตอบกลับพร้อมกับถอยหลังหนีไปด้วย ในใจก็แอบหวั่นกับรุ่นน้องคนนี้อยู่เหมือนกัน เพราะดูเหมือนเธอจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่ได้เลย
“เฟย์ไม่ได้บ้าหรอกค่ะ! แต่ถ้าพี่เกี๊ยวยังดื้อด้านพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้เฟย์อาจจะเป็นบ้าขึ้นมาก็ได้”
หมับ!
พูดจบยัยนี่ก็จับเข้าที่แขนทั้งสองข้างของฉันพร้อมกับบีบจนรู้สึกเจ็บไปหมด ตัวแค่นี้เอาแรงมาจากไหนเยอะแยะเนี่ย
“คืนนั้นธามไม่ได้อยู่กับเธอแค่สองคน อีกอย่างธามน่ะ… ไม่เอาคนแบบเธอหรอกนะเฟย์ คิดว่าคนอย่างเธอดึงดูดธามมากนักหรือไง แฟนฉันเขาก็เลือกนะ” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มเยาะคนตรงหน้าไปด้วย พยายามไม่แสดงสีหน้าว่าเจ็บจากการกระทำของยัยนี่
“กรี๊ดดด แกอีเกี๊ยว!”
พลั่ก!
ตุ้บ!!!
ไม่รู้ว่ายัยนี่เกิดคลั่งอะไรขึ้นมาหลังจากที่ฉันพูดจบ เฟย์ก็กรี๊ดเสียงดังด้วยความโมโหอย่างเลือดขึ้นหน้าพร้อมกับผลักฉันล้มลงไปกับพื้นจนทำให้เข่ากับศอกของฉันเป็นแผลได้เลือดเลยแหละ
เจ็บชะมัด นี่เรื่องมันมาถึงขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย!
แต่ที่โชคร้ายไปกว่านั้น…
มือถือของฉันที่ใช้อัดเสียงทั้งหมดเอาไว้มันดันกระเด็นหลุดมือจนไปกระแทกกับเสานี่สิ
“นี่แกอัดเสียงเอาไว้ด้วยงั้นเหรอ!” เมื่อเฟย์เห็นแบบนั้นก็หันมาถามย้ำกับฉันด้วยน้ำเสียงโมโหอย่างสุดขีด
“จะทำอะไรน่ะ” ฉันถามขึ้นอย่างตกใจเมื่อเฟย์เดินไปเก็บมือถือของฉันขึ้นมา ก่อนจะทำเรื่องที่ทำเอาฉันต้องตาค้าง
ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!
“ทำลายหลักฐานไง แกจะได้ไม่มีอะไรไปบอกคนอื่น!”
ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!
“หยุดนะยัยบ้า! เป็นบ้าไปแล้วหรือไง!”
ฉันรีบลุกขึ้นไปแย่งมือถือของตัวเองจากมือของยัยโรคจิตนี่ทันที ถึงแม้ว่าในตอนนี้มันจะพังไปมากแล้วก็ตาม เพราะยัยนี่เล่นเอามือถือฉันไปทุบกับเสาจนหน้าจอแตกไปหมด
ยัยนี่มันโรคจิตชัดๆ เลย
“ฉันทำได้ยิ่งกว่านี้อีก แกคิดจะเอาคลิปเสียงไปแฉฉันกับทุกคนงั้นเหรอ อย่าหวังเลย”
“หยุดนะอีบ้า! เอามือถือฉันมานี่”
พลั่ก!
รอบนี้เป็นฉันเองที่ผลักยัยเฟย์ล้มลงไปกับพื้น แล้วรีบไปหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาพบว่าหน้าจอมันแตกไปหมดแล้วแถมเครื่องก็ดับไปแล้วด้วยมือถือเครื่องหนึ่งมันไม่ใช่ราคาถูกๆ เลยนะ แถมคลิปเสียงที่อัดไว้ก็คงหายไปหมดแล้ว
“หึ! คลิปนั่นมันหายไปจากโลกแล้ว ฮ่าๆๆ” เฟย์หัวเราะด้วยความสะใจเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของฉัน
“ฉันจะบอกอะไรให้ว่ากล้องวงจรปิดตรงนี้มีนะ เผื่อแกไม่เห็นถ้าฉันไปขอทางมอดูยังไงก็มีหลักฐานอยู่ดี อีกอย่าง… กล้องสมัยนี้บันทึกเสียงได้ด้วยนะ อีโง่!!!”
ฉันหันไปพูดพร้อมกับยิ้มเยาะอีกครั้ง แต่เอาเข้าจริงฉันก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่ากล้องของมหาวิทยาลัยมันจะใช้ได้จริงแล้วคมชัดแบบที่โม้ไปเมื่อกี้หรือเปล่า
พูดไปก่อนก็แล้วกันเพราะอย่างน้อยนั่นก็ทำให้ยัยนี่หน้าเสียลงไปได้
“แกอย่าอยู่เลยอีเกี๊ยว…”
“ทำอะไรกันน่ะ!!!”
เสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังในตอนที่เฟย์พยายามจะลุกขึ้นมาจัดการฉัน แต่พอธามปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขายัยนี่ก็ทำสำออยแล้วล้มลงไปอีกครั้ง
“พี่เกี๊ยวอย่าทำเฟย์เลย เฟย์ขอโทษค่ะ”
ตามด้วยการปรับโหมดอัตโนมัติของยัยจิตป่วยนี่จากคนโมโหร้ายกลายเป็นคนน่าสงสารต่อหน้าทุกคนในทันที
ส่วนฉันในตอนนี้ก็ดันเป็นจังหวะนรกอีกจนได้!
เพราะตอนที่ทุกคนมาเห็นมันเหมือนกับว่าฉันกำลังจะเข้าไปทำร้ายยัยเฟย์อะไรนี่เลย… ฉันคงดูแย่ในสายตาทุกคนอีกแล้วสินะรอบนี้
“พี่ธาม… ช่วยเฟย์ด้วยค่ะ” ยัยรุ่นน้องหน้าด้านนี่หันไปพูดกับแฟนของฉันด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นคนถูกกระทำอย่างเต็มที่
“ไปช่วยรุ่นน้องนายสิ! คราวนี้ก็คงคิดว่าฉันทำอีกใช่ไหมล่ะ!!” พอเห็นว่าธามหันมามองฉันก็เลยพูดออกไปด้วยความน้อยใจ เพราะภาพที่เห็นมันก็ชวนให้เข้าใจผิดแบบนั้นจริงๆ หลักฐานอะไรก็ไม่มีพูดไปก็ดูเหมือนแก้ตัวอีก
“จะบ้าเหรอเกี๊ยว…”
“เออ! ฉันมันบ้าไปแล้ว ถ้าที่ผ่านมานายไม่รู้จักนิสัยฉันขนาดนั้นก็เลิกกันไปเลยก็ได้ ฉันเองก็เหนื่อยกับเรื่องประสาทแดกพวกนี้แล้วเหมือนกัน” ฉันพูดไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างสุดกลั้น “ฮรึก~ เลิกกันไปเลย เลิกกันให้มันจบๆ ไป”
“ฉันหมายถึงเธอจะบ้าหรือไง! คิดว่าฉันไม่รู้จักแฟนตัวเองดีจนใครมาใส่ร้ายอะไรเธอฉันก็เชื่อไปหมดอย่างนั้นเหรอ?”
“ก่อนหน้านี้นายก็เป็นแบบนั้น… ฉันเหนื่อยแล้วธาม เหนื่อยกับเรื่องพวกนี้ ถ้ามันไปต่อไม่ได้ก็เลิกกันไปดีกว่า”
“ไปกันใหญ่แล้วเกี๊ยว… อย่ามาพูดว่าจะเลิกกันอีกนะ” ธามพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาฉันและจับมือฉันไว้โดยที่ไม่สนใจรุ่นน้องของตัวเองที่นั่งอยู่บนพื้นรอให้เขาไปช่วยเลยสักนิด “ฉันไม่มีวันเลิกกับเธอ ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลยสักครั้งด้วย”
“ฮรึกก~ ฮรือออ~”
“รักแรกรักเดียวของธามยังไงก็ต้องเป็นเกี๊ยวคนเดียว”