ใครเลยจะรู้ว่า นักแสดงตัวประกอบอย่างเหยาซื้อจะประสบอุบัติเหตุมาอยู่ในร่างของสตรีที่ชื่อเดียวกันแต่อยู่ในปี1980
รัก,ย้อนยุค,ผู้ใหญ่,จีน,ครอบครัว,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ทันทีที่ตัดสินใจลืมตา ภาพแรกที่เห็นคือเด็กน้อยสองคนที่หน้าตาคล้ายกันจนเหมือนพิมพ์เดียวกันนั่งจ้องหน้าด้วยแววตาวิตกกังวล มันไม่ใช่แววตาที่เด็กสามขวบควรมี ทำให้เธอตัดสินใจยื่นมือไปคว้าเอาเด็กสองคนมากอดแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ เสียงหัวเราะคิกคักจึงดังขึ้น
“แม่ตื่นแล้ว” หญิงสาวบอกกับเด็กน้อยที่ตอนนี้ปีนขึ้นเตียงเธอเรียบร้อยแล้ว “ทำไมลูกๆ ตื่นเช้ากันจัง หรือว่าหิวกันแล้ว”
“หม่ำๆ”
“ขอโทษนะ แม่ตื่นสายเอง” เธอจุ๊บแก้มนุ่มๆ ของเด็กๆ ไม่กี่นาทีต่อมา แม่บ้านวัยห้าสิบก็โผล่หน้าเข้ามาด้วยสีหน้าสำนึกผิด
“ขอโทษค่ะคุณผู้หญิง ป้าเตรียมอาหารเช้าอยู่ไม่คิดว่าคุณหนูจะตื่นแล้วมากวนคุณผู้หญิง”
“ช่างเถอะ” หญิงสาวโบกมือไปมาแล้วบอกกับเด็กฝาแฝดชายหญิงทั้งสอง “ขอแม่ล้างหน้าแปรงฟันก่อน ไปรอแม่ข้างนอกก่อนนะคะ”
เด็กน้อยทั้งสองพยักหน้ารับแล้วกระโดดลงจากเตียงเดินไปพร้อมกับคุณป้าแม่บ้าน หลังจากบานประตูห้องปิดสนิทแล้ว หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมา พลางหันไปมองตัวเองในจากกระจกโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ใกล้เตียงนอน
นี่คือใบหน้าของผู้หญิงที่ชื่อ หลินเหยาซื่อ เจ้าของใบหน้างดงามอ่อนหวาน แม้จะอายุเพียงยี่สิบสองแต่ก็มีลูกแฝดชายหญิงแสนน่ารักชื่อ กั๋วจางลี่และกั๋วจางหย่ง ทั้งสองใช้แซ่กั๋วตามบิดาก็คือกั๋วคังเหรินที่หายสาปสูญไปตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง
หลินเหยาซื่อได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงนี้ได้เลย เธอคือ ‘หลินเหยาซื่อ’ ที่มีชีวิตอยู่ในปีค.ศ.2023 แต่เพราะอุบัติเหตุรถบัสตกเขาทำให้เธอลืมตาอีกครั้งและพบว่าตัวเองอยู่ในร่าง ‘หลินเหยาซื่อ’ อายุยี่สิบสอง คุณแม่ลูกแฝดที่ใช้ชีวิตอยู่ในปี ค.ศ.1980
ครั้งแรกที่เธอลืมตาขึ้นคือเมื่อเจ็ดวันที่แล้ว หลินเหยาซื่อไม่มีความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมเลยสักนิด เธอรู้เพียงแค่ว่า ร่างกายนี้อ่อนแอจนน่าเวทนา ตรอมใจกับการหายไปของสามีจนร่างกายทรุดโทรมลงทุกวัน สุดท้ายก็เป็นลมหมดสติไปถึงเจ็ดวัน การหลับไปยาวนานของเจ้าของร่างเป็นสาเหตุให้เด็กแฝดทั้งจะมองแม่ด้วยแววตาหวั่นวิตก ด้วยกลัวว่าแม่จะหลับไปยาวนานไม่ตื่นขึ้นมาอีก หลินเหยาซื่อต้องตั้งสติอยู่เป็นวันๆ เธอยังคิดว่าตัวเองคงแค่ฝันไป หากตื่นมาอีกครั้งคงกลับไปสู่ร่างของตนเอง แต่ลืมตากี่ครั้ง เธอก็ยังอยู่ในร่างนี้และสิ่งแวดล้อมในยุค 80
แม้จะไม่มีความทรงจำของเจ้าของร่างนี้ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หลินเหยาซื่อที่เป็นเล่นเป็นตัวประกอบในซีรีย์และภาพยนตร์มาหลายสิบเรื่อง เธอมีทักษะการแสดงอยู่ไม่น้อย อาศัยเหตุที่ตัวเองหลับไปนานทำให้ความทรงจำหายไป บ้านหลังใหญ่มีแม่บ้านชื่อฮุ่ยชิวคอยดูแลอยู่เพียงลำพัง ฮุ่ยชิวเล่าทั้งน้ำตาหลังจากที่รู้ว่าคุณผู้หญิงของบ้านความจำเสื่อม จำไม่ได้แม้กระทั่งลูกฝาแฝดชายหญิง ฮุ่ยชิวทั้งสงสารและเวทนาหลินเหยาซื่อจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดทำให้เธอพอจับต้นสายปลายเหตุได้บ้าง
หญิงสาวธุระส่วนตัวเสร็จก็สำรวจตัวเองที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดกระโปรงยาวคลุมเข่าสีเรียบ ดูเหมือนเจ้าของร่างจะชอบแบบนี้ แต่เท่าที่เธอจำได้ในปี1980 เข้าสู่ยุคปฏิรูปและเปิดประเทศ รูปแบบเสื้อผ้าได้เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกรอบ โดยสีสันใหม่ๆ ของชุดล้วนมาจากอิทธิพลชาติตะวันตก ซึ่งได้รับการยอมรับกว้างขวาง แต่ในตู้เสื้อผ้าของหลินเหยาซื่อยังคงเป็นชุดฉีผาวและเสื้อผ้าสีเรียบแทบไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม หลังจากหลินเหยาซื่อตัดใจได้แล้วว่า ตัวเองคงไม่ได้กลับไปโลกปัจจุบัน เธอจึงตั้งสติและคิดทบทวนว่าจะใช้ชีวิตในโลกอดีตนี้อย่างไร ซึ่งวันนี้เธอตั้งใจจะตรวจบัญชีและเช็กการเงินที่ดูท่าทางจะง่อนแง่นเต็มที ป้าฮุ่ยชิวเล่าว่าแต่ก่อนบ้านหลังนี้มีคนรับใช้อยู่หลายคน แต่หลังจากนายท่านใหญ่ตายจากและคุณผู้ชายหายสาบสูญ การเงินที่มีปัญหา คุณผู้หญิงไม่สามารถจ้างทุกคนไว้ได้เหมือนก่อนจึงทยอยให้สมัครใจลาออกไปที่ละคนสองคน จนตอนนี้เหลือเพียงป้าฮุ่ยชิวที่ไร้ญาติขาดมิตรไม่มีที่ให้ไป อยู่รับใช้หลินเหยาซื่อเช่นที่เคยเป็นมา
‘คุณผู้ชายหายสาบสูญ’
ข้อมูลที่ได้รับมาทำให้หลินเหยาซื่ออึ้งไป ตื่นมาเจอลูกแฝดวัยสามขวบ เจอปัญหาการเงิน ซ้ำยังมาเจอปัญหาสามีหายตัวไปอีก เธอได้แต่สงสารชีวิตอาภัพของ ‘หลินเหยาซื่อ’ ในปี 1980 นี้เหลือเกิน แต่เพราะดวงตากลมโตสองคู่ที่จ้องมองนั้นแหละ ทำให้เธอรู้ว่า ไม่ว่าโชคชะตาจะเล่นตลกอะไรอยู่ ส่งเธอซึ่งใช้ชีวิตในปี2023กระโดดมาอยู่ในปี1980นี้ เธอรู้แค่ว่า จะใช้ชีวิตต่อไปและดูแลเจ้าเด็กแฝดนี้ให้ดีที่สุดเช่นกัน
เรื่องดีๆ เรื่องเดียวที่หลินเหยาซื่อพอนึกออกคือเจ้าของร่างนี้ แม้จะเป็นคุณแม่ลูกแฝดแต่รูปร่างยังอรชรและใบหน้าอ่อนหวานราวเด็กสาวอายุไม่ถึงยี่สิบ เธออดคิดไม่ได้ว่าถ้าใบหน้าและรูปร่างนี้เป็นของเธอในปี2023 เธอคงได้เป็นดารานักแสดงสมใจไม่ใช่แค่ตัวประกอบ หญิงสาวยิ้มขำให้ตัวเองในกระจกเงาตรงหน้า จัดแต่งผมหน้าม้าของตัวเองอีกเล็กน้อยแล้วเดินลงมาจากชั้นสองไปที่ห้องครัว ระหว่างทางก็อดกวาดตามองบ้านที่เพิ่งมาอาศัยได้ไม่กี่วันแต่เจ้าของร่างนี้อยู่มาตั้งแต่เกิด
ถ้า...ถ้าถึงคราวจำเป็น...ก็คงต้องขายบ้านหลังนี้
หลินเหยาซื่อดูสมุดบัญชีที่เจ้าของร่างเดิมทำไว้ซึ่งจดรายรับรายจ่ายอย่างละเอียด ทำให้รู้ว่าแต่ละเดือนแทบไม่พอใช้ หลินเหยาซื่อในปี1980 เป็นคุณหนูบอบบาง มารดาเสียไปตั้งแต่อายุเพียงแค่สิบขวบ บิดาไม่ได้แต่งงานใหม่ ทุ่มเทแรงกายและใจเลี้ยงดูลูกสาวอย่างดี หลินเหยาซื่อใช้ชีวิตแบบคุณหนูผู้ร่ำรวยสุขสบายจนวันที่เธออายุ 17 ก็มารู้ว่าบิดาป่วยด้วยโรคหัวใจ และเผื่อให้ตัวเองสบายใจจึงอยากเห็นลูกสาวคนเดียวได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีที่จะดูแลหลินเหยาซื่อได้ ชายคนนั้นคือ กั๋วคังเหริน ที่บิดาของเธอส่งเสริมอย่างออกหน้าออกตา ให้ทุนการศึกษาส่งไปเรียนที่อังกฤษหลายปีหวังให้กลับมาเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการดูแลกิจการของสกุลหลิน ในปีที่หลินเหยาซื่ออายุ18 ได้แต่งงานกับกั๋วคังเหริน แต่การแต่งงานนี้มีเงื่อนไขคือกั๋วคังเหรินต้องมาอยู่บ้านสกุลหลิน
ภายนอกเขาคือสามีที่ใส่ใจภรรยา แต่เรื่องในบ้านไม่มีใครรู้ และยิ่งทุกอย่างกลายเป็นความดำมืดที่ไม่มีใครล่วงรู้ก็คือ วันหนึ่งฮุ่ยชิวรับโทรศัพท์จากตำรวจซึ่งแจ้งว่าพบรถยนต์ของคุณกั๋วคังเหรินตกเขา สภาพรถพังเสียหาย ในที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาวที่มาทราบภายหลังว่าเป็นนักร้องไนท์คลับแห่งหนึ่ง แต่ไม่พบร่างของกั๋วคังเหริน ไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์ของกั๋วคังเหรินกับผู้หญิงคนนั้น แต่แน่นอนว่าข่าวที่ออกไปไม่ดีนัก ในปีนั้นเองที่หลินเหยาซื่อตั้งครรภ์อ่อนๆ เธอเองก็ไม่รู้ว่ากั๋วคังเหรินรู้หรือไม่ว่าภรรยาสาวตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว
หญิงสาวเดินเข้าในห้องครัว เด็กชายหญิงหน้าตาละม้ายคล้ายกันหันมามองแล้วสิ่งยิ้มกว้าง เด็กทั้งสองนั่งแกว่งเท้าไปมาบนเก้าอี้เด็ก หลินเหยาซื่อส่งยิ้มกว้าง เดินไปคว้าผ้ากันเปื้อนมาคาดเอวอย่างรวดเร็วและเตรียมลงมือป้อนอาหารเช้าให้เด็กทั้งสอง
“คุณผู้หญิงค่ะ ไก่ที่สั่งไว้มาส่งแล้วนะคะ”
“ไก่มาแล้วหรือ?” เธอหันไปมองนาฬิกา “มาแต่เช้าเลยรึ? หรือว่าฉันตื่นสาย”
ป้าฮุ่ยชิวแอบค้อนเข้าให้ “คุณผู้หญิงไม่น่าให้เงินไปก่อนเลยเจ้าค่ะ คราวหน้าคราวหลังได้ของแล้วค่อยให้เงินนะเจ้าค่ะ”
“แค่ไก่ไม่กี่ตัว เขาคงไม่โกงเราหรอก” หลินเหยาซื่อหัวเราะแล้วป้อนโจ๊กให้ลูกๆ
“ไก่” เด็กๆ ออกเสียงตามผู้เป็นมารดา
“ไก่” เธอออกเสียงชัดๆให้เด็กๆพูดตาม “บ้านเรามีไก่ก็จะมีไข่กินทุกวันแล้วนะ”
“คุณผู้หญิง...”
“ป้าค่ะ” หลินเหยาซื่อส่งยิ้มให้ “ถ้าเราไม่อยากขายบ้านนี้ก็ต้องหาทางลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ดินหลังบ้านยังว่าง เราทำแปลงผักกันนะคะ”
“ขายบ้าน?” เด็กแฝดพูดตามมารดาทั้งที่ไม่เข้าใจความหมายนัก หลินเหยาซื่อหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่มุมปากของเด็กๆ แล้วพูด
“จางลี่ จางหย่ง ชอบบ้านหลังนี้ไหมจ๊ะ”
เด็กแฝดหันมามองหน้ากันก่อนพยักหน้าหงึกหงัก
“ชอบก็ดีแล้ว แม่ก็ชอบบ้านหลังนี้เหมือนกัน” เธอยิ้มแล้วป้อนข้าวให้เด็กๆต่อ
ขอให้การ ‘ขายบ้าน’ เป็นทางเลือกสุดท้ายของเธอก็แล้วกัน ถึงจะมาอยู่ร่างนี้ไม่นาน แต่เธอก็ชอบบ้านหลังนี้เหมือนกัน