ตราบนิจนิรันดร์ความรักแท้
ย่อมพ่ายแพ้แก่โชคชะตา
แม้ห่างไกลแค่ไหนสุดปลายฟ้า
ยินดีฝ่าเพื่อพบเจอเธออีกครั้ง
รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,#พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,#พล็อตหาเรื่อง ,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เวลาล่วงเลยผ่านไปวันแล้ววันเล่า นับตั้งแต่วันนั้นที่ทั้งสองรู้ความจริงก็ผ่านมา 3 เดือนแล้วสินะ ภารกิจการตามหาเจ้าหญิงชาร์มายังคงดำเนินต่อไป หรือแท้จริงแล้วตัวแปรหลักของเรื่องนี้อาจเป็นเจ้าหญิงแห่งดวงจันทร์ที่หายสาปสูญไปจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่มีวี่แววที่จะพบกับเจ้าหญิงชาร์มาเลย
ร่างบางของเจ้าชายแห่งดวงจันทร์พึ่งได้รับสารจากควีนลูน่าว่าวันฉลองครบรอบพระจันทร์เต็มดวงได้เลื่อนมาเร็วขึ้นกว่าเดิมราว3เดือน เท่ากับว่าเวลาที่เขาจะตามหาเจ้าหญิงชาร์มาลดน้อยลงไปทุกที อาร์เท็มรีบเดินมาแจ้งข่าวแก่ทุกคน เซเรน่า มาร์และยูเรนัสต่างตกใจ เท่ากับว่าภารกิจที่พวกเขาต้องทำมีเวลาลดน้อยลง ความกดดันทวีคูณมาขึ้น ชาวดวงจันทร์ทุกคนต่างมีสีหน้าคร่ำเครียด พวกเขาไม่รู้จะทำสิ่งใดต่อไปดี รอบตัวล้วนมืดแปดด้านไป ที่ที่คิดว่าเจ้าหญิงจะทรงประทับอยู่ก็ไม่เป็นไปตามคาด พวกเขาควรทำอย่างไรดี
“องค์แคซเซียสทรงเร่งให้พระจันทร์วนรอบไวขึ้นกว่าเดิม ท่านแม่ยื้อเวลาได้นานที่สุดเพียงสามเดือนหลังจากนี้เท่านั้น” นี่คือสิ่งที่เจ้าชายแห่งดวงจันทร์ได้บอกกับทุกคน
“เราควรเร่งตามหาเจ้าหญิงชาร์มาแล้วนะเพคะ” เซเรน่ากล่าวเธอเองก็รู้สึกวิตกไม่ต่างกัน เพราะภารกิจนี้สำคัญต่อชาวดวงจันทร์นัก
“แล้วเราจักไปตามหาจากที่ไหนกัน เจ้าชายเอิร์ทก็ได้บอกแก่เราแล้วมิใช่หรือว่าท่านน้าทรงประทับอยู่กับพระองค์แค่สองปีแรกเท่านั้น ส่วนคนที่อภิเษกกับเจ้าชายเอิร์ทคือสหายของท่าน” อาร์เท็มกล่าว พลางครุ่นคิด หากเขาเป็นท่านน้าเขาจะไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใดกันนะ
“เจ้าหญิงเคยตรัสว่าทรงอยากไปที่ใดหรือไม่” แซมซันเอ่ยถาม ก่อนที่ชาวดวงจันทร์จะครุ่นคิดกันอยู่ครู่หนึ่ง
“ท่านแม่เคยบอกว่าตั้งแต่สมัยท่านตายังปกครองเจริโคท่านน้าชอบหนีมาเที่ยวเล่นที่โลกมนุษย์ ท่านชอบไปเที่ยวตามมหาสมุทรหรือชายฝั่งทะเล ท่านแม่เคยกล่าวว่าท่านชอบเกลียวคลื่นและแสงแดดยามพระอาทิตย์ตกมาก ท่านจึงแอบหนีมาเที่ยวชมบ่อยครั้ง” เป็นเจ้าชายแห่งดวงจันทร์ที่กล่าวตอบ หากท่านแม่ของเขาคือพระจันทร์ที่นิ่งสงบยามค่ำคืน ท่านน้าของเขาก็คงเป็นเหมือนดวงดาวที่สดใสสกาวบนฟากฟ้าในยามราตรี ท่านตาของเขาเคยกล่าวเช่นนั้น
“เราลองไปตามที่อาร์เท็มบอกกันดูมั้ย” แซมซันเอ่ย
“แต่มหาสมุทรและชายฝั่งทะเลบนโลกนี้มีเยอะมากเลยนะเว้ยไอ้เจ้าชาย” ออร์บิทเอ่ยพลางทำหน้ายุ่งเพราะเพื่อนตัวดีใช้ให้เขาหาข้อมูล เซเรน่าเห็นจึงบอกว่า
“ลองหาที่ที่มีถ้ำดูค่ะ เจ้าหญิงจะต้องออกมารับแสงจันทราทุกค่ำคืนและต้องเป็นที่ที่ปราศจากมนุษย์หรือไม่มีมนุษย์พลุกพล่าน”
“ผมเจอแล้วครับ คุณเซเร ที่......”
เสียงเกลียวคลื่นซาดซัดบริเวณริมหาดทรายเป็นสัญญาณบอกว่าพวกเขามาถึงที่หมายแล้ว เกาะท่องเที่ยวขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณคาบสมุทรแปซิฟิก ที่คนไม่พลุกพล่าน หากยังคงมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและที่พักจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
“เงียบเชียบยิ่งนัก เราจะตามหาท่านน้าเจอได้อย่างไร” เจ้าชายอาร์เท็มหันมาพูดกับสหายและชาวดวงอาทิตย์
“ต้องรอคืนที่พระจันทร์ส่องสว่างมากที่สุดเพคะ” เซเรน่าตอบ
“อีกกี่วันคะพี่เซเร” มาร์เอ่ยถาม
“อีก3วันค่ะ”
“แต่ตอนนี้พวกเราหาที่พักกันก่อนเถอะครับ” แซทเทิร์นเอ่ย ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยและเดินตามหาที่พักทันที
หลังจากที่ตามหาที่พักกันมาพักใหญ่พวกเขาก็ตกลงที่จะพัก ‘The lovingmoon hotel resert’ ที่พักใกล้ๆชายฝั่งรวมถึงใกล้ถ้ำยาร์ฟอต ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของที่นี่ รวมถึงที่ที่เธอคาดว่าเจ้าหญิงชาร์มาอาจประทับอยู่ เมื่อพวกเขาจองห้องพักหากไม่สังเกตุดีจะไม่รู้ว่าพนักงานต้อนรับที่นี่มองพวกเขาด้วยสายตาแปลกๆที่ไม่อาจอ่านความหมายได้แต่ก็ยังคงส่งยิ้มให้ปกติ มีเพียงอาร์เท็มและแซมซันที่สังเกตุเห็นความไม่ชอบมาพากลของผู้หญิงคนนี้ ก่อนจะรู้ในภายหลังว่าจริงๆแล้วเธอคือเจ้าของที่นี่ร่วมกับสามีของเธอ ทุกคนเลือกห้องของตัวเองโดย อาร์เท็มนอนกับแซมซัน ยูเรนัสนอนกับแซทเทิร์น เซเรน่าและมาร์นอนด้วยกัน เหลือเพียงออร์บิทที่ถูกแยกไปนอนคนเดียว เล่นเอาเจ้าตัวโวยวายชุดใหญ่
“ทำไมทิ้งให้ผมนอนคนเดียวอ่า ไม่เอา ออร์บิทไม่ถูกใจสิ่งนี้” ออร์บิทลากเสียงพร้อมทำหน้าบู้ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงดุๆของแซมซัน
“อย่าเรื่องมาก” ก่อนที่คุณ ‘เดือนฉาย’ เจ้าของรีสอร์ทจะกล่าวสรุปยอด
“เอาเป็น4ห้องนะคะ ที่รีสอร์ทของเราคนไม่ค่อยพลุกพล่านนัก ขาดเหลืออะไรบอกดิฉันได้นะคะ” พูดจบหญิงสาวก็ส่งยิ้มให้เบาๆก่อนจะหยิบกุญแจยื่นให้แก่พวกเขา แล้วพนักงานของรีสอร์ทจึงมาพาพวกเขาไปยังห้องพักของตน
หลังจากที่ทุกคนเข้าห้องพักของตัวเองเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้นัดแนะกันมาเดินชายหาดในช่วงเย็น เพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน
หมับ! ร่างเล็กของอาร์เท็มสะดุ้งเมื่ออยู่ๆร่างสูงโปร่งของแซมซันก็มาโอบกอดจากด้านหลัง ก่อนจะหอมแก้มคนตัวเล็กฟอดใหญ่
“หือ พี่ซัน” อาร์เท็มครางเบาๆ
“ทำอะไรอยู่ครับ หืม” แซมซันเอ่ยถาม
“เลือกชุดให้พี่ซันไงครับ” อาร์เท็มตอบละเว้นวรรคไปครู่นึงก่อนจะหันมาหาร่างสูง
“พี่ซัน เวลาของเราเหลือน้อยลงทุกทีแล้ว อาร์เท็มไม่อยากให้ถึงวันที่เราต้องจากกันเลย” ร่างบางเอ่ยเสียงสั่นเทาเล็กน้อย
“เด็กน้อย อาร์เท็มครับ ต่อให้เวลาเหลือน้อยลง แต่ความรักของเราก็ไม่เคยน้อยลง จริงมั้ยครับ เรามาใช้เวลาที่เหลือให้มีความสุขกันนะครับคนดีของพี่” แซมซันกล่าวปลอบโยนคนรัก ก่อนที่จะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ต่อให้เขาทั้งสองจะเหลือเวลาน้อยเพียงใด เขาจะไม่ยอมสูญเสียทุกวินาทีที่มีค่าไปเป็นอันขาด ใบหน้าคมค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากผมดำสลวยของคนรักก่อนจะเอ่ยว่า
“ไปที่หาดกันเถอะครับ เพื่อนๆน่าจะมารอแล้ว”
“ครับ” มือสองคู่ประสานกันอย่างแนบแน่น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่มีทางปล่อยมือคนตรงหน้าเป็นอันขาด
“พี่แซทเทิร์นครับ ยู......”
“เรื่องข้อห้ามขององค์แคซเซียสใช่มั้ยครับ” แซทเทิร์นเอ่ยกับคนตัวเล็กข้างๆเขา
“ยูฟังพี่นะครับ ถึงแม้เราจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ความรักของพี่จะอยู่ตรงนี้ กับยูเรนัสเสมอ” นิ้วเรียวยาวแตะไปที่อกของซ้ายของคนตัวเล็ก
“ยูกลัว กลัววันที่เราต้องจากกัน กลัววันที่องค์แคซเซียสรู้เรื่องของพวกเรา ไม่ใช่แค่เพียงอาร์เท็มกับเจ้าชายแซมซันที่ถูกกีดกัน เราสองคนก็เหมือนกัน” ร่างสูงโปร่งของแซทเทิร์นก้มตัวลงมาหาคนตัวเล็กตรงหน้า มือหนาเลื่อนปลดตะขอสร้อยคอจี้รูปดวงตะวันให้แก่คนตัวเล็ก
“สร้อยเส้นนี้คือตัวแทนของพี่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าพี่จะอยู่ที่ไหน หัวใจของพี่จะอยู่ตรงนี้เสมอ” แซทเทิร์นเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน ใบหน้าอบอุ่นยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณจริงๆ”
“มาครับ พี่ใส่ให้นะ” แซทเทิร์นค่อยๆบรรจงสวมสร้อยคอให้กับคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างถนุถนอม ตอนนี้คงไม่ใช่เพียงแค่เจ้าชายรัชทายาทของเขาที่อยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ เขาเองก็เช่นกัน.....
ริมชายหาดแสงพระอาทิตย์สาดกระทบกับเกลียวคลื่นทำให้น้ำทะเลสีฟ้าครามสดใสน่ามองขึ้นไปอีก ชายหญิงคู่หนึ่งเดินเคียงข้างกันมา บรรยากาศสวยงามราวกับเทพนิยาย นำพาหัวใจสองดวงที่พรากจากกันไปกลับมาพบกันอีกครั้ง
“เซเร เหนื่อยมั้ยครับ” ออร์บิทเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าเขา เซเรน่าหญิงสาวเพียงผู้เดียวในใจของเขามาตลอด
“เซทนได้ค่ะ”
“เราไม่อยากเห็นเซเป็นแบบนี้เลย”
“ออร์บิท...” เซเรน่าเรียกคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา
“ครับ”
“ถ้าเรากลับไปเกิดใหม่ หวังว่าจะไม่มีอะไรมากีดกันพวกเราได้อีกนะ”
“ถึงตอนนี้มีอะไรมากีดกัน เราพร้อมจะฝ่าฟันทุกอย่าง เซไม่ต้องห่วง”
“แต่ชาวไซรัสกับชาวเจริโครักกันไม่ได้”
“แต่เรารักเซไปแล้ว ชาติที่แล้วความตายพรากเราจากกัน ชาตินี้เราจะไม่ยอมอีกแล้วนะเซ”
“ออร์บิท เซขอโทษ ขอโทษที่ทำอะไรไม่ได้เลย”
“เราเข้าใจเราจะอยู่ข้างๆเซเสมอ เราสัญญา”
“เซดีใจนะที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง”
“เช่นกันครับ”
“พวกนั้นคงใกล้มาแล้ว ไปรอพวกเขากันเถอะค่ะ”
“ครับ” มือหนาเอื้อมมากอบกุมมือเรียวเล็กและเดินไปพร้อมกัน
ท้องฟ้าในเวลานี้เริ่มเป็นสีส้ม หมู่มวลนกและสรรพสัตว์ล้วนกลับเข้าสู่รังของตนเป็นสัญญาณว่าแสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าในอีกไม่นาน
“พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้วนะครับ” แซมซันหันมาพูดกับคนตัวเล็ก ตอนนี้เขาและเจ้าชายอาร์เท็มนั่งชันเข่าบริเวณริมหาดทรายขาว
“พระจันทร์กำลังจะขึ้นมาแล้วครับ นี่ไง! เขาได้อยู่ด้วยกันแล้วว” อาร์เท็มพูดพลางยิ้มสดใส แซมซันมองรอยยิ้มอันแสนสดใสของคนตรงหน้าพลางยิ้มอย่างเอ็นดู ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน คนตรงหน้าก็ยังคงเป็นดวงจันทร์ที่สดใสของเขาเสมอมา
“หว่า พระอาทิตย์ตกดินแล้ว ได้อยู่เคียงข้างกันแปปเดียวเอง”
“แต่เขาก็ยังได้เจอกันนะครับ”
“แค่นี้ก็ดีแล้วพี่ซัน ดีกว่าเขาไม่ได้เจอกันอีก”
“เมื่อกี้พี่เล่าเรื่องราวของเราให้พระอาทิตย์ฟังด้วยนะ”
“หืม พระอาทิตย์บอกฟังไม่รู้เรื่องง” อาร์เท็มลากเสียง แซมซันยีหัวคนตัวเล็กอย่างเอ็นดู
“เด็กดื้อเอ้ย อย่างน้อยก็มีพระอาทิตย์ที่รับรู้ความรักของเราสองคนนะครับ รู้ไหม ตอนที่เราจากกัน พี่ทำได้แค่นั่งมองพระอาทิตย์ตก ทำได้แค่เล่าให้ให้พระอาทิตย์ฟังว่าพี่คิดถึงเรามากแค่ไหน ว่าคนรักของพี่น่ารักเพียงใด มีเพียงแค่พระอาทิตย์ตกดินเท่านั้นที่รับรู้” แซมซันเอ่ยแววตาสีน้ำตาลเข้มหันไปมองคนรักอย่างอ่อนโยน
“เหมือนกันครับ อาร์เท็มก็เอาแต่มองพระจันทร์ หวังแค่ว่าพระจันทร์จะฝากความคิดถึงของอาร์เท็มไปให้พี่ซัน ในวันที่เราต้องห่างกัน อย่างน้อยเราก็ยังได้มองพระจันทร์ดวงเดียวกัน” คนตัวเล็กเอ่ยตอบ นัยน์ตาคู่สวยมองไปยังใบหน้าของคนรัก แววตาอ่อนโยนที่มอบให้เขาเสมอมา
“You are my sunshine”
“You are my moonlight”
“ครับ คุณดวงตะวันของอาร์เท็ม”
“ครับ คุณพระจันทร์ของแซมซัน”
I Told Sunset About You
And
The Moon Represent My Nostalgia For You
“อาร์เท็มเติบโตมาอย่างงดงามจริงๆ ขอให้อาร์เท็มและแซมซันฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ไปให้จงได้”