วิถีชะนีโสดแต่เกิด เจอคนถูกใจแต่เขาดันโดนปฏิเสธมาถึงสองครั้ง คราวนี้เจอกันอีก อย่าคิดเลยว่าจะรอดมือ จะสามสิบแล้ว ลาออกจากงานเถอะค่ะ เดี๋ยวเจ๊แพงเลี้ยงเอง! #อาโรว์ของคุณแพง

[มี E-Book] My Little Boy เพียงแรกพบ (อาโรว์ x พะแพง) #อาโรว์ของคุณ - ตอนที่ 2 มันคืออะไรวะ!?! โดย Se’pia @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,แอคชั่น,ตลก,ปกป้องเธอ,ยุทธการอ่อย,จีบผู้ชายก่อน,หมาตัวใหญ่,พบกันอีกครั้ง,แอบรัก,คลั่งรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[มี E-Book] My Little Boy เพียงแรกพบ (อาโรว์ x พะแพง) #อาโรว์ของคุณ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,แอคชั่น,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ปกป้องเธอ,ยุทธการอ่อย,จีบผู้ชายก่อน,หมาตัวใหญ่,พบกันอีกครั้ง,แอบรัก,คลั่งรัก

รายละเอียด

[มี E-Book] My Little Boy เพียงแรกพบ (อาโรว์ x พะแพง) #อาโรว์ของคุณ โดย Se’pia @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วิถีชะนีโสดแต่เกิด เจอคนถูกใจแต่เขาดันโดนปฏิเสธมาถึงสองครั้ง คราวนี้เจอกันอีก อย่าคิดเลยว่าจะรอดมือ จะสามสิบแล้ว ลาออกจากงานเถอะค่ะ เดี๋ยวเจ๊แพงเลี้ยงเอง! #อาโรว์ของคุณแพง

ผู้แต่ง

Se’pia

เรื่องย่อ

เรื่องย่อ


หญิงโสดแต่เกิด ดันไปต้องตาเสี่ยหัวงูเข้าให้ กลายเป็น ‘แพรววนิด’ หรือ ‘พะแพง’ ต้องไปดูตัวแทบจะทุกวัน แต่ใครจะคิดละว่า คนที่เจ้าหล่อนไปดูตัว จะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง แถมยังมีจิตวิปริตเกินคน แค่คิด ตับห่านราคาแพงแทบพุ่ง! แต่โชคร้าย ยังมีโชคดี (หรือเปล่า?) ชายที่หักอก จนทำให้รักใครไม่ได้นอกจากเขาอย่าง ‘อาโรว์’ กระโดดเข้ามาช่วยเหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาว แต่ถึงอย่างนั้น การเจอกันอีกครั้งในรอบปี ชายคนนี้ ยังทำให้เธอร้องไห้เหมือนเดิม

เพราะเรื่องที่มากวนใจรอบตัว พี่สาวฝาแฝดเป็นห่วงน้องสาวจนแทบนอนไม่หลับ เลยส่งบอดี้การ์ดไปอยู่ที่ ‘สวนเพื่อนแพง’ ไปดูแลใกล้ ๆ และการเจอกันอีกครั้งคราวนี้ จะทำให้ทั้งคู่ ได้สานสัมพันธ์ที่อยู่ในความรู้สึกของตัวเองต่อ แพรววนิดจะไม่ยอมปล่อยชายที่ตัวเองหมายปองไปอีกครั้งแน่นอน จะจีบจนกว่าจะยอมใจอ่อน แม้ว่าการยืนอยู่เคียงข้างชายที่ชื่อว่า อาโรว์ สมาชิกระดับสูงของ ‘ยามหลังบ้าน’ จะทำให้เธอต้องเจอกับเรื่องที่ทำให้เกือบเอาตัวไม่รอดก็ตาม

‘มาเป็นของฉันเถอะนะคะ คุณอาโรว์ ฉันจะเลี้ยงคุณเองค่ะ’


สปอย...

“เดี๋ยวครับคุณแพง!” อาโรว์เอื้อมไปคว้าข้อมือสาวเอาไว้ ไม่รู้ว่าเธอไม่มีแรงหรือว่าตั้งใจกันแน่ ถึงเอนตัวเข้ามาซบอกกว้าง‘ทั้งตัว’ ขนาดนี้

“คะ?” เจ้าหล่อนช้อนสายตาขึ้นหาคนทำหน้าเลิ่กลั่ก เอียงคอมองด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย บอกเลยว่าตั้งใจ แถมยังเอาเจ้าหน้าอกนุ่มค่อย ๆ เบียดอกกว้างเสียด้วย “มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

‘จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว!!!’

“มะ... มันแบบ แบบว่า ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ครับ” เขาไม่กล้ามองลงมา เพราะรู้ดีว่าแพรววนิด กำลังยั่วยวนตัวเองมากแค่ไหน

“เราเป็นแฟนกันแล้วนะคะ ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมเสียหน่อย” เจ้าหล่อนบุ้ยหน้าเล็กน้อย ก่อนจะผละตัวออก “หรือว่าคุณอาโรว์ไม่อยาก”

ตรงเกินไปแล้ว!!!

ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา พยายามปรับอารมณ์ที่ลุกฮือของตัวเองให้สงบ และอธิบายให้เจ้าหล่อนฟัง “แบบนี้นะครับคุณแพง เราเพิ่งคบกันเองไม่ใช่หรือครับ คบกันอีกสักหน่อย...” เสียงอ้อมแอ้มด้วยความเขินอาย “...เราค่อย มีอะไรกัน”

“ไม่เป็นอะไรเลย หัวโบราณจังเลยนะคะ ฉันพร้อมขนาดนี้แล้วนะคะคุณอาโรว์” เจ้าหล่อนสลัดผ้าคลุ่มไหล่ตกพื้น กลายเป็นว่าผิวขาวเนียนยิ่งปรากฏต่อสายตาของอาโรว์มากขึ้นไปอีก “หรือฉัน... ไม่มีเสน่ห์กันแน่”

“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่แบบนั้น คุณแพงของผม... สวยมากเลยครับ”

สารบัญ

[มี E-Book] My Little Boy เพียงแรกพบ (อาโรว์ x พะแพง) #อาโรว์ของคุณ-บทนำ ฝันของผม... คือคุณ,[มี E-Book] My Little Boy เพียงแรกพบ (อาโรว์ x พะแพง) #อาโรว์ของคุณ-ตอนที่ 1 อยากหนีไปบวชชี!,[มี E-Book] My Little Boy เพียงแรกพบ (อาโรว์ x พะแพง) #อาโรว์ของคุณ-ตอนที่ 2 มันคืออะไรวะ!?!

เนื้อหา

ตอนที่ 2 มันคืออะไรวะ!?!

            ‘ไม่จริงใช่มั้ย?
            แพรววนิดบ่นอีกแล้ว เจ้าหล่อนขี้บ่น และจะบ่นไม่หยุดจนกว่าความหงุดหงิดจะหายไป แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่หายไปง่าย ๆ เพราะไอ้รองเท้าส้นสูงที่เจ้าหล่อนแสนเกลียด กำลังกัดเท้าเธอเข้าให้แล้ว
!
            “บ้าชะมัดเลย แบบนี้มันลางร้ายชัด ๆ... เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ว่าฉันต้องแต่งงานกับคุณทนายของไอ้เรหรอกใช่หรือเปล่า ไม่นะไม่ ๆ ๆ ๆ”
            หญิงสาวหน้าตาสวย แถมยังใส่ชุดราคาแพง แต่กลับเป็นคนเพี้ยน ๆ ยืนพูดกับตัวเอง และทะเลาะกับตัวเองกลางย่านการค้า ก่อนดวงหน้าสวยจะเงยขึ้นมองร้านอาหารสุดหรูตรงหน้า ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาถึง
            วันที่เจ้าหล่อนจะลิ้มอาหารราคาแพงแบบนี้
!
            “ปกติได้แต่มอง แต่วันนี้ต้องเข้าไปจริง ๆ ใช่หรือเปล่า อาหารจะย่อยมั้ยเนี่ย? แล้วจะถูกปากหรือเปล่า? ถ้ามันน้อยเกินไปจนฉันไม่อิ่มแล้วสั่งเพิ่มจะดูน่าเกลียดมั้ย? โอ๊ย!! เครียด!!
            กังวลเกินไปแล้ว
!!
            ส่วนคนในมุมมืดได้แต่ยืนมองเจ้าหล่อน เธออยู่ใกล้เพียงแค่นี้เอง แต่ดูเธอสิ... กังวลไม่ใช่น้อยเลย “มาทำอะไรกันแน่?”
            ไม่อยากจะคิดไม่ดี แต่สิ่งที่กลัวมากที่สุดก็คือเจ้าหล่อนจะกลายเป็นคู่ดูตัวของไอ้ฆาตกรนั่น ถ้าเกิดว่าใช่ขึ้นมาจริง ๆ เขาคงหลีกเลี่ยงที่จะพบเธอไม่ได้
            แพรววนิดขืนตัวเองเดินเข้าไปในร้านอาหารฝรั่งเศสตามนัดจนได้ เมื่อเดินเข้ามาความประหม่าดันพุ่งเข้ามาปะทะทันที พนักงานแต่งตัวดีพร้อมรอยยิ้มกำลังต้อนรับอย่างสุภาพ
            “มากี่ท่านคะ?” เธอยิ้มสวยจริง ๆ แถมยังแต่งตัวดีราวกับว่าที่นี่มันคนละโลกกับข้างนอก
            “จะ... จองเอาไว้ค่ะ” แพรววนิดเกร็งไปทั้งตัว ทั้งการแต่งตัวที่ไม่ปกติของเธอ และยังสภาพแวดล้อมตรงหน้าอีก สาบานเลยว่าถ้านัดดูตัวครั้งต่อไป ขอเป็นร้านส้มตำไก่ย่างแทน
!
            ‘เอ๊ะ!?! ครั้งต่อไปอะไรกันเล่า!?!’
            “ทางนี้ค่ะ” พนักงานสาวเดินนำเจ้าหล่อนไปยังโต๊ะมุมสุดของร้าน ทั้งบรรยากาศ และรอบข้างไร้ซึ่งผู้คน อย่างกับว่าเขาเหมาะทั้งโซนเพื่อเธอคนเดียว
            
มันจะทุ่มทุนเกินไปแล้ว!!’
            การพบกันของคู่ดูตัว ทำเอาชายฉกรรจ์ทั้งห้านั่งไม่ติด โดยเฉพาะอาโรว์ ทำไมลางสังหรณ์ต้องมาแม่นเอาตอนนี้นะ ฆาตกรคนนั้น... อาจจะทำอะไรเธอก็ได้!!
            “ใจเย็นอาโรว์ ดูไปก่อน” เหมือนรู้ใจ ทั้ง ๆ ที่ตัวอยู่ห่างกัน ขุนพลพูดใส่เครื่องมือสื่อสารของกลุ่ม มันกำลังทำให้สติที่ขาดไปชั่วครู่ของอาโรว์กลับมา “เราต้องหาสาเหตุที่มันทำอย่างนี้ อย่าลืมเรื่องงานไป”
            “ครับ” คนใจร้อนตอบกลับด้วยอารมณ์ขุ่นมัวผ่านเครื่องสื่อสารบริเวณหูของตน ก่อนจะขยับหมวกแก๊ปเล็กน้อย
            “เข้าใจก็ดี ระหว่างนี้ดูรอบ ๆ ซะ มีใครกำลังจับตาดูทั้งคู่อยู่บ้าง” ขุนพลออกคำสั่งอีกครั้ง แน่นอนว่ามันเข้าหูซ้ายและทะลุหูขวาเรียบร้อย เพราะนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม จับจ้องแต่เธอคนเดียว
            
คุณแพงอย่าเข้าไปใกล้มันนะครับ!!’
            ส่วนคนไม่รู้สถานการณ์ กำลังตะลึงกับดอกไม้ช่อโตที่ชายหนุ่มถือมาต้อนรับพร้อมรอยยิ้ม หน้าตาพอไปวัดไปวาได้อะไรกัน นี่มันเทพบุตรชัด ๆ ยิ่งเขาใส่สูทสีน้ำเงินทึบไปทั้งตัว มันยิ่งขับให้ใบหน้าขาวผ่องเด่นขึ้นไปอีก ผมสีดำสนิทเซตขึ้นเรียบร้อย ยิ่งดูยิ่งน่าหลงใหล
            อาจจะเป็นไปได้ก็ได้ ชายคนนี้อาจจะมาแทนที่คนในใจของเจ้าหล่อน และตัดปัญหาที่คาราคาซังช่วงนี้ออกไป หากต้องกลายเป็นเมียน้อยของไอ้เสี่ยหัวงูคนนั้น สู้แต่งงานกับชายคนนี้ดีกว่า
!
            “ของคุณครับ” ชายหนุ่มยื่นกุหลาบแดงช่อใหญ่มาตรงหน้าคู่ดูตัว พร้อมยิ้มให้เล็กน้อย ยิ่งทำให้เขามีเสน่ห์ขึ้นเป็นเท่าตัว
            “อะ... อ่อ
คะ... ค่ะ” คนไม่เคยได้ดอกไม้มาทั้งชีวิต กำลังเขินจนทำตัวไม่ถูก ยื่นมือไปรับช่อดอกไม้ด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ จนคนตรงหน้าหลุดขำออกมา
            “คุณพะแพงน่ารักจังเลยนะครับ” และยิ้ม เขาคงถนัดยิ้มโปรเสน่ห์สินะ
            “ขะ... ขอบคุณค่ะ” ส่วนคนเขินก็ยังเขินต่อไป รีบเอาดอกไม้ขึ้นมาปิดหน้าแดงของตัวเอง
            “ไปนั่งที่โต๊ะเถอะครับ คุณคงหิวแย่” ชายหนุ่มผายมือไปยังโต๊ะของพวกเขา ทั้งการจัดจานซึ่งรอเจ้าหล่อนอยู่แล้ว และดอกไม้ประดับเด่นกลางโต๊ะ หากเป็นคนที่อยู่ในใจเธอคงดีไม่น้อย
            หญิงสาวเดินไปนั่งยังโต๊ะอาหารแสนหรู ชายหนุ่มเองช่างเป็นสุภาพบุรุษ เลื่อนเก้าอี้ให้เจ้าหล่อน ก่อนที่จะกลับไปนั่งตรงข้ามเธอ พร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร
            แต่ทุกอย่างกลับเงียบ แน่ล่ะ แพรววนิดไม่เคยนำพาตัวเองมาอยู่ในสถานการณ์นี้ วัน ๆ อยู่กับต้นไม้ คุยกับคนงานหรือไม่ก็ชาวสวนด้วยกัน ไม่เคยเลยสักครั้งจะมานั่งร้านหรู ๆ และคุยกับคนที่ท่าทาง... ดูดีขนาดนี้
            หญิงสาวกำลังถูกความหล่อของคนตรงหน้าดึงดูดทีละน้อยเข้าให้แล้ว...
            “คุณพะแพงอยากทานอะไรครับ?” คู่ดูตัวของเจ้าหล่อนเปิดเมนูไปทีละหน้า และเงยขึ้นมายิ้มให้เธออีกครั้ง
            
แจกยิ้มเป็นโรงทานเลย ไอ้เวรนี่!’ เสียในใจของคนกำลังแอบดู
            “อะ... เอ่อ ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” แพรววนิดหยิบเมนูขึ้นมาดูบ้าง เผื่อว่าไอ้รอยยิ้มของคนตรงหน้ามันจะลดลง แต่เมื่อดูทั้งรายการและราคาแล้ว ดวงตากลมจึงเบิกกว้าง “อะไรวะเนี่ย
!?!
            “ครับ? มีอะไรหรือเปล่าครับ?” ใบหน้าหล่อยังคงมองหญิงตรงหน้าอย่างสุภาพไม่เปลี่ยน
            “ปะ... เปล่าค่ะ” หญิงสาวหัวเราะกลบเกลื่อนเล็กน้อย และเลื่อนเมนูขึ้นมาปิดหน้าตัวเองแทน ไอ้ราคาเจ้าหล่อนทำใจอยู่แล้วว่ามันต้องแพง แต่ที่เธอตกใจคือ... “ภาษาอะไรวะ
!?! อ่านไม่ออกสักตัว”
            อยากไปบวชชี... ตอนนี้เลย แค่ภาษาอังกฤษเจ้าหล่อนยังจะเอาตัวไม่รอด แต่ร้านอาหารฝรั่งเศสจำเป็นต้องใช้เมนูเป็นภาษาฝรั่งเศสด้วยเหรอ
!?!
            “คุณพะแพงครับ...”
            “คุณ... สั่งให้ฉันเถอะค่ะ พอดีฉันไม่ถนัดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่” เจ้ายิ้มแหยให้คนตรงหน้า และโยนภาระทั้งหมดชายหนุ่มแทน
            “ถ้าแบบนั้น...” เขาพลิกเมนูในมืออีกครั้ง “... อองเทรเป็นฟัวกราส์ดีหรือเปล่าครับ คุณพะแพงทานเนื้อได้มั้ย?”
            “ฉันทานได้ค่ะ แทบทุกอย่างเลย” เธอยิ้มอีกครั้ง แถมชายตรงหน้ายังยิ้มให้ไม่ต่างกัน
            
เขาดูสุภาพจัง
            “ถ้าอย่างนั้น ขอเป็นฟัวกราส์สองที่ และเบิฟบูร์กีญงอีกสอง ส่วนเครื่องดื่ม... ของผมเป็นไวน์แดงก็แล้วกันครับ” ชายหนุ่มหันมามองหน้าหญิงสาวอีกครั้ง
            “ขะ... ของฉันนะ... น้ำเปล่าค่ะ แค่น้ำเปล่าก็พอ” แพรววนิดยิ้มกลับให้ทั้งคู่ดูตัว และพนักงานซึ่งมารับออเดอร์

            “เอาแค่สองรายการก่อนครับ ส่วนเดสแซร์ ผมจะสั่งอีกที” เขารวบรวมเมนูยื่นคืนให้พนักงานอีกครั้ง และไม่ลืมหันมาปั้นหน้ายิ้มให้หญิงตรงหน้า “ที่นี่แครมบรูว์เลอร่อยมากเลยครับ คุณพะแพงต้องชอบแน่ ๆ เดี๋ยวสั่งตอนทานของคาวเสร็จจะดีกว่า ทานตอนทำเสร็จใหม่ ๆ จะยิ่งอร่อยขึ้น”
            
ถ้าเขาพูดอะไรไม่เข้าใจ ก็แค่พยักหน้าเบา ๆ และยิ้มให้ เข้าใจใช่หรือเปล่า?
            เสียงของเรไรเข้ามาอีกแล้ว ถ้าเสร็จจากที่นี่เมื่อไหร่ แพรววนิดสาบานกับตัวเองเลยว่าจะรีบขับรถไปกรุงเทพฯ เพื่อบีบคอเพื่อนตัวเองให้หายแค้น
!!
            “ค่ะ” แพรววนิดพยักหน้า และยิ้ม เพราะเธอทำได้แค่นี้
            บอกเลยตอนนี้คิดถึงส้มตำที่บ้านมาก
อยากกลับตอนนี้ ไอ้เบิฟ ๆ บู ๆ แค ๆ อะไรนั่นคืออะไรวะ!?! ชื่อไม่เคยได้ยิน หรือว่าเธอจะโลกแคบเกินไปอย่างที่เพื่อนสนิทชอบว่าตนอย่างนั้นหรือ?
            “คุณแพงทำธุรกิจเกี่ยวกับผลไม้ใช่หรือเปล่าครับ?” เพราะไม่อยากให้บรรยากาศรอบข้างเงียบจนเกินไป ชายหนุ่มจึงชวนคุย
            ส่วนคนที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองทำธุรกิจเกี่ยวกับผลไม้ คงทำได้แค่ตามน้ำไปเท่านั้น “คะ... กะ... ก็ประมาณนั้นค่ะ ธุรกิจเกี่ยวกับผลไม้ แฮะ ๆ”
            
ไอ้เรแกเสนอขายเพื่อนของแกยังไงกันแน่วะ!?!’
            “ผมชอบทานผลไม้มากเลยครับ พวกองุ่น หรือไม่ก็ตระกูลเบอร์รี่” เขายังคงชวนเธอคุยอย่างต่อเนื่อง พร้อมรอยยิ้มที่ถนัด
            “แต่สวนของฉันไม่มีองุ่น หรือพวกตระกูลเบอร์รี่เลยค่ะ”
            “แล้วที่สวนของคุณพะแพงมีอะไรบ้างครับ?”
            “ก็... ส่วนใหญ่ตอนนี้เป็นทุเรียนเกือบเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ แต่ก็ยังมีมังคุด เงาะ ฝรั่ง ชมพู่ มะม่วง อินทผาลัม และส้ม เมื่อก่อนเคยเป็นสวนส้มมาก่อน เลยไม่ค่อยอยากเอาออกเท่าไหร่ค่ะ”
            พอพูดถึงเรื่องสวนที่ตนเองภูมิใจ เจ้าหล่อนไม่มีท่าทางติดขัด หรือพูดตกร่องเลย เพราะว่ามันคือสิ่งที่เธอรัก และหวงแหนประหนึ่งลูกที่คลอดออกมาเอง
            เธอและพี่สาวมีชีวิตอย่างทุกวันนี้ได้เพราะสวนแห่งนี้ เมื่อโตมาจึงอยากต้องตอบแทนมัน อยากจะดูแลไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีแรง
            ต่อให้มีคนต้องการซื้อและให้ราคาดีแค่ไหน แพรววนิดคนนี้ไม่ยอมเฉือนเนื้อตัวเองแน่
!!
            “คุณพะแพงรู้ตัวหรือเปล่าครับ เวลาที่คุณพูดถึงสวนผลไม้ของคุณ ตาของคุณสวยมาก” นอกจากจะหยอดคำหวานแล้ว ยังส่งสายตาหวานเชื่อมไปให้เจ้าหล่อนอีกด้วย แน่ล่ะ เขาใช้วิธีนี้มานักต่อนัก ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าผู้หญิงบ้านนอกตรงหน้า แพ้ทางอะไร
            
ง่ายชะมัด!’
            “มะ... แหมฉะ... ฉันแค่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสนใจและทำได้ดีค่ะ เวลามีคนมาพูดถึงเรื่องที่ตัวเองชอบ... มันเลยรู้สึกดี” แพรววนิดก้มมองจานเปล่าตรงหน้า เพราะไม่กล้าสบตาอันแพรวพราวของชายหนุ่ม แก้มทั้งสองแดงเปล่ง พร้อมความร้อนที่ตีขึ้นมาทั่วใบหน้าสวย
            แต่สิ่งที่ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัว พร้อมหัวใจที่เต้นเร็วถี่ คือมือหนาเข้ามากุมมือตัวเองเอาไว้เบา ๆ ก่อนจะประคองขึ้นไปอย่างทะนุถนอม พร้อมปลายนิ้วค่อย ๆ ลูบมือนิ่มอย่างระวัง “ดีจัง... ที่ทำให้คุณรู้สึกดี”
            ปึง
!!!!
            เสียงกำปั้นทุบถังสังกะสี ดังลั่นไปทั่วพื้นที่ ตอนนี้คนกำลังจ้องมองทั้งคู่เลือดขึ้นหน้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แน่นอนว่าอีกสี่คนที่เหลือได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ กลัวว่าไอ้คนปากไม่ตรงกับใจมาเป็นปี จะทำอะไรแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง
            “ผมจะฆ่ามันครับ ตอนนี้เลย”
            เสียงทุ้มลึกอยู่ในลำคอ ขนาดฟังจากเครื่องส่งสัญญาณยังสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่เข้ามาปกคลุมอารมณ์ของอาโรว์ในตอนนี้ ดวงหน้าเคร่งขรึม นัยน์ตาสีน้ำเงินจัดวาวโรจน์ แค่อยู่ใกล้กันมันยังพอทน แต่จับมือแบบนี้
            
ไม่อยากทนแล้วโว้ย!!’
            “เฮ้ยใจเย็น ๆ เดี๋ยวเสียงานใหญ่” แซนตะโกนใส่เครื่องส่งสัญญาณเพื่อเตือนสติคู่หู แต่ดูเหมือนคนรับสัญญาณจะหูอื้อเพราะโกรธจัดไปแล้ว
            “ฉิบหาย
มีคนตายจริง ๆ แน่” ขุนพลรีบถอดหูฟังอันใหญ่ออกจากหูทันที และวิ่งออกจากห้องกว้างไปด้วยความเร็ว!