ตราบนิจนิรันดร์ความรักแท้ ย่อมพ่ายแพ้แก่โชคชะตา แม้ห่างไกลแค่ไหนสุดปลายฟ้า ยินดีฝ่าเพื่อพบเจอเธออีกครั้ง

You are my sun and I'm your moon - บทที่ 7 But you know that love is complicated unlike we wished โดย PHAPPHIM @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,#พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,#พล็อตหาเรื่อง ,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

You are my sun and I'm your moon

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

#พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,#พล็อตหาเรื่อง ,#BL

รายละเอียด

You are my sun and I'm your moon โดย PHAPPHIM @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตราบนิจนิรันดร์ความรักแท้ ย่อมพ่ายแพ้แก่โชคชะตา แม้ห่างไกลแค่ไหนสุดปลายฟ้า ยินดีฝ่าเพื่อพบเจอเธออีกครั้ง

ผู้แต่ง

PHAPPHIM

เรื่องย่อ

"ไม่ว่าความรักของเขาทั้งคู่จะถูกกีดกันด้วยสิ่งใดเขาไม่เคยหวั่นไหวหรือยอมแพ้ "


แต่ถ้าหาก กีดกันด้วยโชคชะตา ถ้าเขาไม่ยอมแพ้ เขาต้องทำยังไง


โปรดติดตาม You are my sun and I am your moon


เรื่องราวของพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่ไม่มีวันบรรจบกัน


สารบัญ

You are my sun and I'm your moon-บทนำ start,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 1 who can understand what love is,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 2 who have met by chance just like this,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 3 who knows that a glimpse have stayed in our hearts,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 4 when we finally found each other,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 5 You erased my pain forever,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 6 You’re the only lovethat makes my life better,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 7 But you know that love is complicated unlike we wished,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 8 キミさえいれば,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 9 万里星河命运误我不认输该如何,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 10 when we need to meet this life is tearing us apartwhen we need to meet this life is tearing us apart,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 11 Even if the skyline separates us apart, love,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 12 Even if a mountain comes between, I’ll hold you now,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 13 Even if our time will not allow,You are my sun and I'm your moon-บทที่ 14 oh our destiny’s vow

เนื้อหา

บทที่ 7 But you know that love is complicated unlike we wished

 ‘เซเรน่า เราฝากลูกชายเราด้วยนะ’ ถ้อยคำนี้ยังคงก้องอยู่ในหัวขององครักษ์หญิงผู้มีชื่อเสียงที่เลื่องลือทั้งด้านหน้าตาและความรอบรู้ เซเรน่าถอนหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้ หากสิ่งที่ตำนานกล่าวเป็นจริง มันจะมาพร้อมกับความเจ็บปวดอันแสนสาหัสของทั้งคู่ 

 “คุณเซเรครับ” ร่างสูงสง่ามาหยุดตรงหน้าของเซเรน่า พระจันทร์ที่ส่องแสงสว่างผาดลงมาบริเวณใบหน้ายิ่งทำให้ใบหน้าสวยหวานของคนตรงหน้าน่ามองขึ้นไปมากกว่าเดิม ร่างบางหมุนหัวคิ้วอย่างสงสัย 

 “คุณออร์บิทมาทำอะไรคะ” เซเรน่าถามด้วยความสงสัยเพราะปกตินั้นชาวไซรัสมักไม่ออกมารับแสงจันทร์ในยามค่ำคืนมากนัก 

 “ผมออกมาดูพระจันทร์น่ะครับ” แม้จะเป็นคำตอบที่พิลึกไปจากวิสัยชาวไซรัสนักแต่นั่นก็ทำให้ร่างบอบบางของคนตรงหน้าเผยรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย 

 “แปลกนะคะที่ชาวไซรัสจะมองดวงจันทร์ในตอนกลางคืนแบบนี้” เซเรน่าเอ่ยขึ้นตามที่ใจตนคิด 

 “คุณเซเรรู้เรื่องโซลเมทใช่มั้ยครับ” เซเรน่ามีอาการตกใจเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อไป 

 “คุณรู้เรื่องโซลเมท?” เซเรน่าถามอย่างสงสัยเพราะเธอคิดว่ามีเพียงแค่แซทเทิร์นเท่านั้นที่รับรู้เรื่องนี้ 

 “ครับ ผมอยากทราบรายละเอียด” 

 


      ทางด้านของยูเรนัส เมื่อมาร์หลับไปแล้วก็คงยังมีเพียงเขาที่ยังไม่สามารถนอนหลับได้ ไม่ว่าจะพยายามข่มตานอนมากเพียงใดก็ตาม เขาจึงตัดสินใจออกมาเดินดูพระจันทร์บริเวณดาดฟ้าของคอนโดหรู 

 “นอนไม่หลับเหรอครับ” ยูเรนัสที่กำลังใจจดใจจ่อกับการมองพระจันทร์สะดุ้งตัวโก่งเมื่อได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาจากร่างสูงผู้มาใหม่ ยูเรนัสในชุดนอนสีเข้มรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ชายหนุ่มแห่งอาณาจักรดวงอาทิตย์จะมาปรากฎกายยามที่เขากำลังชมพระจันทร์อยู่ 

“ครับ แล้วคุณแซทเทิร์นล่ะ” ยูเรนัสมองหน้าผู้มาใหม่ที่ยามนี้ใบหน้าของเขาปรากฎรอยยิ้มจางๆ แซทเทิร์นเป็นบุรุษที่งดงาม หน้าตาคมสันไม่แพ้กับแซมซัน เพียงแต่แซทเทิร์นนั้นมีหน้าตาที่ดูเป็นมิตรและอบอุ่นต่างกับแซมซันที่มีใบหน้านิ่งเฉยและบุคลิกที่เย็นชา 

 “แค่มาดูพระจันทร์น่ะครับ” ร่างสูงตอบพลางยิ้มให้อย่างอ่อนโยน 

 “ผมอยากรู้เรื่องโซลเมท คุณแซทเทิร์นเล่าให้ผมฟังได้มั้ยครับ” ร่างบางของยูเรนัสกล่าวอย่างคาดคั้น เขาสงสัยเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกที่เจ้าชายอาร์เท็มเพื่อนรักของเขาได้พบกับแซมซันชายหนุ่มรูปงามจากอาณาจักรแห่งดวงอาทิตย์ 

 “มีข้อแม้นะ” 

 “อะไรเหรอครับ” 

 “เราจะต้องเรียกพี่ว่าพี่แซทเทิร์นก่อน” เมื่อร่างสูงเอ่ยจบ ยูเรนัสในชุดนอนสีเข้มใบหน้าของเขาเริ่มร้อนผ่าว 

 “ว่ายังไงครับ จะเรียกมั้ย” น้ำเสียงจริงจังปนเอ็นดูของคนตรงหน้าทำให้หัวใจของยูเรนัสเริ่มเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ 

 “ค...ครับ พี่แซทเทิร์น” 

   

  อาร์เท็มนอนพลิกไปพลิกมาบนเตียง ร่างบอบบางของคนตัวเล็กสั่นเทา เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมาบนใบหน้า แม้จะอยู่ในห้วงนิทรา ภาพสลับซับซ้อนไปมาในหัว ความทรงจำที่เลือนหายได้ย้อนกลับคืนมาเป็นฉากๆ ความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในอก มันเป็นห้วงความฝันอันแสนเลวร้าย เขาพยายามที่จะลืมตาตื่นขึ้นมา แต่เป็นการกระทำที่สูญเปล่า เหมือนเขาถูกตรึงไว้เพื่อดูเหตุการณ์ตรงหน้าให้จบ ทั้งเขา..และแซมซัน



 ‘แกไปเลิกกับมันซะ!’ เสียงชายผู้เป็นประมุขของบ้านตวาดลั่นกลางห้องโถงประจำตระกูล 

 ‘ไม่! ผมรักอาอิง ผมจะไม่มีวันเลิกกับเยว่อิง!’ ชายหนุ่มร่างสูงสง่าที่ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลามีรอยฟกช้ำบริเวณสันกราม คราบเลือดที่มุมปากที่พึ่งโดนบิดาบังเกิดเกล้าของเขากระทำ เมื่อรู้ว่าคนรักของเขาคือผู้ชายและเป็นลูกของศัตรูที่ทำให้คนที่ป๊าเขารักต้องตาย

 ‘ไม่มีวัน! ยังไงแกก็ต้องเลิกกับมันแกจำไม่ได้รึไงว่าพ่อมันทำให้แม่แกต้องตาย ทั้งเดือนดาราแม่ของเด็กคนนั้น ทั้งฮิเดโกะแม่ของแก!’ เสียงตะหวาดที่เต็มไปด้วยโทสะเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้หน้าลูกชายเพียงคนเดียวของเขา รอยแค้นที่บาดหมางกันระหว่าง เทียนอี้เซียวและยะสึระกิมันบาดลึกเกินกว่าที่จะอภัยได้ สงครามวันนั้นที่ทำให้เดือนดารา ผู้หญิงที่เขาทั้งสองรักต้องตาย เดือนดารากับเขารักกัน แต่อี้เซียวมาแย่งเธอไปด้วยวิธีแสนสกปรกพร้อมกับสร้างรอยบาปไว้ในชีวิตของเธอ นั้นคือ ‘เทียนเยว่อิง’ บุตรที่เกิดมาโดยไม่เต็มใจของเดือนดารากับความไม่รู้จักพอของเทียนอี้เซียว วันที่เขาตั้งใจเข้าไปช่วยทั้งสองออกมา ระหว่างทางเกิดการปะทะระหว่างสองตระกูลทำให้เดือนดาราต้องตาย ไม่จบแค่นั้น เทียนอี้เซียวยังทำตัวเป็นหมาลอบกัดมาตัดสายเบรครถยนต์ที่เขาใช้ประจำ แต่วันนั้นเป็นฮิเดโกะ ภรรยาของเขาที่ต้องมารับเคราะห์ร้ายแทน จนเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิต ยิ่งทวีความแค้นให้กับยะสึระกิ เพราะหลังจากที่เดือนดาราถูกแย่งชิงไป เขามีเพียงแค่ฮิเดโกะเท่านั้นที่เป็นแสงสว่างเดียวในชีวิตเขา ที่มอบของขวัญอันล้ำค่า คือ ‘ฮารุกิ’ ลูกชายเพียงคนเดียวของเขา

 ‘ค..คุณลุงครับ ..เยว่..อิง’ร่างบอบบางที่ร้องไห้จนสั่นเทาไปหมด ดวงตาที่น้ำตาไหลรินอย่างไม่ขาดสาย

 ‘แกหุบปากไปซะ! เพราะแก แกทำให้ลูกชายของฉันวิปริตผิดเพศ เพราะแก!’ บิดาของชายผู้เป็นที่รักของตน บัดนี้ไม่มีใครสามารถห้ามเขาได้ 

 ‘เยว่อิง กลับบ้านเดี้ยวนี้!’ชายร่างสูงผู้มาใหม่กล่าวขึ้นพร้อมกระชากแขนของบุตรชายเพียงคนเดียวของตัวเองอย่างแรง

 ‘ฮึก..ฮือ ป๊า..ฮึก เยว่อิงเจ็บ ฮือ..’ ร่างบางปล่อยโฮออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ยังไหลไม่ขาดสาย

 ‘ฮึก..ป๊า เรารักกัน...’ เสียงสะอื้นทำฮารุกิแทบขาดใจ

 ‘หุบปาก!’ ร่างของชายวัยกลางคนตวาดลั่นพร้อมกับพยายามกระชากร่างของบุตรชายออกมา 

 ‘แกร๊ก’ 

 ‘ไอ้ซัน แกจะทำอะไร!’ชายผู้เป็นพ่อตกใจ ทันทีที่เห็นลูกชายของเขาคว้าปืนขึ้นมาจ่อขมับไว้

 ‘ไม่ พี่ซันไม่!’ เยว่อิงหวีดร้อง

 ‘พี่รักอิงนะ’ กึก! เสียงดั่งกล่าวทำให้ฮารุกิรู้ว่ามันไม่ได้บรรจุกระสุนแม้แต่นัดเดียว พ่อเขาใช้เพื่อเอามาขู่เท่านั้น เขาหัวเราะออกมา แม้แต่จะตายก็ไม่ได้ตายงั้นหรือ หากเขาต้องทนอยู่แบบนี้ เขายอมตายไปเสียดีกว่าที่จะต้องมาแบกรับเรื่องราวมากมายพวกนี้ 

 ‘มาเอาตัวนายน้อยไป!’ เสียงคำประกาศกร้าวเหล่าบรรดาลูกน้องก็ได้มาแยกพวกเขาทั้งสองคน ทั้งเยว่อิงและฮารุกิไม่ยอมพยายามจับมือกันไว้แน่นแต่ก็ไม่เป็นผล ก่อนที่สองมือจะหลุกจากพันธนาการ เยว่อิงร้องไห้แทบขาดใจ ก่อนที่ทั้งสองจะหายออกไปจากสายตากันและกัน


                           ‘ถ้าฟ้าให้เราพบกัน ทำไมต้องพรากเราจากกัน’