ไทม์ เฮอว๊ากหนุ่มหน้านิ่ง ที่ไม่สนใจใครแต่ดันมาตกหลุมรัก ลลิต สาวสวยหน้าหวาน ดวงตากลมโต ที่มีรอยยิ้มสดใส เจ้าของฉายาหน้าตุ๊กตา แต่ใครจะไปรู้ว่าในความหน้าหวานนั้นก็มีความแสบซ้อนอยู่
รัก,วัยว้าวุ่น,ไทย,นิยายสนุก,นิยายรักชายหญิง,นิยายชายหญิง,วิศวะ,รักมหาลัย,รักโรแมนติด,นิยายรัก,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รักร้ายนายวิศวะไทม์ เฮอว๊ากหนุ่มหน้านิ่ง ที่ไม่สนใจใครแต่ดันมาตกหลุมรัก ลลิต สาวสวยหน้าหวาน ดวงตากลมโต ที่มีรอยยิ้มสดใส เจ้าของฉายาหน้าตุ๊กตา แต่ใครจะไปรู้ว่าในความหน้าหวานนั้นก็มีความแสบซ้อนอยู่
เช้าวันต่อมา
กริ่ง กริ่ง~~
เสียงนาฬิกาปลุกแจ้งเวลา7:50ตามที่ฉันตั้งไว้ ทำให้ต้องยื่นมือไปกดปิดและนอนเรียกสติตัวเองก่อนที่จะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวไปมหาลัยเพราะวันนี้ฉันมีเรียน8:30น.
ซึ่งเมื่อวานหลังจากทานข้าวเสร็จเราก็แยกย้ายกันกลับห้องของตัวเอง เมื่อถึงห้องฉันก็นอนดูซีรีส์ที่ดูค้างไว้จนจบ ซึ่งฉันพักอยู่ที่คอนโดCเป็นคอนโดที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับมหาลัยมากนัก และเมื่อแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็เดินไปหยิบกระเป๋าและส่องกระจกสำรวจตัวเองอีกนิดก่อนจะใส่รองเท้าและเดินออกจากห้องไป เพื่อขับรถมุ่งหน้าไปมหาลัย
ครืด ครืด
ระหว่างที่เดินขึ้นตึกอยู่นั้นก็ได้มีสายเรียนเข้าจากยัยแพรนั้นเอง
(อยู่ไหนแล้ว อาจารย์จะเข้าแล้วนะ)
“ถึงแล้วกำลังขึ้นไปค่า”
(โอเค รีบๆ ละ)
“ค่า~”
เมื่อตอบยัยแพรเสร็จฉันก็วางสาย กดลิฟต์เพื่อไปยังห้องเรียนของตนเอง และก่อนที่ลิฟต์จะปิดนั้นก็ได้มีคนกดเปิดไว้และก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่คือกลุ่มพี่ว้ากนั้นเอง และเมื่อเห็นแบบนั้นฉันก็ยกมือสวัสดีพี่ๆ เขา ที่รู้ว่าเป็นพี่ว้ากเพราะใส่เสื้อช้อปสีแดงไงละ
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ/ ค่ะ” และพี่เขาก็ตอบกลับมา ซึ่งกลุ่มพี่เขามี 5คน ชาย3 หญิง2 และในกลุ่มนั้นมีคนตัวสูงที่สั่งทำโทษฉันเมื่อวานด้วย ซึ่งฉันไม่รู้หรอกว่าพี่ๆ เขาชื่ออะไร เพราะไม่ได้สนใจขนาดนั้น แต่ในระหว่างที่อยู่ในลิฟต์นั้นฉันก็รู้สึกถึงการจ้องมองจากใครบางคนทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองและได้สบตากับคนตัวสูงที่ยืนจองหน้าฉันอยู่
“…………”
“??”
เมื่อฉันมองพี่เขาก็หลบสายตาและทันใดนั้นก็ถึงชั้นห้องเรียนของฉัน ทำให้ฉันก้าวออกจากลิฟต์และเดินไปยังห้องเรียนของตนเอง
ภายในลิฟต์
“จ้องเขาตาไม่กะพริบเลยนะ” เสียงของจีน่าดังขึ้น
“หึ สนใจว่างั้น” ตามด้วยเสียงไตเติ้ล ซึ่งผมเมื่อพอได้ยินแบบนั้นก็ยักไหล่และก้าวเดินออกจากลิฟต์เมื่อถึงชั้นเรียนของตนเองทันทีโดยไม่ได้คิดจะตอบคำถามนั้น
ซึ่งคนที่ถามก็คือกลุ่มเพื่อนผมเอง เรามีกัน5คน คือผม ไตเติ้ล หวาย จีน่าและเบสไอ้เบสนี่เสือตัวพ่อเลยแหละ พวกเราเรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมและสนิทกันจนถึงทุกวันนี้เรียกว่ารู้ไส้รู้พุงกันดีเลยละ
อีกห้องเรียนหนึ่ง
“เอาละค่ะ วันนี้เราพอแค่นี้กันก่อน ขอให้นักศึกษากลับไปทบทวนทำความเข้าใจ และเจอกันคาบหน้าค่ะ”เสียงอาจารย์กล่าวเมื่อสอนเสร็จ ตามด้วยเสียงถอนหายใจของยัยจินนี่
“เฮ้อ หมดคาบสักที”
“ทำเป็นบ่น กูเห็นมึงหลับตั้งแต่อาจารย์เริ่มสอนละ” ยัยเกรนเอ่ย
“ก็มันง่วงและน่าเบื่อนี่ เออว่าแต่ไปกินข้าวที่ไหนกันดี” จินนี่เอ่ยถาม
“โรงอาหารคณะไหม เพราะเดี๋ยวก็มีเรียนและเข้าประชุมเชียร์อีก” เสียงของยัยแพร
“อืมม กินที่นั่นก็ได้” ตามด้วยเสียงฉัน เมื่อตกลงกันเสร็จพวกเราก็รีบมุ่งหน้ากันไปที่โรงอาหารทันทีเพราะนี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วเดี๋ยวคนจะเยอะแล้วต้องรอนาน
ซึ่งกลุ่มฉันมีทั้งหมดสี่คน คือฉัน เกรน แพรและจินนี่ อ๋อจินนี่ นี่เป็นสาวสองนะจ๊ะ เมื่อถึงโรงอาหารพวกเราก็รีบหาโต๊ะนั่งกัน เพราะเดี๋ยวจะไม่มีที่นั่ง คนที่โรงอาหารค่อนข้างจะแน่นเลยละ บอกก่อนเลยว่าคณะวิศวะส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้ชาย และงานดีทั้งนั้น ซึ่งในโรงอาหารก็จะมีสาวๆจากคณะอื่นมากินข้าวที่นี่ด้วยเหมือนกัน เพราะมีผู้งานดี
“กินไรดี” เสียงยัยเกรนถามขึ้น
“ก๋วยเตี๋ยวมั้ย” ฉันเอ่ยถาม
“ฉันเอาด้วย” ยัยแพรบอก
“เคงั้นก๋วยเตี๋ยวหมดเลยละกัน ไปจินนี่ไปสั่งกับฉัน” เสียงยัยเกรนบอกพร้อมลากจินนี่ไปด้วย
“แกเฝ้าโต๊ะนะ เดี๋ยวไปซื้อน้ำให้” ยัยแพรเอ่ยบอกทำให้ฉันพยักหน้าตกลงและนั่งลงรอที่โต๊ะ
พร้อมเล่นโทรศัพท์ไปด้วยและระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงกรี๊ดของสาวๆดังขึ้นทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นมอง