ชาย-ชาย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ตะวันตก,ทะลุมิติ,คอมเมดี้,บู๊,พระเอกเทพ,ตัวร้าย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“ไง”
“มาเช้าเกินไปมั้ย คุณโลฮาส”
คาเลนเอ่ยปากถามกลับเมื่อเปิดประตูบ้านก็เจอกับคุณพระเอกที่ยืนมองด้วยท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อน เรียวคิ้วบิทเทอเลิกขึ้นข้างหนึ่งพร้อมกับยืนกอดอก “ฉันว่านี่มันเป็นเวลาปกติที่คนจะตื่นนะ” คนฟังได้ยินแบบนั้นก็ยกมือขึ้นยีผมดำยุ่งตนเองเบาๆ อย่างงัวเงีย
“เป็นฮันเตอร์ก็ดีแล้วครับ ไม่ต้องเป็นนาฬิกาปลุกหรอก”
บิทเทอหรี่ตามองก่อนคาเลนจะเปิดประตูออกกว้างให้อีกฝ่ายเข้ามา เขาทักออกไปแบบนั้นเพราะเวลาตอนนี้เช้ามาก เช้ามากจนไม่เห็นแม้แต่ดวงตะวันแถมท้องฟ้ามืดอย่างกับสีน้ำหมึก
‘ถ้ามีพวกคำนิยามว่าไก่แจ้ขันปลุกชาวนามาทำงานทุกเช้า คาเลนก็เชื่อสุดใจเลยว่าบิทเทอตื่นมาเพื่อล่าภูตทุกเช้าเช่นเดียวกัน ไม่รู้ว่าพระเอกคนนี้หายใจเข้าออกนึกถึงแต่การล่ารึไง’
“คาเบิลอยู่ไหน?”
บิทเทอเอ่ยถามแล้วตรงไปนั่งเก้าอี้กว้างในห้องรับแขก คาเลนเดินมาหยุดยืนหลังโซฟาที่แขกเพิ่งนั่ง ฝ่ามือเลื่อนจับพนักเก้าอี้ก่อนจะโน้มศีรษะลงพูดด้วยใบหน้ายิ้มยียวน “ไม่เอาสิ~ มาหาผมแต่เช้าเพราะคิดถึงผมล่ะสิ ไม่ต้องเอาพ่อผมมาอ้างหรอก”
“ฉันมาเพราะมีธุระคุยกับเขา ไม่ใช่นาย”
“แต่คุณมาบ้านผม”
“ก็นายอยู่บ้านเดียวกันกับเขา ไม่ได้อยากจะโผล่หัวมาเจอนายสักหน่อย”
“แต่...ยังไงนั่นก็หมายความว่าคุณมาบ้านผมอยู่ดีหนิ”
ขณะที่บิทเทอกำลังหยิบมวนบุหรี่ออกมาคาบ มือข้างหนึ่งพลันยกกุมขมับพลางปรายตานัยน์ตาสีฟ้ามองขวางใส่คาเลน “สมองนายมันปัญหาเรื่องการสื่อสารรึไง?” ชายผมดำยาวได้สบตากับอีกคนระยะใกล้ จึงยื่นปลายนิ้วชี้จิ้มแก้มอีกฝ่ายเล่น
“ถ้าใช่ คุณจะสอนคนมีปัญหาคนนี้มั้ยล่ะ?”
“ไปหาหมอไป” บิทเทอว่าพลางปัดมืออีกคนออก
คาเลนเห็นแบบนั้นจึงหัวเราะในลำคออย่างขบขัน แต่บิทเทอก็หาได้สนใจแล้วหันไปสูบบุหรี่ต่อ จากนั้นชายผมยาวดำจึงเดินไปนั่งโซฟาเดี่ยวเยื้องข้างๆ จากอีกฝ่าย
‘ว่าไปแล้ว ดูไปดูมาไอ้หมอนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลยแฮะ ออกจะดูเหมือนหมาป่า?’
ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังครุ่นคิดในหัวตนเองนั้น เสียงฝีเท้าอีกคู่ก็ดังมาจากบันไดพร้อมปรากฏร่างคาเบิลหรือพ่อของเขา อีกฝ่ายเดินมาหาพวกเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มไม่ต่างอะไรจากคนแก่ใจดีคนหนึ่ง ซึ่งคาเลนคุ้นชินกับท่าทางนั้นเป็นอย่างดี
“วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทิศตะวันตกรึเปล่าเนี่ย~ ไม่คิดว่าจะมีวันที่เห็นพ่อตื่นเช้าขนาดนี้”
คาเลนว่าแล้วทำเสียงกระซิกด้วยความตื้นตันใจแบบปลอมๆ ทำเอาคาเบิลและบิทเทอต่างมองมาที่เขาด้วยสีหน้าตาเอือมไม่ต่างกัน ก่อนคนเป็นเจ้าบ้านสูงวัยจะตอบลูกชายตนเองไป
“วันนี้มีนัดเลยตื่นแต่เช้าน่ะ”
“งั้นเหรอ แต่ยังไงก็ไม่เช้าไปกว่าหมอนั่นหรอก”
บิทเทอไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ชายหางตามองมาคนกล่าวอย่างเคืองใจ คาเลนเห็นแบบนั้นจึงย่นไหล่ทำท่าทีล้อเลียนแล้วลุกตรงไปที่เชิงบันได “งั้นเชิญคุยกันให้สนุกล่ะ” ว่าจบชายหนุ่มก็เดินกลับขึ้นห้องตัวเอง เพราะถึงจะสงสัยว่าทั้งคู่สนทนาเรื่องอะไร แต่นั่นคงไม่ดีถ้าไปกวนจนเสียมารยาท
ถึงก่อนหน้านี้จะทำตัวเสียมารยาทมาเยอะก็เถอะ…
‘แบบนี้จะทำยังไงต่อดีล่ะ’
พอกลับมาถึงชายหนุ่มก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงทันที เพราะนอกจากจะไม่อยากกวนสองคนนั้นแล้ว เขายังมีเรื่องอื่นที่ต้องกังวลมากกว่านั้นอีก ‘จริงๆ ก็พอจะจำเนื้อเรื่องได้คร่าวๆ อยู่หรอกนะ แต่ตอนนี้เหมือนเส้นเรื่องมันจะเริ่มเพี้ยนไปเพราะผมแล้วน่ะสิ’
‘อีกอย่างคือตอนนี้ผมก็ไม่ได้ต่างอะไรจากบัคที่มาป่วนนิยาย จนเส้นเนื้อหลักเปลี่ยนเลยนิหน่า~ แต่ว่าใครสนกันล่ะ? แบบนี้ผมอาจจะได้เห็นอะไรแปลกใหม่มากขึ้นก็ได้’
‘นึกแล้วก็สนุกดีแปลกๆ ’
หลังจากนึกคิดเรื่องต่างๆ มานาน คาเลนจึงเริ่มตัดสินใจทำบางอย่าง เพราะยังไงวันนี้ก็เป็นวันหยุด ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะปล่อยให้เวลาอันมีค่าตัวเองสูญเปล่าแน่นอน และกิจกรรมในวันนี้คือ ‘การนอน’ อาจฟังดูเหมือนไม่พิเศษ แต่คาเลนยึดมั่นว่ามันเป็นหนึ่งในสิ่งทรงคุณค่าที่เขาควรทำในวันหยุด
ก๊อก ๆ ๆ ๆ
เวลาผ่านไปพักใหญ่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ปลุกร่างสูงนอนชี้เท้าไปทางหมอนส่วนหัวห้อยลงมาที่ปลายเตียงตื่นจากนิทรา เมื่อเริ่มได้สติเลยค่อยๆ เลื้อยตัวลงมาจากเตียงตรงไปเปิดประตูห้องด้วยความเกียจคร้าน พบกับคาเบิลสวมชุดสูทเตรียมออกไปนอกบ้าน
“ทำงานอยู่เหรอ?”
“ใช่ ผม...ทำงานหนักมาก เลยพักผ่อนอยู่”
คาเบิลหัวเราะเบาหลังได้ยินคำตอบ เขารู้ดีว่าชายต่างโลกในร่างบุตรของตนนั้นพักอยู่จริงๆ เพราะทั้งน้ำเสียงทั้งท่าทางยังเต็มไปด้วยอาการงัวเงีย “เดี๋ยวฉันต้องออกไปส่งต้นฉบับ”
“อาฮะ คุณคุยกับบิทเทอเสร็จแล้วเหรอ?”
“ใช่ ตอนนี้เขาอยากคุยกับนาย เพราะงั้นลงไปเจอเขาด้วยแล้วกัน”
คาเลนยกมือขึ้นถูเปลือกตาพลางพยักหน้าตอบรับไป คนเป็นพ่อเห็นท่าทีนั้นก็ถึงกับส่ายหน้าอ่อนก่อนจะหมุนตัวเดินลงไปยังชั้นล่าง ชายหนุ่มยืนนิ่งตั้งสติตนเองครู่หนึ่ง แล้วค่อยลงไปยังห้องรับแขกที่มีบิทเทอนั่งสูบบุหรี่รออยู่
“เฮ้~ หลับไปแล้วเหรอ ให้ผมพาคุณไปที่เตียงให้มั้ย?”
บิทเทอหันมามองตาขวางพร้อมพ่นควันออกจากปากจมูก ท่าทางน่าเกรงขามแต่ในสายตาคาเลนนั้นกลับดูไม่ได้อันตรายเลย บางทีอาจเป็นเพราะเขาเคยชินแล้วก็เป็นได้
“ล้อเล่นน่ะ แล้วอยากคุยอะไรกับผมเหรอ คุณฮันเตอร์”
ว่าจบชายหนุ่มก็หย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ
‘ไม่รู้ทำไมช่วงนี้สังหรณ์ว่าคุณพระเอกชักจะเริ่มสนใจผมมากขึ้นเรื่อยๆ หรือผมคิดไปเองกันนะ?’
“นี่” บิทเทอออกปากเรียกดึงสติเขากลับมาอีกครั้ง “วันนั้นที่เราไปถอนคำสาป ‘รูปภาพสั่งตาย’ นายได้เห็นอะไรแปลกๆ จากตัวฉันมั้ย?”
“ทำไมเหรอ? กลัวผมเห็นผักติดฟันคุณเหรอ?”
“เลิกทำเหมือนฉันเป็นเพื่อนเล่นสักที”
‘บางทีหมอนี่อาจจะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองมีออร่าคำสาป หรืออาจจะไม่? แต่ถึงขั้นเรียกมาเพื่อที่จะยืนยันความคิดตัวเองเลยก็คงเริ่มสงสัยแล้วมั้ง’ คาเลนเผยยิ้มอ่อนพร้อมกับหรี่ตามองกลับ
‘ผมควรจะบอกคุณพระเอกดีมั้ยเนี่ย~’
“ผมไม่เข้าใจว่าคุณต้องการจะถามอะไรกันแน่ ช่วยพูดชัดๆ ตรงๆ ด้วยครับ”
บิทเทอได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ท่าทางเหมือนเขาไม่ได้คาดเอาไว้ว่าตนเองจะถูกต้อนให้ตอบคำถามเช่นกัน “นายก็แค่ตอบเท่าที่นายเห็นและรู้ในวันนั้นมาก็พอ” คาเลนหยุดคิดก่อนมุมปากจะค่อยๆ เชิดยิ้ม
“น่าเสียดาย~ แบบนั้นผมคงตอบไม่ได้หรอก”
ฮันเตอร์หนุ่มเดาะลิ้นอย่างเคืองใจ แล้วให้คำถามแบบไม่เต็มใจนัก
“นายเห็นออร่าจากคำสาปจากตัวฉันใช่มั้ย?”
‘ใจเด็ดกว่าที่คิดแฮะ นึกว่าเขาจะเก็บเรื่องนี้กับตัวซะอีก’
‘ถ้าตามเนื้อเรื่อง บิทเทอไม่ใช่คนที่รู้ตัวว่าตัวเองมีออร่าคำสาปหรอก แต่มีคนเซ้นส์ดีในทีมฮันเตอร์เดียวกับเขาสังเกตเห็น บางทีเขาน่าจะรู้มาจากหมอนั่น เลยมาถามผมเพื่อความแน่ใจ แล้วที่ยอมบอกผมตรงๆ อาจจะเพราะเห็นผมเป็นแอนนาลิสท์คนเก่งที่น่าเชื่อถือ?’
‘หรืออาจจะแค่ร้อนรนหาคำตอบที่แน่ชัดก็เท่านั้น’
“ถ้าบอกว่าใช่ แล้วอยากขอให้ผมช่วยอะไรเหรอ?”
บิทเทอถอนหายใจ “นายช่วยรักษาฉันได้มั้ย?” คาเลนได้ยินแบบนั้นก็หรี่ตามองผนวกกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า เปิดเผยถึงความพึงใจอย่างเห็นได้ชัด
“ได้สิ แต่ไม่รับประกันว่าจะหายนะ”
‘เหมือนว่าผมจะมัดใจคุณพระเอกคนนี้ได้สำเร็จ รู้สึกดีแปลกๆ แฮะ’
คาเลนลุกขึ้นด้วยคารมดี ก่อนจะเอ่ยเหมือนเพิ่งนึกเอะใจได้ “จะว่าไปยังไม่ได้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยสินะ” สายตาทั้งสองสบมองกัน ก่อนคาเลนจะยิ้มแล้วกล่าวแนะนำตัวเอง
“ผม คาเลน แบรนดอน เป็นแอนนาลิสท์ ‘แบล็คอาร์ต’ ครับ”