ตราบนิจนิรันดร์ความรักแท้ ย่อมพ่ายแพ้แก่โชคชะตา แม้ห่างไกลแค่ไหนสุดปลายฟ้า ยินดีฝ่าเพื่อพบเจอเธออีกครั้ง
รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,#พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,#พล็อตหาเรื่อง ,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
You are my sun and I'm your moonตราบนิจนิรันดร์ความรักแท้ ย่อมพ่ายแพ้แก่โชคชะตา แม้ห่างไกลแค่ไหนสุดปลายฟ้า ยินดีฝ่าเพื่อพบเจอเธออีกครั้ง
"ไม่ว่าความรักของเขาทั้งคู่จะถูกกีดกันด้วยสิ่งใดเขาไม่เคยหวั่นไหวหรือยอมแพ้ "
แต่ถ้าหาก กีดกันด้วยโชคชะตา ถ้าเขาไม่ยอมแพ้ เขาต้องทำยังไง
โปรดติดตาม You are my sun and I am your moon
เรื่องราวของพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่ไม่มีวันบรรจบกัน
สวนสาธารณะ
หลังจากที่อาร์เท็มได้รับรู้ถึงเรื่องราวในอดีตของตนเองและชายหนุ่มจากดวงอาทิตย์ แม้จะไม่สามารถปะติดปะต่อได้เต็มที่เพราะเรื่องราวทั้งหมดแวบเข้ามาเป็นฉากๆก่อนจะเลือนหายไป แต่ที่ไม่เคยจางหายไปคือความรู้สึกที่เอ่อล้นเข้ามา ทันทีที่ภาพในอดีตหวนคืนกลับมา ความรู้สึกมากมายประดังประเดเข้ามาจนตัวเขาเองก็ไม่อาจตั้งรับทัน ร่างเล็กเม้มปากแน่น ตอนนี้เขาสับสนเหลือเกิน สิ่งที่เขาเผชิญอยู่ตอนนี้ มันคือความรู้สึกของเขาในตอนนี้หรือตัวเขาในชาติที่แล้วกันแน่ เขาตัดสินใจชวนแซมซันออกมาที่นี่ หวังให้บรรยากาศเขียวขจีและความร่มรื่นของต้นไม้จะช่วยผ่อนคลายจิตใจเขาลงได้บ้าง
กลิ่นหอมละมุนลิ่วลอยมาตามลมเป็นสัญญาบอกว่าชายหนุ่มจากดวงอาทิตย์มาถึงแล้ว ร่างสูงโปร่งทรุดตัวลงนั่งข้างๆเขา ก่อนจะนั่งพินิจอะไรบางอย่างอยู่สักครู่
“คุณคิดอะไรอยู่เหรอครับ” เจ้าชายอาร์เท็มเอ่ยถาม พลันสายตามองไปยังร่างสูงตรงหน้าที่บัดนี้คิ้วเรียวของเจ้าตัวเริ่มหมุนเข้าหากัน
“เรื่องคุณกับเรา” ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบ
แซมซันยอมรับได้เลยว่าเมื่อเขาได้รับรู้เรื่องราวในอดีต มันทำให้เขารู้สึกทั้งโหยหา ความรักความผูกพันที่เคยเกิดขึ้นในกาลเวลาก่อนย้อนกลับเข้ามาในหัวใจที่ปิดตายของชายหนุ่ม ซึ่งเขาแน่ใจว่าไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึกของตัวเขาในภพชาติก่อนที่ติดตัวมาอย่างเดียว ดวงตาคมมองไปยังใบหน้าสวยของเจ้าชายแห่งดวงจันทร์ เธอคือคนที่เขาเฝ้ารอมาตลอด เขารู้สึกแบบนั้น
“อาร์เท็ม” ร่างสูงโปร่งเอ่ยเรียกคนตัวเล็กกว่าที่นั่งอยู่ข้างกาย ใบหน้าสวยราวกับภาพวาดของคนตรงหน้ายิ่งทำให้เขารักยิ่งทำให้เขาโหยหา เขาคิดถึงคนตรงหน้ามากเหลือเกิน เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สถิตอยู่ในใจเขามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นชาตินี้หรือชาติไหนๆ การรอคอยของเขาใกล้สิ้นสุดลงแล้ว คนที่เขาเฝ้ารอมาตลอด บัดนี้ดวงจันทร์ของเขาไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
“ครับ” ร่างบางเอ่ยตอบ ดวงตากลมโตมองไปยันชายหนุ่มข้างกายที่ตอนนี้แววตาของเขาเปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่เขาสองคนได้พบกัน แต่แววตาคู่นี้ช่างคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด คนตัวเล็กพอจะเดาได้ว่านี่คงเป็นแววตาของฮารุกิ แม้ว่าตอนนี้เขาจะรู้สึกสับสนว่าในใจลึกๆของเขานั้นรักคนตรงหน้าหรือไม่ หากเป็นเทียนเยว่อิงเขาคงพูดได้เต็มปากว่าเขารักชายหนุ่มตรงหน้า แต่หากในฐานะของเจ้าชายอาร์เท็ม รัชทายาทแห่งอาณาจักรดวงจันทร์ เขาคงทำได้เพียงเก็บงำความรู้สึกทั้งหมดไว้ในใจ แม้ว่าลึกๆแล้วเขาจะคิดถึงและโหยหาคนตรงหน้าเพียงใด แต่ตอนนี้เขาคือชาวเจริโค และคนตรงหน้าคือชาวไซรัส ที่เปรียบเสมือนเส้นขนานต่อกัน ถ้าฟ้าจะให้เราพบกัน ทำไมต้องพรากเราจากกัน ตัวเขาไม่สามารถฝืนกฎธรรมชาติได้ แต่ตราบใดที่ตอนนี้เขายังมีเวลาเหลืออยู่ เขาจะไม่ยอมเสียเวลานั้นไปโดยไม่ทำอะไรเลยเป็นอันขาด
ยามที่เราทั้งสองได้พานพบ
ลบเรื่องราวอดีตที่ร้าวร้าน
เธอคือความรักแท้ที่ฉันหามาเนิ่นนาน
แต่ความรักดูเหมือนเลือนลาง ปลายทางไม่เป็นดังใจ
ถ้าจะให้เราพบกันใยต้องกีดกันเราให้ไกล
“คุณเชื่อเรื่องโชคชะตามั้ย” อาร์เท็มกล่าวถามคนข้างกาย
“เชื่อสิครับ เพราะเรื่องของคุณกับเรา คือโชคชะตา” แซมซันเอ่ยตอบพลางยิ้มเบาๆที่มุมปาก
“โชคชะตาบางทีก็เล่นตลกนะครับ ขีดให้กลับมาเจอกัน รักกัน แล้วก็พรากจากกัน” คนตัวเล็กเอ่ยเสียงแผ่วเบา
“มันก็ขึ้นยุกับเราด้วยนะครับ ว่าจะสู้หรือจะยอมพ่ายแพ้แก่มัน” แซมซันเอ่ยพลันดวงตาคมมองไปยังร่างบางที่ตอนนี้ดวงตากลมโตของอีกฝ่ายมีน้ำตาเอ่อล้นบริเวณขอบตาเล็กน้อย
“นี่ก็เย็นมากแล้ว เดี้ยวเราไปส่งคุณที่ห้องนะครับ คืนนี้ค่อยไปเจอกันที่ดาดฟ้าเรากับคุณน่าจะมีเรื่องคุยกันอีกเยอะ” ร่างสูงโปร่งของแซมซันยืนเต็มความสูงก่อนจะยื่นมือมาหาคนตัวเล็ก มือเรียวเล็กวางบนฝ่ามือใหญ่ของแซมซันก่อนจะลุกขึ้นยืนตาม แซมซันยิ้มบางๆให้คนตรงหน้าก่อนจะกอบกุมมือคู่สวยและก้าวต่อไปพร้อมกัน สายลมพัดแผ่วเบาวูบไหวผ่านทั้งสองไปเป็นสัญญาณของภพชาติใหม่ที่เขาทั้งสองได้กลับมาพบกันอีกครั้ง รอยกรรมที่ยังไม่หมดสิ้นไปกำลังรอวันที่จะหวนคืน
ดาดฟ้า เวลา 23.20
ร่างบางในชุดนอนแขนยาวขายาวสีน้ำเงินเข้มเดินเข้ามาหาร่างสูงที่นั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่ร่างเล็กของเจ้าชายแห่งดวงจันทร์จะนั่งลงข้างๆเขาก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“คุณรอนานมั้ยครับ”
“ไม่นานครับ” แซมซันเอ่ยตอบร่างเล็กผู้มาใหม่ พลันสายตาของเขาก็ทอดมองพระจันทร์บนท้องฟ้าในยามค่ำคืนไปด้วย
“ตอนเราเจอกันครั้งแรก คุณมีสร้อยพระจันทร์เสี้ยวของราชวงศ์เจริโคด้วย คุณได้มันมาจากไหน” ร่างบางเอ่ยถามชายหนุ่มจากดวงอาทิตย์อย่างสงสัย
“ของท่านแม่เรา” ชายหนุ่มผู้มาจากดวงอาทิตย์กล่าวตอบ
“แม่เราเป็นเหลนบุญธรรมของคิงโรเจอร์” ร่างสูงตอบพลางเล่ารายละเอียดให้คนตรงหน้าที่นั่งฟังเขาอย่างใจจดใจจ่อ
“คุณเลยสัมผัสเราได้ใช่มั้ย” อาร์เท็มเอ่ยถาม
“ไม่เกี่ยวเลย ที่เรากับคุณไม่โดนรังสีสะท้อนกลับซึ่งกันและกัน ส่วนหนึ่งเพราะยังอยู่บนโลกมนุษย์ แต่เราไม่แผ่รังสีใส่กันเลย เพราะอะไรนั้นเราก็ตอบไม่ได้เช่นกัน” แซมซันเอ่ยอย่างจริงจัง ตัวเขาเองก็สงสัยมาตลอดว่าเพราะเหตุใดเขาและเจ้าชายแห่งดวงจันทร์ถึงไม่โดนรังสีสะท้อนกลับซึ่งกันและกัน หากมันดูดพลังโดยไม่รู้ตัว เจ้ากระต่ายตัวน้อยตรงหน้า คงกลับบ้านเกิดของตนเองไม่ได้อีก เห็นทีเขาควรจะเว้นระยะห่างกับคนตรงหน้าเสียแล้ว ร่างสูงของแซมซันครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะหยิบสร้อยที่มีแหวนวงหนึ่งห้อยอยู่ออกมาจากกระเป๋า แหวนสีเงินที่สลักตราพระจันทร์เสี้ยวเล็กๆ ตัวเรือนสลักดวงดาวต่างๆอีกมากมาย ก่อนจะเอ่ยกับคนตัวเล็กข้างกาย
“อาร์เท็ม ถ้าเราบอกว่าเราเคยเจอกันมาก่อน คุณจะเชื่อเรามั้ย เจอกันในชาตินี้ที่คุณคือเจ้าชายอาร์เท็ม และเราคือแซมซัน”
“หือ เราเคยเจอคุณด้วยงั้นหรือ”
“ครั้งที่คุณลงมาโลกกับควีนลูน่าตอนคุณยังเด็กๆ เราเคยเจอกันมาก่อน คุณเป็นคนให้สิ่งนี้เราไว้”
ริมหาดทรายขาวแสนเงียบเชียบมีเพียงเสียงเกลียวคลื่นที่พัดพาเข้าหาฝั่ง เด็กหนุ่มวัย 14ปี นั่งชันเข่าอยู่บริเวณริมหาดทราย ดวงตาคมทอดมองไปยังท้องทะเลแสนกว้างไกลตรงหน้า แซมซันขอบิดาของเขาลงมาเปลี่ยนบรรยากาศที่นี่หลังจากที่เขาพึ่งสูญเสียพระมารดาไปเมื่อไม่นานมานี้ เด็กหนุ่มเก็บงำความรู้สึกไว้มากมาย ไม่อาจแสดงออกได้ด้วยภาระหน้าที่ขององค์รัชทายาทที่เขาต้องแบกรับไว้เต็มสองบ่า เด็กหนุ่มในตอนนี้จึงมีท่าทีที่โตกว่าอายุไปมากโข
ตุ้บ! เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น แซมซันหันไปพบกับเด็กชายตัวเล็กอายุราวๆ10ขวบได้ หกล้มอยู่ใกล้ๆเขา เด็กชายตัวเล็กหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตา ผิวขาวละเอียด ดวงตาโตรับกับจมูกโด่งรั้น ริมฝีปากจิ้มลิ้มที่ตอนนี้เริ่มเบะจากความเจ็บปวดที่ได้รับไปเมื่อครู่นี้ เด็กน้อยก้มเป่าแผลของตัวเองจึงไม่ทันได้สังเกตุคนที่พึ่งมาถึง
“เดี้ยวพี่ทำแผลให้” แซมซันเอ่ยกับเด็กชายตัวเล็ก เด็กน้อยพะยักหน้างึกๆก่อนแซมซันจะใช้เวทย์มนต์ทำให้แผลจางหายไป เด็กน้อยกระพริบตาปริบๆ
“ขอบคุณนะครับ ว่าแต่พี่ไม่ใช่ชาวโลกเหรอครับ” เด็กน้อยเอ่ยถาม
“ไม่ใช่ครับ” แซมซันตอบพลันลูบหัวเด็กชายตัวน้อยด้วยความเอ็นดู
“พี่จ๋า ดูเศร้าๆนะครับ มีอะไรบอกอาร์เท็มได้เลยนะ” เด็กชายตัวน้อยกล่าวเสียงใส
“พี่พึ่งเสียคนที่รักไปน่ะครับ” มือหนาลูบหัวเด็กน้อยๆเบา
“พี่ชื่ออะไรครับ เราอาร์เท็มนะ”
“พี่ชื่อพี่ซันครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยตอบอย่างอ่อนโยน
เด็กชายตัวเล็กทำมือยุกยิกก่อนจะถอดแหวนวงเล็กที่นิ้วชี้ของตัวเองออกมา
“อาร์เท็มให้พี่ซันครับ เป็นค่าตอบแทนที่พี่ซันเป่าแผลเพี้ยงๆให้อาร์เท็ม” เจ้าตัวเล็กพูดพลางยิ้มตาหยีโชว์ฟันกระต่ายน้อยๆของเจ้าตัวให้คนพี่ดู ก่อนที่เด็กทั้งสองจะพากันเดินเล่นริมหาดทรายพลางพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวมากมายให้แก่กัน ความรู้สึกเล็กๆเริ่มก่อตัวขึ้นในจิตใจ เพียงแต่เขาทั้งสองยังอ่อนวัยเกินกว่าจะเข้าใจมัน
“อาร์เท็ม ได้เวลากลับแล้วลูก”
“อาร์เท็มต้องกลับแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะครับพี่ซัน” เด็กชายตัวน้อยแววตาเศร้าสร้อยลง แต่ก็ยังส่งยิ้มให้กับพี่ชายตรงหน้า ควีนลูน่าที่เดินเข้ามารับลูกชายของตนก็ตกอยู่ในภวังค์ไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นเด็กทั้งสองคน แต่ก็ยังยิ้มอ่อนโยนให้กับเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ขอบใจมากนะจ๊ะที่ดูแลน้อง” ควีนลูน่าเอ่ยอย่างอ่อนโยน
“ครับ”
‘โชคชะตาได้กำหนดมาแล้วสินะ เขาทั้งสองได้พบกันอีกครั้งแล้ว’
ควีนลูน่าได้แต่คิดในใจ สิ่งใดจะเกิดก็ต้องเกิด เธอไม่อาจฝืนชะตาของใครได้
ทันทีที่อาร์เท็มเห็นแหวนวงนั้น ใจของเขาเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมาเสียให้ได้ คุณแซมซัน กับพี่ซันคือคนเดียวกันงั้นหรือ
“คุณ…คือพี่ซัน…” ร่างบางเอ่ยเสียงแผ่วเบา ดวงตาคู่สวยมีน้ำตารื้นบริเวณขอบตา ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน คนๆนั้น คนที่เขารอคอยมาตลอด ตั้งแต่ชาติภพก่อนจนถึงปัจจุบัน ก็ยังเป็นเขาคนนี้ คนที่อาร์เท็มเฝ้ารอมาทั้งชีวิต คนที่อาร์เท็มมอบหัวใจให้
“ร้องไห้ทำไมครับคนดี นี่พี่ซันไงครับ พี่ซันของอาร์เท็ม” ยังไม่ทันที่แซมซันจะกล่าวจบ ร่างเล็กของเจ้าชายอาร์เท็มก็โผเขากอดร่างสูงโปร่งทันที ใบหน้าหวานซบลงที่บริเวณอกแกร่ง แซมซันกอดตอบคนตัวเล็ก จมูกโด่งฝังลงไปยังกลุ่มเส้นผมนุ่มของคนตัวเล็ก ความคิดถึงทั้งหมดถูกปลดล็อก ตอนนี้ไม่มีพันธนาการใดๆที่จะขั้นกลางเขาทั้งสองได้อีก เขาพบแล้ว คนที่เขารอคอยมาแสนนาน
แซมซันกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น แขนแกร่งโอบรัดคนตรงหน้าไว้แนบแน่นอ้อมกอดของเขาคือป้อมปราการที่จะป้องกันความทุกข์ทั้งปวงที่จะเข้ามาพร่างพราย เขาจะไม่มีวันยอมให้คนตรงหน้าหายไปจากเขาอีก
หลังจากที่แซมซันคลายอ้อมกอด ร่างเล็กตรงหน้าเขาเช็ดน้ำตาออก พร้อมกับฉีกยิ้มกว้างดั่งดวงตะวันที่แสนสดใส รอยยิ้มที่เขาไม่ได้เห็นมานานแสนนาน ร่างสูงโปร่งของแซมซันก้มลงไปจุมพิตที่หน้าผากมนของร่างบางตรงหน้าอย่างอ่อนโยนราวกับเป็นการตรีตราว่า
เธอเป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป ต่อให้มีสิ่งใดมาขวางกั้นเขาจะโอบกอดร่างบางตรงหน้าไว้และไม่มีวันปล่อยมือจากคนตรงหน้าเขาอีกเป็นอันขาด
ใครเล่าเลยจะรู้ว่าความรัก
แม้แรกเจอต่างคนไม่รู้จัก
แต่ปักษ์ใจเพียงครั้งเดียว
ติดในใจชั่วกาล