โรงเรียนสอนให้หนูมีความรับผิดชอบ แต่โรงเรียนที่ป๊ะป๋าเรียนมาเขาไม่สอนเหรอ ป๊ะป๋าไปรังแกคุณคนสวย แต่ไม่รับผิดชอบเนี่ยนะ หนูอายที่มีป๊ะป๋าแบบนี้นะ — “มั่วแล้ว! คุณคนสวยต่างหากที่แกล้งป๋า แกล้งจนท้อง!!!”

#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse) - บทที่ 3 คุณวัชรผู้แสนขรึม nc50% โดย KONKON satuu @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,ครอบครัว,รัก,ดราม่า,omegaverse,ปะป๊าอย่าโง่ ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,ครอบครัว,รัก,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

omegaverse,ปะป๊าอย่าโง่

รายละเอียด

โรงเรียนสอนให้หนูมีความรับผิดชอบ แต่โรงเรียนที่ป๊ะป๋าเรียนมาเขาไม่สอนเหรอ ป๊ะป๋าไปรังแกคุณคนสวย แต่ไม่รับผิดชอบเนี่ยนะ หนูอายที่มีป๊ะป๋าแบบนี้นะ — “มั่วแล้ว! คุณคนสวยต่างหากที่แกล้งป๋า แกล้งจนท้อง!!!”

ผู้แต่ง

KONKON satuu

เรื่องย่อ

รู้ถึงไหน อายถึงนั่น! 

คนอย่าง 'ป๊ะป๋าวัชระ'  อัลฟ่าหนุ่มที่เพียบพร้อมทุกอย่าง เงินทอง อาชีพมั่นคง และมีลูกชายปากดี (จัด) แก่แดด เถรตรง ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ถึงกระนั้นก็ยังไปทำคนอื่นท้องและจะทิ้งอย่างไม่ไยดี!!! 

ที่สำคัญเป็นพี่ชายสุดสวยที่ 'ภูริภัทร' ชอบมาก ๆ ด้วย


"ป๊ะป๋าช่างเลวนัก กล้ารังแกพี่สุดสวยของภูทำไม!!! ภูจะเอาเลือดบนหัวป๋าออกเดี๋ยวนี้!"

"เดี๋ยวนะภู นิธิศสุดสวยของภู (พอ) รังแกป๋าต่างหาก รังแกจนท้อง! ไอ้เด็กแก่แดดไม่รู้เรื่อง!!!"

"ไม่จริ๊งงงงง!"


ฟีลป๊ะป๋ากับลูกหยุมหัว

และ

พ่อหนุ่มหน้าสวยกับหนุ่มธุรกิจพ่อเลี้ยงเดี่ยว


คำเตือน :

Omegaverse 

multiverse 

blood เลือด , death ความตาย

Profanity คำหยาบคาย pregnancy ตั้งครรภ์ 

Sexual explicit เนื้อหามีความโจ่งแจ้งในเรื่องเพศ

Violence การใช้ความรุนแรง gun ปืน

Verbal abuse ทำร้ายทางวาจา

Toxic family ครอบครัวที่ไม่มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน (ญาติผู้ใหญ่)




สารบัญ

#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)-บทที่ 1 เด็ก (ไม่) ไร้เดียงสา,#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)-บทที่ 2 ร้านเครื่องเขียนพิเศษและคุณคนสวย,#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)-บทที่ 3 คุณวัชรผู้แสนขรึม nc50%,#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)-บทที่ 4 บ้านสิริมหินศรณ์ที่ภูเกลียด,#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)-บทที่ 5 วันไปเที่ยวของบ้านภูริภัทร,#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)-บทที่ 6 100 nightstand nc100%,#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)-บทที่ 7 อาการออก,#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)-บทที่ 8 พี่นิธิศไม่สบายเหรอ,#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)-บทที่ 9 พี่ธิศโดนป๊ะป๋าแกล้ง,#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)-บทที่ 10 วันหยุดที่ไม่ได้หยุด,#ป๊ะป๋าอย่าโง่ (omegaverse)-บทที่ 11 ป๊ะป๋าโดนแกล้งเรอะ

เนื้อหา

บทที่ 3 คุณวัชรผู้แสนขรึม nc50%


บทที่ 3  

คุณวัชรผู้แสนขรึม

 

 

 

‘หนึ่งทุ่มแล้ว ภูจะนอนแล้วน้า’ 

‘ป้าลำดวนรีบเข้านอนน้า’ 

คืนนั้นภูริภัทร‍‍‍เข้านอนเร็วอย่างที่ปากพูดไว้ แถมชอบทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่วัชระเกือบตลอดเวลา แต่เขาก็ยังคงเก็บสีหน้าและอาการไว้ได้ดี ไอ้การหยอกล้อบ้าบอนั่นไม่ได้ผลกับตน 

เฮ้อ หวังว่าเรื่องนี้จะไม่โป๊ะแตก 

กระนั้นก็ยังแอบคิดว่า ทำไมเขาต้องไม่ให้ภูริภัทร‍‍‍รู้เรื่องความสัมพันธ์อันครุมเครือของเขาและนิธิศด้วยเล่า ทั้งที่เขามีสิทธิ์ที่จะหาคนรักไม่ใช่เหรอ ในเมื่อไม่ได้มีใครผูกมัดแล้ว

เวลาสามทุ่มวัชระจัดการปิดบ้านให้เรียบร้อย ยังดีที่ป้าลำดวนก็อาศัยในบ้านด้วย จะได้ดูลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสะดวก สุดท้ายก็กระโดดขึ้นรถและขับออกไปด้วยความเบาใจ

จุดหมายคือร้านบาร์แห่งหนึ่ง มีสไตล์การตกแต่งโทนร้านอบอุ่น มินิมอล เสียงเพลงคลาสิกคลอเบา ‍ๆ‍‍ ผ่อนคลาย ดวงตาเรียวกวาดมองทั่วร้านอย่างเชื่องช้าเพื่อสอดส่องหาบุคคลที่นัดกันเอาไว้ ฉับพลันจมูกรับกลิ่นฟีโรโมนที่คุ้นเคยได้ แสดงว่าต้องอยู่แถวนี้

“พี่มาจริงด้วย”

เสียงทุ้มจากด้านหลังดังขึ้น ฟีโรโมนประจำตัวอีกฝ่ายตีขึ้นจมูกวัชรทันที เผลอสูดหายใจลึกหลับตาพริ้มไปหลายวินาทีเลยทีเดียว

‘กลิ่นซิตรัส’ หวานซ่อนเปรี้ยวจากเหล่ามะนาว เกรปฟรุต เลมอน ส้มที่ทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า อีกทั้งยังชวนให้หลงใหลเป็นพิเศษ

ครั้นลืมตา หมุนตัวไปมองนิธิศ รอยยิ้มบนใบหน้าคมคายปนงามพริ้งประดับรอไว้แล้ว แน่นอนว่าวัชระก็ชอบไม่แพ้ใคร

“ภูหลับไปก่อนเลยมาได้” 

“ก็ดีแล้วที่น้องภูเป็นเด็กดีเข้านอนเร็ว” 

“อือ” 

“ถ้างั้นไปนั่งกัน ผมจองโต๊ะไว้แล้ว เชิญเลย” มือหนากอบกุมมือของวัชระอย่างถือวิสาสะ กระนั้นคนโตกว่าก็ไม่ได้ห้ามหรือสะบัดออกแต่อย่างใด

“นึกว่าจะไปเลยซะอีก” วัชรเอ่ยขึ้นมา

“ไปไหน?” 

“ก็…โรงแรมแถวนี้ หรือโรงแรมเดิม” 

นิธิศเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะหัวเราะออกมา “ติดใจผมเหรอเนี่ย ดีใจจัง แต่ใจเย็น ‍ๆ‍‍ ครับ ไม่คิดจะคุยกับผมก่อนเหรอ น่าน้อยใจนะ” 

“ก็ได้” วัชรใบหูแดงก่ำ อุตส่าห์ไม่อยากแสดงว่าตนเองโหยหาคนตรงข้ามมากแค่ไหน กลับสร้างเรื่องหน้าไม่อายเข้าซะแล้ว ก้มหน้างุดยอมไปนั่งดื่มก่อน จะได้ตั้งสมาธิและสติใหม่ รวมถึงมีเวลาสำรวจอีกฝ่ายด้วย

วันนี้นิธิศสวมเสื้อสีขาวแขนกุด ทับด้วยเสื้อหนังสีดำ กางเกงยีนรัดรูปมีรอยขาดบริเวณหัวเข่า เส้นผมบลอนด์ที่ยาวสลวยคลอเคลียต้นคอถูกรวมเป็นจุกเล็ก ‍ๆ‍‍ เอาไว้ และยังมีลูกปัดหลากสีแต่งแต้มแซมอยู่ตามกลุ่มผมนั่นด้วย อ้อ!
ไม่ลืมไฝมหาเสน่ห์บริเวณใต้ตาซ้ายนั่นอีก

มีเสน่ห์เหลือล้นจนน่าอิจฉา

และใช่ วัชรชอบแบบนี้ 

ชอบที่สุด 

บางคนนึกว่าตนนั้นชอบคนที่เรียบร้อย เนี้ยบอยู่เสมอและมีฐานะที่เทียบเท่ากับตน แต่ทุกคนต้องตื่นตะลึงบ้างแหละที่ตนสนใจนิธิศ เพราะทุกอย่างมันตรงข้ามกับสิ่งที่จินตนาการคิดเอาไว้ทั้งหมด

“พี่มองหน้าผมนานแล้วนะ” 

“เพลินดี” 

“พูดให้มากกว่านี้สิ ทำไมพูดสั้นจัง” 

“ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว” หมายถึงเวลาอยู่กับนิธิศที่จะพูดน้อยผิดปกติ มันเกร็งและเขินอาย ไม่รู้จะพูดอะไร คนวัยทำงานต้องคุยหัวข้อไหนกับเด็กวัยรุ่นที่มีสไตล์โดดเด่นกันนะ

“ถ้างั้นผมพูดมากให้แทนก็ได้ จะได้ไม่อึดอัด” 

“ก็ดี เดี๋ยวเลี้ยงเอง ค่าน้ำค่าห้อง” 

“ไม่เป็นไร พี่เลี้ยงผมทุกครั้งแทบจะนับนิ้วไม่ได้แล้ว ยังไงวันนี้ผมเลี้ยงบ้าง” 

“เก็บเงินไว้ซื้อขนมให้เด็กเถอะ” 

“ก็ได้” 

เห็นแบบนี้แล้วก็นึกถึงวันแรกที่ได้เจอกัน

พวกเขาเจอกันครั้งแรก ณ ที่แห่งนี้ เหตุเพราะวันนั้นมีคนดังมาที่ร้าน
ทำให้ไม่มีที่นั่ง ตัวเองก็ลืมจองโต๊ะไว้ ทำให้เขาได้นั่งร่วมโต๊ะกับนิธิศ บุคคลที่สามารถทักทายผู้คนอย่างกับเป็นมิตรสหายเสียจนงุนงง 

และแล้วเขาสองคนต่างถูกใจกัน จึงเริ่มสานสัมพันธ์ต่อไปเรื่อย ‍ๆ‍‍ จนปาไปสามเดือนแล้ว มักนัดนั่งดื่ม พูดคุยสนุกสนาน และจบที่เตียง เช่นเดียวกับวันนี้

พวกเขานั่งฟังเพลง คุยทักทายตามประสาคนไม่เจอกันนานอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งถึงเวลาที่รอคอยสำหรับวัชระ

โรงแรมหรูที่เปิด 24 ชั่วโมงตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลบาร์ที่เราพบกัน แน่นอนว่าวัชรเลือกห้อง VIP สำหรับค่ำคืนนี้ที่ตนสามารถบรรเลงเพลงสวาทร่วมกันอย่างเร่าร้อนได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลสิ่งใด

“ธิศอย่าเพิ่ง รอเข้าไปในห้องก่อน” ขณะอยู่ในลิฟต์นิสัยซุกซนของนิธิศเริ่มเผย ริมฝีปากหนาประทับลงบนซอกคอ กดจูบเสียงดังจนเสียงดังกังวาน

กลิ่นดอกกาแฟ ดอกไม้งามที่ไม่คิดว่าจะหอม นึกว่าจะขมเหมือนกับเมล็ดที่ชอบเอาไปคั่วบดและดื่ม กลิ่นก็หอม รูปลักษณ์ก็สวย ดอกสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ ช่างน่าเชยชมยิ่ง

“กลิ่นพี่หอม หอมเหมือนเดิม” 

กระซิบเสียงแหบพร่าข้างหูจนวัชระจั้กจี้ต้องเบี่ยงตัวหลบ นิธิศไม่ยอม รวบโอบเอวเอาไว้แน่นและรั้งเข้าหาตัวเพื่อจูบริมฝีปากนั่น สองอัลฟ่า‍‍นัวเนียกันอยู่ในนั้นจนกระทั่งลิฟต์เปิดออก วัชรถึงได้รีบวิ่งหาห้องของตัวเองให้เจอ และดันนิธิศเข้าไปทันที

“กลิ่นนายก็หอม” ครานี้เป็นวัชรที่รุกก่อนบ้าง ประทับจูบทันทีที่ประตูห้องปิดลง ชุดสูทถูกปลดออก เขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ไยดีขณะที่กอดจูบอยู่ตามทางเดิน พอถึงห้องนอนก็ต่างคนต่างถอดเสื้อผ้าทิ้งลงข้างเตียง จนร่างกายเปลือยเปล่า และเป็นนิธิศที่หักห้ามใจไว้ได้

“พี่อยากอาบน้ำไหม” 

“อาบมาแล้ว” 

“ใจตรงกันนี่” นิธิศยิ้ม 

“ก็รู้ว่ามาเอากัน ก็ต้องเตรียมตัวมาสิ” 

“แล้วตรงนี้ล่ะ เตรียมมาด้วยไหม” 

“อ๊ะ!” มือหนาเลื่อนลงบีบเคล้นแก้มก้นของวัชรจนเผลอครางออกมา จากมือข้างเดียวก็เปลี่ยนมาใช้ทั้งสองข้าง จับคลึงเคล้าสลับแหวกออก ก่อนจะเลื่อนนิ้วลงไปแตะที่ช่องรูรักที่รู้สึกจะบวมและฉ่ำวาวผิดปกติ นิธิศหันมองหน้าคนเป็นพี่ทันที

แอบเตรียมตัวมาด้วย

“พี่นี่น่ารักจริง ‍ๆ‍‍” 

“น่ารักอะไร หยุดบีบสักที” 

“ก็มันนิ่มนี่” 

กระนั้นก็ยอมผละมือออก เปลี่ยนมาผลักให้วัชระล้มลงนอนบนเตียง ส่วนตัวเองก็ควานหาของสำคัญสองอย่างจากกางเกงที่หล่นลงข้างเตียงไปแล้ว มันคือถุงยางและเจลหล่อลื่น แม้ว่าอัลฟ่า‍‍จะผลิตน้ำหล่อลื่นออกมาได้เองแต่ก็น้อยกว่าโอเมก้าหลายเท่า ดังนั้นจึงต้องใช้เจลอยู่ดีเพื่อลดความเจ็บปวด

“ร่างกายพี่สมบูรณ์แบบจริง ‍ๆ‍‍ โคตรมีเสน่ห์” นิธิศเลียริมฝีปาก ดวงตากวาดสำรวจเรือนร่างนั้นอย่างอุกอาจ วัชรเองก็เขินอายที่ต้องนอนเปลือยให้อีกคนจ้อง ถึงจะเคยนอนด้วยกันมาหลายครั้งแล้วก็ตาม

คนน้องเริ่มเล้าโลม จูบริมฝีปากอย่างดูดดื่ม ใช้ลิ้นละเลียดเลียเพื่อให้อีกคนเปิดปากออก ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปสำรวจในโพรงปาก หยอกล้อเกี่ยวกระหวัดลิ้นอีกคนอย่างนึกสนุก ส่วนมือก็ลูบไล้ไปทั้งเรือนกาย มาหยุดที่ยอดปทุมถันที่ชูชันแข็งเป็นตุ่มไตเมื่อได้รับการกระตุ้น บีบคลึงจนเจ้าของกลิ่นดอกกาแฟครางอื้ออึงในลำคอ บิดเร้าไปมา จนนิธิศต้องเอ่ยถาม

“มันโอเคใช่ไหม” 

“อือ จะแรง ‍ๆ‍‍ เลยก็ได้” 

“ผมรู้ว่าพี่เป็นอัลฟ่า‍‍เหมือนกัน ถึกอยู่แล้ว แต่ผมก็อยากถนอมพี่นี่นา” 

“ทำมาปากหวาน พูดแบบนี้กับคนอื่นไปกี่คนกันล่ะ” 

“นั่นสิ” นิธิศยิ้มมุมปาก วัชระรู้ คนมีเสน่ห์รายล้อมไปด้วยผู้คนหนุ่มสาว จะมีเหรอที่มาเอากับเขาแค่คนเดียว แต่ถ้าเขาหาเพราะรวยก็ไม่แปลกใจ

วัชระลุกขึ้นนั่งและเป็นฝ่ายผลักให้นิธิศนอนลง เขาขึ้นคร่อมทับขา มองเครื่องเพศของน้องที่ชูชันอวดความโอฬาร มันเริ่มแข็งตัวแล้ว อัลฟ่า‍‍คนพี่จึงคว้าหมับและรูดรั้งขึ้นลงอย่างเชื่องช้า

“ซี้ด…อย่าแกล้งผมแบบคราวก่อนนะครับ” 

“แกล้งบีบแรง ‍ๆ‍‍ น่ะเหรอ” 

“มันเจ็บ” 

“นึกว่าเสียวซะอีก” 

คนพี่รูดรั้งจนส่วนหัวเริ่มมีน้ำไหลออกมา จึงใช้มันทารูรักของตัวเองให้ลื่นฉ่ำ ก่อนที่ริมฝีปากจะครอบครองความอุ่นนี้ทันที เขาไม่ได้ผงกหัวไปมา
หรือดูด แต่ใช้ลิ้นเลียส่วนหัวและรูที่มักจะพ่นน้ำเชื้อชั้นดีออกมา ทำเอานิธิศครางเสียงต่ำและเกร็งไปทั้งตัวด้วยความเสียวกระสัน เผลอลุกขึ้นนั่งและกดหัววัชระเอาไว้

จากนั้นก็เริ่มชักเข้าชักออก ใช้ลิ้นเลียและแกล้งขบเม้มเล่นจนนิธิศเผลอจิกหัว

“อย่างงั้นแหละพี่ แต่เร็วกว่านี้ ผมจะแตกแล้ว” เพราะยังไม่ได้ดั่งใจธิศจึงเริ่มควบคุมเอง สองมือจับหัววัชรเอาไว้ก่อนจะเป็นคนขยับสะโพกสวนเข้าออกเอง

“อื้อ!” ความยาวทิ่มอยู่ในปากจนแทบถึงคอหอย ทำเอาตาลอยเลยทีเดียว นิธิศหยุดเมื่อแก่นกายปลดปล่อยน้ำรักออกมาในปากและรดใส่หน้าคมคาย

“แค่ก ‍ๆ‍‍” 

“กลืนลงไป” 

วัชรทำตามอย่างว่าง่าย กลืนมันลงไป และเลียริมฝีปาก นิธิศช่วยเช็ดคราบออกจากใบหน้าเฉพาะกรอบดวงตาเท่านั้น แต่ปล่อยให้คราบน้ำเชื้อสีขุ่นเปรอะเปื้อนใบหน้าต่อไป

นิธิศเริ่มทนไม่ไหว สลับตำแหน่งกับวัชระโดยไว ร่างงามสมบูรณ์แบบนอนทอดกาย อ้าขาออกกว้างเพื่อให้นิธิศนั่งแทรกกลางได้ หลังจากสวมถุงยางเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเตรียมช่องทางให้วัชรเพราะเจ้าตัวเตรียมตัวมาอย่างดี สามารถกดส่วนหัวเข้าไปอย่างง่ายดาย

“แน่น” เผลอจิกผ้าปูที่นอนแน่น เมื่อความร้อนเริ่มเข้ามาในโพรงรูด้านล่าง นิธิศเข้ามาได้ครึ่งเดียวก็ต้องหยุดพัก คามันเอาไว้และไม่ลืมที่จะป้อนจูบเพื่อปลอบโยน

“ค่อย ‍ๆ‍‍ กินนะครับ ผมมีให้พี่ทั้งคืนเลย” 

“อือขยับสิ อ๊ะ!” จบประโยคร่างก็สั่นคลอนไปตามแรงที่คนด้านบนควบคุม จากที่ขยับเชื่องช้าก็เริ่มแรงและเร็วขึ้นจนในที่สุดอัลฟ่า‍‍กลิ่นซิตรัสพลันสวนกระแทกเข้าไปจนมิดด้าม

“อ๊า!!!” วัชรร้องครางเสียงดัง ร่างกายกระตุกเกร็ง ช่องทางสวาทขมิบตอดรัดแน่นกว่าเดิมจนนิธิศสบถคำหยาบ

“แม่งเอ๊ย ตอดแน่นจังวะพี่” 

“ก็มันชอบของธิศไง เข้ามาลึก ‍ๆ‍‍ อีก” 

“พี่นี่ร่านจัง ชอบของผมขนาดนั้นเลยดิ” 

“งือ อึ่ก” ร่างกายของวัชรแดงเถือก พยายามอ้าขาให้กว้างขึ้นจนแนบชิดพื้นเตียงเพื่อให้นิธิศตอกตัวตนเข้ามาลึกกว่านี้ นิธิศสนองความต้องการของวัชระอย่างดี จากนั้นก็เปลี่ยนท่าทางให้คว่ำลงและยกสะโพกขึ้น ก่อนจะขยับเอวสอบรัวเร็วจนแทบทรงตัวไม่อยู่ หน้าคว่ำไปกับหมอน 

“อ๊ะ ‍ๆ‍‍ อื้อ งื้อ อ อ๊า” เสียงครางร้องระงมลั่นห้องพอ ‍ๆ‍‍ กับเสียงของเนื้อหนังกระทบกันดัง ‘ป้าบ ‍ๆ‍‍!’ 

“จะเสร็จแล้วธิศ จะเสร็จอ๊า!” สิ้นประโยควัชรก็ปลดปล่อยความเสียวกระสันและความรู้สึกดีออกมาพร้อมน้ำสีขุ่นที่ไหลออกมาตามขาขาวนวล ถัดมาไม่นานเจ้าของผมบลอนด์ก็ปลดปล่อยตามมาในที่สุด

“ฮ ฮ่า…ฮึก” เขาฟุบหน้าลงกับหมอนชั่วครู่ เผลอครางเสียงหลงเมื่อ
อีกคนถอนแก่นกายออก ช่องรูแดงขมิบตอดอากาศรัวเร็วราวกับประท้วงว่าต้องการอีก วัชรรีบลุกขึ้นและทักท้วงทันที

“พอแค่นี้เหรอ” 

คำถามนั้นทำเอานิธิศชอบใจนัก 

“ใช่ที่ไหนล่ะครับ เราไม่เคยจบกันที่รอบเดียวนี่” 

ใช้เวลาไม่นานก็เปลี่ยนถุงยางใหม่เสร็จเรียบร้อย รีบขยับท่าทางให้เข้าที่เข้าทาง วัชรก็ยังคงหันหลังให้และแอ่นสะโพกขึ้นเพื่อเตรียมรับความอบอุ่นและเสียวซ่านอีกครั้ง

แม้จะเป็นครั้งที่สองแต่ช่องรูรักยังคงแน่นคับเหมือนเดิม มีบ้างที่
นิธิศกลั่นแกล้งคาเอาไว้ไม่ยอมขยับ วัชระถึงกับทำหน้าง้ำงอไม่พอใจ จึงส่ายสะโพกไปมาและขยับเข้าออกเองตามใจ แถมยังแกล้งเอาคืนโดยการขมิบรูแรง ‍ๆ‍‍ กลืนกินท่อนกายนั้นอย่างตะกละตะกลามจนคนน้องร้องซี้ด

จนกระทั่งในที่สุดบทร่านรักก็สิ้นสุดลงเมื่อสองคนได้ปลดปล่อยสุขสมออกมาจนสิ้น ร่างของอัลฟ่า‍‍กลิ่นซิตรัสล้มทับวัชร ก้มจูบตามซอกคอและใบหู ฝากร่องรอยความสุขเอาไว้

“พี่เจ๋งที่สุดเลย” 

“อือ” ก่อนจะลุกไปชำระร่างกายให้สะอาด และกลับมานอนบนเตียงที่ทำการถกผ้าปูเตียงออกเรียบร้อยแล้ว

“เหมือนคู่รักเลยเนอะพี่วัชร” นิธิศขำคิกคักพลางกำชับกอดให้แน่น ออดอ้อนคลอเคลียก้มลงสูดกลิ่นหอมจากตัวอัลฟ่า‍‍

วัชรไม่ตอบ แกล้งทำเป็นหลับ ทว่าในหัวกลับคิดไปเรื่อยเปื่อยจนว้าวุ่นใจ คงไม่พ้นเรื่องของเจ้าของผมบลอนด์ที่นอนหลับปุ๋ยไปแล้ว

คู่รักเหรอ?

ประโยคนั้นสำหรับนิธิศอาจเป็นการหยอกล้อมากกว่าที่จะเป็นคำถามจริงจัง แต่ก็อดใจเต้นไม่ได้

วัชระรู้ นิธิศยังวัยรุ่น เป็นที่รักของทุกคนคงไม่มาหยุดที่เขาได้หรอก หากมีดีแค่เงินและหน้าตา ก็ไม่มีสิ่งใดน่าสนใจอีกสำหรับวัยรุ่นที่มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์

คิดอย่างนั้นแล้วกลับปวดหนึบที่หัวใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ คนที่ไม่สนใจความรักและมุ่งแต่ทำงาน หรือจะเรียกว่าคนไม่รู้ใจตัวเองดีนะ? จะรู้ได้ยังไงว่า
ที่เป็นอยู่ตอนนี้คืออะไร

ความสัมพันธ์เราแปลกนัก ไม่กล้าเรียก one night stand เพราะเรากลับมาติดต่อหลายครั้ง จะ Friends with benefits ก็ไม่ได้เพราะไม่ใช่เพื่อนกัน

แล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะ?

คู่นอนธรรมดาน่ะเหรอ?

อา...ให้ตายสิ ปวดหัวชะมัด

วัชระเลิกใส่ใจเรื่องบ้า ‍ๆ‍‍ นี่และเข้าสู่นิทราในที่สุด อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้ว พรุ่งนี้เขาต้องไปสู้กับผู้คนอีก

 

 

เวลาหกโมงเช้าแสนสดใส ภูริภัทร‍‍‍ลงมาจากชั้นสองด้วยสีหน้างุนงง เดินไปที่โต๊ะอาหารพลางคิดในใจว่าวันนี้ป้าลำดวนจะทำอะไรให้กินก่อนไปโรงเรียน ทว่าร่างกายกลับชะงัก หน้าซีดเผือดทันใด เมื่อลูกแก้วกลมสีดำเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติ ก่อนจะแหกปากกรี๊ดออกมา

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด อ๊ากกกกกกกกกก!!!”

 “!!!”

คนที่ฟุบบนโต๊ะถึงกับสะดุ้งตัวโหยง สองมือกุมอกไว้กลัวว่าก้อนหัวใจจะกระเด็นหายไป ในขณะที่ดวงตากลมของเด็กน้อยสั่นระริก เห็นร่างของป๊ะป๋านอนฟุบอยู่ที่โต๊ะกินข้าวด้วยสภาพอิดโรยและเสื้อผ้าชุดเมื่อวานก็เดินไปดูใกล้ ‍ๆ‍‍ 

“หนวกหูน่ะภู กรี๊ดทำไม” 

“ผีดิบ ผีเน่า ตัวเหม็น ตกส้วมมาแน่เลย!” ภูเอามือปิดจมูกและขยับกายถอยห่างทันที วัชรตาโตก้มดมกลิ่นตัวเองดูบ้าง 

กลิ่นซิตรัสหอมของนิธิศติดตามตัวเขาจริง ‍ๆ‍‍ ทว่าก็นึกขึ้นได้ว่า
ภูริภัทร‍‍‍ไม่น่าจะได้กลิ่น ด้วยอายุ 6 ขวบที่เพศรองยังไม่ปรากฏจึงไม่สามารถรับรู้ถึงกลิ่นฟีโรโมนได้ 

แล้วนี่ภูได้กลิ่นอะไร?

“กลิ่นอะไร” 

“ยังจะถาม ก็เหล้าไง เหม็นนนน” 

“ไม่ได้กินเยอะสักหน่อย”

“อ่อเหรอ”

“วันนี้ให้ลุงพลไปส่งนะ ป๋าเหนื่อย” ทำเป็นเปลี่ยนเรื่องคุยทันที

“นี่ป๊ะป๋าเพิ่งกลับมาใช่ไหม” 

“ก็เห็นอยู่” 

“ไม่ต้องไปบริษัทก็ได้นะวันนี้” 

“ได้ที่ไหนล่ะ” 

“ก็เดี๋ยวพี่นัทจับสังเกตได้หรอกว่าป๊ะป๋าทำงานดึก ‍ๆ‍‍ ดื่น ‍ๆ‍‍ ไม่ยอมพัก ดูสิมียุงตัวเบ้อเร่อเท่อกัดที่คอด้วย ไม่มียากันยุงเหรอ” 

ว่าแล้วก็จิ้มที่คอตัวเองเป็นการบ่งบอกตำแหน่งให้วัชระทราบ ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์เปิดแอพถ่ายรูปเพื่อส่องแทนกระจกตรงจุดที่โดนทัก พลันดวงตาเบิกกว้างทันใด

“เฮ้ย!!!” เขารีบปกปิดมันทันที หันขวับมองเจ้าลูกชาย หวังไม่ให้เห็นก็สายไปแล้วในเมื่อภูริเป็นคนทักเอง เวรกรรมแล้ววัชระ

“ป๋าไปอาบน้ำดีกว่า” ว่าแล้วก็หนีดีกว่า

“จ้า” 

วัชระก้าวเดินขึ้นไปชั้นสองสวนกับป้าลำดวนจึงทักทายกันเพื่อรักษามารยาท

“อ้าว คุณวัชรกลับมาแล้วเหรอคะ ป้าทำความสะอาดห้องคุณแล้วค่ะ แล้ววันนี้น้องภูอยากกินปาท่องโก๋ ป้าเลยออกไปซื้อให้ มีของคุณด้วยนะคะ” 

“ขอบคุณนะครับป้าลำดวน” สาวเท้าเข้าห้องน้ำไป รีบไปยืนหน้ากระจกและถอดเสื้อออก ดวงตาถึงกับเบิกกว้างที่เห็นร่องรอยที่นิธิศฝากเอาไว้ รอยจูบที่คอ ลงมาถึงกระดูกไหปลาร้า ทำเอาอัลฟ่า‍‍หนุ่มแทบลมจับ ใครกันแน่ที่อดอยากกว่ากัน

ไอ้เด็กเวร ไม่ว่าจะเด็กคนไหนก็เวรทั้งนั้น

กระนั้นเขาก็ต้องรีบสวมเสื้อดังเดิมและออกจากห้องน้ำ เพราะได้ยินเสียงเคาะประตูและเสียงแหลม ‍ๆ‍‍ ของเด็กน้อย 

“ป๊ะป๋า ภูจะไปแล้วนะ” อย่างน้อยก็อยากบอกให้ทราบว่าตัวเองจะไปโรงเรียนแล้ว “ไม่ไหวก็นอน ไม่ต้องไปทำงาน เป็นถึงท่านประธานบริษัทนี่” 

“วันนี้มีนัดคุยงานตอนบ่าย” 

“ก็ไปตอนบ่าย” 

“เงียบไปเลย เด็กก็มีหน้าที่เรียน ไม่ต้องยุ่งเรื่องงานของผู้ใหญ่หรอก” 

“งั้นอย่ามาถามหาเกรดภูนะ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่เหมือนกัน” ภูริภัทร‍‍‍สวนกลับทันควันจนวัชระชะงักค้างตื่นตะลึงไปหลายวินาที

“ภูริภัทร‍‍‍!” 

“ไปแล้วนะ จุ๊บ!” เด็กน้อยสนใจที่ไหนวิ่งมากอดเอวและกดจูบที่เอวคุณพ่อแทน ด้วยเหตุที่ว่าตัวเองสูงไม่ถึงพอที่จะจุ๊บแก้มหรือปากได้

“แหวะ” เขาแกล้งทำเป็นเช็ดจุดที่ภูริภัทร‍‍‍จุ๊บเมื่อกี้ และทำท่าขนลุก
ขนชันใส่จนเด็กชายเอือมใส่

“ภูต้องแหวะมากกว่านะ ที่ต้องมาจุ๊บคนขี้เมาเนี่ย” ทำเป็นเบะปากสะบัดหน้าเชิดใส่วัชระ ทนไม่ไหวต้องยื่นมือไปหยิกแก้ม

“เหอะ รีบ ‍ๆ‍‍ ไปเลย” 

“หรือต้องให้คนอื่นจุ๊บ? คนคนนั้นที่อยู่ในร้านเครื่องเขียนรึเปล่าน้า” 

“ภูริภัทร‍‍‍!!!” 

“ไปแล้วก็ด๊ายยยย” 

ไอ้เด็กนี่มันรู้มากไปแล้ว!!!

ภูริภัทร‍‍‍วิ่งขึ้นรถไป ลุงพลประจำที่ตัวเองแล้ว หันมาตรวจเช็กสภาพรถและข้าวของของภูที่จะนำไปโรงเรียนด้วย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีจึงขับออกไป 

ระหว่างทางที่มองบรรยากาศยามเช้าพลางคิดอะไรไปเรื่อย รอยแดง ‍ๆ‍‍ ของวัชระกลับแวบเข้ามาในหัวอีกครั้ง คิ้วขมวดเข้าหากันทันที

“หรือยุงที่ว่าชื่อพี่ธิศ?” 

“น้องภูพูดว่าอะไรนะ?” ลุงพลเอ่ยถาม ได้ยินเด็กน้อยพูดพึมพำคนเดียว

เด็กน้อย‍‍‍หุบปากฉับ ตกใจที่เผลอพูดออกมาแทนที่มันจะดังในใจเท่านั้น บ้าจริง

“ภูแค่ตั้งชื่อสัตว์เล่น ‍ๆ‍‍ ครับ เมื่อวานครูสอนเรื่องสัตว์โลกแหละ น่ารักมาก” โอ๊ย! แถจนสีข้างถลอกแล้ว!

“งี้นี่เอง แล้วตั้งชื่อให้สัตว์อะไรล่ะเมื่อกี้ ลุงได้ยินไม่ค่อยชัด” 

“ยุง” 

“อ อ้อ ว้าว ฉลาดมาก” ตื่นเต้นได้ปลอมมากฮะลุง

ลุงพลเลิกสนใจแล้ว เขาจึงกลับมาสนใจความคิดเมื่อครู่ของตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจพลางส่ายหัวไปมา

เขาก็หมกมุ่นเรื่องของป๊ะป๋าเกิ๊น รู้แหละว่ามันมีความเป็นไปได้ที่เมื่อคืนสองคนนั้นจะนัดเจอกัน เป็นแค่ข้อสันนิษฐานแหละ ฮ่า ‍ๆ‍‍

อย่างไรก็ตามพี่นิธิศไม่มีทางทำร้ายป๊ะป๋าได้หรอก ป๊ะป๋าเป็นสุภาพบุรุษจะตาย โหดกว่า พละกำลังเยอะกว่าคุณคนสวยด้วย แล้วการเป็นรอยที่คอ
แบบนั้นมองยังไงก็คิดไม่ออกว่าจะทำร้ายร่างกายด้วยวิธีไหน

สิ่งที่มั่นใจที่สุดในตอนนี้คือยุงจริง ‍ๆ‍‍ นั่นแหละ

อือ ‍ๆ‍‍ มันแค่ตัวใหญ่ ผสมกับวัชระเกามันจนแดงเถือกก็ได้

เอาล่ะ อย่าคิดมากนะภูริภัทร‍‍‍ เดี๋ยวแก่ไว