ชาย-ชาย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ตะวันตก,ทะลุมิติ,คอมเมดี้,บู๊,พระเอกเทพ,ตัวร้าย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บิทเทอกระแอมเสียงกลบเกลื่อนอาการกระด้างตนเอง แต่เมื่อปรายตาไปสบกับคาเลนที่มองมายังเขาอยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มก็เบือนหน้านี้ไปอีก “จะพูดอะไรก็พูดสิ เงียบทำไม”
‘หว่ายๆ ตายแล้วๆ คุณพระเอกเลิ่กลั่กใหญ่แล้วค้าบทุกคน~’
“มีอย่างหนึ่งที่ฉันสังเกตได้จากออร่าคำสาปของนาย” ฮันเตอร์เลิกคิ้วมองกลับ “ตอนนี้ออร่าคำสาปของนายยังแรงอยู่ก็จริง แต่ถ้าเทียบกับก่อนหน้านี้คือมันอ่อนลง”
“เพราะอะไร”
ชายผมยาวดำยักไหล่ตอบกลับไป “หลังจากที่ฉันกับนายทำลายแท่นศิลาคำสาปหลักแรกไป ออร่าคำสาปของนายลดลง” บิทเทอนิ่งไปเหมือนกึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อ
“นายแน่ใจ?”
“ไม่มีอะไรบอกแน่ชัดว่าเป็นตัวแปรทำให้เกิดขึ้น แต่ที่ออร่าคำสาปนายลดลงไม่ได้โกหกจริงๆ ” คาเลนเว้นช่วงไปครู่แล้วหลุบสายตาฉายแววจริงจัง “ดังนั้นก็เป็นไปได้ที่คำสาปนายจะได้รับอิทธิพลมาจากแท่นศิลาพวกนั้นส่วนหนึ่ง”
บิทเทอสบตามองกลับถามเสียงเรียบ “นายกำลังจะบอกว่า ถ้าเราทำลายแท่นศิลาคำสาปทั้ง 7 หลักแล้ว ก็เป็นไปได้ที่ฉันหายจากออร่าคำสาป”
“ตอนนี้ฉันจะยังคิดว่ามันเป็นแบบนั้นแล้วกัน”
“...”
“ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะหลอกนายหรือพูดมั่วซั่วหรอก เราต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะทำความเข้าใจกับสิ่งที่นายเป็น เพราะงั้นอย่าเพิ่งใจร้อนหนีไปหาใครก่อนล่ะ เพราะฉันจะรักษานายสุดความสามารถเอง” พระเอกมองนิ่งก่อนจะหลบสายตาหนี
“แอนนาลิสท์ที่มีความสามารถพอจะรักษาออร่าคำสาปฉันได้ มันเพียงแกคนเดียว”
“แล้ว…?”
“ฉันไม่หนีไปไหนหรอก”
“ซาบซึ้งใจที่ได้ยินแบบนั้นจัง~ กระชุ่มกระชวยมั่กๆ ”
แอนนาลิสท์หนุ่มพูดออกมาอย่างปลื้มปริ่มพลางวางมือทาบอก ยกมืออีกข้างเกลี่ยขอบตาแสร้งว่าร้องไห้ซาบซึ้ง บิทเทอเห็นแบบนั้นถึงกับมองหน้าเฉยเมย
“พร่ำเพ้ออะไรของแก”
หลังจากพูดคุยเรื่องคำสาปซึ่งยังหาข้อมูลไม่ได้มากมาย พวกเขาเลยจบบทสนทนาไว้เพียงแค่นั้น พอออกจากห้องทำงานเก่าของคาเบิล บิทเทอจึงลงบันไดตามด้วยคาเลนที่เอาแต่พูดไม่หยุด คุณพระเอกเลยทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจคำพร่ำเพ้อนั่น
“นายจะกลับแล้วจริงๆ เหรอ?”
“ทำไม?”
“ไม่อยู่ด้วยกันต่อเหรอ?”
ฮันเตอร์หยุดฝีเท้าครั้นเดินมาถึงประตูหน้า สายตานิ่งจับจ้องคาเลนที่มองมากึ่งเว้าวอนอยากให้เขาอยู่ต่อ “ทำไมฉันต้องอยู่ต่อ” ชายผมยาวดำยิ้มกระหยิ่มออกมา
“เพราะฉันอยากใช้เวลาร่วมกับนายน่ะสิ~”
ได้ยินเช่นนั้น นักล่าเสพติดภูตเลยถอนหายใจอ่อน ก่อนสายตาจะปรายมองผ่านไหล่เห็นราวินนั่งเงียบๆ อยู่ในห้องรับแขก วางตัวผ่อนคลายไม่มีท่าว่าจะออกจากบ้านคาเลนเลย บิทเทอย่นคิ้วหันกลับมองคาเลนซึ่งตอนนี้กำลังยื่นปลายนิ้วชี้มาจิ้มแก้มเขา
“ทำบ้าอะไรของแก”
“นายมองไปไหนต่อไหนแล้ว อยู่ๆ ก็เมินฉันหน้าตาเฉย”
พระเอกจับข้อมือคนหยอกดึงลงพลางก้าวเข้าหา นัยน์ตาสีฟ้าสวยจดจ้องมองในระยะประชิด ชั่วขณะคาเลนเกือบหยุดหายใจ เพราะท่าทีอีกคนที่เปลี่ยนไปฉับพลัน ก่อนเสียงต่ำอันหนักแน่นจะกล่าวออกมา
“อย่าอยู่ใกล้กับหมอนั่นให้มากล่ะ”
ชายผมยาวดำยิ้มมุมปากถามกลับเสียงติดตลก
“ทำไมล่ะ นายยังกลัวราวินอยู่อีกรึไง?”
“ไม่ได้กลัว”
“หรือ~” ชายผมดำยาวหรี่ตาส่งยิ้มเล่ห์ “นายยังหึงที่หมอนั่นจูบหลังมือฉัน”
บิทเทอแสดงท่าทางเงียบนิ่ง ก่อนเขาจะค่อยๆ เปลี่ยนจากจับข้อมือคาเลนเป็นประคองลูบฝ่ามืออีกฝ่าย สายตาหลุบมองลงจากนั้นหันหลังมือคนช่างหยอกเข้าหาตนเอง คาเลนที่เห็นแบบนั้นถึงกลืนน้ำลายอย่างฝืดเคืองครั้นถูกเรียวนิ้วรั้งมือลูบเบาๆ
“นายคงไม่ได้คิดจะทำอะไรแปลกๆ หรอกใช่ไหม”
หนุ่มเจ้าของผมบลอนด์ขาวเลิกคิ้วข้างหนึ่ง “คิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ?” ขณะพูดก็โน้มใบหน้าลงพร้อมกับดึงหลังมือเข้ามาใกล้ริมฝีปาก พลันให้สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นรดสู่ผิวขาว
“เดี๋ยว ราวินอยู่—”
“ตอนนั้นฉันตื่นนายไม่เห็นสนเลยหนิ แล้วตอนนี้ต้องสนหมอนั่นรึไง”
“มันไม่เหมือนกัน”
“ยังไงล่ะ?”
ระหว่างที่คาเลนกำลังจะตอบกลับ คุณพระเอกกลับก้มลงประทับริมฝีปากบนหลังฝ่ามือที่เปลือยเปล่า สัมผัสเน้นหนักเหมือนตั้งใจให้รับรู้ถึงการประทับครั้งนี้ เขาผงะไปชั่วครู่ไม่อาจละสายตาจากคนตรงหน้าได้ พอเห็นบิทเทอผละออกก็คิดว่าทุกอย่างจะจบแค่นั้น
แต่มันไม่ใช่…
ทันใดนั้นชายหนุ่มพลิกหงายกดจูบกลางฝ่ามือ เรียวนิ้วซึ่งประคองเริ่มลูบสัมผัสผิวเนียนเขาเบาๆ ผนวกกับริมฝีปากที่เลื่อนมาพรมจูบปลายนิ้วไล่ไปจนข้อมือ คาเลนถึงกับสะดุ้งโหยงครั้นสบกับนัยน์ตาสีฟ้าใสช้อนมองมาอย่างพึงใจ
“ละ ล้อเล่นแรงเกินไปแล้ว บิทเทอ!”
ชายผมยาวดำดึงมือตนกลับด้วยท่าทางตื่นตระหนก เสียงพูดตะกุกตะกักแสดงอาการเลิ่กลั่ก บิทเทอเห็นท่าทีตอบสนองนั้นก็ยกมุมปากเห็นลักยิ้มเหนือปากซ้าย
“อย่าได้ให้หมอนั่นเฉียดใกล้ตัวแก เข้าใจมั้ย คาเลน”
“คะ ครับ”
ท่าทางที่ต่างออกไปจากทุกครั้ง ทำให้เขาตอบกลับสุภาพเสียดื้อๆ ส่วนฮันเตอร์พอกำชับเสร็จ จึงเปิดประตูออกจากบ้านไปหน้าตาเฉย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้เจ้าบ้านยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง
‘อ๊ากกกกก! คุณพระเอกเป็นบ้าอะไรไปแล้วเนี่ยยยยยย! ผมสาบานเลยว่าไอ้ท่าทางแบบนั้นผมไม่เคยเห็นมาก่อน! จะในชีวิตที่สอง โลกนิยายนี้ หรือตอนอ่านนิยายก็ไม่เคยเจอ’
‘ไอ้บ้านั่น….มันเป็นใครฟ่ะ!?’
“ท่านคาเลน”
“หะ ห้ะ?”
เจ้าของชื่อดึงสติตัวเองกลับมาแต่บนใบหน้ายังมีรอยแดงจาง ราวินที่เป็นคนเรียกมองมาเขาด้วยท่าทีเรียบนิ่งเหมือนกำลังพินิจอะไรบางอย่าง คาเลนเลิกคิ้วก่อนคนตรงหน้าจะกล่าวออกมา
“คุณกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่ยากจะอธิบายสินะครับ”
ทั้งที่อุตส่าห์ปรับสีหน้าตนเองให้กลับมาเป็นปกติแล้ว แต่พอได้ยินแบบนั้นชายผมยาวดำก็ถอนหายใจ มือกุมหน้าอย่างละอายในความรู้สึกประหลาดพวกนี้
“โธ่เอ้ย! นายก็เอาด้วยเหรอ!?”
“เปล่านะครับ”
ภายในห้องทำงานกว้างเต็มไปด้วยชั้นวางหนังสือหลายเล่ม ทั้งหมดคือร่องรอยผู้เป็นพ่ออย่างคาเบิลที่ได้จากไป ณ ตอนนี้คาเลนนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน สายตาจับมองบันทึกแท่นศิลาคำสาปทั้ง 7 หลัก รวมถึงเอกสารข้อมูลคำสาป
‘ตอนนี้ผมควรจะกลับมาทบทวนเนื้อเรื่องนิยายแบบจริงๆ สักที ในทีแรกผมยังไม่ได้ใส่ใจกับส่วนนั้นมาก เพราะคิดว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในร่างลูกตัวละครลับ เป็นตัวประกอบธรรมดาๆ ไม่ได้มีบทโดดเด่นอะไรเลย แต่ตอนนี้...’
‘ผมคือลาสต์บอสครับ!!’
คาเลนคว้าแผ่นกระดาษและปากกามา
‘ดังนั้นผมคงหลีกเลี่ยงการไม่เข้าอีเว้นต์หลักตามเนื้อเรื่องไม่ได้แล้ว (ถึงปกติจะเข้าไปสอดบ่อยๆ เพื่อกวนพระเอกก็เถอะ) ถ้าหากว่าผมเจอราวินในลักษณะนี้เป็นไปว่าเดิมที คาเลน แบรนดอน ที่เป็นเจ้าของร่างนี้เองก็น่าจะตัดสินใจไม่ต่างจากผม’
ปลายปากกาเริ่มตวัดเขียนออกมาอย่างคล่องแคล่ว
‘เอาล่ะ ผมต้องเริ่มนึกเนื้อเรื่องหลักที่เดินตามแบบนิยายก่อน หลังจากนั้นค่อยดูอีกทีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนั้นบ้าง หรือมีตรงไหนต่างออกไปจากเดิม’
‘นิยายเรื่อง ‘นักล่าสาปบาป’ เล่ามาด้วย ‘บิทเทอ โลฮาส’ ฮันเตอร์หนุ่มที่ถูกขนานนามว่า ‘นักล่าเสพติดภูต’ เพราะในเขตที่พระเอกรับผิดชอบมักจะเห็นเขาออกล่าตลอดเวลา ต่อสู้อย่างหิวกระหายเยี่ยงสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์ (แม่งโคตรเท่เลยสัส~) คนธรรมดาหรือแม้แต่คนร่วมอาชีพเดียวกันมองว่าเขานั้นเป็นพวกบ้าเลือด ถึงอย่างไรก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฝีมือการต่อสู้บิทเทอนั้นเป็นเลิศเลยทีเดียว’
‘บิทเทอออกตามหาแล้วจัดการคำสาป ‘รูปภาพสั่งตาย’ แต่ด้วยอุบัติเหตุบางอย่างทำให้บิทเทอเกิดออร่าคำสาปรอบตัว ต่อจากนั้นกลุ่มฮันเตอร์จึงได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือ เสนอว่าจะหาทางรักษาคำสาปแลกกับการที่เขาต้องมาร่วมกลุ่ม’
‘และปกป้องแท่นศิลาคำสาป’
‘จริงๆ ตำแหน่งคนช่วยพระเอกในอีเว้นต์ก่อนหน้า ควรจะต้องเป็นของกลุ่มฮันเตอร์ ‘กรงเล็บเพลิง’ แต่ผมดันไปแย่งมาหมด ก็ไม่น่าแปลกถ้าบิทเทอเลือกจะอยู่ผมมากกว่าคนพวกนั้น เพราะอย่างน้อยตอนต่อสู้เราค่อนข้างจะเข้าขากันได้ดี(?) นี่คงเป็นจุดที่ต่างไปจากเนื้อเรื่องเดิมของนิยาย’
คาเลนนึกแบบนั้นก็หยุดเขียนพลางกระตุกยิ้มอย่างภาคภูมิ ที่ตนสามารถมัดใจคุณพระเอกไว้กับตได้อย่างที่คาดหวัง แต่เกินความคาดหมายไปหน่อยคือตัวเองดันเป็นตัวร้าย…
‘ถ้าเดาเนื้อเรื่องฝ่ายตัวร้ายในช่วงเวลาเดียวกัน หลังจากตัวละครลับอย่าง ‘คาเบิล แบรนดอน’ ตายด้วยโรคสาปกายศิลา ‘คาเลน แบรนดอน’ ลูกชายเขาก็ออกเดินทางเพื่อไปทำลายแท่นศิลาคำสาปทั้งหมด โดยระหว่างนั้นเขาได้เจอกับ ‘ราวิน เคิร์ท รามุส’ ซึ่งได้ออกติดตามไปด้วย เพราะเชื่อมั่นในเจตจำนงคาเลน’
‘จะว่าไป… คาเบิลกับบิทเทอตามเนื้อเรื่องนิยายน่าจะไม่เจอกันมาก่อน หรืออาจจะมีเรื่องอะไรกันอยู่ ดูจากท่าทีก่อนหน้านี้บิทเทอต่อต้านการไปเจอกับคาเบิลสุดๆ กว่าผมจะพามาเจอได้ก็ต้องช่วยจัดการภารกิจรูปภาพสั่งตายถึงจะยอมมา’
‘นอกเหนือจากนั้น ระหว่างดำเนินเรื่องมีหลายครั้งที่ราวินกับบิทเทอเจอกันในฐานะศัตรู มีการปะทะกัน แต่ไม่รู้ผลจริงๆ จังๆ สักที ยังไงก็ตาม ตัวร้ายที่คอยบงการและควบคุมราวินกลับไม่เคยปรากฏตัวออกมา นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงไม่รู้ว่าตัวเองเป็นลาสต์บอสในนิยาย’
‘เรามันไอ้ควายที่ไม่รู้ตัวเองเป็นลาสต์บอสสินะ….ครับผม’
คาเลนวางปากกาลงก่อนจะศีรษะโน้มลงพิงกับโต๊ะไม้อย่างครุ่นคิด สายตายังจับจ้องมองเหล่าตัวอักษรมากมายที่ถูกเรียบเรียงเขียนเนื้อเรื่องนิยายออกมาคร่าวๆ
‘จุดเปลี่ยนอีกอย่างคือ...ผมพาเอาบิทเทอมาด้วย ถ้าหากว่าหลังจากนี้เขาจะไปกับกลุ่มฮันเตอร์ บิทเทอเองก็ต้องปกป้องแท่นศิลาคำสาป นั่นหมายความว่าข้อตกลงของเราทั้งคู่จบลง ต่อจากนั้นเราจะเป็นศัตรูกันโดยปริยาย’
‘เรื่องที่น่าคิดคือบิทเทอเลือกผมมั้ย?’
คาเลนนึกคำถามใหญ่ๆ ที่เด่นชัดขึ้นมาในหัว ชายคนนี้ทำให้เขารู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก ระหว่างกำลังนึกค้นหาคำตอบ ไอ้สมองเจ้ากรรมดันพาหวนกลับไปนึกภาพบิทเทอจูบหลังมือ คาเลนลุกขึ้นสะบัดหัวตัวเองไปมาปัดเป่าภาพจำพวกนั้นออกไป
“คุณพระเอกเนี่ยเป็นปัญหาจริงๆ เล๊ยยย!”
ชายหนุ่มบ่นอุบอิบโดยที่มือทั้งสองข้างยีผมดำยาวจนยุ่งฟู่ แก้มขึ้นสีแดงเจือเล็กน้อยจากความรู้สึกสยิวกิ้วใจแปลกๆ “ฉันจะเอาคืนแก! บิทเทอ!”