ตราบนิจนิรันดร์ความรักแท้ ย่อมพ่ายแพ้แก่โชคชะตา แม้ห่างไกลแค่ไหนสุดปลายฟ้า ยินดีฝ่าเพื่อพบเจอเธออีกครั้ง
รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,#พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,#พล็อตหาเรื่อง ,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
You are my sun and I'm your moonตราบนิจนิรันดร์ความรักแท้ ย่อมพ่ายแพ้แก่โชคชะตา แม้ห่างไกลแค่ไหนสุดปลายฟ้า ยินดีฝ่าเพื่อพบเจอเธออีกครั้ง
"ไม่ว่าความรักของเขาทั้งคู่จะถูกกีดกันด้วยสิ่งใดเขาไม่เคยหวั่นไหวหรือยอมแพ้ "
แต่ถ้าหาก กีดกันด้วยโชคชะตา ถ้าเขาไม่ยอมแพ้ เขาต้องทำยังไง
โปรดติดตาม You are my sun and I am your moon
เรื่องราวของพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่ไม่มีวันบรรจบกัน
ในค่ำคืนนี้ร่างบางที่นอนบนเตียงหนานุ่มกำลังพลิกไปพลิกมาต่อให้จะเวลาจะล่วงเลยจนดึกมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถข่มตาลงได้ เจ้าชายแห่งดวงจันทร์กำลังคิดไม่ตกกับสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะแค่เขาเป็นชาวไซรัสที่มาโดยไม่รู้จุดประสงค์ว่าจะมาดีหรือร้ายแต่คนๆนั้น ยังมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขาไม่น้อย หากแต่ว่าเขาพยายามที่จะกดความรู้สึกที่ประทุขึ้นมาทุกครั้งที่ได้พบหรือพูดคุยกับชายหนุ่มผู้มาจากดวงอาทิตย์
“โอ้ย เลิกคิดๆ นอนได้แล้วอาร์เท็ม” เขาได้แต่พึมพำบอกกับตัวเอง จนสุดท้ายตัวเขาเองทนกับความคิดฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้นในหัวไม่ได้ อาร์เท็มตัดสินใจลุกออกจากเตียงพร้อมกับหยิบเสื้อคลุมมาสวมก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องนอนของตัวเอง
อาร์เท็มไม่รู้ว่าเขาควรจะไปไหนดี ที่ที่เขาตัดสินใจที่จะเดินมากลายเป็นสวนสาธารณะที่ไม่ไกลจากคอนโดที่เขาอยู่มากนัก ร่างบอบบางในชุดนอนขายาวสีน้ำเงินเข้มพร้อมกับเสื้อคลุมที่เจ้าตัวพึ่งสวมทับก่อนออกมานั่งมองพระจันทร์ในยามค่ำคืน อาร์เท็มคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนได้ยินเสียงที่คุ้นหูเอ่ยทักทาย
“ไง เจอกันอีกแล้วนะครับ” ชายหนุ่มร่างสูงระหงที่พึ่งมาใหม่ได้กล่าวกับคนตัวเล็กที่นั่งรับแสงจันทร์อยู่ก่อนแล้ว แสงของดวงจันทร์ที่ส่องสว่างในคืนนี้พาดลงมาบนใบหน้าของคนตรงหน้าเขา อาร์เท็มถือว่าเป็นคนที่งดงามมาก คิ้วสวยที่เรียงตัวกัน ดวงตากลมโตรับกับจมูกที่โด่งรั้น ริมฝีปากสีชมพูอ่อน คนตัวเล็กช่างงดงามมากเหลือเกิน
“คุณตามเรามาทำไม”อาร์เท็มเอ่ยถามผู้มาใหม่ พร้อมกับขยับหนีเมื่อชายตรงหน้าได้นั่งลงข้างๆตน
“คงเป็นโชคชะตาละมั้งครับ ที่ทำให้เราใจตรงกันจนมาเจอกันที่นี่” แซมซันกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นัยย์ตาเพ่งพิจคนตรงหน้า สายตาที่มองมาทำให้แววตาของอาร์เท็มวูบไหวไม่น้อย เมื่อแซมซันเห็นคนตรงหน้าเป็นแบบนั้นก็ยิ้มน้อยๆที่มุมปาก อาร์เท็มที่เหมือนตกอยู่ในภวังค์พยายามเรียกสติตัวเองก่อนจะเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“เราขอถามอะไรคุณหน่อย”
“ว่ามาสิครับ” ชายผู้มีนามว่าพระอาทิตย์ไม่ได้มีท่าทีทุกข์ร้อนแต่อย่างใดแต่กลับกัน เขารอฟังคำถามจากคนตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ
“คุณคือชาวไซรัสใช่มั้ย” บรรยากาศรอบตัวนี้ตอนนี้ราวกับอยู่ท่ามกลางป่าอันวาร์แห่งเจริโคทั้งบรรยากาศที่เย็นยะเยือกขึ้นมาฉับพลันและไร้เสียงใดๆ “คุณเคยถามผมไปแล้วนะครับ” แซมซันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ทุกข์ร้อนใดๆ
“คุณน่าจะรู้ดี ว่าการที่ชาวไซรัสเข้ามาใกล้ชาวเจริโค มันจะเกิดอะไรขึ้น” อาร์เท็มเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่เปลี่ยน
“ถ้าผมบอกว่าการที่ชาวไซรัสลงมาโลกในครั้งนี้ เพื่อช่วยชาวเจริโค คุณจะเชื่อผมมั้ย” คราวนี้แซมซันก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่แพ้กัน เป็นคำพูดที่ดูตรงไปตรงมาและบริสุทธิ์ใจ
“ชาวไซรัสมีความจำเป็นอะไรถึงจะต้องมาช่วยพวกเราด้วย” คนอย่างเจ้าชายอาร์เท็มไม่มีทางเชื่อคำพูดของคนที่เปรียบเสมือนตัวอันตรายที่สุดในชีวิตของเขาง่ายๆเป็นอันขาด
แซมซันจ้องมองไปนัยย์ตาของคนตัวเล็ก เขารู้ว่าคนตรงหน้าไม่มีทางปักใจเชื่ออย่างง่ายดาย ก่อนที่เขาจะเห็นแววตาใครอีกคนซ้อนทับขึ้นใน ก่อนจะมีภาพบางอย่างแวบไปแวบมาในหัวจนเขาปวดหัวตุ้บๆ “คุณเป็นอะไรรึป่าว” อาการคนตรงหน้าพลอยทำให้อาร์เท็มรู้สึกเป็นห่วงไปด้วย “ป่าวครับ ผมไม่ได้เป็นอะไร” แซมซันเอ่ยตอบ
“ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรนะครับ เพราะผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นเองว่าชาวไซรัสมาด้วยเจตนาดีและบริสุทธิ์ใจต่อชาวเจริโคและผมหวังว่าชาวเจริโคจะยอมรับความหวังดีจากพวกเรานะครับ” ร่างสูงระหงเอ่ยพร้อมกับยืนเต็มความสูงก่อนจะหันมายิ้มให้คนตัวเล็กน้อยๆที่มีท่าทีเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“คุณจะช่วยพวกเราเรื่องอะไร” ร่างบางเอ่ยถาม
“ตามหาเจ้าหญิงชาร์มา”