วิถีชะนีโสดแต่เกิด เจอคนถูกใจแต่เขาดันโดนปฏิเสธมาถึงสองครั้ง คราวนี้เจอกันอีก อย่าคิดเลยว่าจะรอดมือ จะสามสิบแล้ว ลาออกจากงานเถอะค่ะ เดี๋ยวเจ๊แพงเลี้ยงเอง! #อาโรว์ของคุณแพง

[มี E-Book] My Little Boy เพียงแรกพบ (อาโรว์ x พะแพง) #อาโรว์ของคุณ - ตอนที่ 1 อยากหนีไปบวชชี! โดย Se’pia @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,แอคชั่น,ตลก,ปกป้องเธอ,ยุทธการอ่อย,จีบผู้ชายก่อน,หมาตัวใหญ่,พบกันอีกครั้ง,แอบรัก,คลั่งรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[มี E-Book] My Little Boy เพียงแรกพบ (อาโรว์ x พะแพง) #อาโรว์ของคุณ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,แอคชั่น,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ปกป้องเธอ,ยุทธการอ่อย,จีบผู้ชายก่อน,หมาตัวใหญ่,พบกันอีกครั้ง,แอบรัก,คลั่งรัก

รายละเอียด

วิถีชะนีโสดแต่เกิด เจอคนถูกใจแต่เขาดันโดนปฏิเสธมาถึงสองครั้ง คราวนี้เจอกันอีก อย่าคิดเลยว่าจะรอดมือ จะสามสิบแล้ว ลาออกจากงานเถอะค่ะ เดี๋ยวเจ๊แพงเลี้ยงเอง! #อาโรว์ของคุณแพง

ผู้แต่ง

Se’pia

เรื่องย่อ

เรื่องย่อ


หญิงโสดแต่เกิด ดันไปต้องตาเสี่ยหัวงูเข้าให้ กลายเป็น ‘แพรววนิด’ หรือ ‘พะแพง’ ต้องไปดูตัวแทบจะทุกวัน แต่ใครจะคิดละว่า คนที่เจ้าหล่อนไปดูตัว จะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง แถมยังมีจิตวิปริตเกินคน แค่คิด ตับห่านราคาแพงแทบพุ่ง! แต่โชคร้าย ยังมีโชคดี (หรือเปล่า?) ชายที่หักอก จนทำให้รักใครไม่ได้นอกจากเขาอย่าง ‘อาโรว์’ กระโดดเข้ามาช่วยเหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาว แต่ถึงอย่างนั้น การเจอกันอีกครั้งในรอบปี ชายคนนี้ ยังทำให้เธอร้องไห้เหมือนเดิม

เพราะเรื่องที่มากวนใจรอบตัว พี่สาวฝาแฝดเป็นห่วงน้องสาวจนแทบนอนไม่หลับ เลยส่งบอดี้การ์ดไปอยู่ที่ ‘สวนเพื่อนแพง’ ไปดูแลใกล้ ๆ และการเจอกันอีกครั้งคราวนี้ จะทำให้ทั้งคู่ ได้สานสัมพันธ์ที่อยู่ในความรู้สึกของตัวเองต่อ แพรววนิดจะไม่ยอมปล่อยชายที่ตัวเองหมายปองไปอีกครั้งแน่นอน จะจีบจนกว่าจะยอมใจอ่อน แม้ว่าการยืนอยู่เคียงข้างชายที่ชื่อว่า อาโรว์ สมาชิกระดับสูงของ ‘ยามหลังบ้าน’ จะทำให้เธอต้องเจอกับเรื่องที่ทำให้เกือบเอาตัวไม่รอดก็ตาม

‘มาเป็นของฉันเถอะนะคะ คุณอาโรว์ ฉันจะเลี้ยงคุณเองค่ะ’


สปอย...

“เดี๋ยวครับคุณแพง!” อาโรว์เอื้อมไปคว้าข้อมือสาวเอาไว้ ไม่รู้ว่าเธอไม่มีแรงหรือว่าตั้งใจกันแน่ ถึงเอนตัวเข้ามาซบอกกว้าง‘ทั้งตัว’ ขนาดนี้

“คะ?” เจ้าหล่อนช้อนสายตาขึ้นหาคนทำหน้าเลิ่กลั่ก เอียงคอมองด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย บอกเลยว่าตั้งใจ แถมยังเอาเจ้าหน้าอกนุ่มค่อย ๆ เบียดอกกว้างเสียด้วย “มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

‘จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว!!!’

“มะ... มันแบบ แบบว่า ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ครับ” เขาไม่กล้ามองลงมา เพราะรู้ดีว่าแพรววนิด กำลังยั่วยวนตัวเองมากแค่ไหน

“เราเป็นแฟนกันแล้วนะคะ ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมเสียหน่อย” เจ้าหล่อนบุ้ยหน้าเล็กน้อย ก่อนจะผละตัวออก “หรือว่าคุณอาโรว์ไม่อยาก”

ตรงเกินไปแล้ว!!!

ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา พยายามปรับอารมณ์ที่ลุกฮือของตัวเองให้สงบ และอธิบายให้เจ้าหล่อนฟัง “แบบนี้นะครับคุณแพง เราเพิ่งคบกันเองไม่ใช่หรือครับ คบกันอีกสักหน่อย...” เสียงอ้อมแอ้มด้วยความเขินอาย “...เราค่อย มีอะไรกัน”

“ไม่เป็นอะไรเลย หัวโบราณจังเลยนะคะ ฉันพร้อมขนาดนี้แล้วนะคะคุณอาโรว์” เจ้าหล่อนสลัดผ้าคลุ่มไหล่ตกพื้น กลายเป็นว่าผิวขาวเนียนยิ่งปรากฏต่อสายตาของอาโรว์มากขึ้นไปอีก “หรือฉัน... ไม่มีเสน่ห์กันแน่”

“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่แบบนั้น คุณแพงของผม... สวยมากเลยครับ”

สารบัญ

[มี E-Book] My Little Boy เพียงแรกพบ (อาโรว์ x พะแพง) #อาโรว์ของคุณ-บทนำ ฝันของผม... คือคุณ,[มี E-Book] My Little Boy เพียงแรกพบ (อาโรว์ x พะแพง) #อาโรว์ของคุณ-ตอนที่ 1 อยากหนีไปบวชชี!,[มี E-Book] My Little Boy เพียงแรกพบ (อาโรว์ x พะแพง) #อาโรว์ของคุณ-ตอนที่ 2 มันคืออะไรวะ!?!

เนื้อหา

ตอนที่ 1 อยากหนีไปบวชชี!

            ‘ไอ้บ้าเอ๊ยทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ!?!’
            ต่อให้บ่นอย่างไร เรื่องที่ต้องเผชิญมันก็ไม่เปลี่ยนง่าย ๆ ตอนนี้มีหญิงสาวคนหนึ่ง กำลังถอนหายใจอยู่หลังพวงมาลัยรถยนต์คันโตของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เข้าใจ และไม่อยากเข้าใจด้วย ว่าที่ตัวเองมาอยู่ในสภาพนี้มันเพราะ...
            “เออ ๆ เพราะฉันเอง แล้วไง
แค่ดูตัวแทบจะทุกวันมันจะทำไม ปู่กังวลเกินไปแล้ว!!” เธอยังคงบ่นกับตัวเอง และลามไปถึงผู้ปกครองซึ่งเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก
            เรื่องมันเกิดจากเมื่อสองเดือนก่อน 
แพรววนิด หรือ พะแพง เดินเล่นอยู่ในเมืองอันแสนวุ่นวายตามปกติ แต่ใครจะคิดล่ะว่าคนที่โดนปฏิเสธ และอกหักมาสองครั้งจากชายคนเดิม ดันไปเข้าตาตาเฒ่าตัณหากลับเสียได้ หากแก่ธรรมดามันก็ดีอยู่หรอก แต่เพราะว่าเป็นคนมีอำนาจในพื้นที่ เธอเลยต้องมานั่งทำอะไรที่ไม่อยากทำอยู่แบบนี้นี่ไง
            แถมปู่ของตัวเองยังไม่อยากมีปัญหา และไม่อยากยกหลานสาวให้ด้วยเช่นกัน จึงเป็นที่มาของการดูตัวแทบจะรายวันของเจ้าหล่อน และครั้งนี้เป็นเหมือนความหวังอันเล็กน้อยว่าตัวเอง... จะมีสามีสักที
            “ไม่อยากมีโว้ย
!! สามีบ้าสามีบออะไร ให้ตายสิ!” แพรววนิดเอาคางเกยพวงมาลัย มองไปยังถนนเบื้องหน้า เธอจอดรถในที่จอดมาเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหล่อนยังทำใจลงไปเผชิญกับความจริงไม่ได้
            “ไอ้เสี่ยบ้า
มีเมียแล้วยังจะอยากได้ฉันอีก” อีกครั้งที่เจ้าหล่อนถอนหายใจออกมาเสียงดัง เครียดจนรู้สึกว่าช่วงนี้โลกมันไม่สดใสเอาเสียเลย “หรือฉันจะใช้โอกาสนี้ไปขอร้องเขาดี มาแกล้งเป็นแฟนฉันหน่อยสิคะ’ เผื่อว่าแกล้ง ๆ เป็นแฟนกันไป จะเป็นแฟนกันจริง ๆ ไง... เฮ้อไร้สาระชะมัด”
            เมื่อนึกถึงหน้านิ่ง ๆ ของชายหนุ่มที่ปฏิเสธเจ้าหล่อนถึงสองรอบ รอยยิ้มและความคิดอันบรรเจิดมันได้ถูกดับลงทันที ทางที่ดีอย่าเจอกันเลยจะดีกว่า... ถ้าไม่อยากร้องไห้งอแงเป็นเด็กอีกรอบ
            
Errr~
            เสียงโทรศัพท์มือถือกรีดร้องดังลั่น เจ้าของรีบหันไปคว้ากระเป๋าซึ่งวางอยู่เบาะข้างคนขับ และเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอตอนนี้ มันยิ่งทำให้อารมณ์หงุดหงิดพุ่งสูงขึ้นแทบทะลุหลังคารถ!
            ‘เรไร
            
[งะ...]
            “เจ้ากี้เจ้าการนักนะ
ใครให้แกถึงขั้นหาคู่ดูตัวให้ฮะ!! แค่ฉันโทร. ไปปรึกษา ไม่ได้ให้หาผัวให้นะโว้ย!!!” เรื่องอะไรที่ติดอยู่ในใจ เจ้าหล่อนระบายออกมาจนหมด
            ส่วนคนเจ้ากี้เจ้าการรีบดึงโทรศัพท์มือถือของตัวออกห่างทันที ไม่อย่างนั้นได้มีหูน้ำหนวกไหลกันบ้าง ก็ยัยแฝดคนน้อง เสียงเบาที่ไหน 
[อะ... เอาน่าก็เห็นแกบ่นเรื่องคู่ดูตัวไม่ถูกใจ ฉันก็เลยหาคนโพรไฟล์ดีให้แกไงแพง เป็นทนายเลยนะ แถมหน้าตาก็... เออ พอไปวัดไปวาได้]
            “แล้วทำไมแกไม่เก็บเอาไว้เองล่ะ โสดแต่เกิดเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ยังจะมาหาคู่ให้คนอื่นเขาอีก
!” เป็นคำพูดที่แทงใจดำเสียจริง
            เรไร หรือ เร ตอนนี้ทำงานอยู่ในนครอันกว้างใหญ่ เมืองหลวงประเทศไทย เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมที่เดียวกันกับแฝดทั้งสอง เจ้าหล่อนเลยหวังดี หาคนหน้าที่การงานดีมาเสิร์ฟเพื่อนถึงที่ แม้ว่าตัวเอง... จะโสดตั้งแต่เกิดก็ตาม
            
[แหมก็ฉันไม่ได้ไปถูกตาต้องใจเสี่ยหัวงูที่ไหนเหมือนใครบางคนนี่ ฉันเลยไม่ต้องรีบเรไรหัวเราะออกมาอย่างสะใจ จนลูกน้องในทีมของตัวเองหันมอง พร้อมถอยออกห่าง
            “ไอ้
!!!...”
            
[แอะอย่าขึ้นเสียงนะ เดี๋ยวหน้าเหี่ยว ใส่ชุดที่ฉันส่งไปให้หรือเปล่า แต่งหน้าทำผมอย่างที่ฉันบอกมั้ย เปิดกล้องเดี๋ยวนี้เลย!]
            เสียงฮึดฮัดตามมาด้วยหน้าจอของคนอยากรู้อยากเห็นสว่างจ้า ภาพคือคนหน้าบึ้ง ในชุดเดรสกระโปรงสีชมพูที่เจ้าหล่อนส่งไปให้ ผมลอนหยักศกยาวสีสนิมซึ่งเจ้าของชอบมัดอยู่ตลอดเวลาถูกปล่อยสยายถึงเอว แม้ว่าจะแต่งหน้าอ่อนไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วใช้ได้
            
[โอเคผ่าน ไปหาคุณทนายได้]
            “ไม่ต้องมาสั่งเลย ยิ่งกว่าพี่เพื่อนอีกนะเธอน่ะ
!” ว่าแล้วก็บุ้ยปากใส่เพื่อนตนอีกหนึ่งที ก่อนจะปิดกล้อง เปลี่ยนมาคุยแบบปกติแทน “ถ้าฉันไม่ไปจะเป็นอะไรมั้ย?”
            ตอนนี้เปลี่ยนมาอ้อนวอนแทน แพรววนิดยังไม่อยากแต่งงาน และยังไม่อยากโดนจับแต่งงานด้วย เพราะใจของเธอยังมีชายคนนั้นไม่เคยเปลี่ยน แม้ว่าการเจอกันครั้งล่าสุด... จะผ่านมาเป็นปีแล้วก็ตาม แต่ทำไมไอ้หัวใจมันไม่ยอมฟัง คิดถึงแต่เขาไม่ยอมจาง...
            
[เลือกเอาระหว่างเป็นเมียทนาย หรือเป็นเมียไอ้เสี่ยนั่น!] เป็นตัวเลือกที่ไม่สามารถเลือกได้เลยจริง ๆ เพราะไม่อยากได้ทั้งคู่!
            คนสวยประจำวันนี้หน้าหงิกอีกรอบ เมื่อได้ยินตัวเลือกที่เพื่อนของตนหยิบยกมาพูด แพรววนิดเพิ่งจะยี่สิบแปดปีเองนะ ยังไม่แก่ขนาดจะหาใครมาเป็นสามีไม่ได้เสียหน่อย
!
            ‘แต่ฉันโดนปฏิเสธมาแล้วถึงสองรอบ แถมต่อหน้าด้วย
            ... หรือการแต่งงานกับคุณทนายจะดีกว่าจริง ๆ?

            “โอเค ๆ แค่นี้นะ”
            
[ทำหน้าดี ๆ ยิ้มกว้าง ๆ ถ้าเขาพูดอะไรไม่เข้าใจ ก็แค่พยักหน้าเบา ๆ และยิ้มให้ เข้าใจใช่หรือเปล่า?]
            “สั่งเป็นแม่เลย
เข้าใจแล้ว วางนะ!!” โทรศัพท์มือถือปลิวไปอยู่บนเบาะข้างตนอย่างแม่นยำ ส่วนเจ้าของ... “ฮืออออหนีไปบวชชีเลยดีหรือเปล่า?”
            ยังคงนั่งทำใจอยู่ในรถยนต์คันโตของตัวเองไปพักใหญ่

 

 

            หลังจากจับตาดูเป้าหมายมาตลอดสองวัน และวันนี้ตึกสูงที่ยังไม่เปิดใช้งาน กำลังมีชายหนุ่มน่าสงสัยรวมห้าชีวิต จับจ้องไปที่ชายคนเดียว ในร้านอาหารฝรั่งเศสฝั่งตรงกันข้าม ผ่านทั้งหน้าจอ และลำกล้องของปืนกระบอกยาว ซึ่งมันสามารถปลิดชีวิตของชายคนนั้นได้ตลอดเวลาที่ต้องการ
            “ตามมาด้วยทำไม?” พี่ชายหรี่สายตามองดูน้องชาย ซึ่งกำลังส่องเป้าหมายจากกล้องของปืนกระบอกโปรดประจำตัว
            “เหงา เลยมาทำงานด้วย” ส่วนน้องชายก็ตอกกลับแบบกวนประสาทไม่แพ้กัน
            “อ่อ เพราะโดนทิ้งเลยมาติดพี่ชายแทนสินะ” คนเป็นพี่แค่นหัวเราะออกมาเล็กน้อย ทำเอาคนโดนทิ้งรีบหันมาขึงตาใส่พี่ชายทันที ตัวเองยิ่งรู้สึกแย่ แทนที่จะปลอบ
!
            “พี่ขุน!
            “ทำไม ฉันพูดผิดตรงไหนวะ โดนตบด้วยไม่ใช่เหรอ? เสียดายไม่มีวิดีโอ อยากเห็นชะมัด
!” ขุนพลยังแหย่น้องชายอย่างต่อเนื่อง มันคือเรื่องปกติที่เจอได้บ่อย เวลาทั้งคู่อยู่ด้วยกัน
            “น่าหมั่นไส้นะครับ ฆ่าคนไปทั้งคน ยังจะมาดูตัวแทนเขาอีก” แดนนี่หันไปกระซิบกับแซน ซึ่งใช้กล้องส่องทางไกลมองบริเวณรอบ ๆ หากชายคนนั้นเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาซาจริง ๆ ละก็ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะมีคนของพวกนั้นอยู่ใกล้ ๆ ด้วยเช่นกัน
            “นั่นสิ น่าหมั่นไส้” ว่าแล้วก็เหลือบไปมองคนนั่งเฝ้าหน้าจอ ตรวจจับสัญญาณที่น่าสงสัย รวมไปถึงเข้าแฮกไปในระบบของมือถือเป้าหมาย “เฮ้ย
อาโรว์ ไม่ได้หลับใช่หรือเปล่า?”
            “ผมไม่ใช่แซนนะ” เป็นการตอบกลับแบบทันควัน เล่นเอาคนโดนตอกกลับควันออกหู “ริกกี้ทำงานแย่จัง ยังไม่เจออะไรที่น่าสงสัยเลย ไม่สิ... มันดูว่างเปล่าผิดปกติ จนผมไม่รู้ว่าจะหาอะไรเลยครับ”
            “ยังไง?” ขุนพลเดินไปใกล้ผู้รับผิดชอบเรื่องไอทีของทีมชั่วคราวอย่างอาโรว์ ตอนนี้หน้าจอกำลังโชว์หน้าต่างโทรศัพท์มือถืออีกเครื่อง และเจ้าของก็คือเป้าหมายที่กำลังติดตามอยู่ในตอนนี้
            “หากจะสวมตัวตนของทนายที่ชื่อ 
ชยกร คนนั้น อย่างน้อยต้องพยายามเป็นเขาไม่ใช่เหรอ? แต่ดูเหมือนว่าจะไม่พยายามทำแบบนั้นเลยนะครับ เหมือนเป้าหมายแค่มาดูตัวอย่างเดียว” อาโรว์ยังคงรัวคีย์บอร์ด และไล่หาข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่ต้องการเลย “การดูตัวครั้งนี้ มีความหมายอะไรมากกว่าการแต่งงานหรือเปล่าครับ?”
            “อืม... น่าสงสัยจริง ๆ ด้วย” ความเครียดเริ่มเข้ามาประทับบนใบหน้าทั้งคู่ ทั้งไม่เข้าใจ และรู้สึกไม่ดีไปพร้อม ๆ กัน
            “เอ๊ะ
นั่นมัน... หน้าคุ้น ๆ นะ” ขุนศึก หรือน้องชายแท้ ๆ ของขุนพลส่งเสียงดังขึ้น พร้อมส่องกล่องและปลายกระบอกปืนไปยังคนหน้าคุ้น แถมเจ้าหล่อนยังเดินแปลก ๆ อีกต่างหาก
            “ไอ้คุ้นที่ว่าคือคุ้นยังไง แก้คุ้นเขาไปทั่วนะไอ้ศึก” คนเป็นพี่หรี่ตามองคนเป็นน้อง ถึงจะฝีมือดี แต่ยังขาดความรอบคอบอยู่มาก ตอนนี้เลยให้ทำงานจิปาถะของหน่วยไปก่อน
            “คุ้นจริง ๆ นะพี่ขุน เหมือน...” ขุนศึกทำหน้าคิด แต่ทุกอย่างมันติดอยู่ที่ปาก “... คุ้นมาก ๆ แต่คิดไม่ออก”
            “คุณเพื่อนครับ” แซนพูดขึ้นหลังจากมองหญิงสาวดูโดดเด่นที่สุดในกลุ่มคน แน่ล่ะ คลุกคลีกับเจ้าหล่อนมาเป็นเดือน จำไม่ผิดแน่นอน
            อีกครั้งที่สายตาทั้งห้าชีวิตมองไปยังหญิงสาวในชุดเดรสสีชมพูผ่านอุปกรณ์ในมือของแต่ละคน เจ้าหล่อนเดินแปลกจนเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้าง แถมใบหน้าสวยยังหงิกงอ พร้อมริมฝีปากบ่นอุบอิบไปตลอดทาง
            “ไม่ใช่คุณเพื่อนครับ” ทั้งกล้องและโดรนที่บินเหนือเมืองอันแสนวุ่นวายตอนนี้ กำลังจับจ้องไปยังหญิงสาวซึ่งหมุนวนอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลา เพียงแค่มองทำไมจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ต่อให้เจ้าหล่อนจะมีแฝดที่เหมือนกันมากก็ตาม
            แต่คนที่ทำให้หัวใจอันด้านชาสั่นไหว... มีแค่เธอคนเดียว
            “คุณแพง” อาโรว์เอ่ยชื่อเจ้าหล่อนอย่างแผ่วเบา มันอยู่ในลำคอ และลึกเข้าไปในใจของตัวเองด้วยเช่นกัน
            “อืม... เจอไวกว่าที่คิดแฮะ” หัวหน้าหน่วยกระดกยิ้มเล็กน้อย เมื่อเห็นลูกน้องของตนนิ่งสนิท แต่ดวงตาสีน้ำเงินของเขา ยังเอาแต่จับจ้องหญิงสาวผ่านหน้าจอตรงหน้าอยู่แบบนั้นไม่ยอมละสายตา
            “แล้วคุณแพงมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?” แซนถามขึ้น พร้อมนึกเรื่องสำคัญได้ “จริงด้วย ที่นี่มันห่างจากสวนของเธอไม่เยอะ จะมาเที่ยวก็ไม่แปลกสินะ”
            “ใช่ ๆ หน้าเหมือนแฟนพี่โอบอย่างกับแกะ ตอนแรกยังคิดเลยว่าน่าเสียดาย แต่ถ้ามีคนสวยแบบนั้นอีกหนึ่งคนละก็...” ขุนศึกดูจะไม่รู้ชะตาชีวิตของตัวเอง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองคนสวยผ่านลำกล้อง ตอนนี้เริ่มวางแผนจีบเธอไปแล้วกว่าสิบแผน “...น่าสนใจนะครับเนี่ย”
            “อย่างนั้นเหรอ?” ขุนพลไม่ใส่ใจคำพูดของน้องชายหรอก เพราะเรื่องน่าสนุกมันอยู่ที่หมาหวงก้างอย่างอาโรว์ต่างหาก “อ้าว ไปไหน?”
            ขุนพลทักขึ้น เพราะจู่ ๆ ลูกน้องที่นั่งนิ่งอยู่นานกลับลุกพรวด แต่สายตาดันจับจ้องไปที่แผ่นหลังของขุนศึกไม่วางตา แน่นอนว่าถ้าน้องชายทำอย่างที่คิดเอาไว้ ไม่ต้องถึงมืออาโรว์หรอก เดี๋ยวลูกพี่ขุนจัดการให้เอง
            “ผมจะไปซื้อน้ำครับ หิวน้ำ” ไม่ทันให้ใครเข้ามาขัด อาโรว์รีบเดินออกจากห้องกว้างทันที
            เหลือเพียงสี่ชีวิตมองตามหลัง ก่อนจะหันไปมองแพคน้ำเปล่าด้านหลังสองแพคใหญ่ ขุนพลส่ายหน้าเล็กน้อย ส่วนแซนเองตอนนี้กลอกตามองบนจนลูกตาจะกลับด้านอยู่แล้ว
            “สงสัยอยากกินกาแฟหรือเปล่าครับ?” แดนนี่ผู้ไม่รู้อะไร รีบแก้ตัวให้อาโรว์ทันที
            แต่สำหรับคนที่รู้ 
ทุกอย่าง อย่างขุนพลและแซน ได้แต่อมยิ้มให้กับความซึนเดเระของเขา
            “ไม่รู้สิ อาจจะเป็นน้ำอย่างอื่นก็ได้”... น้ำที่ชื่อว่าพะแพงยังไงล่ะ