ชาย-ชาย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ตะวันตก,ทะลุมิติ,คอมเมดี้,บู๊,พระเอกเทพ,ตัวร้าย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“ผมว่าเรากำลังเจอปรากฏการณ์ประหลาด”
คาเลนพูดขึ้นขณะนั่งวางศอกท้าวเข่าประสานมือรองใต้คางอยู่ที่ปลายเตียง สีหน้าเต็มไปด้วยความจริงจังผิดกับผมยาวดำซึ่งยุ่งฟูไม่เป็นทรง ถ้าสังเกตจากสภาพแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากคนเพิ่งตื่น
“พูดบ้าอะไรแต่เช้า แล้วรังนกบนหัวนั่นมันอะไร”
“ฉันเพิ่งตื่นเองนะ เสียงแมลงมันยังอยู่ในหูอยู่เลย อีกอย่างนี่มันผมสุดสลวยของผมเอง”
คาเลนหันมาตอบหน้าตาเฉยพลางใช้ปลายนิ้วม้วนผมยุ่งๆ นั่นเล่น ฮันเตอร์หนุ่มกลอกมองบนอย่างเอือมใจ เขาอุตส่าห์ตื่นมาแต่เช้าตามตกลงกันไว้ ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นสภาพคนเมาขี้ตาเพิ่งลุกจากเตียงแบบนี้
“ไปเตรียมตัวไป”
“ผมมีเรื่องสำคัญจะเล่า—-”
“ไปเตรียมตัว!”
พอโดนว่าเลยยอมไปเตรียมตัวตามที่คุณพระเอกสั่ง ไม่งั้นสักพักเขาคงโดนไล่เขกหัวเป็นแน่ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชายหนุ่มจึงจัดการทำธุระส่วนตัวต่างๆ เรียบร้อย ก่อนจะกลับมาหย่อนตัวนั่งเก้าอี้พลางปรายตามองนักล่าเสพติดภูต
“เอาล่ะ ช่วยบอกทีว่าเข้ามาในห้องพักฉันได้ยังไง”
คาเลนเก๊กขรึมถามเสียงต่ำ บิทเทอเชิดคางไปทางบานประตูห้องโดยสายตายังจับจ้องที่คนถาม “นายนั่นแหละที่ไม่ล็อกประตูให้มันดีๆ ”
‘ผมลืมล็อกประตูเหรอ?’
ชายหนุ่มกะพริบตาปริบๆ ครู่หนึ่ง ก่อนชายผมบลอนด์ขาวจะเอ่ยขึ้น “ว่ามาสิ เมื่อกี้บอกว่ามีเรื่องอยากจะพูดใช่ไหมล่ะ?” พอถูกทักแบบนั้นคาเลนเลยนึกได้ทันที
“ใช่ เมื่อคืนนี้ฉันฝันน่ะ”
“ฝัน… ฉันจำเป็นต้องฟังเรื่องนี้เหรอ?”
“ฟังก่อนสิ ฉันแน่ใจเลยว่านายจะต้องสนใจแน่”
คุณพระเอกผงกหัวรับ คาบบุหรี่ออกจากซองแล้วใช้ไม้ขีดจุด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยากรู้เรื่องฝันที่ชายผมยาวเสนอมา แต่ลองฟังไว้ก็ไม่เสียหายอะไร
“เมื่อคืนนี้ฉันฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่ง ผมยาวทองหยักศก ร่างกายผอมแห้ง ผิวซีดและดวงตากลมโต ริมฝีปากบางแห้งของเธอน่ะปิดสนิท เวลามองไปที่เธอจะได้ยินเสียงแหลมสูงจนเจ็บหูเลย”
“ฉันไม่เข้าใจว่านายเล่าให้ฉันฟังทำไม?”
“อืม~ อยากลองฟังเรื่องเล่าสนุกๆ มั้ยล่ะ”
ครั้นอีกฝ่ายเสนอ บิทเทอกลับยิ่งไม่เข้าใจว่าคู่สนทนาพยายามจะบอกอะไร “อยากเล่าก็เชิญ ตอนนี้เรายังมีเวลา” คาเลนยิ้มเล็กๆ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่ตนเองเสนอขึ้นมา
“เมืองอาร์ลีนที่เราอยู่ตอนนี้มีเรื่องเล่าว่า ทุกคนที่ได้เข้ามาอยู่ในเมืองวันแรกจะฝันถึงหญิงสาวคนหนึ่งกันทุกๆ คน หน้าตาของเธอก็อย่างที่ฉันเล่าเมื่อกี้ แล้วลือกันอีกว่าเมืองนี้มีชื่ออาร์ลี—”
“เหมือนกับชื่อผู้หญิงในฝันใช่ไหมล่ะ”
“หว่า~ รู้เรื่องเล่าของเมืองนี้ด้วยเหรอ?”
“พวกฮันเตอร์เคยเล่าสู่กันอยู่บ่อยๆ ได้ยินตั้งแต่เด็กแล้วว่ามีผู้หญิงชอบมาเข้าฝันคนในเมืองนี้”
“เคยฝันหวานเห็นเธอมาก่อนรึเปล่า?”
“ไม่” บิทเทอเว้นช่วงไปเพื่อพ่นควันออกปาก “ว่าแต่นายเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ” คาเลนยักไหล่ตอบด้วยท่าทางเฉยเมย
“ฟังเอาสนุกไว้ แต่พอได้ฝันเห็นจริงๆ มันอดรู้สึกประหลาดจนเนื้อเต้นไม่ได้น่ะสิ”
คุณพระเอกมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง “ไปเตรียมตัวเดินทางกันเถอะ”
“ทำไมทำเสียงขรึมล่ะ? หรือว่าไม่ชอบที่ฉันฝันถึงผู้หญิงอื่น?”
“ใครสน”
ชายผมดำยาวตอบรับคำพูดนั้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม จากนั้นต่างฝ่ายต่างไปตระเตรียมอะไรต่างๆ สำหรับการเดินทางหาแท่นศิลาคำสาปหลักแรก จริงๆ ที่เขาออกปากเล่าถึงเรื่องความฝันก็เพื่อเช็กบางอย่างให้แน่ใจ และได้คำตอบว่า...
‘บิทเทอไม่เคยฝันถึง ‘อาร์ลีน’ อย่างแน่นอน’
‘ในนิยายเคยบอกไว้แบบนั้น ยิ่งได้คำตอบจากปากพระเอกเองผมก็แน่ใจ ผมพอสังเกตได้หลายครั้งในนิยายว่า บิทเทอมักจะเป็นข้อยกเว้นแปลกประหลาดในโลกนิยาย ‘นักล่าสาปบาป’ นี้ อย่าง ปกติคำสาปจะอยู่กับวัตถุต่างๆ แต่บิทเทอกลับมีออร่าคำสาปออกมาจากร่างกาย ทั้งที่เขาไม่ใช่สิ่งของหรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต มันมีการกล่าวถึงอยู่บ้างว่าออร่าคำสาปของบิทเทอ เกิดมาจากการซึมซับมาจากวัตถุคำสาป’
‘แต่ที่นึกออกคงมีแค่ ‘รูปภาพสั่งตาย’ เพราะมันเป็นวัตถุคำสาปสุดท้ายที่เขาจับ แล้วจากนั้นบิทเทอก็มีออร่าคำสาป ถึงอย่างนั้นก็ปักธงไม่ได้เลยว่าทฤษฎีนี้จริงแท้แค่ไหน มันอาจจะเป็นการคาดเดาที่พลาดก็ได้’
“นายเนี่ยทำให้ฉันคิดหนักจริงๆ เลยน้า~”
คาเลนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบาบางเหมือนบ่นกับตัวเอง ตอนนี้ทั้งสองเดินตามทางเท้าในเมืองอาร์ลีนเต็มไปด้วยผู้คน ผนวกด้วยบรรยากาศที่แตกต่างเมืองธานประมาณหนึ่ง บิทเทอซึ่งสาวเท้าข้างๆ ได้ยินคำพูดอีกคนแว่วมาเท่านั้น แต่ไม่ได้ท้วงอะไรเพียงแค่กลอกตามองเล็กน้อย
‘ระหว่างเดินทางคงต้องหาทางรักษาให้ได้ ถ้าตามเนื้อเรื่องตอนนี้พระเอกคนเก่งคงกำลังเที่ยวฆ่าภูตเก่งๆ ที่อื่นแล้ว เฮ้อ~ ชักขี้เกียจจำเนื้อหานิยายเข้าไปทุกที’
‘ยังไงผมก็คงต้องรับผิดชอบออร่าคำสาปนี้ เพราะเป็นคนไปดึงไอ้หมอนี่มาเองหนินะ’
“แวะข้างหน้านี้นะ เราจะเช่าม้าไป”
“ได้ แต่ขอตัวเดียวได้มั้ย?” ชายผมยาวดำว่าแบบนั้นบิทเทอก็ถึงกับเลิกคิ้วมอง แต่จากประสบการณ์ที่ได้พูดคุยกับคนคนนี้มาก่อนหน้า พระเอกเดาได้ว่าคงหาสาระจากเหตุผลคาเลนไม่ได้มาก
“ทำไม”
“ฉันอยากนั่งม้าตัวเดียวกับนาย”
บิทเทอเงียบไปครู่ “นายขี่ม้าไม่เป็นเหรอ?”
“เป็น”
“แล้วมีเหตุผลอะไรที่เราต้องนั่งตัวเดียวกัน”
“ฉันอยากอยู่กับนาย มันทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัย~”
‘พูดแต่ละอย่างได้หน้าไม่อายเลยจริงๆ เป็นแอนนาลิสท์ซัดภูตตายได้ แต่กลับมาทำตัวกวนประสาทแบบนี้มันน่าหงุดหงิดชะมัด’
ฮันเตอร์หนุ่มมองนิ่งนึกในใจอย่างขุ่นเคืองกับการกระทำคู่สนทนา “ม้าสองตัว”
“แต่—”
“อย่าให้ฉันต้องพูดครั้งที่สอง”
“หว่า~ ใจร้ายจัง~” คาเลนกล่าวอย่างนึกเสียดาย จากนั้นไปเช่าม้าสองตัวมาจากคอกเพื่อจะอำนวยในการเดินทางต่อไปภาคภายหน้า หลังขึ้นขี่อาชาแล้วคาเลนก็เริ่มเดินทางไปตามฮันเตอร์หนุ่ม ท่าทีของคุณพระเอกแลดูจะคุ้นชินกว่าเขามาก หรือไม่ก็รู้จุดหมายเลยไม่ยากที่จะเดินทาง
เพราะสำหรับคาเลนการเดินทางในเมืองยุคเก่านี้ ยังง่ายยิ่งกว่าเดินในเมืองหลวงบ้านเกิดจากโลกเก่าเขาซะอีก แหงล่ะ ผังเมืองเละตุ้มเป๊ะขนาดนั้นคงไม่มีที่ไหนเทียบได้แล้ว
ครั้นเดินทางออกจากตัวเมือง พบว่าภายนอกเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้างปราศจากสิ่งปลูกสร้างใดๆ นอกเหนือจากนั้นก็มีแม่น้ำสายหนึ่งทอดยาวไป คอยเป็นเครื่องหมายนำทางให้ชายหนุ่มทั้งสอง ท้องฟ้าโปร่งไร้กลุ่มเมฆผนวกกับแสงแดดที่ไม่ได้จ้าจนเกินไป คาเลนมองวิวทิวทัศน์อันศิวิไลซ์อยู่พักใหญ่ บางเวลาเขาอดไม่ได้ที่จะดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบนี้
“นี่เรา…เดินทางออกมาไกลเลยนะ”
คาเลนเอ่ยทำลายความเงียบขณะสายตาสำรวจมองไปเรื่อย บิทเทอที่นำเยื้องข้างหน้านิดหน่อยกล่าวตอบโดยไม่หันกลับมา
“ใช่ บางทีเราอาจจะได้ค้างแรมกันในป่า”
“งั้นเหรอ!?”
คาเลนถามเสียงดังสูงหันขวับมาทางพระเอกทันที บิทเทอเหลือบไปสบกับสายตาเป็นประกายของคนที่ตามหลังมา
“ทำไม? มีอะไรน่าตื่นเต้นรึไง?”
“ก็แค่เหมือนได้มาเดทกับนายในป่าจริงๆ เลยนะ”
“นี่แก—”
“ล้อเล่นน่ะ~ อยู่กับฉันทีไรนายปั้นหน้าโหดใส่ตลอด เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก” ชายผมยาวดำกล่าวยิ้มๆ พลางหรี่มองอย่างขบขัน อันบอกได้ว่าเขากำลังสนุกกับพูดคุยครั้งนี้ บิทเทอชายหางตาครู่เดียวแล้วกลับไปมองทางตรงหน้าอย่างเดิม ไม่พูดตอบอะไรสักคำ
‘คุณพระเอกโกรธจนงอนผมแล้วมั้งเนี่ย~’