เพื่อแก้แค้นแล้วผมคงต้องหาตัวช่วย และบัฟผมคือคุณพระเอกพูดน้อยต่อยหนักนั่นเอง

พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย - Prologue Prologue โดย RGeraniuM @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ตะวันตก,ทะลุมิติ,คอมเมดี้,บู๊,พระเอกเทพ,ตัวร้าย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ทะลุมิติ,คอมเมดี้,บู๊,พระเอกเทพ,ตัวร้าย

รายละเอียด

เพื่อแก้แค้นแล้วผมคงต้องหาตัวช่วย และบัฟผมคือคุณพระเอกพูดน้อยต่อยหนักนั่นเอง

ผู้แต่ง

RGeraniuM

เรื่องย่อ




Writer : RGeraniuM
Illust : UNe1st
Typography : Rainrily & LaLina




!!WARNING!!
!คำเตือนค่ะคำเตือน!
           นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาเพื่อความบันเทิงส่วนตัวไรท์เองล้วนๆ 
            แนววายแฟนตาซี มีตั้งแต่ฉากผ่อนคลาย อบอุ่นใจ จนถึงดราม่าแอนดาร์กระดับปานกลาง
ในเรื่องมีฉากที่ใช้ความรุนแรงและเลือดสาดบ้าง เพราะงั้นอ่านโปรดระวังและใช้วิจารณญาณนะคะ

ในส่วนของโพตัวเอกนั้นไม่ฟิกโพ (ผลัดกันรุกผลัดกันรับ) แล้วนอกจากคู่ชาย-ชายแล้ว เรื่องนี้คู่รองอยู่อีกสองคู่ซึ่งเป็นคู่หญิง-หญิงกับคู่ชาย-หญิงค่ะ

***ฉากเซ็กซ์มีการอ้างอิงวิธีการบางส่วนแต่ไม่สมจริงทั้งหมดนะคะ อย่างไรก็ตาม ทางไรท์แนะนำกับผู้อ่านว่าก่อนมีเซ็กซ์ควรเตรียมตัวเตรียมใจ ถูกต้องตามหลักสุขอนามัยเป็นอย่างดีเสมอค่ะ

สารบัญ

พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Prologue Prologue ,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 1 ที่มาที่ไป,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 2 ออดอ้อนเผื่อได้,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 3 ทำงานแลก,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 4 “รูปภาพสั่งตาย”,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 5 ตามข้อตกลงไง,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 6 เรียนรู้ความเห็นอกเห็นใจ,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 7 เป้าหมายเดียวกัน,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 8 ไม่เป็นตัวถ่วงหรอก,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 9 ชอบแย่งของพระเอก,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 10 คนที่ใครๆ ก็เคยเห็น,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 11 ตามเงาดำไป,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 12 “ศิลาแห่งลาเมนท์”,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 13 ความช่วยเหลือจากอัศวิน,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 14 กริชเงา,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 15 พอดีไม่ค่อยชอบหน้า,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 16 น่าเป็นห่วงสุดๆ ,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 17 ไปอยู่ด้วยกันทำไม?,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 18 คุณพระเอกเป็นบ้าอะไรค้าบบบบ!!,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 19 มองเพราะคุ้นหน้า?,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 20 นอนตรงไหนใช่ปัญหา,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 21 ทำไมไม่บอกฉัน,พาพระเอกมาเป็นตัวร้าย-Chapter 22 เพราะหิวไง

เนื้อหา

Prologue Prologue

เดิมทีโลกใบนี้มีสัตว์อยู่สองประเภท อันได้แก่ สัตว์นักล่าและเหยื่ออย่างสัตว์กินพืช หลายครั้งมนุษย์อาจคิดทะนงว่าตนคือ ‘นักล่า’ ที่เป็นที่สุดเหนือกว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกทั้งใบ เพราะมีอารยธรรมกับความฉลาดที่ส่งต่อกันมา มันก็ใช่ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่

เพราะในบางครั้งมนุษย์กลับเป็นแค่ ‘เหยื่อ’ ที่รู้จักวิธีปกป้องตัวเองเท่านั้น ไม่ได้พิเศษพิโสและไม่ได้ต่ำต้อย

แต่กับมนุษย์บางคนที่ผ่านการต่อสู้มานาน วันหนึ่งก็ก้ามข้ามเป็น ‘นักล่าฉกาจ’ ได้เช่นกัน





“เดิมพัน 50 กิลครับ”


ชายหนุ่มในเครื่องแบบฮันเตอร์นามว่า ‘บิทเทอ โลฮาส’ นั่งตรงข้ามหญิงวัยกลางคน ภายในห้องกว้างที่มีเพียงแสงสลัวจากโคมไฟข้างโต๊ะกับเชิงเทียนตั้งตามมุมต่างๆ ความสว่างเหล่านั้นสร้างบรรยากาศอบอุ่น แต่ขณะเดียวกันเงามืดก็ทำให้บางจุดแลดูน่ากลัว


ท่ามกลางพื้นที่อบอวลกลิ่นอายสงบยามดึกนี้ ปรากฏเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าใสทอดมองรอรับคำตอบจากคู่สนทนา


“เดิมพันสูงเหมือนเดิมเลย ไม่กลัวตายเหรอ?”
เสียงโทนต่ำตอบกลับพลางหัวเราะในลำคอ หญิงคนนี้คือ ‘ยานรัม ฮิลล์’ ทำหน้าที่บันทึกภารกิจฮันเตอร์ที่เข้ามารับงานต่างๆ ทางด้านบิทเทอได้ยินเช่นนั้น พลันเสสายตามองหน้าต่างบานกว้างด้วยท่าทีเฉยเมย จากนั้นตอบเสียงเฉื่อยหน่าย


“ไม่กลัว” 


“ปล่อยวางเรื่องล่าฆ่าฟันไม่ได้เลยล่ะสิ”


“คงอย่างงั้นครับ”


ในสายตาที่มองออกนอกหน้าต่างนั้น มีสิ่งหนึ่งกำลังปรากฏ นั่นคือความต้องการชายคนนี้ที่มักโหยหามันเสมอ โหยหาเสียจนบางครั้งก็แอบพิกลใจตนเอง 


“ยังหนุ่มยังแน่นอย่างนายเนี่ย ถึงไม่ตายง่ายๆ ก็ระวังตัวไว้หน่อยก็ดี” 


เธอยิ้มกว้างพร้อมกับเปล่งเสียงหัวเราะชอบใจเบา ในฐานะผู้รับรู้กิจวัตรฮันเตอร์คนนี้เป็นอย่างดี จึงไม่ยากที่จะเดาออกว่าเขาคิดจะทำอะไรต่อไป บิทเทอยกมุมปากส่งให้ในช่วงเวลาสั้นๆ อาจเป็นเพราะอำนาจแสงที่ไม่มากพอ ทำให้ยานรัมไม่เห็นชัดว่าเขาเผยรอยยิ้มนั้นด้วยความรู้สึกแบบไหน


“งั้นขอตัวก่อน”


ร่างโปร่งในชุดดำไม่คอยท่า กล่าวลาคนตรงหน้าหวังดำเนิน ‘กิจวัตร’ นั่นต่อ 


“โชคดีล่ะ คุณฮันเตอร์” 


เธออวยพรพร้อมเท้าคางส่งยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง จนเมื่อเขาก้าวออกจากสำนักงานก็ตรงไปยังอีกสถานที่หนึ่งทันที โดยตั้งเป้าหมายยึดมั่นเอาไว้ในอก เท้าย่างเดินบนพื้นอิฐผ่านบ้านเมืองที่มีแสงเพลิงส่องจากเสาไฟข้างทาง หรือไม่ก็จำพวกตะเกียงห้อยตามหน้าบ้านเป็นหย่อมๆ 


มีสิ่งหนึ่งที่เขาตามหามาตลอด แต่เขาก็อธิบายไม่ได้ว่ามันคืออะไร


เขาไม่เคยคิดจะล้มเลิกแม้ไม่เข้าใจการกระทำตน กลับรู้สึกกระชุ่มกระชวยทุกครั้งที่เห็นความตายอยู่ตรงหน้า ราวกับว่าบางสิ่งทำให้หัวใจอบอุ่นอีกครั้ง เหมือนมันกำลังกลับมา 
แต่สุดท้ายมันก็อยู่ได้ไม่นาน
อยากมาก อยากได้อีก 


ขอมันได้มั้ย? ขอเข่นฆ่าเดรัจฉานพวกนั้น


ใบหน้าคมคายผิวขาวกระจ่าง ดวงตาสีฟ้ามองตรงไปตามทางเดินแคบ เส้นผมบลอนด์ขาวสั่นไหวตามแรงลมพัดผ่าน จากสีหน้าเรียบนิ่งยากจะคาดเดาก็ผันเปลี่ยนไป มุมปากปรากฏรอยยิ้มอ่อน หลังจากที่ครุ่นคิดในหัวตัวเองมานานพักใหญ่

“ขอให้ครั้งนี้ไม่น่าผิดหวังแล้วกัน” 






‘ทำไมฉันต้องมาตามคนหัวแข็งนั่นเวล่ำเวลาแบบนี้ด้วยเนี่ย~’


ชายร่างสูงผมยาวดำผู้เป็นเจ้าของความคิดเดินไปตามซอยเปลี่ยว เพราะด้วยเวลาที่เข้าสู่ยามวิกาลจึงชาวเมืองไม่กี่คนสัญจรผ่าน เขาชะงักฝีเท้าก่อนเปลี่ยนทางกะทันหัน แต่ขณะนั้นก็ได้ยินเสียงบางอย่างเล็ดลอดเข้าโสตประสาท ด้วยความสงสัยจึงเลี้ยวเดินเข้าไปในตรอกเล็กระหว่างซอยทันที


‘เสียงร้อง?’


ในใจของเขามีเพียงคำถามหนึ่งเดียว สายตายังคงมองตามทางด้านหน้าอย่างสงสัย มือทั้งสองข้างล้วงเก็บไว้ในกระเป๋าเพราะอากาศที่หนาวเย็น ดวงตาหรี่เพ่งมองผนวกกับคิ้วเรียวเริ่มขมวดเป็นปม


ฉึก ...แผละ


เพียงแค่เสียงก็ทำใจร่วงไปถึงตาตุ่มได้ เหมือนบางอย่างกำลังต่อสู้ตรงหัวมุมตรอกอย่างหิวกระหาย สองเท้าหยุดลงที่ทางแยก สายตามองไปยังกำแพงเบื้องหน้ามีเงาไหววูบไปมา ไม่นานร่างสูงก็เลือกจะเบียดตัวเองขนาบกลืนไปกับกำแพงเพื่อชำเลืองมองสถานการณ์อยู่ห่างๆ แทน


สิ่งแรกที่แสดงตรงหน้าคือชายสวมชุดดำคลุมยาวถึงเข่าพุ่งโจมตีบางอย่างไม่ปรานี มือขวาถือครองดาบยาวตวัดหวดฟาดฟันต่อเนื่อง เสียงโลหะคมปะทะกันพักหนึ่ง ก่อนฮันเตอร์หนุ่มจะปัดป้องอาวุธศัตรูตัวสูงผิดธรรมชาติ พอได้จังหวะก็กะซวกกลางท้องงัดขึ้นจนโลหิตทะลักมหาศาล


‘เห็นกี่ครั้งก็ยังรู้สึกว่าหมอนี่มันบ้าเลือดชะมัด’
‘แต่…ช่างเถอะ นั่นก็เป็นนิสัยที่ฉันสนใจด้วยสิ~’


ศัตรูสิ้นฤทธิ์จึงดึงดาบออก ร่างสัตว์ประหลาดแทบไม่ต่างจากมนุษย์ล้มลงไปกองกับพื้นอิฐ ไม่นานโลหิตก็ไหลนองเป็นแอ่งกว้างส่งกลิ่นเน่า โดยคนสังหารคือ บิทเทอ โลฮาส


“ไม่เมื่อยรึไง” 


เสียงเข้มของฮันเตอร์หนุ่มกล่าวถาม ในขณะที่ดวงตาสีฟ้าเรียวชำเลืองชมเชยผลงานตน


“มองตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ไม่เมื่อยรึไง แกน่ะ..” 


ชายผมยาวดำที่แอบลอบมองอยู่สะดุ้งเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายซึ่งเพิ่งต่อสู้เสร็จกลับรับรู้ตัวตนเขาได้เร็วจนน่าประหลาด “แสดงตัวออกมา” โทนเสียงเยือกเย็นนั่นทำเอาคนถูกจับได้แอบใจหวิว เพราะดูจากสภาพแล้วก็อดกังวลไม่ได้ว่าคนที่เพิ่งจัดการสัตว์ประหลาดจะหันเชือดเขาทิ้งด้วยมั้ยหนอ


“...”


เขาก้าวออกมาจากมุมกำแพงช้าๆ มือทั้งสองดึงออกจากกระเป๋าเสื้อ ยกขึ้นไพล่ไว้หลังศีรษะ ท่าทางปราศจากความยำเกรง รวมถึงใบหน้ายังคงเรียบนิ่งเช่นเดิม 


‘ตื่นเต้นชะมัด โดนจับได้แล้ววุ้ย~’


“มีเหตุอะไรที่มายุ่มย่ามย่านนี้” 
ฮันเตอร์กล่าวพลางเลื่อนสายตามองชายนิ่งเงียบ



“คุณใช่ไหม?” แล้วก็เริ่มปริปากพูดพร้อมทั้งรอยยิ้มแฝงเล่ห์เหลี่ยม


“?”


บิทเทอขานในลำคออย่างสงสัย ยิ่งเห็นอีกฝ่ายพึงพอใจกับปฏิกิริยาเขาแล้ว ฮันเตอร์กลับยิ่งสงสัยกว่าเก่าในการมีตัวตนของชายแปลกหน้าคนนี้ “นักล่าเสพติดภูต” ฉายาเจ้าของผมบลอนด์ขาวถูกเอ่ยออกมา เขายังคงท่าทีเรียบนิ่งก่อนจะหรี่ตามองพร้อมคาดคั้นคนตรงหน้า


“แกเป็นใคร”


ในทีแรกนักล่าแสนดุดันอาบกลิ่นคาวเลือดแลดูไม่สนใจเขาเท่าไรนัก แต่ตอนนี้สายตาสีฟ้าคู่นั้นไม่อาจละจากหนุ่มผมยาวดำคนนี้ได้เลย ไหนจะรอยยิ้มที่แม้มีเสน่ห์สำหรับใครทั้งหลาย แต่ในสายตานักล่าอย่างเขาแล้ว มันคือคนปลิ้นปล้อนไม่น่าไว้ใจแม้แต่น้อย


‘ชักตื่นเต้นแล้วสิ~’


ชายผมยาวคิดแล้วเอ่ยต่อ “นักล่าชื่อดังอย่างคุณ ทำไมผมจะไม่รู้จักล่ะ” 


“ต้องการอะไร”


“คุณก็รู้ว่าผมต้องการอะไร จำไม่ได้เหรอ? เราเพิ่งจะเจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อนเองนะ” ฮันเตอร์ชายเอียงศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเลิกคิ้วเหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้ เขาถอนหายใจพร้อมหันหลังเดินออกไปอย่างไม่แยแส คนยกมือไพล่ไว้หลังหัวมองเก้อแล้วเรียกไว้ทันที


“เดี๋ยวสิ!”


“อะไรอีก ถ้าไม่มีธุระก็อย่ามาเซ้าซี้” 


“จำฉันไม่ได้จริงเหรอ?”


“จำอะไร? ฉันไม่เคยรู้จักคนแบบนาย”


‘ไอ้เวรนี้ ยังจะมาเป็นไม่รู้ไม่ชี้หน้าตาเฉยอีก’


“อา...ช่างเถอะ” ชายหนุ่มผมยาวดำลดมือลงจัดการตัดบทซะเอง นัยน์ตาสีน้ำตาลจับจ้องมองคนเป็นฮันเตอร์อย่างมีเลศนัย แต่เมื่อบิทเทอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่กล่าวอะไรต่อก็หันหลังเดินออกห่างไปเช่นเดิม


‘ก็พอรู้หรอกว่าไอ้เวรนี่กะเมินฉันลูกเดียว แต่แบบนี้มันไม่เกินหน่อยเหรอ? ถึงขั้นทำเป็นไม่เคยเห็นหน้ากันเลยเนี่ยนะ แม่ง...กวนใจชะมัด’


“เฮ้!”


บิทเทอเดินออกไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกเรียกไว้อีกครั้ง ฮันเตอร์หนุ่มพรูลมหายใจก่อนเหลียวกลับไปมอง ก็เห็นอีกคนยืนส่งยิ้มค้างพร้อมกับชูนิ้วกลางให้อย่างโจ่งแจ้ง


‘พระเอกก็พระเอกเถอะ! ช่วยกวนตีนให้มันน้อยๆ หน่อยดิ๊!’