ผมนากิ แมวขาวสุดเจ๋งแจ๋วที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายถีบออกจากบ้านเด็กกำพร้า อะไรนะ?! ให้ฉันไปหาเงินในสภาพแบบนี้เนี่ยนะ?!! จริง ๆ มันก็ไม่ยากหรอก~ แต่ทำไม...ฉันต้องลงดันเจี้ยนกับไอ้จิ้งจอกขี้เก๊กนี่ด้วย!!!

Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ - ตอนที่ 2 ไม่ใช่หมานิ... โดย YANI @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,แอคชั่น,ตลก,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,โลกครึ่งสัตว์,เวทมนตร์,หวาน,อาณาจักร,นักผจญภัย,ดันเจี้ยน,โรงเรียนเวทมนตร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แอคชั่น,ตลก,แฟนตาซี,ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โลกครึ่งสัตว์,เวทมนตร์,หวาน,อาณาจักร,นักผจญภัย,ดันเจี้ยน,โรงเรียนเวทมนตร์

รายละเอียด

ผมนากิ แมวขาวสุดเจ๋งแจ๋วที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายถีบออกจากบ้านเด็กกำพร้า อะไรนะ?! ให้ฉันไปหาเงินในสภาพแบบนี้เนี่ยนะ?!! จริง ๆ มันก็ไม่ยากหรอก~ แต่ทำไม...ฉันต้องลงดันเจี้ยนกับไอ้จิ้งจอกขี้เก๊กนี่ด้วย!!!

ผู้แต่ง

YANI

เรื่องย่อ


“หลบไปซะไอ้จิ้งจอกสมองกล้าม ฉันจะจัดการมันเอง” ผมพูดอย่างเย้ยหยันกับชายร่างสูงข้าง ๆ และเดินไปหาเจ้าแมงมุมยักษ์เบื้องหน้าอย่างขึงขังมั่นใจ

กะอีแค่แมงมุมยักษ์ฉันไม่ต้องพึ่งหมานั่นหรอก~

ผมกำมือเดินไปหาเจ้าแมงมุมร้ายอย่างท้าทาย ดวงตาของมันแดงก่ำ มีฟันใหญ่แหลมคม และตัวใหญ่มาก ๆ ... ใหญ่เกือบเท่าบ้านหลังย่อมเลยนะนั่น แต่กลัวซะที่ไหน!

“แกตัวเท่ามดจะไปทำอะไรมันได้?” ผมชะงัก ไอ้หมาจิ้งจอกข้างหลังมันพูดจาถากถางพลางกอดอกด้วยท่าทีดูถูก แถมยังชายตามองผมอย่างกับเห็นแมลง วิ่งกลับไปต่อยสักทีดีไหมเนี่ย!

“เงียบไปเลย! เก็บปากไว้กินหญ้าเถอะ! ฉันไม่ต้องการให้หมาจิ้งจอกอย่างแกช่วย!!” ผมชี้หน้าด่าชายร่างสูงอย่างฉุนเฉียว หูและหางพลันก็ตั้งขึ้นตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน

“ก็ถ้าโดนมันเล่นงานขึ้นมาก็อย่าขอให้ฉันช่วยก็แล้วกันไอ้แมวเด็ก!!”

เจ้าจิ้งจอกนั่นมันตะคอกกลับมาด้วยความโกรธเกรี้ยวยิ่งกว่าเก่า แต่แมวแกร่งอย่างผมสนใจพวกสมองกล้ามซะที่ไหน!

“คอยดูเถอะ!!”

หลังจากดูเชิงได้พักนึง ผมโก่งตัวกระโจนใส่เจ้าแมงมุมยักษ์ตรงหน้าหวังจะใช้กรงเล็บเฉือนตามัน

แต่มันกลับพ่นใยมาพันตัวผมจนเหลือแต่หัวโผล่ออกมา อะไรเนี่ย! ใยเหนียวชะมัด! ผมตกลงพื้นแข็ง ๆ และพยายามดิ้นสุดแรง

แต่เจ้าแมงมุมน่าเกลียดนั่นมันใช้ขาหน้าดึงร่างของผมที่ถูกห่อใยขึ้นไปห้อยต่องแต่งอยู่เหนือหัวมัน ก่อนที่ปากอันใหญ่โตของมันจะอ้าออกเผยให้เห็นฟันคมกริบนับไม่ถ้วน กลิ่นโคตรเหม็นคาวเลย!

แต่อะไรเนี่ย นี่ฉันต้องตายตั้งแต่เริ่มเลยเหรอ! ไม่ได้นะ ยังไม่ทันได้เงินสักแดงแถมฉันยังมีน้องที่ต้องกลับไปหาอีกนะ! ถึงจะไม่อยากพูดก็เถอะแต่...

“ช่วยด้วยไอ้หมาสมองกล้าม!!!” ผมตะโกนสุดเสียงจนแสบคอไปหมด แต่ก็เหลือบไปมองเจ้าหมานั่นหวังได้รับคำตอบที่ดี

“เฮ้อ... ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมไอ้แมวเด็ก” เจ้าจิ้งจอกถอนหายใจหน้าตายและมองดูผมห้อยต่องแต่งอย่างไร้ทางหนี

อยู่ ๆ จากที่กำลังโดนหย่อน ตัวผมกลับโดนเหวี่ยงเป็นวงกลมเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้แมงมุมเวรนี่ทำอย่างกับฉันเป็นของเล่นเลย!

มันเหวี่ยงตัวผมไปมาจนเริ่มเวียนหัวแต่เจ้าหมานั่นก็ยังยืนกอดอกดูอยู่แบบนั้น

“ช่วยทีเถอะ! ฉันยังมีน้องที่ต้องกลับไปหานะ! เวียนหัวจะแย่อยู่แล้ว~!!”

เพราะโดนเหวี่ยงจนมึนทำให้เห็นแต่โลกที่หมุนไปมาผมเลยไม่รู้ว่าเจ้าหมานั่นรับคำขอหรือเปล่า

แต่ในตอนนั้นจู่ ๆ จากที่โดนเหวี่ยงไปมาผมก็รู้สึกเหมือนกำลังร่วงอีกครั้ง

“ว้าก!!” ถึงจะมึนจนไม่รู้เรื่องแต่ผมก็ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก ตกลงข้างล่างทั้งที่มีปากแมงมุมรออยู่ฉันก็ตายน่ะสิ!!

แต่ตอนที่ร่างของผมกำลังร่วงหล่นอย่างไม่มีอะไรฉุดรั้ง ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาประคองร่างที่ห่อใยของผมเอาไว้ สิ่งนั้นวางผมลงกับพื้นหินขรุขระ

“เฮ้! ไหวหรือเปล่าไอ้แมวเด็ก!!” ผมได้ยินเสียงเจ้าหมานั่นอยู่ใกล้ ๆ อาการมึนของผมเริ่มหายไป

ในที่สุดสายตาเจ้ากรรมก็กลับมามองเห็นอีกครั้ง สิ่งที่ผมเห็นคือโยชิโระที่ดูผมเหมือนเอ่อ...กังวลเหรอ ไม่สิ น่าจะแค่สงสัยมากกว่า

“โอย...อยากอ้วกแต่ไม่มีอะไรอยู่ในท้องด้วยซ้ำ...” ผมโอดครวญและพึมพำด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว ไม่เอาแบบนั้นอีกแล้วนะขอร้อง...

สารบัญ

Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 1 แมวผู้โดนเกลียดชัง,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 2 ไม่ใช่หมานิ...,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 3 ดงแมงมุม,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 4 วิ่งทั้งวันยังได้,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 5 เงิน! เงิน!! เงิน!!!,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 6 เผชิญหน้ากับบอสดันเจี้ยน,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 7 เงาอัสนี!!!,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 8 ต่อรองกับพ่อที่ไม่รัก,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 9 เจ้าแมวฟื้นแล้ว,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 10 แมงมุมยักษ์ย่างสด,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 11 จุดจบของบอสดันเจี้ยน,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 12 กวาดล้างทั้งดันเจี้ยน,Black Fox คู่หูของนายจิ้งจอกดำ-ตอนที่ 13 การตอบแทนครั้งสุดท้าย

เนื้อหา

ตอนที่ 2 ไม่ใช่หมานิ...

ที่หน้าทางเข้ามีชายร่างสูงเดินเข้ามาในกิลด์อย่างเรียบนิ่ง เขาใส่ผ้าคลุมปกปิดส่วนคอลงไปถึงเอว และสิ่งที่ทำให้ผมหงุดหงิดไม่ชอบใจเลยคือหูสัตว์บนหัวนั่น... มันเป็นหูของเผ่าหมา..มั้งนะ

ผมพยายามแอบเพ่งมองและระบุลักษณะของเขาอย่างละเอียด

เขามีเส้นผมสีดำและหน้าตาเคร่งขรึม น่าจะอายุมากกว่าผมพอประมาณ เขาเดินผ่านผมไปอย่างเงียบงัน ผมมองตามหลังด้วยความฉงนเพราะมีอีกอย่างที่สะดุดตาไม่แพ้หูบนหัว

เขามีหางสีดำ...แต่เป็นหางของจิ้งจอก? เหมือนผมจะเข้าใจผิด เขาเป็นเผ่าจิ้งจอกไม่ใช่เผ่าหมา แต่นั่นทำให้ผมหงุดหงิดยิ่งกว่าเก่า เพราะพวกเผ่าจิ้งจอกสูงส่งเลวทรามและป่าเถื่อนพวกนั้น ทำให้เผ่าแมวอย่างผมต้องอยู่อย่างยากลำบาก

แต่ท่ามกลางความรู้สึกหงุดหงิดผมก็ลองสังเกตดูรอบ ๆ ... นักผจญภัยกล้ามโตพวกนั้นมองเจ้าหมานั่นเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง ไม่สิ เหมือนเกลียดชังมากกว่า

ผมไม่สนใจหรอกว่าทำไม ผมแค่อยากรู้ว่าเจ้าจิ้งจอกสูงส่งและป่าเถื่อนแบบนั้นมาทำอะไรที่นี่ คิดแล้วก็โมโห!

แต่แปลกแฮะ ทำไมเขาถึงมีขนสีดำ ปกติจิ้งจอกต้องมีขนสีส้มไม่ก็ขาวสิ หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่สีดำแน่ ๆ ล่ะ

ผมแอบดูอย่างเงียบ ๆ เขาพูดกับพนักงานที่กอดอกอย่างจริงจัง หูแมวของผมได้ยินบทสนทนาระหว่างสองคนนั้นชัดแจ๋ว

เจ้าหมาจิ้งจอกนั่นอยากสมัครเป็นนักผจญภัยเหมือนกับผม และเช่นกัน ไอ้พนักงานเวรนั่นพูดเหมือนไม่อยากรับเขาเข้ากิลด์ จิ้งจอกดำมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ?

ตึง! “นี่จะลำเอียงกันหรือไง?! ฉันแค่มาสมัครเข้ากิลด์! พวกแกจะไม่รับเหรอ?!”

เจ้าหมาสมองกล้ามนั่นทุบโต๊ะดังสนั่นแถมขึ้นเสียงใส่พนักงานอย่างโกรธเกรี้ยว ดีเลย ๆ ฉันก็เกลียดไอ้หมอนั่นเหมือนกัน

บรรยากาศเงียบ ๆ แบบนี้พาให้รู้สึกตึงเครียดใช่เล่น เจ้าจิ้งจอกดูขี้หัวร้อนจังแฮะ พนักงานนั่นก็ดูจะไม่ยอมเหมือนกัน

“งั้นโชว์เวทของแกมา ถ้าไม่ดีพอทางเราก็ไม่รับหรอกนะ!”

เงื่อนไขเดียวกันเป๊ะ ผมไม่ได้หวังอะไรจากเจ้าหมานั่นแต่อยากรู้ว่ามันจะทำอะไรต่อ แต่เหมือนเขาจะรับคำท้านะ

ผมดูการกระทำของเขาอย่างไม่วางตา เจ้าหมาชูมือข้างหนึ่งขึ้นมาตรงหน้าเหมือนกับผมเป๊ะ

ในตอนนั้นบนมือของเขาก็มีสะเก็ดไฟฟ้าและแสงเจิดจ้าปรากฏขึ้นมา ทำเอาพื้นที่รอบ ๆ มืดไปชั่วขณะ

“พลังเวทอะไรน่ะ?!” ทุกคนที่นั่นตกใจเสียงระงมกันไม่น้อย แต่สำหรับผมมันก็ไม่เท่าไหร่ ถึงพลังเวทจะเยอะจริง ๆ ก็เถอะ

“เวทของฉันเป็นสายฟ้า เท่านี้พอหรือยัง..?” เจ้าหมาพูดด้วยน้ำเสียงสุดเยือกเย็น ส่วนไอ้พนักงานก็ดูจะกลัวไม่น้อยเลย

สุดท้ายพวกเขาก็ตกลงให้เจ้าจิ้งจอกเซ็นสัญญาเข้ากิลด์ เพราะเจ้านั่นเก่งล่ะมั้งมันเลยไม่ต้องหาปาร์ตี้ น่าอิจฉาเป็นบ้า...

ผมเอาหน้าฟุบลงไปบนโต๊ะอีกครั้ง หูและหางแมวก็พลันตกลงมาอย่างสิ้นหวัง แต่ไม่นานหูแมวจอมเผือกของผมก็ตั้งขึ้นเพราะได้ยินอะไรที่น่าสนใจเข้า

“อะไรนะ! หมายความว่ายังไงที่ว่าฉันลงดันเจี้ยนนี้ไม่ได้?!”

ผมชะโงกหน้าขึ้นมาฟัง เจ้าหมาสมองกล้ามนั่นโวยวายอีกแล้ว คราวนี้อะไรอีกล่ะ?

“ใจเย็นสิ! นายก็เห็นไม่ใช่หรือไงว่านี่คือดันเจี้ยนแมงมุมยักษ์น่ะ?!”

ผมหูผึ่งจากคำพูดของพนักงานกิลด์ ดันเจี้ยนก็คือแหล่งหาเงินตามปกติของพวกนักผจญภัย แต่ผมไม่ยักจะเคยได้ยินชื่อดันเจี้ยนนั้นมาก่อน...

“นี่น่ะเป็นดันเจี้ยนที่พึ่งถูกค้นพบได้ไม่นานแต่มันพรากชีวิตนักผจญภัยของเราไปมากจนตอนนี้ไม่มีใครกล้าไปที่นั่นแล้ว!! เพราะยังไม่เคยมีใครรอดกลับมาได้ราชาเลยตั้งกฏไว้ว่าการลงดันเจี้ยนนี้ต้องมีอย่างน้อยสองคนขึ้นไป! นั่นคือเงื่อนไข!!”

พนักงานบอกกฎและยืนกรานอย่างชัดเจน เจ้าหมาดูจะหงุดหงิดไม่น้อยเลยแฮะ ผมพึ่งเคยได้ยินชื่อดันเจี้ยนนั้นครั้งแรก แล้วทีนี้เจ้าจิ้งจอกนั่นจะทำยังไงต่อ?

“มีใครอยากลงดันเจี้ยนแมงมุมยักษ์ไหม!!” เขาหันกลับมาตะโกนหาคนเข้าปาร์ตี้เหมือนผมเป๊ะ แต่เหมือนหมอนั่นจะเกี้ยวกราดกว่า

เอาเถอะฉันไม่สนใจหรอก คนอย่างหมอนั่นคงมีคนอยากเข้าร่วมอยู่นั่นแหละ ผมเท้าคางมองอย่างหมดอาลัยตายอยากพร้อมรอฟังคนที่จะเสนอตัว

...แต่ผิดคาด ทุกคนที่นั่นไม่มีใครเสนอตัวเลย เหมือนพวกเขาจะไม่อยากยุ่งกับเจ้าหมานั่น

แปลกแฮะ... หรือเพราะทุกคนกลัวดันเจี้ยนแมงมุมยักษ์? แค่ชื่อก็ไม่น่ากลัวแล้ว~ ก็แค่แมงมุมตัวใหญ่...

เดี๋ยวสิ... ถ้าแบบนี้มันก็เป็นโอกาสของฉันไม่ใช่เหรอ ถ้าได้หมอนั่นเข้าปาร์ตี้ ฉันก็จะสมัครเป็นนักผจญภัยได้ แต่ปัญหาคือมันเป็นเผ่าจิ้งจอกที่ฉันเกลียดนักเกลียดหนา...

แต่ถ้าได้เงินจากการลงดันเจี้ยน ผมก็จะช่วยน้องสาวได้... โถ่เว้ย! ไหน ๆ ก็ไม่มีใครเอาอยู่แล้ว ไม่มีอะไรจะต้องเสียด้วย! เป็นไงเป็นกัน!

“ฉันอยากลงด้วย” ผมพูดพร้อมออกมายืนต่อหน้าเจ้าหมาจิ้งจอก

ท่ามกลางสายตาของคนรอบ ๆ ชายร่างสูงตรงหน้าแสดงสีท่าทีฉงนอย่างกับเห็นอะไรที่คาดไม่ถึง

“เผ่าแมวเหรอ... แกมาทำอะไรที่กิลด์ล่ะเนี่ย?” เขามองตาขวางและถามอย่างสงสัย

ผมชะงักไปชั่วขณะ ความเดือดพล่านเริ่มปะทุขึ้นมาเพราะความคิดมากของผม ที่ถามแบบนั้นเพราะฉันมันยากไร้เหรอ?!

ผมกำมือแน่นก่อนจะพูดออกไป “จะมาทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน! แต่ฉันอาสาร่วมปาร์ตี้กับนายเพราะยังไงคนอื่นก็ไม่ช่วยเราอยู่แล้ว!”

ผมต้องทำยังไงก็ได้ให้ไอ้หมอนี่รับข้อเสนอ แต่น่าจะยากแฮะเพราะเขาดูจะเกลียดผมเหมือนกัน เขาหันไปหาพนักงานอีกรอบโดยเมินคำพูดของผม

“แค่ฉันคนเดียวก็เคลียร์ดันเจี้ยนนั่นได้แล้ว! ให้ฉันลงเถอะ!”

พนักงานนั่นปฏิเสธ มันยืนยันเสียงแข็งว่ายังไงก็ต้องลงสองคนขึ้นไป เยี่ยม! ทีนี้ฉันก็ต้องโน้มน้าวเจ้าหมานั่นให้ได้

“อย่าเข้าใจผิดสิฉันก็เกลียดนายเหมือนกันนั่นแหละ แต่ฉันมีเหตุผลที่ต้องลงดันเจี้ยน”

เจ้าหมาจิ้งจอกนั่นเดินกลับมาเผชิญหน้ากับผม ร่างอันผอมบางของผมเทียบกับร่างสูงตรงหน้าไม่ได้เลย

ผมมองเขาอย่างไร้ซึ่งความหวาดกลัวพร้อมที่จะท้าทายเจ้าหมาสมองกล้าม ส่วนเขาก็มองผมกลับมาด้วยสายตารังเกียจ ดูถูก เย้ยหยัน และอีกสารพัดคำสบประมาทมากมายที่ผมพอจะนึกออก

“พวกเจ้าเล่ห์อย่างแกจะทำอะไรได้ไอ้แมวเด็ก?”

ผมยัวะขึ้น ไอ้เวรนี่ชักจะดูถูกกันเกินไปแล้วนะ! แล้วหมายความว่าไงที่ว่าเจ้าเล่ห์?! อยากจะสาวหมัดสักทีจริง ๆ !

แต่ผมก็ต้องใจเย็นและพยายามโนวน้าวเขา ไอ้หมอนี่เป็นทางออกเดียวของเราในตอนนี้

“ถึงยังไงเราก็ต้องหาปาร์ตี้อยู่ดี แต่ที่นี่ไม่มีใครสนใจช่วยเราอยู่แล้ว! ถ้าอยากลงดันเจี้ยนนั่นนายก็ต้องให้ฉันเข้าร่วมปาร์ตี้! อีกอย่างฉันน่ะอ่านหนังสือมาเยอะและรู้เรื่องเวทมนตรกับมอนสเตอร์เป็นอย่างดี! ฉันจะไม่เป็นภาระนายหรอก!”

ชายร่างสูงตรงหน้ากวาดตามองรอบ ๆ เหมือนกำลังคิดทบทวนอะไรบางอย่าง เขาแสดงสีหน้าเรียบนิ่งและมองผมด้วยแววตาสีดำของจิ้งจอกอันน่าสะพรึงก่อนจะพูด

“ถ้าทำตัวมีปัญหาฉันจะทิ้งแกไว้กลางทาง”

ผมตอบตกลงอย่างจริงจัง สุดท้ายผมก็ได้สมัครเป็นนักผจญภัยในฐานะเพื่อนร่วมปาร์ตี้กับเจ้าหมาจิ้งจอกขนดำ

ดูเหมือนไอ้พนักงานจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่

อยากจะสมน้ำหน้ามันนะแต่ไว้ก่อน ฉันจะต้องทำผลงานและกลับมาตอกหน้าไอ้พวกนักผจญภัยให้ได้ เพราะไม่มีใครที่ฉันแค้นแล้วจะเอาคืนไม่ได้!

จากนั้นไอ้พนักงานก็บอกที่อยู่ของดันเจี้ยนและให้แผนที่มา เราสองคนตกลงกันว่าจะใช้รถม้าพาไปให้ใกล้ที่สุด

แต่ปัญหาคือถ้าเราอยากใช้รถม้าเราก็ต้องมีเงิน ซึ่งทั้งผมและเจ้าหมาสมองกล้ามต่างก็ไม่มีเงินติดตัวเลย...

ทั้งที่มาจากตระกูลใหญ่แต่ไม่มีเงินเนี่ยนะ? ดูยังไงไอ้หมาจิ้งจอกนี่ก็แปลก แต่ไม่สนใจหรอก ชีวิตมันจะเป็นยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของผมอยู่แล้ว

ผมใช้วิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ ด้วยการเดินนำเจ้าหมาตัวสูงไปยืนรออยู่ตรงที่คุณลุงแพะพามาส่ง

โชคดีจริง ๆ ที่ไม่นานคุณโทโทริก็ผ่านทางมาพร้อมกับรถเกวียนของเขา

“คุณลุงโทโทริครับ~!” ผมเรียกเขาเหมือนกับครั้งก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็มาตามเสียงเรียก แถมยังยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี

“อ้าวเธอนี่เอง สมัครเข้ากิลด์เป็นยังไงบ้าง?”

ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณโทโทริฟัง รวมถึงเรื่องดันเจี้ยนที่จะให้เขาพาไปส่ง

“อืม...แบบนี้นี่เอง ได้สิฉันจะพาไปส่งให้นะ พอดีวันนี้ขายของหมดเร็วเลยได้เงินมาเยอะพอตัว อ้อ..คนข้างหลังนั่นคือพ่อหนุ่มเผ่าจิ้งจอกที่เธอว่าสินะ”

ผมหันกลับไปมองเจ้าหมานั่นตามที่คุณลุงชี้ แต่เขากลับพยายามหลบสายตาแถมแสดงสีหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด

ทำไมต้องกังวลขนาดนั้นด้วยล่ะ? เพื่อตอบข้อสงสัยนั้นผมหันกลับมาหาคุณลุงแพะอีกครั้ง เขาดูเรียบเฉยผิดกับตอนแรกจนผมประหลาดใจ

“ขึ้นมาสิ ฉันจะพาไปส่งทั้งคู่นั่นแหละ” อยู่ ๆ คุณโทโทริพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรดื้อ ๆ เจ้าจิ้งจอกดูจะตกใจไม่น้อย ผมชักจะงงกับท่าทีของพวกเขาแล้วสิ...

สุดท้ายเราสองคนก็ได้ขึ้นรถเกวียนของคุณลุงแพะ แค่คราวนี้มันไม่มีสินค้าอยู่ด้านใน

เขาพาเราออกจากเมืองและควบม้าไปทางทิศตะวันตกจากเมืองหลวง นั่นคือที่อยู่ของดันเจี้ยนแมงมุมยักษ์

“ขอบคุณนะครับ!” ผมโบกมืออำลาคุณโทโทริ เขาพาเรามาส่งได้ไกลแค่ตีนเขา เพราะดันเจี้ยนมันอยู่บนภูเขาเราทั้งคู่เลยต้องเดินต่อ

เราเดินขึ้นไปบนภูเขาลูกใหญ่ตามทางที่พวกนักผจญภัยทำไว้ให้อย่างดี

เพราะไม่ชอบหน้ากันเจ้าหมาเลยเดินนำหน้าผมไปหน่อยนึงเป็นการเว้นระยะห่าง ดีเลย ยังไงฉันก็ไม่อยากยุ่งอยู่แล้ว แต่มีอย่างหนึ่งที่ผมสงสัย...

“แล้วนายเลือกเควสอะไรจากดันเจี้ยนแมงมุมยักษ์ล่ะ?” ผมเอ่ยถามกับชายร่างสูง แน่สิถ้าจะทำเควสด้วยกันผมก็ต้องรู้เป้าหมายด้วย

“พิชิตบอสดันเจี้ยน” เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

คำพูดนั้นทำผมอึ้งไม่น้อย ไอ้หมอนี่บ้าดีเดือดเอาเรื่องเลยแฮะ คิดจะพิชิตบอสดันเจี้ยนคนเดียวตั้งแต่แรกเลยเหรอ?

พวกเราเดินไปอย่างเงียบ ๆ ไม่มีการสนทนากันแต่อย่างใด จนกระทั่งเรามาถึงทางเข้าดันเจี้ยน...

มันคือถ้ำขนาดใหญ่บนยอดเขา พวกเรายืนมองอยู่หน้าถ้ำด้วยความอึ้ง

“แกเอาแผนที่มาหรือเปล่า?” เจ้าหมาถามและมองผมเหมือนรังเกียจ ถึงจะไม่ชอบใจแต่ผมก็หยิบแผนที่ออกมาจากเสื้อและกางออกดู

“เอามาให้ฉัน” ชายร่างสูงออกคำสั่งและยื่นมือมาหาผม

“ไม่ ฉันจะเป็นคนดูแผนที่เอง” ผมปฏิเสธและเมินเจ้าหมาไป เขาขบฟันและขมวดคิ้วเหมือนไม่พอใจก่อนจะพูด

“อย่าทำอะไรโง่ ๆ น่า! แมวเด็กแบบแกดูแผนที่เป็นด้วยเหรอ?” 

คำพูดเหมือนดูหมิ่นนั่นทำให้ผมยัวะขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ฉันจะไม่ทนล่ะนะ!!

“ฉันชื่อนากิหรอกไอ้หมาสมองกล้าม!! ฉันดูแผนที่เป็นอยู่แล้ว!! เลิกเรียกว่าแมวเด็กสักทีเถอะฉันอายุสิบเก้าแล้วนะ!!”

ผมยื่นหน้าไปพูดอย่างฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ส่วนชายร่างสูงก็ยังโมโหอยู่แบบนั้นก่อนจะตวาดกลับ

“ฉันชื่อโยชิโระไม่ใช่หมาสมองกล้ามไอ้แมวเด็ก!! ถ้าพูดแบบนั้นแกก็เดินนำไปเลย!!”

ถึงจะหงุดหงิดแต่ผมก็ทำตาม กะอีแค่ดูแผนที่มันจะไปยากอะไร..?

เราสองคนเข้าไปข้างในอย่างไม่ลังเล มันเป็นถ้ำมืด ๆ ที่น่าขนลุก มีแต่หินงอกหินย้อยเต็มไปหมด โชคดีที่ผมเป็นเผ่าแมวมันเลยทำให้ผมมองเห็นในที่มืดได้ชัดแจ๋ว แต่บอกตรง ๆ พอมีไอ้หมานี่ตามมาผมก็รู้สึกหงุดหงิดมากกว่ากลัวซะอีก

แต่แปลกแฮะ มันเป็นดันเจี้ยนแมงมุมยักษ์แต่ไม่เจอแมงมุมหรือใยเลยสักนิด

เดินไปเรื่อย ๆ ผมก็เริ่มตะหงิดว่าเราเดินวนอยู่ที่เดิม... นานเข้า ๆ เราสองคนก็เริ่มหัวเสีย

“ไหนแกบอกว่าดูแผนที่เป็นไงไอ้แมวเด็ก...” ชายร่างสูงพูดพลางเอามือกุมศรีษะ คิดว่าหงุดหงิดเป็นคนเดียวหรือไง!

“กะ ก็ดูเป็นน่ะสิ! แต่ฉันยังไม่เคยดูแผนที่ดันเจี้ยนมาก่อน... โทษฉันไม่ได้หรอกนะ!” ผมพูดพลางพลิกแผนที่ไปมาเพราะเผื่อจะดูผิดด้าน

แต่ในตอนนั้นเจ้าหมาก็กระชากแผนที่ไปจากผม

“ฉันคิดไว้แล้วว่าพึ่งแมวจอมเจ้าเลห์แบบแกไม่ได้” เขาพูดอย่างเอือมระอาในตัวผม อะไรกันไอ้หมอนี่น่าโมโหชะมัด!

“บอกแล้วไงว่าฉันชื่อนากิ! แล้วแมวจอมเจ้าเล่ห์นั่นมันหมายความว่ายังไง?!” ผมแยกเขี้ยวพูดอย่างเดือดพล่าน ความอดทนของผมก็มีขีดจำกัดนะ!

“ก็แมวอย่างพวกแกมันจอมเจ้าเล่ห์! ขี้ขโมย! ไม่มีความซื่อสัตย์! คิดว่าฉันจะชอบเหรอ!!” ชายร่างสูงแยกเขี้ยวตวาดกลับมาอย่างไม่ลังเล

ผมอึ้งไปอย่างมึนงง ไอ้หมอนี่ไปได้ยินเรื่องแบบนั้นมาจากไหนเนี่ย?! แน่นอนว่าผมไม่ยอมและตวาดกลับไป

“ฉันก็ไม่ชอบพวกจิ้งจอกเหมือนกันเหอะ! พวกแกมันเลวทราม! ป่าเถื่อน!! และหัวทึบมีแต่กล้าม!! แถมยังทำให้เผ่าแมวแบบฉันต้องอยู่อย่างทุกข์ยาก!!!”

ผมชี้หน้าด่าด้วยความโกรธเกรี้ยวโดยไม่สนใจเรื่องขนาดตัวเลย เอาสิถ้าจะต่อยกันก็เอากันตรงนี้นี่แหละ!!

“อะไรนะ?! นี่แกไปได้ยินมาจากไหน?! เลิกพูดเหมารวมสักทีเถอะไอ้แมวเด็ก!!” เจ้าหมาพูดกลับมาเป็นเชิงคล้ายออกคำสั่ง

“แกนั่นแหละที่เหมารวมไอ้หมาสมองกล้าม!!!” เราเถียงแบบไม่มีใครยอมใคร

แต่อยู่ ๆ พื้นที่เราเหยียบก็เกิดรอยร้าวขึ้นและกว่าจะรู้ตัวพื้นหินก็ยุบลงไป พวกเราตกลงไปโดยคว้าอะไรไว้ไม่ทัน

“ว้าก!!!!!” ผมร้องออกมาสุดเสียง