วันหนึ่ง 'กวิน' นักโทษผู้มีวิชาอาคมได้พบกับบางอย่างที่แปลกประหลาด มีระบบผู้ช่วยปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา มิหนำซ้ำมันยังพาเขาทะลุไปยังกรุงอยุธยา!

ระบบผู้ช่วยจอมขมังเวทย์ในกรุงศรีอยุธยา - ตอนที่ 1 + 2 จอมขมังเวทย์ + กรุงศรีอยุธยา โดย peacemaker @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ย้อนยุค,สงคราม,ไทย,แอคชั่น,คนไทย,นิยายแนวระบบ,ระบบผู้ช่วย,ต่อสู้,เวทมนตร์,พระเอกเทพ,คาถาอาคม,กรุงศรีอยุธยา,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระบบผู้ช่วยจอมขมังเวทย์ในกรุงศรีอยุธยา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ย้อนยุค,สงคราม,ไทย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

คนไทย,นิยายแนวระบบ,ระบบผู้ช่วย,ต่อสู้,เวทมนตร์,พระเอกเทพ,คาถาอาคม,กรุงศรีอยุธยา,แฟนตาซี

รายละเอียด

วันหนึ่ง 'กวิน' นักโทษผู้มีวิชาอาคมได้พบกับบางอย่างที่แปลกประหลาด มีระบบผู้ช่วยปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา มิหนำซ้ำมันยังพาเขาทะลุไปยังกรุงอยุธยา!

ผู้แต่ง

peacemaker

เรื่องย่อ

 

วันหนึ่ง ‘กวิน’ นักโทษผู้มีวิชาอาคมได้พบกับบางอย่างที่แปลกประหลาด มีระบบผู้ช่วยปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา มิหนำซ้ำมันยังพาเขาทะลุมิติไปที่กรุงศรีอยุธยาอีก!

แต่อยุธยาที่ว่านั่นไม่ใช่อยุธยาแบบที่เขารู้จัก แต่มันต่างโลกเวอร์ชั่นไทย!!!

 

 

สารบัญ

ระบบผู้ช่วยจอมขมังเวทย์ในกรุงศรีอยุธยา-ตอนที่ 1 + 2 จอมขมังเวทย์ + กรุงศรีอยุธยา,ระบบผู้ช่วยจอมขมังเวทย์ในกรุงศรีอยุธยา-ตอนที่ 3 + 4 นายจันทร์ หนวดเขี้ยว + เควส!?,ระบบผู้ช่วยจอมขมังเวทย์ในกรุงศรีอยุธยา-ตอนที่ 5 + ตอนที่ 6 ถูกโจมตี + ประลองอาคม

เนื้อหา

ตอนที่ 1 + 2 จอมขมังเวทย์ + กรุงศรีอยุธยา

ตอนที่ 1 จอมขมังเวทย์


ภายในห้องขังทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสปิดทึบ มีชายผมยาวรุงรังคนหนึ่งซึ่งร่างกายเต็มไปด้วยรอยสักอักขระเวทย์ยันต์นั่งอยู่ตรงกลางห้องอย่างเฉื่อยชา สภาพของเขานั้นถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ตรวนอย่างแน่นหนา เขากวาดสายตามองผนังห้องอย่างพินิจ เพราะรอบๆ ข้างนั้นเต็มไปด้วยอักษรโบราณที่ถูกสลักไว้ใส่ทุกๆ ด้าน ราวกับว่ามันคือสิ่งที่สะกดชายคนนี้เอาไว้


 

นี่คือห้องขังพิเศษสำหรับผู้ต้องหาคดีเหนือธรรมชาติแห่งกรุงเทพมหานคร ‘โลกันต์’


 

ชายคนนั้นคือ ‘กวิน’ ผู้ที่ได้ฉายาว่าจอมขมังเวทย์ซึ่งเป็นราชาแห่งคาถาอาคม เขาคือตัวอันตรายที่แม้แต่ทางการก็ต้องระมัดระวังไว้ เป็นปีศาจร้ายในคราบมนุษย์ที่ผู้คนพากันหวาดกลัวและหวั่นเกรง



 

เขาแหงนหน้าขึ้นมองบางอย่างที่แสดงอยู่ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ มันคือหน้าต่างประหลาดที่อยู่ๆ ก็ปรากฎขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ



 

[ต้องการติดตั้งระบบหรือไม่?]



 

‘นี่เราติดคุกมานานจนเกิดภาพหลอนเหรอ?’


 

เขามองภายตรงหน้าพลางกับเอียงคอ ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมาเขาเพิ่งจะเคยเห็นอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก เขาได้แต่สงสัยว่าทั้งหมดนี่มันเป็นเพราะความเหงางั้นเหรอ มันจึงเกิดภาพหลอนแบบนี้


 

กวินหรี่ตามองก่อนจะถอนหายใจ ถ้าเขาไม่ใช่นักโทษที่อันตรายที่สุดในประเทศไทย บางทีเขาก็คงจะได้ออกไปวิ่งเล่นบ้างแล้ว ไม่ต้องมาอุดอู้อยู่แต่ในห้องขังเป็นสิบๆ ปีจนเกิดภาพหลอนแบบนี้



 

[เนื่องจากไม่มีการตอบรับระบบจึงได้ทำการติดตั้งอัตโนมัติ]


 

[กำลังติดตั้งระบบ อาจใช่เวลาสักครู่…]



 

กวินไม่ได้สนใจมากนัก เขาจึงเบือนหน้าหนีจากสิ่งที่ปรากฎตรงหน้าเขา 


 

‘ต้องหาวิธีบอกผู้คุมให้พาเราไปคุยกับจิตแพทย์ให้ได้แล้วล่ะ อาการเราคงหนักน่าดู’


 

ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรต่อ สิ่งนั้นก็แสดงตรงหน้าเขาอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า



 

[ติดตั้งระบบเสร็จสิ้น]


 

[ยินต้อนรับท่านเข้าสู่การใช้งานระบบผู้ช่วยจอมขมังเวทย์]


 

[ชื่อ : กวิน]

[เลเวล : ???]

[อายุ :???ปี]

[ความสามารถพิเศษ : เวทมนตร์ไทย]


 

เมื่อได้อ่านจนจบกวินก็ส่ายหน้าอ่อน นี่ความหลอนของเขามันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนั้นเลยเหรอ? เขารู้สึกสมเพชตัวเองจริงๆ ที่มาถึงจุดนี้ได้


 

กวินถอนหายใจเบาๆ เพื่อระบายความหงุดหงิดใจ ถึงจะรู้อยู่แล้วเถอะว่ามันไม่ใช่ของจริง แต่มันนั้นก็น่าสนใจไม่น้อย กวินหรี่ตาก่อนจะเริ่มเปิดปาก เขาไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้ว นี่มันก็แค่ภาพหลอน ถ้าตอนนี้เขาหาทางแก้ไม่ได้เขาก็แค่ต้องสนุกไปกับมัน


 

“นี่ระบบ แกทำอะไรได้บ้าง?”


 

กวินไม่นึกไม่ฝันเลยว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องมาคุยคนเดียวแบบนี้ 


 

[มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำกับท่านค่ะ]


 

[อ๋อ ใช่ค่ะ อีกอย่างคือพาท่านออกจากคุกโลกันต์]


 

เมื่อกวินเห็นแบบนั้นเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ


 

‘ช่วยออกจากคุกงั้นเหรอ?’


 

‘ถ้านี่เป็นจิตใต้สำนึกของเรามันก็ช่างน่าตลกเหลือเกิน’


 

เขาหรี่ตามองระบบ ก่อนจะนึกอย่างขบขัน เขาไม่มีอะไรที่ต้องคิดมากอยู่แล้วหากจะทำอะไรเล่นๆ เพราะว่ากวินนั้นรู้ดีว่าตนนั้นไม่สามารถออกจากคุกนี้ได้


 

เขากวาดตามองอักขระบนผนัง 


 

‘นั่นคือคาถาสะกดอาคมที่ใช้พระกว่า 78 องค์ จาก 44 วัดร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อสะกดอาคมเรา มันคงไม่มีทางจะถอนพลังจากอักขระนั้นได้หรอก’


 

เมื่อเขาสรุปความคิดได้ก็หรี่สายตามองระบบอย่างนึกสนุก


 

“นี่เจ้าระบบ ถ้าทำได้ก็ลองดูสิ แกลองพาฉันออกไปดู”


 

[รับทราบค่ะนายท่าน]


 

ในขณะนั้นเองก็มีสัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยมปรากฎขึ้นที่พื้นตรงกวินนั่งอยู่ จอมขมังเวทย์เบิกตากว้างมองอย่างตกใจ ก่อนที่ทุกๆ อย่างจะสว่างจ้าไปหมด


 

“เฮ้ย!?”




 

ฟิ้วววว!




 

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก กวินรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตนนั้นนอนอยู่ที่กลางป่า เขาค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นอย่างปวดเนื้อปวดตัว 


 

‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ?’


 

เขาบ่นอุบอิบในใจขณะปัดเสื้อผ้าตัวเอง แต่แล้วเขาก็ต้องชะงัก เสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นไม่ใช่ชุดนักโทษ แต่เป็นเสื้อฮาวายสีดำและกางเกงยีนส์ กวินมองภาพนี้งงๆ อย่างไม่เข้าใจนัก


 

เขารู้สึกช็อกมากจนพูดไม่ออก นี่มันใช่ความจริงแน่เหรอ ตอนนี้เขาออกมาจากคุกแล้วจริงๆ เหรอ และเขาก็มองออกว่านี่ไม่ใช่ความฝันเพราะมันสมจริงเกินไป


 

‘ไอ้ระบบนั่น… มันของจริงเหรอ?’


 

เขานิ่งตะลึงงันจนทำตัวไม่ถูก แต่อยู่ๆ ในขณะนั้นเองก็มีบางอย่างมาดึงเขาออกจากภวังค์


 

กรร


 

โฮ้ก!


 

เสียงคำรามของสิ่งมีชีวิตประหลาดมีรูปร่างคล้ายเสือโคร่งปรากฎตัวออกมาจากกอไผ่ หางทั้งสิบของมันโบกสะบัดพร้อมกับแยกเขี้ยวร้องคำรามอีกครั้ง



 

โฮ้กกก!


 

กวินหรี่ตามองสัตว์ประหลาดอย่างพินิจ 


 

“นี่มันตัวอะไรวะเนี่ย?”


 

ทันใดนั้นเองระบบก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา


 

[ยินดีต้อนรับสู่กรุงศรีอยุธยาค่ะนายท่าน]


 

“กรุงศรีอยุธยางั้นเหรอ?”


 

กวินรีบหันไปทางระบบแล้วกล่าวออกมาอย่างฉงน


 

[จะพูดให้ถูกคือกรุงศรีอยุธยาในโลกคู่ขนานน่ะค่ะ เป็นโลกที่เหมือนกับอยุธยาแค่บางอย่าง แล้วก็มีเรื่องราวของสัตว์ประหลาดและเวทมนตร์มากกว่า]


 

พออ่านจบกวินก็พยักหน้า


 

“เหมือนต่างโลกเวอร์ชั่นไทยงั้นสินะ?”


 

[เข้าใจถูกแล้วค่ะ!]


 

เมื่อเห็นแบบนั้นกวินก็หันไปจ้องเจ้าเสือโคร่งยิ้มๆ 


“รูปร่างสวยมาก ถ้าลอกหนังไปขายคงมีเงินตั้งต้นชีวิตใหม่เยอะพอตัว”


 

[เห็นด้วยเลยค่ะ]




ตอนที่ 2 กรุงศรีอยุธยา

 

กวินมองเสือร้ายสิบหางอย่างขบขันก่อนจะย่อตัวลงนั่งยองๆ มองมันอย่างพินิจ ส่วนมันก็จ้องเขากลับพร้อมแยกเขี้ยวคำรามแสดงความดุดันเช่นกัน เขายกยิ้มมุมปากอย่างสนอกสนใจเจ้าเสือตัวนั้นมาก มันมีลักษณะที่แปลกประหลาดแตกต่างจากเสือทั่วไปและดูพิเศษ ตอนนี้เขาชักสนใจต่างโลกนี่เข้าให้แล้ว


 

ทันใดนั้นเขาก็เริ่มสังเกตถึงความแปลกประหลาดอีกอย่าง ตอนนี้รอยสักอักขระบนตัวเขานั้นหายไปหมดแล้ว มีเพียงแค่ที่หลังมือขวาเท่านั้นที่มีรอยสักประหลาดสีแดงปรากฎอยู่ 


 

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”


 

เขายกหลังมือชูขึ้นและเพ่งสายตามอง นี่เป็นรอยสักที่ทั้งชีวิตเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย


 

ตอนนี้คำถามมากมายเกิดขึ้นเต็มห้วงความคิด กวินมีแต่ความสงสัยต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งการเดินทางข้ามมิติ รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป ตอนนี้พอหายตกใจทุกอย่างก็เปลี่ยนมาเป็นความฉงน และสิ่งเดียวที่ให้คำตอบเขาได้ก็คือระบบ


 

กวินแหงนหน้าขึ้นมองสูง ก่อนที่จะกล่าวคำถาม


 

“ระบบ… ช่วยอธิบายทุกอย่างทีได้รึเปล่า ว่ามันมีที่มาที่ไปเป็นยังไง?”


 

ไม่ทันที่ระบบจะได้โต้ตอบ เจ้าเสือร้ายสิบหางที่เฝ้าดูเชิงมานานก็เริ่มกระโจนเข้าใส่ กวินหันไปมองทางมันที่กระโจนเข้ามาพร้อมกับเริ่มพึมพำอะไรบางอย่าง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นภาษาอะไร ก่อนจะตวาดออกมาเสียงดังลั่นอย่างดุดัน



 

“เฮ้ย!”



 

ทันใดที่สิ้นเสียงร่างเสือร้ายก็หยุดค้างกลางอากาศราวกับเวลาถูกหยุด มันแน่นิ่งก่อนจะร่วงลงที่พื้นนอนไม่ขยับ



 

[คาถา : นะจังงัง]


 

[ผลลัพธ์ : หยุดทุกการเคลื่อนไหวของเป้าหมายที่เลือก]



 

กวินที่เห็นแจ้งเตือนขมวดคิ้ว ระบบนี่มันตั้งใจกวนเขารึเปล่า ทำไมมันต้องขึ้นชื่อคาถาของเขาอย่างป่าวประกาศด้วย มันทำกวินรู้สึกว่าตนนั้นกลายเป็นพระเอกของการ์ตูนเด็ก


 

และใช่ นะจังงังคือคาถาที่เขาใช้กับเสือร้ายสิบหางที่กำลังจะมารบกวนการหาคำตอบของเขา กวินหันไปมองระบบอีกครั้ง แต่เหมือนว่าคำตอบที่ได้จะทำเขาหงุดหงิดใจไม่น้อยเลย


 

[ไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะนั่นถือเป็นข้อมูลระดับสูง ท่านต้องผ่านเควสระดับ 7 ดาว ให้ได้ก่อนถึงจะสามารถเข้าถึงข้อมูลพวกนั้นได้]


 

“เควส?”


 

กวินถอนหายใจอ่อนระบบนี่มันช่างลึกลับจริงๆ แต่ช่างมันเถอะ เพราะตอนนี้ถ้ามองในแง่ดี เขาก็ได้ออกจากคุกแล้ว


 

กวินสูดหายใจเข้าปอดสยบความสงสัย ก่อนจะหันมองไปทางเสือสิบหาง


 

“โอเค งั้นอย่างน้อยช่วยอธิบายข้อมูลที่ควรรู้ของโลกนี้ที”


 

[ได้เลยค่ะ]


 

กวินพยักหน้าอย่างพึงใจ


 

[ที่นี่คือกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นมิติคู่ขนานกับมิติที่ท่านเคยอาศัย]


 

[ที่นี่คืออาณาจักรไอยรา อันมีกรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองหลวง และมีเมืองรอบๆ อีก รวมแล้วสิบสองเมือง]


 

[ในมิตินี้ถึงจะมีหลายอย่างคล้ายคลึงกับมิติที่ท่านจากมา แต่ก็มีสิ่งที่แตกต่างจากมิติของท่านอยู่หลายอย่าง เช่นในมิตินี้มีภัยคุกคามจากสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ ซึ่งคนที่นี่เรียกมันว่า ‘อสูร’ อาศัยอยู่ในป่าและสร้างเดือดร้อนให้ชาวบ้านชาวเมืองเสมอ]


 

กวินที่อ่านมาถึงตรงนี้ยกมือขึ้นกอดอก ตอนนี้โลกคู่ขนานดูน่าสนใจมากๆ เลยในสายตาเขา


 

[และในมิตินี้ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่โลกของท่านไม่มี นั่นคือ ‘พรานทมิฬ’]


 

กวินเลิกคิ้วสูง


 

‘พรานทมิฬ’


 

[พรานทมิฬคือเหล่านักล่าอสูรที่ขึ้นตรงกับกระทรวงเวทมนตร์แห่งอาณาจักรไอยรา]


 

[ข้อมูลสำคัญ : ในโลกนี้มีการแบ่งระดับอสูรและพรานทมิฬเป็น 7 ระดับ นั่นคือ 1-7 ดาว ยิ่งดาวเยอะก็แสดงถึงความเก่งกาจและอันตราย]


 

กวินที่อ่านจนจบก็หันไปทางเจ้าเสือสิบหางที่นอนแน่นิ่ง


 

“งั้นไอ้นี่มันกี่ดาว แล้วมันคืออสูรที่มีชื่อว่าอะไร?”


 

ระบบตอบสนองต่อคำถามทันที


 

[เสือไฟ ระดับ 3 ดาว]


 

‘เป็นแค่ระดับ 3 ดาวสินะ ถึงว่าทำไมถึงอ่อนแอจัง’


 

กวินใช้เท้าเขี่ยหน้าเสือร้ายสิบหางหรือเสือไฟ เขาชอบเจ้าเสือตัวนี้จริงๆ รูปร่างหน้าตามันดูสวยมากเกินกว่าจะปล่อยทิ้งไว้


 

‘ไม่อยากฆ่ามันเลยแฮะ พอคิดดูดีๆ แล้ว’


 

กวินส่ายหน้าไปมา เขาตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว เขาจึงง้างปากเจ้าเสือไฟ ก่อนจะใช้มือออกแรงดึงเขี้ยวนั้นด้วยพละกำลังทั้งหมดจนหลุดออกมาทั้งรากฟัน


 

ฉึ่ก!


 

เลือดสีแดงกระฉูดออกมาเลอะมือจอมขมังเวทย์เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจและเพียงแค่สะบัดมือไปมาสองสามครั้งเท่านั้น


 

[ท่านจะทำอะไรเหรอคะ?]


 

“ไม่ต้องรู้หรอก”


 

กวินตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง


 

แต่ในขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกวินก็ได้ยินเสียงของใบไม้แห้งที่ถูกเหยียบ ก่อนในชั่วเสี้ยววินาทีนั้นจะมีกลุ่มคนมากกว่าสิบคนโผล่มาล้อมเขาไว้ ลักษณะการแต่งกายของคนพวกนี้นั้นค่อนข้างจะแปลกประหลาดในสายตากวิน มันคือกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เปลือยท่อนบนสวมแค่จงกระเบนสีแดงท่อนล่างเพียงแค่อย่างเดียว


 

ทุกๆ คนมีอาวุธครบมือทั้ง ดาบ ขวาน ทวน ธนู ซึ่งดูเจตนาออกได้ไม่ยากเลยว่ามาอย่างมิตรหรือศัตรู


 

ในขณะที่กวินกำลังมองสำรวจกลุ่มคนปริศนาอย่างพินิจ ชายคนหนึ่งก็เดินตรงเข้ามาหาเขา ชายคนนี้แต่งตัวแตกต่างจากทุกคน เขาสวมเสื้อลงอักขระสีแดง และทุกย่างก้าวที่เดินดูมีบารมีและมีอำนาจในการข่มขวัญผู้คน


 

เขาชี้ดาบหัวปลาหลดมาที่หน้ากวินพร้อมกับเพ่งสายตามอง


 

“เอ็งเป็นใครไอ้หนุ่ม การแต่งตัวดูเหมือนจะไม่ใช่คนที่นี่?”