ผมนากิ แมวขาวสุดเจ๋งแจ๋วที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายถีบออกจากบ้านเด็กกำพร้า อะไรนะ?! ให้ฉันไปหาเงินในสภาพแบบนี้เนี่ยนะ?!! จริง ๆ มันก็ไม่ยากหรอก~ แต่ทำไม...ฉันต้องลงดันเจี้ยนกับไอ้จิ้งจอกขี้เก๊กนี่ด้วย!!!
ดราม่า,แอคชั่น,ตลก,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,โลกครึ่งสัตว์,เวทมนตร์,หวาน,อาณาจักร,นักผจญภัย,ดันเจี้ยน,โรงเรียนเวทมนตร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ผมนากิ แมวขาวสุดเจ๋งแจ๋วที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายถีบออกจากบ้านเด็กกำพร้า อะไรนะ?! ให้ฉันไปหาเงินในสภาพแบบนี้เนี่ยนะ?!! จริง ๆ มันก็ไม่ยากหรอก~ แต่ทำไม...ฉันต้องลงดันเจี้ยนกับไอ้จิ้งจอกขี้เก๊กนี่ด้วย!!!
ผู้แต่ง
YANI
เรื่องย่อ
“หลบไปซะไอ้จิ้งจอกสมองกล้าม ฉันจะจัดการมันเอง” ผมพูดอย่างเย้ยหยันกับชายร่างสูงข้าง ๆ และเดินไปหาเจ้าแมงมุมยักษ์เบื้องหน้าอย่างขึงขังมั่นใจ
กะอีแค่แมงมุมยักษ์ฉันไม่ต้องพึ่งหมานั่นหรอก~
ผมกำมือเดินไปหาเจ้าแมงมุมร้ายอย่างท้าทาย ดวงตาของมันแดงก่ำ มีฟันใหญ่แหลมคม และตัวใหญ่มาก ๆ ... ใหญ่เกือบเท่าบ้านหลังย่อมเลยนะนั่น แต่กลัวซะที่ไหน!
“แกตัวเท่ามดจะไปทำอะไรมันได้?” ผมชะงัก ไอ้หมาจิ้งจอกข้างหลังมันพูดจาถากถางพลางกอดอกด้วยท่าทีดูถูก แถมยังชายตามองผมอย่างกับเห็นแมลง วิ่งกลับไปต่อยสักทีดีไหมเนี่ย!
“เงียบไปเลย! เก็บปากไว้กินหญ้าเถอะ! ฉันไม่ต้องการให้หมาจิ้งจอกอย่างแกช่วย!!” ผมชี้หน้าด่าชายร่างสูงอย่างฉุนเฉียว หูและหางพลันก็ตั้งขึ้นตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
“ก็ถ้าโดนมันเล่นงานขึ้นมาก็อย่าขอให้ฉันช่วยก็แล้วกันไอ้แมวเด็ก!!”
เจ้าจิ้งจอกนั่นมันตะคอกกลับมาด้วยความโกรธเกรี้ยวยิ่งกว่าเก่า แต่แมวแกร่งอย่างผมสนใจพวกสมองกล้ามซะที่ไหน!
“คอยดูเถอะ!!”
หลังจากดูเชิงได้พักนึง ผมโก่งตัวกระโจนใส่เจ้าแมงมุมยักษ์ตรงหน้าหวังจะใช้กรงเล็บเฉือนตามัน
แต่มันกลับพ่นใยมาพันตัวผมจนเหลือแต่หัวโผล่ออกมา อะไรเนี่ย! ใยเหนียวชะมัด! ผมตกลงพื้นแข็ง ๆ และพยายามดิ้นสุดแรง
แต่เจ้าแมงมุมน่าเกลียดนั่นมันใช้ขาหน้าดึงร่างของผมที่ถูกห่อใยขึ้นไปห้อยต่องแต่งอยู่เหนือหัวมัน ก่อนที่ปากอันใหญ่โตของมันจะอ้าออกเผยให้เห็นฟันคมกริบนับไม่ถ้วน กลิ่นโคตรเหม็นคาวเลย!
แต่อะไรเนี่ย นี่ฉันต้องตายตั้งแต่เริ่มเลยเหรอ! ไม่ได้นะ ยังไม่ทันได้เงินสักแดงแถมฉันยังมีน้องที่ต้องกลับไปหาอีกนะ! ถึงจะไม่อยากพูดก็เถอะแต่...
“ช่วยด้วยไอ้หมาสมองกล้าม!!!” ผมตะโกนสุดเสียงจนแสบคอไปหมด แต่ก็เหลือบไปมองเจ้าหมานั่นหวังได้รับคำตอบที่ดี
“เฮ้อ... ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมไอ้แมวเด็ก” เจ้าจิ้งจอกถอนหายใจหน้าตายและมองดูผมห้อยต่องแต่งอย่างไร้ทางหนี
อยู่ ๆ จากที่กำลังโดนหย่อน ตัวผมกลับโดนเหวี่ยงเป็นวงกลมเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้แมงมุมเวรนี่ทำอย่างกับฉันเป็นของเล่นเลย!
มันเหวี่ยงตัวผมไปมาจนเริ่มเวียนหัวแต่เจ้าหมานั่นก็ยังยืนกอดอกดูอยู่แบบนั้น
“ช่วยทีเถอะ! ฉันยังมีน้องที่ต้องกลับไปหานะ! เวียนหัวจะแย่อยู่แล้ว~!!”
เพราะโดนเหวี่ยงจนมึนทำให้เห็นแต่โลกที่หมุนไปมาผมเลยไม่รู้ว่าเจ้าหมานั่นรับคำขอหรือเปล่า
แต่ในตอนนั้นจู่ ๆ จากที่โดนเหวี่ยงไปมาผมก็รู้สึกเหมือนกำลังร่วงอีกครั้ง
“ว้าก!!” ถึงจะมึนจนไม่รู้เรื่องแต่ผมก็ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก ตกลงข้างล่างทั้งที่มีปากแมงมุมรออยู่ฉันก็ตายน่ะสิ!!
แต่ตอนที่ร่างของผมกำลังร่วงหล่นอย่างไม่มีอะไรฉุดรั้ง ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาประคองร่างที่ห่อใยของผมเอาไว้ สิ่งนั้นวางผมลงกับพื้นหินขรุขระ
“เฮ้! ไหวหรือเปล่าไอ้แมวเด็ก!!” ผมได้ยินเสียงเจ้าหมานั่นอยู่ใกล้ ๆ อาการมึนของผมเริ่มหายไป
ในที่สุดสายตาเจ้ากรรมก็กลับมามองเห็นอีกครั้ง สิ่งที่ผมเห็นคือโยชิโระที่ดูผมเหมือนเอ่อ...กังวลเหรอ ไม่สิ น่าจะแค่สงสัยมากกว่า
“โอย...อยากอ้วกแต่ไม่มีอะไรอยู่ในท้องด้วยซ้ำ...” ผมโอดครวญและพึมพำด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว ไม่เอาแบบนั้นอีกแล้วนะขอร้อง...
- โยชิโระ -
“นากิ!!!”
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรแต่ท่าทางเจ้าแมวกำลังแย่ แต่ถ้าเราจะช่วยเขาเราก็ต้องทิ้งโอกาสที่จะจัดการเจ้าบอสแมงมุมนี่ไป โถ่เว้ย! ช่างหัวมันสิ!!
ผมหลบขาหน้าของไอ้แมงมุมสารเลวที่แทงลงมาอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่ามันติดเล่นหรือระแวงฉันกันแน่ แต่มันไม่ยอมโจมตีเข้ามาแบบเต็มที่ ดีล่ะ! ตอนนี้เราต้องหาจังหวะไปช่วยนากิให้ได้!
แต่ถึงจะคิดแบบนั้นไอ้บอสแมงมุมนี่ก็ไม่ยอมง่าย ๆ มันย้ายที่ไปมาตามการเคลื่อนไหวของผมและใช้ขาหน้ากับใยสกัดผมไว้ตลอด ตัวก็ใหญ่ทำไมเคลื่อนที่เร็วนักนะ!!
“หลีกไปสิวะไอ้แมงมุมน่ารังเกียจ!!!”
ผมปล่อยสายฟ้าจากมือขึ้นไปหาเจ้าแมงมุมแต่มันก็เอี้ยวตัวหลบการโจมตีได้ ไม่รู้ซะแล้วว่าฉันไม่ได้เล็งแกไอ้ตัวอัปลักษณ์!
สายฟ้าเส้นนั้นพุ่งทะยานไปโดนเพดานถ้ำสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทำให้หินย้อยตกลงมาเป็นจำนวนมาก เจ้าแมงมุมยักษ์ไม่ได้สะทกสะท้านเลย มันแค่พ่นใยจำนวนมหาศาลสกัดหินพวกนั้นไว้
ผมใช้โอกาสนี้ฝ่าเศษหินที่ตกลงมาไปหาเจ้าแมวทันที เขานอนอยู่ท่ามกลางเถาวัลย์ประหลาดนั่น
“นากิ!!” ผมพยายามเรียกสติเขาแต่ไม่ไหว เขาหมดสติไปแล้วแถมอาการดูไม่ดีเลย! ตัวร้อนผ่าวเหมือนไข้ขึ้นไม่มีผิด!
“โยชิ...โระ” เขาคร่ำคราญถึงชื่อของผมแถมยังแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวเพราะความทุกข์ทรมาน ผมมองเขาอย่างเป็นห่วงยิ่งกว่าเก่า พิษมันน่าจะแรงเอาเรื่องเลย ไม่มีเวลาแล้วฉันต้องพาเขาออกจากที่นี่!
ผมแบกร่างของเจ้าแมวขึ้นหลังและมองไปรอบ ๆ นอกจากเศษหินแล้วไอ้แมงมุมยักษ์นั่นก็ยังพ่นใยใส่เพดานไม่เสร็จ ตอนนี้พลังเวทของฉันมีน้อยเกินจะสู้กับมันแล้ว...
ในตอนนั้นสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นประตูหินบานใหญ่ที่มีลวดลายของแมงมุมเต็มไปหมด นั่นคงเป็นทางเข้าห้องบอสสินะ แต่เราดันเข้ามาทางหลุมนั่น...
ตามทฤษฎีแล้วที่หน้าทางเข้าคงมีพวกแมงมุมอีกเพียบแน่ แถมไม่รู้ด้วยว่าเราจะเจาะประตูนั่นได้ไหม ถ้าจะออกไปจากที่นี่ก็คงมีแค่ทางเดียวสินะ!
“เท้าเทพอัสนี!!” ผมร่ายเวทจากปากเปล่า
ทันใดนั้นรองเท้าหนังของผมก็ถูกเคลือบสายฟ้าสีขาวส่องสว่าง รู้สึกได้ถึงพละกำลังของขาที่เพิ่มมากขึ้น ผมกวาดสายตาไปมองที่รูบนเดพานถ้ำและออกวิ่งทันที
ด้วยความเร็วที่มากกว่าครั้งไหน ๆ ผมพานากิวิ่งหลบหลีกผ่านขาไอ้บอสแมงมุมนั่นและกระโดดขึ้นไปที่รูบนเพดานถ้ำอย่างไม่ลังเล ด้วยพลังของเท้าเทพอัสนี ผมเหยียบอากาศและใช้มันกระโดดขึ้นไปเรื่อย ๆ ไปตามหลุมที่เราลงมา
อยู่ ๆ เสียงคำรามแสบแก้วหูของไอ้บอสแมงมุมนั่นก็ดังตามหลังพวกเรามา พลังเสียงสุดบ้าคลั่งทำเอาผนังหินรอบ ๆ สั่นสะเทือนจนเศษหินเล็ก ๆ ร่วงลงไป โชคดีที่ตัวมันใหญ่เกินสำหรับทางขึ้นนี่ไม่งั้นเราคงไม่รอดแน่
ผมโดดอยู่แบบนั้นอยู่สักระยะ นากิเริ่มหายใจแรงขึ้นจากฤทธิ์ของพิษ
“อดทนหน่อยนะ!”
ไม่นานเราก็ขึ้นมาถึงทางแคบที่เดิม แน่นอนว่าในนี้ไม่มีไอ้พวกแมงมุมยักษ์อยู่แต่ผมต้องรีบไป อาการของเจ้าแมวกำลังแย่ลงเรื่อย ๆ
ผมแบกนากิไว้บนหลังอย่างมั่นคงและออกวิ่งย้อนกลับไปทางเดิมอย่างรวดเร็ว เสียงสะเก็ดสายฟ้ากระทบกันวัตถุโดยรอบส่งเสียงเปรี๊ยะเป็นระยะ ๆ
ด้วยดวงตาของเผ่าจิ้งจอกทำให้ผมมองเห็นเส้นทางอย่างชัดเจนแม้จะวิ่งอยู่ในที่มืด ผมพาเจ้าแมววิ่งมาจนถึงทางออกจากที่แคบ ๆ นี่
แต่เมื่อวิ่งออกมาจนเจอโถงถ้ำผมก็ต้อบหยุดชะงักด้วยความตกใจ
“อะไรเนี่ย?!!”
เบื้องหน้าของผมคือแมงมุมยักษ์ขนดำสองถึงสามตัวที่ดักรออยู่แล้ว พวกมันรู้ได้ไงว่าเราอยู่ที่นี่?! ฉันมั่นใจว่าเราไม่ได้ทิ้งร่องรอยเลยนะ!!
ตกใจไม่ทันหายพวกมันก็เริ่มส่งเสียงแสบแก้วหูราวกับจะข่มขวัญพวกเรา แต่ในตอนที่กำลังกวาดตาไปมาอย่างหวาดระแวงสัญชาตญาณของผมก็สั่นเตือนถึงบางอย่างที่มองไม่เห็น
ด้วยความตกใจผมกระโดดขึ้นสูงไปด้านหน้าพร้อมกับร่างของเจ้าแมวบนหลัง วินาทีนั้นแมงมุมยักษ์ก็ดิ่งลงมาเหยียบพื้นอย่างรุนแรงจนฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปทั่ว ถ้าผมไม่ออกมาเราคงโดนบดเละไปแล้ว!
ด้วยเท้าเทพอัสนี ผมกระโดดค้างเติ่งอยู่บนอากาศ ไอ้พวกแมงมุมยักษ์คำรามตามขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด ในตอนนั้นผมก็ตระหนักรู้ถึงบางอย่าง
อย่าบอกนะว่าเสียงคำรามของไอ้บอสแมงมุมยักษ์นั่นเรียกมอนสเตอร์ทั้งดันเจี้ยนมาไล่ล่าเราน่ะ?! แบบนั้นแย่แน่!!
ระหว่างที่กำลังคิดพิษเส้นหนึ่งก็ถูกพ่นมาหาเรา ผมเบี่ยงพาตัวเองกับเจ้าแมวหลบมาได้อย่างเฉียดฉิว
บ้าเอ้ยอันตรายชะมัด!! เราจะเสียสมาธิไม่ได้! มีหนึ่งชีวิตที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่บนหลังของเรา! ฉันจะพาเขาออกจากที่นี่ให้ได้!!
ผมกระโดดไปบนอากาศหลบหลีกใยและพิษที่ไอ้พวกอัปลักษณ์ยิงขึ้นมา ผมหาจังหวะลงสู่พื้นและรีบวิ่งต่อสุดชีวิต ถ้ามัวอยู่แต่บนอากาศมันจะช้าเกินไปแถมเปลืองพลังเวทด้วย การวิ่งนี่แหละเร็วและดีที่สุดแล้ว!
พวกแมงมุมข้างหลังวิ่งไล่มาอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งเสียงอันน่าสะพรึงและแรงสั่นสะเทือนที่รับรู้ชวนให้หวั่นได้มาก แต่ฉันไม่สนหรอก! และไม่หันกลับไปมองด้วย!
ถึงจะไม่มีแผนที่แต่ผมก็ยังจำทางได้ ถ้าวิ่งตรงไปทางนี้เรื่อย ๆ เราก็จ-!!!
ผมต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีเพราะที่ทางข้างหน้ามีพวกแมงมุมยักษ์นับไม่ถ้วนดักรออยู่
ด้วยการตัดสินใจที่รวดเร็ว ผมรีบวิ่งหักไปอีกทางทันที ช่วยไม่ได้ ถ้ามีพวกมันดักกันเยอะเราก็ต้องวิ่งอ้อมไป
ผมวิ่งย่ำไปบนพื้นหินแข็ง ๆ อย่างต่อเนื่อง เสียงของไอ้พวกแมงมุมอำมหิตนั่นก็ดังระงมตามหลังมาเรื่อย ๆ ฉันเข้าใจความรู้สึกของนายแล้วนากิ โดนไอ้พวกนี้ไล่มันไม่สนุกเอาซะเลย!
ถ้าฉันไม่ได้วิ่งเร็วขนาดนี้พวกมันคงตามมาทันแล้ว เหมือนมอนสเตอร์ทุกตัวในดันเจี้ยนจะคลุ้มคลั่งจากเสียงคำรามของไอ้บอสแมงมุมนั่นเลย!
วิ่งไปได้สักพักเราก็กลับมาเส้นทางเดิม ทำไมแถวถึงไม่มีพวกแมงมุม? ถึงจะน่าสงสัยแต่ผมก็หยุดวิ่งไม่ได้เพราะข้างหลังก็มีแมงมุมยักษ์ไล่ตามมาเหมือนกัน ผมวิ่งไปเรื่อย ๆ จนเห็นซอกหินที่ที่พวกเราลงมาชั้นนี้ครั้งแรก เสียงอู้อี้ทุกข์ทรมานของนากิดังเบา ๆ อยู่ที่ข้างหูของผม
“อดทนหน่อยนะ!” ผมพูดและกัดฟันวิ่งตรงไปที่ซอกหินนั่น แต่ทันใดนั้นแมงมุมยักษ์ตัวหนึ่งก็โดดลงมาขวางหน้าเรา
“!!!” ผมหยุดวิ่งด้วยความตื่นตกใจ ไม่กี่วิต่อจากนั้นแมงมุมจำนวนมากก็โดดลงมาสร้างแรงสั่นสะเทือนตามน้ำหนักตัวอันมหาศาล ทำเอาผมเกือบทรงตัวไม่อยู่ แค่ชั่วพริบตาพวกมันนับสิบก็ล้อมเราไว้ทุกทิศและรุมคำรามอย่างโกรธเกี้ยว
แย่ล่ะสิ!! ผมรู้ได้ทันทีว่าในไม่ช้าพวกแมงมุมยักษ์ต้องรุมเล่นงานเราแน่ หัวใจของผมเริ่มเต้นแรงขึ้น มีทางเดียวที่ผมพอจะนึกออก... แต่ถ้าพลาดขึ้นมา...นากิคงไม่รอดแน่
ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ถ้าไม่ทำตอนนี้เราก็คงไม่รอดเหมือนกัน ผมหายใจเฮือกใหญ่หนึ่งครั้ง... พยายามใจเย็นและทำทุกขั้นตอนให้ถูกต้อง
“คิดสิ! ใช้ความรู้ทั้งหมดที่แกมีซะ!!” ผมพูดบีบบังคับตัวเองและเริ่มคิดทันที ถ้าเกิดจะใช้เวทสักคาถากับคนอื่นเราก็ต้องทำให้คนนั้นมีเวทแบบเดียวกัน
ผมเคลือบตัวเองและนากิด้วยเวทออร่าสายฟ้าสีน้ำเงิน จากนั้นก็มองไอ้พวกแมงมุมสารเลวอย่างโกรธเคือง
“ลุยล่ะนะ!!!”
ผมใช้เท้ากระทืบพื้นอย่างแรงปล่อยสายฟ้าจำนวนมากออกไปรอบตัว การโจมตีนั้นทำให้พวกแมงมุมยักษ์ใกล้ ๆ ชะงักแต่พวกมันที่เหลือก็เตรียมจะยิงพิษ
เสี้ยววินาทีนั้นผมกวาดตาไปมาอย่างรวดเร็วมองหาสิ่งที่ผมต้องการจนกระทั่ง... นั่น!! ผมมองไปเห็นสายฟ้าเส้นหนึ่งที่ผ่านร่างของเหล่าแมงมุมอำมหิตออกไปได้และมันก็อยู่ทางเข้าซอกหินพอดี
ดวงตาของผมเบิกกว้าง ทุกอย่างรอบตัวช้าลง... สติของผมจดจ่ออยู่กับสายฟ้าเส้นนั้นที่เป็นเหมือนแสงสว่างท่ามกลางความมืดของพวกเรา ผมไม่สนใจแม้แต่พิษที่กำลังพุ่งเข้ามา
แต่ในตอนนั้นความคิดหนึ่งก็รั้งผมไว้... ปกติแล้วคาถานี้จะทำให้ฉันวาร์ปไปที่สายฟ้า แต่ฉันไม่เคยใช้เวทนี้พร้อมกับคนอื่นมาก่อน ถ้าเกิดเราไปแล้วนากิไม่ได้ไปด้วยล่ะ? เขาจะถูกทิ้งไว้ตรงนี้และโดนพิษแมงมุมตาย...
พอคิดแบบนั้นหัวใจของผมเต้นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความหวาดกลัว ผมได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจเหนื่อยหอบของตัวเองและรู้สึกสิ้นหวัง... ทำยังไงดี... ฉันควรทำยังไง...
แต่ระหว่างที่ผมตกอยู่ในพะวงความคิดเสียงเรียกอย่างทุกข์ทรมานของนากิก็ดังขึ้น “โยชิ...โระ”
ผมสะดุ้งจนได้สติกลับมา นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมฉันต้องเลือกด้วยล่ะ... ในเมื่อมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว!
ผมกัดฟันสลัดความกลัวและความกังวลทิ้งไปจนหมด พร้อมเพ่งสมาธิไปที่สายฟ้านั่นอย่างไม่ลังเลอีกต่อไป
“เงาอัสนี!!!” ทันทีที่ร่ายคาถาร่างของผมกับนากิก็กลายเป็นสายฟ้าและหายไปจากจุดนั้น
ชั่วพริบตาพวกเราก็ไปโผล่อีกครั้งที่สายฟ้านอกดงแมงมุมยักษ์อย่างน่าอัศจรรย์
สำเร็จ!!! ผมได้แต่อึ้งตะลึงด้วยความดีใจ ไอ้พวกแมงมุมชั่วมันพ่นพิษใส่ตรงกลางวงล้อมที่มีแต่ความว่างเปล่า ผมหันกลับไปมองข้างหลังอีกครั้งเพราะคิดว่าฝันไป แต่ไม่!! เราออกมาได้จริง ๆ ทั้งฉันและนากิ!!
พอตั้งสติได้ผมก็วิ่งเข้าไปในซอกกำแพงหินทันที พวกแมงมุมนั่นมันร้องระงมอย่างสับสนเพราะไม่รู้ว่าเราหายไปไหน แต่ฉันไม่สนใจหรอก!
ผมวิ่งไปจนถึงรูบนเพดานถ้ำซึ่งเป็นหลุมเดียวกันกับที่ผมและเจ้าแมวตกลงมา ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายของเท้าเทพอัสนีกระโดดเหยียบอากาศขึ้นไป จนในที่สุดผมก็แบกร่างของนากิออกมาจากดันเจี้ยนได้
///
เวลาต่อมาสักพัก ผมแบกเจ้าแมวลงจากภูเขาด้วยความอ่อนล้า ที่ข้างนอกนี่ใกล้จะมืดแล้วแฮะ...
เราออกมาจากดันเจี้ยนนรกนั่นได้ แต่ถึงอย่างนั้นนากิก็ยังโดนพิษอยู่...
“ยังหยุดไม่ได้...ฉันต้องพานากิไป...”
ผมยังคงเดินลงจากเขาพร้อมกับร่างของนากิด้วยแรงที่เหลือน้อยเต็มทน เขายังคงหายใจแรงจากฤทธิ์ของพิษ
“แข็งใจไว้ก่อนนะ” ผมพยายามบอกกับเจ้าแมว แต่เหมือนผมจะได้ใช้คำพูดนั้นกับตัวเอง... ผมหายใจหอบและลืมตาแทบไม่ขึ้น สังขารของผมในตอนนี้เหนื่อยล้ามากจากการใช้เงาอัศนี...
เพราะไม่เคยใช้เวทวาร์ปสองคนพร้อมกันมาก่อน ไม่สิ...ไม่เคยใช้กับคนอื่นด้วยซ้ำ มันเลยกินพลังงานในร่างกายของผมไปเยอะมาก
แต่ต่อให้เหนื่อยยังไงมันก็ยังไม่เท่าเจ้าแมวบนหลังนี่หรอก ไม่อยากเชื่อเลยว่านากิจะทนอยู่ในสภาพนี้มาตลอดสามวันได้... และยังมีแรงวิ่งหนีพวกแมงมุมตั้งขนาดนั้น แถมยังดูปกติจนเราไม่ทันสังเกต...
มันเป็นเรื่องปกติในชีวิตของเขาเหรอ? พวกแมวต้องอยู่กันแบบอด ๆ อยาก ๆ มาโดยตลอดเลยเหรอ? มันต้องหนักหนาสาหัสขนาดไหนถึงขั้นชินกับการอดอาหารข้ามวันข้ามคืนแบบนี้...
อยู่ ๆ นากิก็ละเมอพูด “พี่จะช่วยน้องให้ได้...อูบูเมะ”
หูจิ้งจอกของผมกระดิกเบา ๆ นั่นคงเป็นชื่อของน้องสาวที่เขาเคยเล่าให้ฟังสินะ ท่าทางจะรักกันมาก... แบบนี้ยิ่งทำให้ฉันต้องไปต่อ จะหยุดไม่ได้!
ฝีเท้าของผมย่ำไปอย่างเชื่องช้าท่ามกลางถนนดินในยามใกล้พลบค่ำ สติของผมค่อย ๆ เลือนลางลง ไม่ได้สิ... ฉันจะล้มตรงนี้ไม่ได้... นากิ ฉันต้องพาเขาไปหาใครสักคน หมอ...
แต่ในตอนนั้นสติของผมก็ดับวูบไปพร้อมกับความหวังที่สูญสิ้น...