เรื่องราวของเด็กหนุ่ม ผู้ใช้ชีวิตเป็นทหารเฝ้าระวังชายแดนที่มีฝีมือร้ายกาจ จนได้สมญานามว่า พยัคฆ์ขาว จนกระทั้งเขาได้ช่วยองค์หญิงใหญ่จากกลุ่มชนเผ่าอาจู แล้วเส้นทางชีวิตของเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงไป

เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน - ตอนที่ 8 ภารกิจ โดย JK.Joker @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,สงคราม,กำลังภายใน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,สงคราม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

กำลังภายใน

รายละเอียด

เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน โดย JK.Joker @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องราวของเด็กหนุ่ม ผู้ใช้ชีวิตเป็นทหารเฝ้าระวังชายแดนที่มีฝีมือร้ายกาจ จนได้สมญานามว่า พยัคฆ์ขาว จนกระทั้งเขาได้ช่วยองค์หญิงใหญ่จากกลุ่มชนเผ่าอาจู แล้วเส้นทางชีวิตของเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงไป

ผู้แต่ง

JK.Joker

เรื่องย่อ

วรยุทธ์ คือศาสตร์ศิลปะการต่อสู้ที่พัฒนามาจากการป้องกันตัวอย่างง่ายๆ ไปเป็นการสังหารศัตรูอย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งนานวันยิ่งมีรูปแบบที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ก่อเกิดกระบวนท่าต่างๆมากมาย โดยมีการหายใจเป็นพื้นฐานของกำลังภายใน

เหล่านักรบต่างถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้ให้กับชนรุ่นหลังผ่านคำสอนและม้วนตำรา จนพัฒนากลายเป็นวรยุทธ์ 

นักรบที่ได้ฝึกฝนวรยุทธ์จะมีความสามารถเหนือกว่าคนทั่วไป สามารถรับมือและเอาชนะคนจำนวนมากเพียงลำพังได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังวิ่งเร็วดั่งสายลม มีวิชาตัวเบาที่สามารถกระโดดจากต้นไม้อีกต้นไปยังอีกต้นได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีพลังเหนือมนุษย์อยู่ในร่างกาย ไม่ว่าจะใช้หมัดทลายก้อนหินหรือใช้กระบี่ฟันต้นไม้ขาดเป็นท่อนก็ทำได้และยิ่งมีกำลังภายในที่แข็งแกร่งมากขึ้น ก็ยิ่งมีทักษะและร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน

 

แต่ก็มีบ้างคนที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ ที่สามารถจากพัฒนากำลังภายในจนกลายเป็นพลังปราณที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า และแตกต่างจากกำลังภายในอย่างสิ้นเชิง พวกเขาจึงเรียกตนเองว่าผู้ฝึกตน 

ผู้ฝึกตนเหล่านี้จะฝึกฝนตนด้วยการบำเพ็ญ โคจรพลังปราณและดูดซับพลังชี่ จากธรรมชาติ พวกเขาจึงสามารถใช้พลังปราณในวิชาที่เหนือมนุษย์และเหนือธรรมชาติได้ สามารถเอาชนะศัตรูมากมายด้วยการปล่อยพลังจากฝ่ามือ ทั้งยังวิ่งเร็วดุจสายฟ้าหรือเหาะเหินเดินอากาศจากภูเขาลูกหนึ่งไปยังภูเขาอีกลูกหนึ่งภายในอึดใจเดียว อีกทั้งมีพลังมหาศาล สามารถใช้ฝ่ามือทลายขุนเขาหรือแม้กระทั้งใช้กระบี่ฟันต้นไม้หลายสิบต้นขาดเป็นท่อนล้วนแต่ทำได้ ด้วยความสามารถที่มากล้นเหล่านี้ ผู้ที่ขึ้นไปจุดสูงสุดของการฝึกฝนพลังปราณจะถูกเรียกว่า เซียน


ซึ่งผู้คนเหล่านี้ต่างเรียกขานตนเองว่าเป็นจอมยุทธ์  

 


นิยายเรื่องนี้ลงทุกวัน

เวลา 07.00น.

(ลงวันละหนึ่งตอนตามเวลา)

** ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ของผมด้วยนะครับ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่ผมยินดีนำเสนอและเขียนออกมาให้ดีที่สุด หวังว่าทุกท่านจะชอบนิยายเรื่องนี้ของผมนะครับ ขอบคุณท่านเข้ามาอ่านครับ**

 

สารบัญ

เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน-ตอนที่ 1 บุรุษหนุ่มหลงจิน,เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน-ตอนที่ 2 พยัคฆ์ขาว,เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน-ตอนที่ 3 กลับแคว้น,เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน-ตอนที่ 4 ใต้แสงจันทร์,เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน-ตอนที่ 5 การจากลา,เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน-ตอนที่ 6 ผู้มาเยือนจากเมืองหลวง,เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน-ตอนที่ 7 การพบเจอกันครั้งแรก,เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน-ตอนที่ 8 ภารกิจ,เซียนยุทธ์พิชิตฟ้า ใต้หล้าไร้เทียมทาน-ตอนที่ 9 จงหยวน

เนื้อหา

ตอนที่ 8 ภารกิจ

" เมื่อ 15 ปีก่อน มีเรือลำใหญ่ลอยตามน้ำมาจากทางเหนือของแคว้นตงฉิน บนเรือลำนั้นไม่มีผู้ใดนอกจากเด็กน้อยเพียงคนเดียว เราจึงรับมาเลี้ยงดูและได้ตั้งชื่อตามป้ายที่ติดตัวมาว่า หลงจิน เขาถูกเลี้ยงดูเป็นอย่างดีไม่ต่างจากเด็กคนอื่นๆ แต่หลงจินนั้นเป็นเด็กที่แตกต่างกว่าคนอื่นๆ และน่าทึ่งในเวลาเดียวกัน เขาสามารถเรียนรู้พื้นฐานการต่อสู้ ของทหารแคว้นตงฉินได้ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ด้วยร่างกายที่ไร้ซึ่งกำลังภายในใดๆ ราวกับร่างกายไม่สามารถฝึกกำลังภายในได้ ถึงแม้พละกำลังจะไม่มากเท่าผู้มีกำลังภายใน แต่ทักษะอันเฉียบคมและไหวพริบอันรวดเร็วก็สามารถทำให้เขาใช้วิชาดาบต่อสู้กับผู้ใหญ่ได้อย่างสูสี จนเขาอายุได้ 12 ปี เราจึงให้เขาไปพร้อมกับกองลาดตระเวนครั้งแรก แต่ครั้งนั้นกองลาดตระเวนถูกกลุ่มชนเผ่าทุ่งหญ้าอาจูดักซุ่มโจมตี แม้ครั้งนั้นจะไม่มีทหารตายแต่ก็มีทหารบาดเจ็บอยู่ไม่น้อย และในครั้งนั้นก็ทำให้หลงจินหายไปท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือด พวกเราจึงจัดกองกำลังตามหาเขาทั่วทั้หุบเขา แม้แต่ร่างของเขาเราก็หาไม่เจอ จนกระทั้งหลังจาก 3 เดือนผ่านไป เขาก็กลับมาพร้อมกับหัวเสือโคร่งขาว เขามาพร้อมกับกำลังภายในอันแข็งแกร่ง จนสร้างความสะพรึงกลัวให้กับชนเผ่าทุ่งหญ้า เพราะหลงจินสามารถฝ่าวงล้อมกองทัพนักรบชนเผ่าอาจูนับหมื่นไปสังหารหัวหน้าชนเผ่า ด้วยวีรกรรมนั้นทำให้กลุ่มชนเผ่ากล่าวขวัญว่าเป็นพยัคฆ์ขาวแห่งหุบเขาซีเป่ย นั้นแหละคือเรื่องราวของเจ้าหลงจินขอรับ " ฟางซือหรงยืนตรงหน้าอ๋องซ่งพลางเล่าประวัติชีวิอันอย่างยืดยาวของหลงจิน อ๋องซ่งนั่งหน้าโต๊ะกลมว่างกลางห้องพักฟังเรื่องราวของหลงจินอย่างสงบนิ่ง

" เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้านั้นไม่ได้มีหัวเสือตั้งแต่กำเนิดสินะ " อ๋องซ่งกล่าวแล้วยกสุราขึ้นมาดื่มพลางมองฟางซือหรงด้วยความสงสัย

" ใช่แล้วขอรับ " ฟางซือหรงกล่าวตอบ

" อืม ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าไปเรียกเจ้าเด็กหนุ่มนั้นมาหาข้าที " อ๋องซ่งพูด ฟางซือหรงได้ยินอย่างนั้นก็สงสัยอยู่ไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้ถามสิ่งใดออกไป

" ขอรับ เช่นนั้นข้าน้อยขอตัว " ฟางซือหรงกล่าวแล้วกุมมือโค้งคำนับ จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป

เมื่อฟางซือหรงเดินออกจากประตูเรือนใหญ่ก็เห็นหลงจินยืนพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ไม่ไกล จึงโบกมือเรียกหลงจินให้มาหา หลงจินที่ยืนมองอยู่ตลอดจึงเดินไปหาฟางซือหรงทันที

" ท่านอ๋องซ่งต้องการพบเจ้า " ฟางวือหรงพูดเสียงเรียบขณะที่หลงจินเดินเข้ามาใกล้

' เหตุใดถึงอยากพบข้ากัน? ' หลงจินคิดในใจด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่เอ่ยถามออกไป

" ทราบแล้วขอรับ " หลงจินไม่ได้แสดงท่าทางใดๆ นอกจากกุมมือกล่าวกับฟางซือหรง แล้วเดินเข้าไปภายในเรือนใหญ่อย่างไม่เร่งรีบอะไร

หลงจินเดินไปจนถึงหน้าประตูห้องพักของอ๋องซ่ง หลงจินก็สัมผัสรับรู้ถึงใครบ้างคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของประตู ทันใดนั้นประตูก็เลื่อนเปิดออกทันที แล้วผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็คือเยี่ยซูซูที่ยืนจ้องมองหลงจินด้วยแววตาเยือกชา

แต่หลงจินคิดไว้อยู่แล้วว่าคนที่เขาสัมผัสได้นั้นจะต้องเป็นเยี่ยซูซู จึงไม่ได้แปลกใจอะไร ได้แต่จ้องมองกลับอย่างไม่เกร่งกลัว

แล้วเยี่ยซูซูก็หลีกทางให้หลงจินเดินเข้าไปภายในห้อง ก็พบกับอ๋องซ่งที่นั่งดื่มสุราอย่างสงบนิ่งแล้วค่อยๆ หันมองมาทางหลงจิน แล้วหลงจินก็กุมมือโค้งคำนับอย่างนอบน้อม

" ข้าน้อยหลงจินขอรับ ท่านอ๋องเรียกพบข้ามีสิ่งใดเหรอขอรับ? " หลงจินกล่าวถามด้วยความสงสยทันที

" ที่ข้าเรียกเจ้ามาเพราะข้าได้ยินเรื่องราวและวีรกรรมของเจ้าจากแม่ทัพฟางซือหรงและจากองค์หญิงจ้าวหลินอิง ข้าจึงอยากจะมอบภารกิจหนึ่งให้เจ้าไปทำ เพราะข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องทำสำเร็จ " อ๋องซ่งกล่าวด้วยรอยยิ้มบ้างๆ อย่างชื่นชม

" ภารกิจเหรอขอรับ? " หลงจินพูดพลางมองอ๋องซ่งด้วยความสงสัย

" ใช่ แม้มันจะเสี่ยงอันตราย แต่ถ้าหากเจ้าทำสำเร็จ ข้าจะบันดาลสิ่งที่เจ้าต้องการ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร เงินทอง ลาภยศ หรือแม้แต่หญิงงาม ข้าก็สามารถบันดาลให้เจ้าได้หมด ว่าเช่นไร เจ้าสนใจทำภารกิจนี้หรือไม่ " อ๋องซ่งกล่าวกับหลงจินด้วยรอยยิ้มบางๆ พลางจ้องมองหลงจิน เมื่อได้ยินข้อเสนอ สิ่งหนึ่งที่หลงจินนึกขึ้นมาได้นั้นคือองค์หญิงใหญ่ หากเขานั้นต้องการคงเป็นการพบเจอองค์หญิงใหญ่อีกครั้ง ซึ่งหลงจินได้ได้กังวลถึงอันตรายในภารกิจเลยสักนิด จนเขานั้นตัดสินใจ

" ได้ขอรับ ข้าน้อยจะทำภารกิจให้กับท่านขอรับ " หลงจินกล่าวเสียงเรียบ อ๋องซ่งก็ยกยิ้มกว้างขึ้นด้วยความดีอกดีใจ

" ดี!~ แล้วเจ้าปรารถนาสิ่งใดล่ะ ข้าจะได้จัดเตรียมหลังจากเจ้าทำภารกิจสำเร็จแล้ว " อ๋องซ่งพูดด้วยรอยยิ้มดีใจที่สามารถชวนให้พยัคฆ์ขาวมาทำงานให้กับตนได้

" ข้าน้อยปรารถนาเพียงแค่ต้องการพบเจอองค์หญิงใหญ่อีกครั้งหนึ่งขอรับ " หลงจินกุมมือมือขึ้นพร้อมกับก้มหน้าลงพลางพูดด้วยความจริงใจ เมื่ออ๋องว่งได้ยินเขาก็หยุดชงักไปครู่หนึ่งจนต้องหุบยิ้มแต่แล้วเขาก็ยิ้มและหัวเราะออกมา

" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ได้สิ ข้าจะให้เจ้าได้เจอกับองค์หญิงจ้าวหลินอิง อย่างที่เจ้าต้องการ " อ๋องซ่งกล่าวด้วยรอยยิ้มแล้วยกสุราขึ้นมาดื่มพลางจ้องมองหลงจินอย่างมีเลศนัย หลงจินได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจอยู่ไม่น้อย

" ขอบคุณขอรับ แล้วภารกิจที่ท่านจะให้ข้าน้อยไปทำคืออะไรขอรับ " หลงจินพูด

" ภารกิจที่ข้าจะให้เจ้าไปทำ คือการลอบสังหารองค์ชายเหยียนรุ่ยรัชทายาทแห่งแคว้นจงหยวนและขุนนางแคว้นจงหยวน 4 คน พวกมันเป็นต้นเหตุที่ทำให้องค์หญิงจ้าวหลินอิงต้องโดนจับ " อ๋องซ่งพูดพร้อมกับมองหลงจิน จากนั้นก็หยิบเอาม้วนกระดาษให้กับหลงจิน

" นั้นคือชื่อของคนที่เจ้าต้องไปสังหาร เมื่อสังหารทั้ง 5 คนแล้วกลับมา ข้าจะให้เจ้าได้พบเจอองค์หญิงจ้าวหลินอิงอีกครั้ง ภารกิจนี้เป็นภารกิจลับ ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด " อ๋องซ่งกล่าว แล้วหลงจินก็รับม้วนกระดาษมาเปิดอ่านภายในด้วยแววตาเรียบเฉย จากนั้นก็กุมมือคำนับอ๋องซ่ง

" ข้าน้อยรับทราบ ท่านอ๋องรอฟังข้าวได้เลยขอรับ " หลงจินพูดเสียงเรียบเฉยราวภารกิจที่เขารับมานั้นไม่ได้ยากเย็นเท่าไร

" ข้าไม่มีอะไรแล้วเจ้าไปเถอะ ข้าก็จะกลับไปเมืองหลวงรอฟังข่าวดี " อ๋องซ่งพูด

" ขอรับ เช่นนั้นข้าน้อยขอตัว " หลงจินกล่าวพลางกุมมือโค้งคำนับ แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป อ๋องซ่งมองตามหลังหลงจินด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นสีหน้าบึ้งตึงอย่างไม่พึงพอใจ

' ข้าคาดหวังว่าเจ้าจะทำภารกิจนี้สำเร็จ แต่อย่าได้หวังว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาพบองค์หญิงจ้าวหลินอิงอีกเลย หึ หึ หึ ' อ๋องซ่งหัวเราะในใจด้วยสีหน้าอันเย็นชา

หลังจากที่หลงจินได้พบอ๋องซ่งเสร็จก็เดินออกมาจากเรือนใหญ่ ก็พบกับฟางซือหรงที่ยืนรออยู่ด้านนอกพร้อมกับคังฉี เมื่อเห็นหลงจินเดินออมาก็รีบเดินไปหาทันทีด้วยความสงสัย

" ท่านอ๋องเรียกเจ้าไปทำไมกัน? " ฟางซือหรงพูดถามในทันที

" ท่านอ๋องเรียกข้าไปเพื่อมอบหมายภารกิจให้กับข้านะขอรับ ข้าคิดว่าจะเดินทางในทันที " หลงจินพูดตอบ

" ภารกิจอะไร? " ฟางซือหรงยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่

" ข้าไม่อาจบอกท่านได้ เพราะมันเป็นภารกิจลับ และข้าต้องการจัดการให้เร็วที่สุด เพราะฉนั้นข้าคงไม่กลับมาสัก 2 อาทิตย์ " หลงจินพูด

" เอาเถอะ หากเจ้าไม่บอกก็ไม่เป็นไร แต่ข้าพอรู้ว่าเป็นภารกิจเสี่ยงตาย เพราะฉนั้นดูแลตัวเองด้วยล่ะ หากทำไม่สำเร็จก็กลับมา ข้าจะขอชีวิตเจ้าไว้เอง " ฟางซือหรงพูดด้วยความเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย แม้จะรู้ความสามารถของหลงจินดีอยู่แล้วก็ตาม

" ขอรับ ข้าจะระวังตัวให้ดีขอรับ " หลงจินกล่าวอย่างหนักแน่นและมั่นใจ จากนั้นก็กุมมือยกขึ้นโค้งคำนับฟางซือหรงและคังฉีอย่างนอบน้อม

" เช่นนั้นข้าไปก่อนล่ะ " หลงจินพูดแล้วเดินจากไปในทันที

" ภารกิจจากท่านอ๋องซ่ง ภารกิจนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเจ้าหลงจินของเขาก็เป็นได้ " ฟางซือหรงมองตามหลังหลงจินด้วยความคาดหวังในตัวเด็กหนุ่มตรงหน้า