ดวงตาคู่สวยทอดมองมังกรน้ำแข็งผู้ยิ่งใหญ่ที่บัดนี้อ้อนวอนขอความรักและเห็นใจจากตัวเขาอย่างนึกสมเพช "เสียความทรงจำแล้วอย่างไร มันไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าท่านกับข้าเกลียดกันเข้าใส้ไปได้หรอกอีธาน"

สามีทรราชที่ข้าเกลียดสูญเสียความทรงจำ [hybrid verse] - 01 ทรราชผู้นั้น โดย เฉอเล่อ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ดราม่า,ตะวันตก,animal verse,ราชวงศ์,ตะวันตก,Hybrid,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สามีทรราชที่ข้าเกลียดสูญเสียความทรงจำ [hybrid verse]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ดราม่า,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

animal verse,ราชวงศ์,ตะวันตก,Hybrid

รายละเอียด

ดวงตาคู่สวยทอดมองมังกรน้ำแข็งผู้ยิ่งใหญ่ที่บัดนี้อ้อนวอนขอความรักและเห็นใจจากตัวเขาอย่างนึกสมเพช "เสียความทรงจำแล้วอย่างไร มันไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าท่านกับข้าเกลียดกันเข้าใส้ไปได้หรอกอีธาน"

ผู้แต่ง

เฉอเล่อ

เรื่องย่อ

"คำปฏิญาณสำหรับท่านกับข้ามันก็เป็นแค่ลมปาก พระเจ้าทรงรับรู้ได้ว่าพวกเรามิได้เอ่ยสัจวาจาจากใจจริง"




ดวงตาคู่สวยทอดมองบุรุษงามที่นั่งแสดงสีหน้าต้องการคำอธิบายเพิ่ม ความเฉยชาที่ 'มิเชล เดอ ไพร์ม' ได้รับมาตลอดหลายปีวันนี้มันถูกส่งมอบคืนในคนที่เคยให้เขามา



"ท่านกับข้าเกลียดกันเช่นไร ขอผืนนภาแห่งนี้จงเป็นพยาน ต่อให้ความทรงจำของท่านแม้เพียงเสี้ยวเดียวมิกลับคืน ข้าก็จะไม่มีวันรักท่านอีกครา"



'อีธาน เดอ แอชเลอร์' ได้ฟังคำเอ่ยกร้าวจากปากของเสือดำหนุ่มก็ยิ่งเจ็บปวดในใจ เขามิอาจรับรู้ได้ว่าเมื่อคราอดีตตัวเขาทำดวงใจของคนตรงหน้าแหลกสลายไม่มีชิ้นดีมากเพียงใด และสิ่งที่จะยังพอติดอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ



คือเขารักคนตรงหน้าเหลือเกิน












Warning ; ตัวละครเอกถูกทำร้ายจิตใจ, ตัวละครเอกมีอาการจิตตกและเป็นซึมเศร้า, ตัวละครเอกมีภรรยามากกว่าหนึ่งคน, มีการกล่าวถึงสงคราม, เลือด, Mpreg



นายเอกในเรื่องนี้จะถูกเรียกว่าจักรพรรดินีเพื่อให้สมฐานะภรรยาของจักรพรรดิของอาณาจักรเพื่ออรรถรสแม้จะไม่ได้มีเพศสภาพเป็นผู้หญิงก็ตาม




ซ่อนสปอยล์
อาณาจักรนอร์ทแอร์เวน



เป็นอาณาจักรที่ห้อมล้อมด้วยป่าสน และจะมีฤดูหนาวเก้าเดือน ฤดูใบไม้ผลิสามเดือน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะอากาศร้อนมากๆ และฤดูกนาวก็จะหนาวมากเช่นเดียวกัน



ผู้คนในอาณาจักรเป็นไฮบริดโดยจะแบ่งชนชั้นไฮบริดออกเป็นสี่ชนชั้นใหญ่ๆ



ไดม่อนโซน - เป็นไฮบริดของสัตว์กินเนื้อและผู้ล่าทั้งหมด

โกลด์โซน - เป็นไฮบริดสัตว์ปีกทั้งหมด 

ซิลเวอร์โซน - จะเป็นไฮบริดสัตว์ตัวเล็กหรือสัตว์ที่เป็นสัตว์เลี้ยงได้ทั้งหมด



และชนชั้นพิเศษที่มีเพียงราชวงศ์และเหล่าตระกูลขุนนางชั้นสูงบางตระกูลที่จะมี



โดมิแนนท์โซน - จะเป็นไฮบริดสัตว์หายาก สัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วหรือใกล้สูญพันธ์ สัตว์ในตำนาน เช่น มังกร เสือเขี้ยวดาบ เสือดาวหิมะ





มิให้ผู้ใดคัดลอก ดัดแปลง หรือกระทำการใดโดยมิได้รับอนุญาตจากผู้เขียน สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537



เฉอเล่อ


สารบัญ

สามีทรราชที่ข้าเกลียดสูญเสียความทรงจำ [hybrid verse]-อารัมภบท อารัมภบท,สามีทรราชที่ข้าเกลียดสูญเสียความทรงจำ [hybrid verse]-01 ทรราชผู้นั้น

เนื้อหา

01 ทรราชผู้นั้น

"วันนี้องค์จักรพรรดิก็ไม่ทรงมาเสวยอาหารเช้าร่วมกับองค์จักรพรรดินีอีกแล้วงั้นหรือ"

"วันนี้ฝ่าบาทพำนักที่วังอาคเนย์กับพระสนมน่ะ"

"ความสัมพันธ์ช่างห่างเหินยิ่งนัก หรือมีแววที่จะโดนปลดเร็วๆนี้กัน"

"ชู่ว อย่าเอ็ดดังไป ฝ่าบาททั้งสองพึ่งขึ้นครองราชย์ได้เพียงเดือนกว่าๆ ไม่ใช่เร็วๆนี้แน่นอน"

เสียงซุบซิบนินทาของเหล่าสาวใช้ดังเข้ามากระทบโสตประสาตของมิเชลและฟีเซียร์ แม้จะสถาปนายศขึ้นเป็นจักรพรรดินีแต่เสือดำหนุ่มก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในวังเล็กเช่นเคย หญิงสาวคนสนิทหมายจะหันไปสาดคำพูดใส่บริวารทั้งหลายเพื่อให้เจียมตัวแต่ก็ถูกมิเชลห้ามเอาไว้

มือบางยกขึ้นปรามเด็กสาว ดวงตาคู่สวยที่มักจะทอประกายอ่อนโยนให้ตนเสมอทอดมองต่ำ รอยยิ้มหวานจางๆประดับบนใบหน้าสวยสะคราญ

ในหนึ่งอาทิตย์พระสวามีอย่างอีธานจะมาพักที่นี่อย่างน้อยสามวัน เพื่อไม่ให้เป็นข้อครหาและขี้ปากเหล่าขุนนางภายในวังมากจนเกินไป แต่ก็ยังแยกห้องพักและทำราวกับมิเชลไม่มีตัวตนอยู่ ณ วังแห่งนี้

ฝ่ายมิเชลก็ไม่ได้สนใจอะไรอีธาน การข้องเเกี่ยวกันให้น้อยมากที่สุดคือสิ่งที่มิเชลทำแล้วสบายใจยิ่งกว่า เขาชังใบหน้าหล่อเหลาของสวามีจนแทบอาเจียน ยิ่งมาพร้อมกับสนมเอกอย่างแกรนด์ดิเน่เขายิ่งอยากจะหัวเราะออกมาโดยไร้ซึ่งภาพลักษณ์ที่สั่งสม

มังกรกับแมวป่าคู่นี้ก็เหมาะที่จะถีบส่งให้มอดไหม้ไปด้วยกันดี

สวนหย่อมข้างพระราชวังเล็งคือที่ที่มิเชลจะใช้เวลาอยู่ในช่วงเช้าก่อนที่จะเข้าห้องไปเคลียร์งานเอกสารต่างๆที่ได้รับมอบหมายหน้าที่มาหลังจากได้รับตำแหน่งจักรพรรดินี ชาหอมๆกับสโคนสักชิ้นคงจะทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้างในวันที่แย่ไปแทบจะเสียหมด

“ดูเสียเพคะว่าพบใครกันทีนี่"

เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับร่างของหญิงสาวในชุดสีน้ำเงินประดับอัญมณีแวววาวจนดูแสบตา แกรนด์ดิเน่ มัวร์เลอร์ยืนอยู่ตรงหน้า ข้างกายเป็นพระสวามีที่ใช้ร่วมกันอย่างอีธาน ดวงตาคมทอดมองต่ำ มิเชลโค้งเล็กน้อยให้สวามี

"ถวายบังคมเพคะ จักรพรรดินี วันนี้ก็เป็นวันที่สดใสอีกวันหนึ่งนะเพคะ"

“ยินดีที่ได้พบนะพระสนมแกรนด์ดิเน่ อากาศอบอ้าวถึงเพียงนี้แต่พระสนมก็ยังแต่งองค์สวยสดแข่งกับมันได้ ช่างหน้าประหลาดใจยิ่ง"

“ฝ่าบาททรงมอบให้เพคะ หม่อมฉันเลยสวมมาเพราะกลัวจะเสียน้ำพระทัย"

“งั้นหรือ”

มิเชลว่าพลสงป้องปากกลั้วหัวเราะเสียงแผ่ว ท่ามกลางสายตาไม่พอใจของหญิงสาวที่มองตอบกลับมา สาวใช้คนสนิทรินชากลิ่นหอมให้กับผู้เป็นนายทั้งยังทอดมองจักรพรรดิแห่งอาณาจักรที่ยืนอยู่

"ฝ่าบาทจะทรงดื่มชาร่วมกันหรือไม่"

เสียงนุ่มเอ่ยพร้อมกับมือเรียงที่ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ ความอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งปาก และกลิ่นหอมละมุนก็ทำให้มิเชลระบายรอยยิ้มพึงใจออกมา

"ไม่ล่ะ"

“ถ้าเช่นนั้น ฟีเซียร์ส่งแขกเสีย”

มิเชลว่าโดยที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าแขกคนดังกล่าว อีธานไม่ได้สนใจอะไรรอบข้างและเดินจากไปโดยที่ไม่ได้ปริปากอะไรสักคำ แกรนด์ดิเน่ถูกปล่อยให้ยืนเคว้งอยู่ต่อหน้าจักรพรรดินีที่ยังไม่สนใจตนเช่นเคย

ไฮบริดแมวป่าสาวส่งเสียงฟึดฟัดอย่างขัดใจก่อนจะเดินตามอีธานออกไปโดยไม่ล่ำลามิเชลตามมารยาทที่พึงมี เสือดำหนุ่มที่เห็นแขกไม่ได้รับเชิญทั้งสองจากไปก็ถอนหายใจพลางวางถ้วยชาลง

“เข้าข้างในเถอะฟีเซียร์ วันนี้สวนไม่สงบร่มรื่นเช่นเคยเสียเลย"

สาวใช้คนสนิทอย่างฟีเซียร์พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินมาเก็บหนังสือและยกถ้วยชาไปจากนั้นจึงเดินตามผู้เป็นนายเข้าไปภายในไม่ห่าง

กลิ่นหอมละมุนจากดอกไม้ที่ฟีเซียร์นำมาใส่ไว้ในแจกันตั้งแต่เช้าตรู่ผสมปนเปกับกลิ่นของเครื่องหอมที่มีฤทธ์คลายความเคลียดและเมื่อล้าที่วางไว้มุมห้องยิ่งทำให้ช่วยผ่อนคลาย ร่างโปร่งทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้บุนวมหลังโต๊ะไม้สักชั้นดีที่มีกองเอกสารกองพะเนินวางอยู่

“หากจักรพรรดินีต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม โปรดรับสั่งได้เลยเพคะ"

เสียงหวานใสของไฮบริดนกไนติงเกลเอ่ยขึ้นก่อนจะโค้งหัวเล็กน้อยและเดินมาหยุดอยู่ที่มุมห้องด้วยรอยยิ้ม มิเชลมองถ้วยชาที่ถูกเปลี่ยนใหม่วางอยู่ตรงหน้าแล้วระบายรอยยิ้มหวาน

ฟีเซียร์อยู่กับเขามานานนับตั้งแต่เสือดำหนุ่มก้าวเท้าเข้ามาภายในพระราชวังแห่งนี้ด้วยฐานะว่าที่พระชายาขององค์รัชทายาท เธอถูกฝากฝังจากอดีตจักรพรรดินีว่าให้คอยช่วยดูแลมิเชลนับแต่นั้นมา

ด้วยความที่อายุไล่เลี่ยกันทำให้สาวใช้ผู้นี้สนิทสนมและเป็นเพื่อนคุยที่มิเชลไว้วางใจได้ในเวลาไม่นานนัก ตัวเขาไม่เคยมองว่าฟีเซียร์เป็นเพียงสาวใช้ แต่กลับมองว่าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนของตนมาโดยเสมอ

เมื่อคิดถึงเรื่องในอดีตจนพอหอมปากหอมคอ มือเรียวบางของจักรพรรดินีก็เอื้อมหยิบเอกสารขึ้นมาหมายจะตรวจเช็ค ซึ่งโดยปกติมิเชลจะรับผิดชอบเรื่องงบประมาณต่างๆภายในพระราชวัง รวมถึงเอกสารร้องเรียนต่างๆ ที่หากไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่นักมิเชลก็จะเป็นผู้สะสางแทนจักรพรรดิอย่างอีธาน หรือแม้แต่คำร้องขอบางประการที่มิเชลจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง

หลังกวาดสายตาอ่านเนื้อความในเอกสารเพียงชั่วครู่ ปากกาขนนกที่ดูดีไซน์เรียบหรูถูกหยิบขึ้นมาจิ้มหมึกก่อนจะตวัดลงบนกระดาษเปล่าจนเกิดเสียงครืดคราด มิเชลเขียนยุกยิกเล็กน้อยก่อนจะม้วนกระดาษและผูกด้วยริบบิ้นที่มีตราสัญลักษณ์ของจักรพรรดินีประดับอยู่ จากนั้นจึงส่งต่อให้สาวใช้คนสนิท

“ฟีเซียร์ เดี๋ยวเราจะให้เจ้านำคำสั่งของเราลงไปถ่ายทอดให้ทางฝ่ายคลังที ว่าให้เตรียมเสบียงและอาหารไว้ให้บ้านพักคนยากไร้ คนชราและเด็กกำพร้าที่ลงทะเบียนต้องการความช่วยเหลือจากเรา ใกล้เดือนใหม่ขึ้นมาทุกทีแล้ว”

“เพคะ จักรพรรดินี”

“ส่วนเรื่องงานหมั้นของเซอร์ฮาวเวิร์ดกับเลดี้เรย์แกรนด์เดือนหน้าเราจะไปร่วม อย่างไร เซอร์ฮาวเวิร์ดก็เป็นอัศวินที่จงรักภัคดีกับราชวงศ์เสมอมาเราเขียนจดหมายตอบรับคำเชิญไว้แล้ว นำไปส่งให้ทีนะ”

ไฮบริดนกไนติงเกลสาวพยักหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนจะรับเอกสารสำคัญทั้งหมดมาจากมือของเสือดำหนุ่มแล้วเดินออกจากห้องไป ลับหลังของฟีเซียร์ จักรพรรดินีก็ยังคงทำงานต่อโดยไม่ได้หยุดพัก แต่รายงานในเอกสารแผ่นล่าสุดกลับทำให้มิเชลจำน้องถอนหายใจหน่ายออกมาอย่างไม่รักษาภาพพจน์

รายงานรายจ่ายทั้งหมดของพระสนมเอกแกรนด์ดิเน่

เป็นที่รับรู้กันไปโดยทั่วว่าพระสนมเอกอย่างแกรนด์ดิเน่นั้นมีนิสัยสุรุ่ยสุร่ายมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะตักเตือนไปสักกี่คราก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะสนใจในสิ่งที่ถูกว่ากล่าวตักเตือน

และเมื่อได้ชื่อว่าเป็นพระสนมเอกขององค์จักรพรรดิ ทำให้แกรนด์ดิเน่นั้นได้ใจยิ่งกว่าเดิม เงินทองกองกลางของพระราชวังจึงถูกถลุงลงที่วังอาคเนย์ของแกรนด์ดิเน่มากพอที่จะแจกจ่ายให้ราษฎรยากจนได้ทั้งปีได้

“มีอะไรหรือเปล่าเพคะจักรพรรดินี สีหน้าเคร่งเครียดเชียว"

ฟีเซียร์ที่เดินกลับมาเห็นสีหน้าของมิเชลที่ดูแปลกตาไปจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยปนเปมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย มิเชลวางกระดาษแผ่นในมือลงบนโต๊ะก่อนที่จะถอนหายใจหน่าย

"เราควรเริ่มควบคุมพฤติกรรมการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายที่มันเกินควรของพระสนมหรือไม่ เราจะดูก้าวก่ายมากเกินไปหรือเปล่า"

 เขาอยากจะยุ่งกับอีธานและสนมของเขาให้น้อยที่สุด แต่การกระทำของแกรนด์ดิเน่อาจส่งผลเสียในระยะยาว เรื่องการเงินนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากถึงยามขาดแคลนขึ้นมา สักเหรียญทองเดียวก็อาจไม่มีให้ใช้จ่าย

"พระองค์เป็นจักรพรรดินี โปรดทำตามที่เห็นสมควรเถิดเพคะ"

สิ้นเสียงของคนสนิทมิเชลก็พยักหน้ารับเบาๆ ดวงตาคู่สวยยังคงปราดมองงบประมาณที่สูญเสียไป ร่างโปร่งหัดยืนขึ้นจนเต็มความสูงก่อนจะคว้ากระดาษแผ่นดังกล่าวขึ้นมา

"เราจะไปพบฝ่าบาท"

ว่าจบสองขาก็ก้าวออกจากห้องทำงานไป ฟีเซียร์ที่เห็นผู้เป็นนายทำเช่นนั้นจึงได้แต่รีบตามไปด้วยความรวดเร็ว ไม่นานมิเชลก็ตรงมาถึงพระราชวังกลางที่อีธานอยู่ ทันทีที่ตรงมาถึงหน้าห้องทำงานก็พบกับเลขาคนสนิทของอีธานที่กำลังเดินมาพอดี

“จักรพรรดินี"

"ฝ่าบาทล่ะ"

“ทรงงานอยู่ด้านในพ่ะย่ะค่ะ จักรพรรดินีทรงมีเรื่องด่วนใช่หรือไม่ เชิญพ่ะย่ะค่ะ"

มิเชลได้ยินดังนั้นจึงได้ระบายรอยยิ้มหวาน ลูคัสเปิดประตูห้องทรงงานออกก่อนจะรอคอยอยู่ด้านนอกเพื่อให้ผู้ปกครองทั้งสองได้พูดคุยเป็นการส่วนตัว

ทันทีที่ประตูห้องปิดลงความเงียบก็ถาโถมเข้ามา บรรยากาศภายในห้องตึงเครียดจนแทบกลั้นหายใจ ร่างสูงของมังกรน้ำแข็งนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานที่มีกองเอกสารหลายตั้งวางอยู่ ดวงตาคมไม่แม้แต่จะทอดมองผู้มาเยือนใหม่แม้เพียงนิด เสือดำหนุ่มจึงเดินมาหยุดตรงหน้าก่อนจะวางกระดาษที่ตนถือมาลงบนโต๊ะเสียงดัง

"ต้องการอะไรจักรพรรดินีพูดมาเสียเลยดีกว่า ข้ามิได้มีเวลามาเสวนาสารทุกข์สุกดิบกับท่านมากมายนัก"

"มิต้องกังวลไปฝ่าบาท ตัวเราเองก็มิคิดจะอยู่พูดคุยกับท่านนานนัก"

ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมาใช้ดวงตาคมสีฟ้าสวยสดมองหน้าผู้เป็นภรรยา อีธานวางปากกาขนนกในมือลงก่อนจะหยิบกระดาษที่มิเชลวางไว้ขึ้นมากวาดสายตาอ่านอยู่เพียงครู่แล้ววางลงที่เดิม

"รายงานงบประมาณของวังอาคเนย์"

"พระสนมคนโปรดของท่านฟุ่มเฟือยเสียจริงนะ ท่านรู้หรือเปล่าว่าราษฎรยากจนในเขตเอเวลต้องใช้ชีวิตเช่นไรขณะที่เงินส่วนนั้นสามารถช่วยพวกเข้าได้"

"จักรพรรดินี นี่ท่านว่างถึงขนาดที่ต้องมานั่งสอดส่องการใช้เงินของผู้อื่นเลยหรืออย่างไร"

คำพูดของสวามีทำให้มิเชลโมโหจนเลือดขึ้นหน้า แต่จักรพรรดินีผู้สูงศักดิ์ก็ทำเพียงระบายรอยยิ้มหวานออกมา ก่อนจะคว้ากระดาษแผ่นดังกล่าวขึ้นมาถือไว้ดังเดิม

"เราคิดผิดไปเสียหน่อย กษัตริย์ไร้หัวใจแบบท่านคงมิเข้าใจอันใดหรอกอีธาน ขอตัวลา"

มิเชลว่าก่อนจะหันหลังกลับไปด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นัก มือเรียวผลักประตูบานใหญ่ให้เปิดออกและพบกับลูคัสที่ได้แต่ส่งยิ้มอ่อนให้เพราะทำอะไรไม่ถูก

ได้ยินหมดเลยสินะ

“กลับเถอะฟีเซียร์"

"เพคะ"

ว่าจบมิเชลก็เดินจากไปโดยไม่หลียวหลังกลับ ลูคัสที่เห็นดังนั้นจึงเดินกลับเข้าห้องทำงานไป และพบกับอีธานที่ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานเช่นเคย

“เราจะใช้เงินส่วนตัวช่วยเหลือเขตเอเวล เจ้าไปเตรียมสั่งให้คนซื้อเสบียงรมถึงเครื่องนุ่งห่ม ของใช้ต่างๆเพื่อเตรียมไปแจกจ่ายในนามของเราด้วย แล้วก็อย่าลืมหาแพทย์เพื่อที่จะไปรักษาคนที่นั่น"

“เพคะ เดี๋ยวหม่อมฉันจะจัดการให้"

“ถวายบังคมจักรพรรดินี"

เสียงนุ่มทุ้มคุ้นหูดังขึ้นทำให้มิเชลที่กำลังคุยอยู่กับสาวใช้คนสนิทหันไปมองยังเจ้าของเสียง ร่างสูงที่คุ้นตายืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมกับระบายรอยยิ้ม เรือนผมสีดำขลับรับกับดวงตาสีเดียวกันทำให้คนตรงหน้าดูมีเสน่ห์มากโข เครื่องแบบเต็มยศดูดีรับกับสรีระสมส่วน ใบหน้าของจักรพรรดินีผู้สูงส่งเปื้อนรอยยิ้มขึ้นทันตา

“แกรนด์ดยุกราฟท์"

“มิได้พบกันเสียนานเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"

ราฟท์ ออคฟอร์ด เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของมิเชล แกรนด์ดยุกผู้นี้เป็นญาติผู้น้องของอีธานละได้รับตำแหน่งแกรนด์ดยุกเมื่อปีก่อนแทนบิดาที่จากไปเพราะโรคร้าย

มิเชลสนิทสนมกับราฟท์มาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์วัย ก่อนที่มิเชลจะถูกแต่งตั้งเป็นว่าที่พระชายา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นเพื่อนที่สามารถพูดคุยปรึกษากันได้ทุกเมื่อ

“นานเสียเมื่อไหร่กัน งั้นแกนด์ดยุกราฟท์ผู้นั้นที่เราพบคงเป็นเพียงจิตปรุงแต่งหรือสหายในจินตนาการ"

“ทรงหยอกล้อเก่งเช่นเคย"

“มาพบฝ่าบาทหรือ"

เสือดำหนุ่มเอ่ยถาม เพราะที่วังแห่งนี้มีเพียงอีธานเพียงผู้เดียวที่ราฟท์จะมาพบปะ คนถูกถามพยักหน้าเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม

"หาใช่เรื่องด่วนอะไร"

"ถ้าเช่นนั้นหากเสร็จธุระของท่านแล้วเชิญที่วังเล็กของเรา คงมิรบกวนเวลามากนัก"

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ"

แกรนด์ดยุกราฟท์รับคำก่อนจะโค้งหัวให้มิเชลเล็กน้อย มิเชลยิ้มหวานก่อนจะเดินจากมา ทันทีที่ถึงวังเล็กขนมที่ราฟท์ชอบรวมถึงชาชนิดโปรดถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดีเพื่อให้สหายคนสนิท

"จักรพรดินี แกรดน์ดยุกราฟท์มาถึงแล้วเพคะ"

เสือดำหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะตรงไปยังสวนพร้อมกับสาวใช้คนสนิทอย่างฟีเซียร์ มิเชลทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวโปรดก่อนที่สาวใช้จะรินชาให้

ชาหอมอ่อนๆที่รสชาติเบาบางหมาะแก่การจิบในหน้าร้อน และยังเป็นชาที่ราฟท์โปรดปราน ครั้นที่มิเชลได้ลองดื่มมันเป็นครั้งแรกก็เข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมชชนิดนี้ถึงได้เป็นชาในดวงใจของเพื่อนสนิท

“ข้าต้องถวายบังคมอีกหรือไม่"

“ถ้าท่าคิดว่าเราเป็นเพียงจักรพรรดินี มิใช่สหายของท่านล่ะนะ"

เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครา ฟีเซียร์เดิตรงมารินชาและเสิร์ฟขนมให้กับแขกของผู้เป็นนาย ก่อนจะกลับมายืนประจำที่อย่างรู้งาน

“เห็นลูคัสบอกว่าท่านพึ่งปะทะคารมกับฝ่าบาทมา"

“สมกับที่เป็นสหายของพวกท่านแต่เยาว์วัยนัก มิมีควาลับใดๆต่อกันแม้แต่น้อย"

“ได้โปรดอย่าถือสาเลย"

“นี่ยังขาดอีกสองท่าน หากพวกท่านรวมตัวกันครบคราใด พระราชวังคงจะวุ่นวายมิใช่น้อย”

“มิเกินจริง”

มิเชลระบายรอยยิ้มพลางส่ายหัว เขารู้อยู่แล้วว่าคนสนิทของอีธานเป็นเช่นไร เสือดำหนุ่มมิได้โกรธ แต่นึกสนุกเสียมากกว่า แต่หากคราใดมีข่าวคราว่ามิเชลและอีธานรักกันดี ปีนั้นหิมะคงจะตกในนอร์ทแอร์เวนเพียงแค่เดือนเดียวก็เป็นได้

“ท่านมิเคยคิดเรื่องหย่าหรือ"

น้ำเสียงทุ้มแสดงความจริงจังขึ้นมา ดวงตาคมกวาดมองใบหน้าสวยสะคราญของจักรพรรดินีผู้สูงศักดิ์ ใบหน้าแสนงดงามยากจะหาใครเปรียบ

ที่ไม่มีความสุขเจือปน

"ไม่เลยราฟท์ เรามิเคยคิดว่าจะหย่ากับอีธานเลยแม้แต่น้อย"

คำพูดของมิเชลทำให้ราฟท์ยิ้มออกมาอย่างสิ้นหวัง เขาคิดว่าสักคราใดคราหนึ่งอาจจะครอบครองดวงใจของเสือดำหนุ่มตรงหน้าได้

อาจจะคาดหวังสูงไปเสียหน่อย

"ทุกอย่างที่เราทำอยู่ตรงนี้ ณ เวลานี้เราทำเพราะคำสั่งเสียของอดีตจักรพรรดินี ท่านเป็นดั่งมารดาของเรา ต่อให้เรามอบชีวิตให้ท่าน มันก็ยังคงไม่เพียงพอ"

“แต่ท่านไม่มีความสุขเลยมิเชล"

"มันเป็นผลจากความต้องการของเราเองราฟท์ หากย้อนเวลากลับไปได้โดยที่สามารถร่วงรู้อนาคตว่าจักเป็นเช่นนี้ เราก็ยังเลือกที่จะแต่งงานกับทรราชที่แย่งบัลลังก์มาจากบิดาเช่นนั้นอยู่ดี"









TALK



ลูกเขยคนเปรตก็ยังเป็นลูกเขยคนเปรตอยู่วันยังค่ำ ผัวที่ดีคือผัวใหม่ค่ะ เมนพระรองนะบอกก่อน😔