ใครเลยจะรู้ว่า นักแสดงตัวประกอบอย่างเหยาซื้อจะประสบอุบัติเหตุมาอยู่ในร่างของสตรีที่ชื่อเดียวกันแต่อยู่ในปี1980

เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's - ตอนทึ่19 นอนเตียงเดียวกันจะเป็นไร โดย เพลงมีนา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ย้อนยุค,ผู้ใหญ่,จีน,ครอบครัว,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ย้อนยุค,ผู้ใหญ่,จีน,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ใครเลยจะรู้ว่า นักแสดงตัวประกอบอย่างเหยาซื้อจะประสบอุบัติเหตุมาอยู่ในร่างของสตรีที่ชื่อเดียวกันแต่อยู่ในปี1980

ผู้แต่ง

เพลงมีนา

เรื่องย่อ

สารบัญ

เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่1 ลืมตา,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่2 ไม่ง่ายเลยนะ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่3 สวนสนุก,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่4 หลินเหยาซื่อ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่5 นิ้วมือเล็กๆ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่6 ถ้าคุณหน้าตาดีโลกนี้จะใจดีกับคุณ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่7 คุณพ่อกลับมาแล้ว,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่8 ไม่ใช่ภรรยาผู้ว่านอนสอนง่าย,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่9 ใจที่เต้นแรง,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่10 พี่น้อง,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่11 อย่าดื้อ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่12 ทำไมรู้ทัน,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่13 ผู้ชายคนนี้เซ็กซี่ชะมัด,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่14 คุณแม่อย่าดื้อ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่15 ทำไมหน้าหนาแบบนี้นะ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่16 ทำงานวันแรก,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่17 คุณพ่ออย่าดิ้อ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่18 ดีไซน์เนอร์คนใหม่,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนทึ่19 นอนเตียงเดียวกันจะเป็นไร,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่20 รู้แค่ว่า...,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่21 หรือถ่านไฟเก่าจะคุขึ้นมา,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's- ตอนที่ 22. มากกว่าจูบได้ไหม,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่ 23. คุณพร้อมจะฟังเรื่องทั้งหมดใช่ไหม,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่ 24. เท่าที่จำได้ ก็ไม่เคยแย่งของใครนะคะ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่ 25. ครอบครัว ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่ 26 ซ่อนเร้น ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่ 27. วันเสาร์ ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่ 28. ไล่ล่า ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่ 29. ตื่นพบความจริง ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-ตอนที่ 30. ความจริง ,เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงก็ดี่ยวยุค80's-31 ตอนพิเศษ

เนื้อหา

ตอนทึ่19 นอนเตียงเดียวกันจะเป็นไร

กั๋วคังเหรินค่อยๆ หยิบหนังสือนิทานออกจากมือข้างนั้น ทว่าคนที่ผล็อยหลับไปกลับลืมตาขึ้นมอง แล้วกวาดตามองทั้งที่สะลึมสะลืออยู่
           “ลูก...”
           ได้ยินประโยคแรกก็ถามหาลูก ใจของชายหนุ่มพลันอ่อนยวบลงทันที ไม่แปลกใจเลยที่เห็นเธอทุ่มเทแรงกายและใจเลี้ยงดูเด็กฝาแฝดสองคน ทั้งฝึกอ่านเขียนด้วยตนเอง สอนการใช้ชีวิตประจำวัน และที่สำคัญ แม้เขาใจร้ายไม่ได้อยู่ข้างกาย เธอก็ไม่เคยพูดเรื่องไม่ดีให้ลูกโกรธเกลียดเขา 
           “ผมพาลูกไปนอนแล้ว”  เขาลูบผมเธอแผ่วเบา “คุณเหนื่อยมากแล้ว นอนเถอะ”
           หลายวันก่อนป้าฮุ่ยชิวไม่ค่อยสบายจึงให้เด็กๆ มานอนกับเขา แต่ตอนนี้ป้าฮุ่ยชิวหายดีแล้ว เด็กๆ กลับไปนอนห้องตัวเองเช่นเดิม แต่ก่อนนอนจะมาเล่นในห้องนอนของเขาและให้หลินเหยาซื่ออ่านนิทานให้ฟัง แต่วันนี้เธอคงเพลียจากงานที่ทำอยู่จนผล็อยหลับไปพร้อมลูก เขาจึงค่อยๆ อุ้มลูกไปนอนห้องตัวเองเหลือแต่แม่ที่ยังหลับอยู่  
           หลินเหยาซื่อพยักหน้ารับทำท่าจะหลับต่อ เธอเพลียมากจริงๆ แม้ว่ากั๋วคังเหรินจะรับแม่บ้านมาเพิ่มแต่เรื่องเลี้ยงลูก เธอทำเองเกือบทุกอย่าง และยังเรื่องงานที่ต้องเร่งทำให้ทันเวลา แต่เมื่อพลิกตัวกอดหมอน กลิ่นที่แตกต่างไปทำให้เธอรู้สึกตัวแล้วรีบยันกายขึ้น
           “นี่ห้องคุณ...ฉันจะกลับไปนอนห้องฉัน”
         แต่เพราะลุกเร็วเกินไปทำให้เธอหน้ามืด มือใหญ่ประคองร่างเล็กแล้วกดไหล่ให้เธอลงนอนตามเดิม 
           “เรานอนเตียงเดียวกันมาหลายคืนแล้วนะ” 
           “แต่ก่อนหน้านี้ มีลูกอยู่ด้วย” เธอพูดแล้วก็ขยับตัวไปมา กลิ่นอายของเขาเหมือนโอบกอดและกักขังในเวลาเดียวกัน 
           “ผัวเมียกันนอนตียงเดียวกันจะเป็นไรไป” 
เหมือนเขาจะข่มน้ำเสียงไม่ให้หงุดหงิดแล้วเป็นฝ่ายขึ้นมานอนตะแคงจ้องมองคนตัวเล็กที่สวมชุดนอนสีขาวสะอาดตา สายตาของเขาไล่มองลำคองามระหงเรื่อยลงมายังไหปลาร้าจนหยุดที่หน้าอกอวบอิ่มที่สะท้อนขึ้นลงตามแรงหายใจ
“แต่เราไม่เหมือนคู่อื่น” เธอพูดเสียงเบา และเพราะสายตาของเขาทำให้เธอดึงผ้าห่มมาคลุมร่างของตน “คุณแต่งงานเพราะคุณพ่อของฉันบังคับ”
เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วยื่นมือไปจัดผ้าห่มให้เธอ 
“ผมเต็มใจ”
“แต่คุณก็ไม่ได้รักฉัน”
เขานิ่งงันไปครู่หนึ่ง ยังไม่ทันพูดอะไร อีกฝ่ายก็ชิงพูดขึ้นก่อน 
“ฉันและครอบครัวเอาเปรียบคุณมามากแล้ว” เธอพูดไปอย่างที่คิด “คุณบอกว่าเต็มใจแต่ยังไงก็ไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรักก็ต้องฝืนใจเป็นธรรมดา คุณพ่อฝากกิจการให้คุณดูแลก็นับว่าหนักหนามากพอแล้ว ถ้างานของฉันเข้าที่เข้าทางเมื่อไหร่ ฉันจะเข้าไปช่วยดูงานที่บริษัท จะพยายามเรียนรู้งาน ไม่ทำให้คุณลำบาก คุณก็ช่วยอดทนกับฉันอีกสักนิดก็แล้วกัน”
หลินเหยาซื่อพูดแล้วก็เห็นเขาทำท่าจะขยับเข้ามาใกล้ เธอรีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองไว้ก่อน ทำให้กั๋วคังเหรินชะงักไป มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยแต่ทำให้เขาดูหล่อเหลาทั้งที่เขาก็ยังเป็นเขาอยู่นั้นแหละ 
“ห้ามขโมยจูบฉันอีก” เธอส่งเสียงพูดอู้อี้เพราะปิดปากตัวเองไว้ 
“ถ้าอย่างนั้น ผมขออนุญาตก่อนก็จูบได้ใช่ไหม”
“ไม่ได้” เธอส่ายหน้าไปมาแล้วค่อยลดมือลง “คุณจูบฉันทีไหร่ ฉันคิดอะไรไม่ออกทุกที”
“อาการนี้แก้ได้ แค่คุณต้องฝึกจูบกับผมบ่อยๆ”
“คุณนี่ช่างเบี่ยงแบนประเด็นจริงๆ!” เธอขึงตาใส่ “ไม่รู้ล่ะ ฉันจะกลับไปนอนห้องฉัน ว้าย!” 
หลินเหยาซื่อร้องเสียงหลงเมื่อถูกมือใหญ่คว้าร่างเข้าไปซุกไว้ในอ้อมอก ยิ่งเธอดิ้นขลุกขลัก เขาก็ยิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้น ร่างกายทุกสัดสวนแนบชิดอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เธอเขินอายจนใบหน้าแดงจัด สุดท้ายเมื่อรู้ว่าสู้แรงเขาไม่ได้จึงได้แต่นอนนิ่งๆ ปล่อยให้เขากอด ทำให้เขาคลายอ้อมกอดเล็กน้อย ให้เธอหายใจหายคอได้โล่งขึ้น 
“คำพูดที่มาหลังการกระทำมันคือคำแก้ตัวเสมอ” เขาพึมพำชิดใบหูที่แดงก่ำของเธอ “ผมรู้ว่ามันยากที่จะทำให้คุณเชื่อใจผมอีกครั้ง แต่ผมก็ยินดีที่จะทำอย่างนั้น แม้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม” 
“แต่...คุณอาจเสียเวลาเปล่า”
“ผมเสียช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดไปแล้ว” น้ำเสียงเจือความเจ็บปวด 
“ก่อนหน้านี้คุณเย็นชากับฉัน”  พูดไปแล้วก็รู้สึกถึงความน้อยใจ ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจากเจ้าของร่างนี้หรือเพราะเธออ่านสมุดบันทึกของหลินเหยาซื่อ 
“เหยาซื่อ..” 
‘คุณคือคนที่ผมจะรักไม่ได้’
เขาเอียงใบหน้าเล็กน้อยเพื่อได้สบตากับดวงตาคู่สวย ไม่อาจพูดทุกสิ่งที่อยู่ในใจได้หมด 
“อยู่ในสกุลกั๋ว ผมคือลูกเมียรองของคุณพ่อ แต่อยู่นอกบ้าน ผมคือลูกนอกสมรส ชีวิตผมเจอสายตาดูแคลนมาตลอดรวมทั้งคนในครอบครัว ผมจะไม่ให้ลูกของผมต้องเจอเรื่องแบบเดียวกับผม ถ้าคุณไม่เชื่อใจ ผมทำหมันก็ได้นะ”
“ทำหมันเหรอ” เธอทำตาโตไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องนี้
“คุณจะได้มั่นใจว่าผมจะไม่มีลูกกับใครแน่นอน” 
“เรื่องนั้น...” เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง “ไม่ต้องหรอกค่ะ ถ้าคนจะนอกใจ ทำหมันก็นอกใจได้อยู่ดี”
ได้ยินแบบนี้แล้ว กั๋วคังเหรินยิ้มออกมาแล้วกอดเธอแน่นขึ้นอีกนิด 
“แสดงว่าตอนนี้ผมอยู่ในใจของคุณแล้วใช่ไหม”
“ฉันไม่ได้...” 
ไม่ได้อะไรล่ะ? ไม่ได้คิดเรื่องนั้น หรือไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว 
จู่ๆ หลินเหยาซื่อก็นึกคำพูดไม่ออก 
“ขออนุญาตนะครับ”
“คะ?” 
มือใหญ่ประคองท้ายทอยเธอไว้ก่อนที่ริมฝีปากหยักสวยจะทาบทับลงมา แรงขบเม้มเบาๆ แต่เรียกร้องทำให้อีกฝ่ายเผยอริมฝีปากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาคู่สวยยังดูมึนงงอยู่ในขณะที่ดวงตาของเขามีแววเจ้าเล่ห์ กว่าหลินเหยาซื่อจะรู้ตัวก็ถูกจูบอยู่เธอก็แทบขาดอากาศหายใจแล้ว เขาจึงยอมถอนจูบ
“คุณ...คุณ...” เธอยกมือขึ้นทุบแผงอกแกร่งที่ไม่ทำให้เขาสะเทือนเลยสักนิด “ฉันบอกแล้วไงว่าห้ามขโมยจูบอีก”
“ผมขออนุญาตแล้วไง” เขายิ้มกริ่ม แรงทุบจากมือน้อยๆ ไม่ได้ทำให้เขาเจ็บ แต่เขากลัวเธอจะเจ็บมือเสียเองจึงรวบข้อมือของเธอไว้ก่อน
หลินเหยาซื่อฮึดฮัดเพราะทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่ทำตาดุใส่ “ฉันจะกลับห้อง”
“เหยาซื่อ...คืนนี้นอนที่นี่เถอะนะ”
“คุณมันฉวยโอกาส!”
“ก็ผมบอกแล้วไง ให้คุณฝึกจูบกับผมบ่อยๆ”
“คุณนี่!” 
ทำไมผู้ชายคนนี้หน้าหนาขนาดนี้นะ 
“ถ้าคุณยังดิ้นขลุกขลักแบบนี้ ผมจะขออนุญาตทำมากกว่าจูบแล้วนะ”
“คนบ้า!คุณกล้าเหรอ!”
เธอดึงมือตัวเองกลับแต่เขารั้งร่างเธอไปกอดไว้แนบแน่นจนสัมผัสได้ถึงบางส่วนที่แข็งขันอยู่กึ่งกลางของชายหนุ่ม คราวนี้เธอไม่กล้าขยับตัวอีก และยังไม่กล้ามองหน้าเขาด้วย 
“นอนเถอะ พรุ่งนี้คุณมีงานต้องทำอีก”
ฝ่ามือของเขาลูบแผ่นหลังของเธอเบาๆ ไออุ่นและกลิ่นกายเฉพาะตัวของเขาทำให้เธอค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกายลง คล้ายได้ยินเสียงฮัมเพลงอยู่ข้างหู แรกที่ได้ยินเธอคิดว่าเป็นเพลงกล่อมเด็ก แต่ฟังไปอีกนิดก็รู้สึกว่าไม่ใช่ คล้ายเป็นบทเพลงเก่าๆ 
ฤดูเก็บเกี่ยว
รอคนรักกลับมาหา
           เธอยังคงเฝ้ามองที่บานประตู
           รอให้ร่างของเขากลับมาเยือน
           ทุ่งข้าวกลายเป็นสีทอง
           ผู้ชายของเธอยังไม่กลับมา
           ลูกชายของเรา ยังเฝ้ารอพ่อของเขา
           เมื่อไหร่หนอ สายลมจะหอบคนไกลให้หวนคืน 
         ชายหนุ่มพึมพำเพลงบทเก่าที่มารดาร้องให้ฟังแทนเพลงกล่อมเด็ก เป็นเพียงท่อนสั้นๆ ที่เขาเพิ่งเข้าใจความหมายก็เมื่อเติบโตแล้ว 
           กั๋วคังเหรินรับรู้ได้ว่าคนในอ้อมกอดผล็อยหลับไปแล้ว เขาก้มมองใบหน้ายามหลับใหล ทั้งที่คนตรงหน้าก็คือหลินเหยาซื่อ แต่ลึกๆ แล้วเขารู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไป ความมั่นใจในตัวเองของเธอบางครั้งก็ทำให้เขาหวั่นไหว กลัวว่าสักวัน เธอจะไม่ต้องการเขาแล้ว เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วกอดเธอไว้ เก็บเกี่ยวความสุขนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด หากวันหนึ่งเธอรู้ความจริงทั้งหมด...เธออาจไม่ให้อภัยเขา ช่างเถอะ ถึงจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ขอแค่เธอไม่กีดกันเขากับลูกก็พอ