ผมนากิ แมวขาวสุดเจ๋งแจ๋วที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายถีบออกจากบ้านเด็กกำพร้า อะไรนะ?! ให้ฉันไปหาเงินในสภาพแบบนี้เนี่ยนะ?!! จริง ๆ มันก็ไม่ยากหรอก~ แต่ทำไม...ฉันต้องลงดันเจี้ยนกับไอ้จิ้งจอกขี้เก๊กนี่ด้วย!!!
ดราม่า,แอคชั่น,ตลก,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,โลกครึ่งสัตว์,เวทมนตร์,หวาน,อาณาจักร,นักผจญภัย,ดันเจี้ยน,โรงเรียนเวทมนตร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ผมนากิ แมวขาวสุดเจ๋งแจ๋วที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายถีบออกจากบ้านเด็กกำพร้า อะไรนะ?! ให้ฉันไปหาเงินในสภาพแบบนี้เนี่ยนะ?!! จริง ๆ มันก็ไม่ยากหรอก~ แต่ทำไม...ฉันต้องลงดันเจี้ยนกับไอ้จิ้งจอกขี้เก๊กนี่ด้วย!!!
ผู้แต่ง
YANI
เรื่องย่อ
“หลบไปซะไอ้จิ้งจอกสมองกล้าม ฉันจะจัดการมันเอง” ผมพูดอย่างเย้ยหยันกับชายร่างสูงข้าง ๆ และเดินไปหาเจ้าแมงมุมยักษ์เบื้องหน้าอย่างขึงขังมั่นใจ
กะอีแค่แมงมุมยักษ์ฉันไม่ต้องพึ่งหมานั่นหรอก~
ผมกำมือเดินไปหาเจ้าแมงมุมร้ายอย่างท้าทาย ดวงตาของมันแดงก่ำ มีฟันใหญ่แหลมคม และตัวใหญ่มาก ๆ ... ใหญ่เกือบเท่าบ้านหลังย่อมเลยนะนั่น แต่กลัวซะที่ไหน!
“แกตัวเท่ามดจะไปทำอะไรมันได้?” ผมชะงัก ไอ้หมาจิ้งจอกข้างหลังมันพูดจาถากถางพลางกอดอกด้วยท่าทีดูถูก แถมยังชายตามองผมอย่างกับเห็นแมลง วิ่งกลับไปต่อยสักทีดีไหมเนี่ย!
“เงียบไปเลย! เก็บปากไว้กินหญ้าเถอะ! ฉันไม่ต้องการให้หมาจิ้งจอกอย่างแกช่วย!!” ผมชี้หน้าด่าชายร่างสูงอย่างฉุนเฉียว หูและหางพลันก็ตั้งขึ้นตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
“ก็ถ้าโดนมันเล่นงานขึ้นมาก็อย่าขอให้ฉันช่วยก็แล้วกันไอ้แมวเด็ก!!”
เจ้าจิ้งจอกนั่นมันตะคอกกลับมาด้วยความโกรธเกรี้ยวยิ่งกว่าเก่า แต่แมวแกร่งอย่างผมสนใจพวกสมองกล้ามซะที่ไหน!
“คอยดูเถอะ!!”
หลังจากดูเชิงได้พักนึง ผมโก่งตัวกระโจนใส่เจ้าแมงมุมยักษ์ตรงหน้าหวังจะใช้กรงเล็บเฉือนตามัน
แต่มันกลับพ่นใยมาพันตัวผมจนเหลือแต่หัวโผล่ออกมา อะไรเนี่ย! ใยเหนียวชะมัด! ผมตกลงพื้นแข็ง ๆ และพยายามดิ้นสุดแรง
แต่เจ้าแมงมุมน่าเกลียดนั่นมันใช้ขาหน้าดึงร่างของผมที่ถูกห่อใยขึ้นไปห้อยต่องแต่งอยู่เหนือหัวมัน ก่อนที่ปากอันใหญ่โตของมันจะอ้าออกเผยให้เห็นฟันคมกริบนับไม่ถ้วน กลิ่นโคตรเหม็นคาวเลย!
แต่อะไรเนี่ย นี่ฉันต้องตายตั้งแต่เริ่มเลยเหรอ! ไม่ได้นะ ยังไม่ทันได้เงินสักแดงแถมฉันยังมีน้องที่ต้องกลับไปหาอีกนะ! ถึงจะไม่อยากพูดก็เถอะแต่...
“ช่วยด้วยไอ้หมาสมองกล้าม!!!” ผมตะโกนสุดเสียงจนแสบคอไปหมด แต่ก็เหลือบไปมองเจ้าหมานั่นหวังได้รับคำตอบที่ดี
“เฮ้อ... ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมไอ้แมวเด็ก” เจ้าจิ้งจอกถอนหายใจหน้าตายและมองดูผมห้อยต่องแต่งอย่างไร้ทางหนี
อยู่ ๆ จากที่กำลังโดนหย่อน ตัวผมกลับโดนเหวี่ยงเป็นวงกลมเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้แมงมุมเวรนี่ทำอย่างกับฉันเป็นของเล่นเลย!
มันเหวี่ยงตัวผมไปมาจนเริ่มเวียนหัวแต่เจ้าหมานั่นก็ยังยืนกอดอกดูอยู่แบบนั้น
“ช่วยทีเถอะ! ฉันยังมีน้องที่ต้องกลับไปหานะ! เวียนหัวจะแย่อยู่แล้ว~!!”
เพราะโดนเหวี่ยงจนมึนทำให้เห็นแต่โลกที่หมุนไปมาผมเลยไม่รู้ว่าเจ้าหมานั่นรับคำขอหรือเปล่า
แต่ในตอนนั้นจู่ ๆ จากที่โดนเหวี่ยงไปมาผมก็รู้สึกเหมือนกำลังร่วงอีกครั้ง
“ว้าก!!” ถึงจะมึนจนไม่รู้เรื่องแต่ผมก็ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก ตกลงข้างล่างทั้งที่มีปากแมงมุมรออยู่ฉันก็ตายน่ะสิ!!
แต่ตอนที่ร่างของผมกำลังร่วงหล่นอย่างไม่มีอะไรฉุดรั้ง ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาประคองร่างที่ห่อใยของผมเอาไว้ สิ่งนั้นวางผมลงกับพื้นหินขรุขระ
“เฮ้! ไหวหรือเปล่าไอ้แมวเด็ก!!” ผมได้ยินเสียงเจ้าหมานั่นอยู่ใกล้ ๆ อาการมึนของผมเริ่มหายไป
ในที่สุดสายตาเจ้ากรรมก็กลับมามองเห็นอีกครั้ง สิ่งที่ผมเห็นคือโยชิโระที่ดูผมเหมือนเอ่อ...กังวลเหรอ ไม่สิ น่าจะแค่สงสัยมากกว่า
“โอย...อยากอ้วกแต่ไม่มีอะไรอยู่ในท้องด้วยซ้ำ...” ผมโอดครวญและพึมพำด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว ไม่เอาแบบนั้นอีกแล้วนะขอร้อง...
อืม...ตามหนังสือกับเรื่องที่เคยได้ยินอาณาจักรที่ผมอยู่จะมีเผ่ามากมาย เผ่าหมา เผ่าสิงโต เผ่ากวาง และอีกหลายเผ่า... ส่วนผมที่เป็นเผ่าแมวสีขาวกลับมีชีวิตอย่างยากลำบาก
ทั้งหมดนั่นก็เป็นเพราะพวกเผ่าจิ้งจอกที่สูงส่ง... เรื่องเล่าที่ป่าเถื่อนมากมายและสิ่งที่พวกมันทำกับแมวอย่างเราทำให้ผมเกลียดพวกจิ้งจอกมาตั้งแต่เด็ก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เคยได้ออกมาเผชิญกับโลกภายนอกแบบจริง ๆ จัง ๆ มาก่อน จนกระทั่ง...
///
“แกออกไปหาเงินได้แล้ว!!” เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้น
ผมถูกแม่เลี้ยงเตะตูดออกมาจากบ้านในย่านชนบทสุดทุรกันดาร ถึงจะไม่ใช่แม่แท้ ๆ แต่จะไม่เห็นค่าในฐานะเผ่าแมวด้วยกันเลยหรือไง?!
“ทำไมล่ะ! ทำไมผมอยู่กับน้องที่บ้านไม่ได้!” ผมหันกลับไปแยกเขี้ยวพูดอย่างฉุนเฉียว พลันก็กำมือแน่นอย่างไม่พอใจ
แม่เลี้ยงร่างอวบกอดอกแสดงท่าทีไม่สบอารมณ์เหมือนไม่ชอบใจในมารยาทอะไรนั่นของผม ก็ทำตัวไม่น่าเคารพเองนี่นา!
“แกไม่ใช่เด็กแล้วนะไอ้แมวนิสัยเสีย! อีกอย่างที่นี่เป็นบ้านเด็กกำพร้าไม่ใช่บ้านของแก! ตอนนี้ที่นี่ไม่เป็นอันจะกินแล้ว! ต่อจากนี้แกต้องออกไปหาเงินกลับมาไม่งั้นที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านของแก!”
พูดจบเธอก็โยนผ้าดำผืนหนึ่งให้ผม อะไรเนี่ย?! มันเก่าและขาดไม่ต่างจากชุดทูนิคที่ฉันใส่เลย... แล้วจะให้ฉันเอาขยะนี่ไปทำอะไรล่ะ?!
ไม่ทันถามสิ่งที่คิดอะไรเธอก็หันหลังและปิดรั้วก่อนจะเดินกลับไปอย่างไม่แยแส
“หน็อย! ฉันชื่อนากิต่างหากเล่า!! แล้วอย่าให้น้องฉันเป็นอะไรไปล่ะ!!” ผมลุกขึ้นตะโกนเสียงดังแต่แม่เลี้ยงใจร้ายนั่นไม่ได้สนใจเลย
“ไม่ง้อหรอก!!” ผมตะโกนอีกครั้งและหันหลังเดินลากผ้าสีดำนั่นมายังริมถนนดินขรุขระ
เพราะไม่รู้จะเอาผ้าในมือไปทำอะไรผมเลยใช้มันพันรอบคอให้ชายห้อยลงมาเปรียบเสมือนชุดคลุม ถึงจะดูไม่ค่อยเหมือนก็เถอะ...
ผมยืนไปคิดทบทวนไปอย่างกังวล เงินก็ไม่ให้ อาหารหรืออะไรก็ไม่ให้ แล้วยังมีหน้ามาไล่ให้ไปหาเงินอีก แบบนี้เหมือนสั่งให้ไปตายชัด ๆ !
แต่แล้วไงล่ะ? ฉันไม่สนใจบ้านเฮงซวยหลังนั้นหรอก... แต่จะไม่หาเงินก็ไม่ได้ ที่บ้านข้างหลังนั่นมีน้องสาวรออยู่
ถึงจะไม่อยากทำก็เถอะแต่ฉันต้องหาเงินมาช่วยพาน้องออกจากบ้านเฮงซวยหลังนั้นให้ได้!
ผมพยายามหาทางทำอะไรสักอย่าง ที่นึกออกอย่างเดียวตอนนี้คือไปที่กิลด์นักผจญภัยในเมืองหลวง
“แต่ทำยังไงล่ะ..?” ผมใช้มือยันศอกพลางเอามืออีกข้างจับปลายคางครุ่นคิด หูแมวบนหัวก็พลันกระดิกไปมาเพราะความคิดที่กำลังแล่น
ในตอนนั้นสายตาอันเฉียบคมของผมก็เหลือบไปเห็นรถเกวียนอยู่ไกล ๆ หูและหางแมวสีขาวตั้งตรงขึ้นทันใดเพราะไอเดียที่ผุดออกมา
“ไปเลยฝีเท้าแมวจ๋า!”
ผมตัดสินใจวิ่งตามรถม้านั่นไปแบบไม่ลังเล เท้าเปล่าของผมย่ำอย่างต่อเนื่องมุ่งไปหารถเกวียนที่อยู่สุดสายตาอย่างรวดเร็ว แค่ไม่กี่อึดใจผมก็ตามมันไปติด ๆ
“หยุดก่อน!!!” ผมตะโกนสุดเสียงจนเส้นเลือดขึ้นคอ
โชคดีที่เหมือนคนควบม้าจะได้ยิน รถเกวียนนั่นจอดตามที่ต้องการ ผมรีบวิ่งไปหาที่ด้านหน้าและได้เห็นคนที่คุ้นตา
“คุณลุงโทโทริ!” ผมพูดและยิ้มออกอย่างอารมณ์ดีเหมือนสวรรค์มาโปรด คุณลุงที่อยู่บนหลังม้าคนนี้คือพ่อค้าที่ผ่านทางนี้ประจำ
เขาเป็นชายชราเผ่าแพะ เห็นได้ชัดจากเขาเล็ก ๆ สองอันบนหัว แถมยังมีหนวดเครายาวด้วย!
เขากับแว่นสีทองมองผมด้วยดวงตาสีเหลืองอย่างประหลาดใจก่อนจะพูด
“อ้าวนากิ... เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ทำไมเธอถึงไม่อยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าล่ะ?”
คุณลุงแพะถามอย่างเป็นห่วง ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟังและเหมือนเขาจะไม่พอใจเช่นกัน
“แย่จังเลยนะ... แล้วเธออยากให้ฉันช่วยอะไรล่ะ?” คุณโทโทริถามแบบนั้นมันก็เข้าทางผมพอดี
“พาผมไปเมืองหลวงทีครับ!” ผมบอกสิ่งที่ต้องการอย่างรวดเร็วอย่างส่งสายตาตามภาษาแมวน่ารัก ๆ
คุณลุงแพะพยักหน้าและให้ผมขึ้นรถเกวียนทันที โชคดีจริง ๆ ที่เขาก็จะไปเมืองหลวงเหมือนกัน
///
ติดเกวียนที่มีแต่สินค้าไปพักใหญ่ ๆ เราก็มาถึงเมืองหลวง
เมืองสีขาวขนาดใหญ่ราวกับดินแดนของทวยเทพตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าของผม นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ออกมาเห็นโลกกว้างแบบนี้
แค่ถนนของที่นี่ก็ดูดีกว่าแถวชนบทลิบลับ ผมชะเง้อมองรอบ ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น นอกจากรถเกวียนของคุณโทโทริแล้วยังมีรถม้ากับรถเกวียนของเผ่านานาชนิดสวนทางไปมา
เผ่าหนู เผ่ากระต่าย เผ่าลิง เผ่าวัว... มีคนครึ่งสัตว์หลายชนิดอย่างที่เคยได้ยินมาเลยแฮะ แต่ไม่ยักจะมีเผ่าแมวตัวอื่นเลย...
ถึงจะเซ็งหน่อย ๆ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องผมที่ควรสนใจ หลังจากผ่านกำแพงเข้าไปในเมืองผมก็นั่งเอ้อระเหยอยู่พักใหญ่ ๆ
ชักสงสัยแล้วสิว่าทำไมคุณโทโทริถึงไม่บอกให้เราลงรถม้าสักทีนะ... แต่หลังจากความคิดนั้นรถม้าก็กระตุกเบา ๆ บ่งบอกว่ามันจอดอยู่กับที่
“นากิลงได้แล้ว” คุณโทโทริบอกแบบนั้นผมก็ลงทางด้านหน้าแบบไม่คิดอะไร แต่เหมือนคุณลุงเขาจะมีเรื่องที่อยากบอกผม
“โทษทีที่ไม่ได้บอกนะ คือฉันพยายามพามาให้ใกล้กิลด์ที่สุดน่ะ เธอจะได้ไม่ต้องเดินจนเหนื่อย มันอยู่ทางนั้นไม่ไกลมากหรอก”
เขาชี้ไปทางหนึ่งอย่างหวังดี ดวงตาของผมเปล่งประกายอย่างซาบซึ้ง ผมจะไม่ลืมบุญคุณเลยคุณลุงแพะ!
“นี่นากิ ถ้าเธอจะทำงานในกิลด์นี้เธอต้องระวังเรื่องการพูดหน่อยนะ อย่าไปมีเรื่องและอย่าลืมว่าเธอยังเด็ก ถ่อมตัวและเคารพคนที่นั่นเข้าไว้เข้าใจไหม?”
คุณโทโทริแสดงสีหน้าเอือมระอาและดูจะจริงจังกับคำแนะนำเมื่อกี้มาก อะไรกัน~ เห็นผมเป็นแมวแบบไหนเนี่ย? ผมก็ออกจะเป็นเด็กดี...มั้งนะ
ผมหลบตาและหัวเราะแห้ง ๆ กลบเกลื่อนเรื่องที่รู้ดีอยู่แล้วจากนั้นก็พยักหน้ารับปาก คุณลุงโทโทริก็ไปตามทางของเขา
ผมโบกมือจากลาก่อนจะหันหลังเดินไปตามทางที่ว่า ย่านนี้มีตึกรามบ้านช่องไม่ใหญ่มากตั้งเรียงอยู่ข้างทาง คนในเมืองหลวงนี่แต่งตัวดีแถมยังกินของอร่อย ๆ กัน น่าอิจฉาชะมัด...
เท้าเปล่าอันน้อย ๆ ของผมเดินย่ำไปบนพื้นหินของถนนที่เรียงกันเป็นระเบียบ นอกจากนั้นแล้วในระหว่างทางผมยังเห็นพวกนักผจญภัยของกิลด์คุยกันอยู่เป็นประปราย
ดูมัดกล้ามกับเกราะของพวกเขาสิ ไหนจะอาวุธพวกนั้นอีก ก็ฉันมันตัวเปล่านี่นะ...
ที่เห็นส่วนใหญ่พวกนักผจญภัยจะเป็นเผ่ากระทิงไม่ก็เผ่าหมี เผ่าอื่นก็เห็นเท่า ๆ กัน
ผมเดินไปสักพักจนเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศแปลก ๆ ... นี่พวกเขาจ้องฉันอยู่เหรอ? ไม่ผิดแน่ ทุกคนกำลังมองผมอย่างไม่ไว้วางใจราวกับสงสัยว่าผมมาทำอะไรที่นี่
ถึงเนื้อตัวจะสกปรกแต่ฉันก็ยังเป็นแมวสีขาวผู้น่ารักนะ! เท่าที่รู้มาเมืองหลวงของอาณาจักรนี้ยินดีต้อนรับทุกเผ่าพันธ์ุ แต่เผ่าแมวสุดยากไร้อย่างฉันแทบไม่ได้โอกาสมาที่นี่ด้วยซ้ำ
ผมคิดอย่างน้อยอกน้อยใจ แต่ก็เดินต่อไปอย่างขึงขังโดยไม่สนสายตาของคนรอบข้าง
ไม่นานผมก็มาถึงกิลด์นักผจญภัย ต้องขอบคุณลุงโทโทริจริง ๆ ที่ทำให้ผมไม่ต้องเดินไกล
อาคารของกิลด์มันเป็นตึกสามชั้นเหมือนที่อื่น ๆ แต่มีการประดับตกแต่งด้วยเอ่อ... ซากมอนสเตอร์...ล่ะมั้งนะ ถึงจะดูป่าเถื่อนแต่ก็ดูดีในเวลาเดียวกัน
“ลุยล่ะนะ” หลังจากเตรียมใจได้ผมก็เข้าไปด้านในทันที
ข้างในอาคารนั้นกว้างขวางกว่าบ้านของผมซะอีก พื้นที่ส่วนใหญ่ทำจากไม้สะอาดสะอ้านและดูหรูหรามาก ชักรู้สึกอายกับสภาพของตัวเองแล้วสิ...
นอกจากนักผจญภัยที่อยู่กันไม่น้อยแล้วยังมีแจกันกับแก้วสวย ๆ เต็มไปหมด อยากแอบจิ๊กกลับไปสักชิ้นจริง ๆ !
ไม่ได้ ๆ ...ฉันมาที่นี่เพื่อสมัครเป็นนักผจญภัยต่างหาก!
ผมเดินไปที่เคาเตอร์พนักงานอย่างขึงขังผ่านนักผจญภัยที่มองผมอย่างประหลาดใจ ก็คนมันแจ๋วอะนะ ช่วยไม่ได้~
พอพนักงานเผ่าวัวเห็นผมเขาก็ประหลาดใจเหมือนกับคนอื่น ๆ
“เอ่อ...อยากสมัครเป็นนักผจญภัยเหรอเจ้าหนู?”
“อื้อ!” ผมพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นให้กับคำถามของพนักงานคนนั้น เขากอดอกมองดูผมอย่างเย้ยหยันดูถูก เห็นว่าเป็นเผ่าแมวเลยไม่ไว้ใจสินะไอ้คนพวกนี้! ผมต้องใจเย็น ๆ ไว้...
“อายุเท่าไหร่ล่ะ?” เขาถามผมเหมือนกับไม่อยากให้เข้ากิลด์ยังไงอย่างงั้นแหละ แต่เห็นตัวแค่นี้ฉันก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะ
“สิบเก้า!” ผมตอบกลับอย่างรวดเร็วหวังจะให้เขาเลิกสบประมาทผมสักที แล้วก็เลิกมองฉันแบบนั้นด้วย!
“อืม...ก็ใช้ได้ ถ้าอยากเข้ากิลด์ก็ต้องดูว่านายมีฝีมือมากขนาดไหน เอาล่ะเจ้าหนูเวทมนตร์ของนายคืออะไร?”
ผมชะงักไปหนึ่งครั้ง นั่นสิถ้าจะทดสอบความเก่งก็ต้องดูที่พื้นฐานเวทมนตร์ก่อน ใคร ๆ ก็มีกันทั้งนั้นซึ่งแน่นอนว่าผมก็มี
แต่ก่อนหน้านั้นผมก็ลองเหลือบตามองรอบ ๆ และเห็นนักผจญภัยหลายคนกำลังมองผมอยู่ เฮอะ! จ้องจะจับผิดล่ะสิ!
“เวทของฉันคือลม ฉันจะแสดงให้ดู” ผมพูดก่อนจะชูมือขึ้นมาตรงหน้าพร้อมเคลือบเล็บอันแหลมคมด้วยเวทสีเขียวอ่อน ๆ พลันเหลือบไปเห็นชุดหนังเก่า ๆ ที่แขวนอยู่
“กรงเล็บลมกรด!!” ผมร่ายเวทและเหวี่ยงแขนสะบั้นชุดหนังนั่นด้วยพลังทั้งหมดที่มี แต่...
“เอ๊ะ?” ชุดมันไม่มีรอยขีดข่วนเลย ทุกคนในกิลด์ต่างหัวเราะขึ้นมาราวกับเห็นผมเป็นตัวตลก หน็อยไอ้พวกกล้ามโตพวกนี้นะ!
“ฉะ ฉันแค่มีมานาไม่พอหรอก ยังไงฉันก็เก่งพอที่จะเข้ากิลด์ได้ไม่ยากอยู่แล้ว!!”
ผมกำหมัดพูดแบบฝืน ๆ แต่ถึงแบบนั้นพวกนักผจญภัยก็ยังหัวเราะเยาะผมอยู่ดี ขายขี้หน้าชะมัด!
“ก็ได้ฉันจะเชื่อก็ได้~ แต่หนูน้อยคนเก่งตอนนี้ยังอ่อนแอเกินไปหน่อย ไปหาปาร์ตี้เก่ง ๆ ก่อนแล้วค่อยมาสมัครอีกทีนะ~” เจ้าพนักงานพูดกับผมราวกับเอ็นดู
ดูท่าทางยียวนกวนประสาทนั่นสิ! ฉันล่ะเกลียดมันจริง ๆ ! ผมกำมือแน่นและหันหลัง
“มีใครสนใจรับฉันเข้าปาร์ตี้ไหม?!!” ผมกลั้นใจตะโกนออกไปหวังจะให้มีใครตอบรับ แต่พวกนักผจญภัยดันขำคิกคักกลับมาแถมยังไม่สนใจคำถามของผมอีก
“ฉันไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิดนะฉันแค่ไม่มีมานาเหลือเฉย ๆ ! ฉันจัดการนักเลงที่บ้านเด็กกำพร้าได้ด้วยตัวคนเดียวแถมฉันยังอ่านหนังสือมาเยอะ มีความรู้เกี่ยวกับพวกเวทมนตร์กับมอนสเตอร์เป็นอย่างดี ไม่สนใจจริง ๆ เหรอ?!”
น่าขายหน้าชะมัด! นี่ฉันต้องมาขอร้องเหมือนพวกงี่เง่าแบบนี้เหรอเนี่ย! แต่หวังว่าจะได้ผลนะ
สุดท้ายก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขาหัวเราะผมแถมยังซุบซิบนินทากัน
นั่นสิ...สภาพขอทานแบบนี้ใครมันจะไปเชื่อล่ะ ขนาดไอ้พนักงานข้างหลังมันยังแอบหัวเราะผมเลย
“นี่เจ้าหนู ถ้าหาปาร์ตี้ไม่ได้ก็สมัครไม่ได้นะ~ เราไม่ว่าอะไรหรอกถ้านายอยากจะนั่งเล่นอยู่ในกิลด์ของเราสักหน่อยน่ะ~”
ถึงจะไม่เห็นหน้าแต่น้ำเสียงเอ็นดูเยี่ยงการดูถูกนั่นไม่สบอารมณ์ผมเอาซะเลย ผมกัดริมฝีปากและกำมือแน่นพลันเดินไปนั่งโต๊ะที่ว่างอย่างไม่เต็มใจ
ผมได้แต่ครุ่นคิดถึงความล้มเหลวในครั้งนี้และเจ็บแค้นใจเป็นอย่างมาก ไอ้ขายขี้หน้ามันก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่ผมยอมทำขนาดนี้ก็เพื่อจะหาเงินไปช่วยน้องสาวจากบ้านเฮงซวยหลังนั้น
แต่ตอนนี้ผมล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ... ผมนอนฟุ๊บอยู่ที่โต๊ะอย่างสิ้นหวังและคิดวนไปวนมาอยู่แบบนั้น จนกระทั่ง...
...อะไรน่ะ? ความรู้สึกแปลก ๆ กระตุ้นตัวของผมทำให้ขนหางตั้งชูขึ้น กลิ่นอายแปลก ๆ ของสัตว์ที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบใจอย่างน่าประหลาด
ตอนนั้นเสียงในกิลด์ก็เงียบลงเหมือนพวกเขาสนใจกับการมาของอะไรบางอย่าง ผนวกกับความรู้สึกก่อนหน้ามันก็ทำให้ผมสงสัยยิ่งกว่าเก่า สุดท้ายผมก็ชะเง้อหน้าขึ้นมาดูและต้องตกใจ
นั่นเผ่าหมาเหรอ?!