เมื่อลืมตาตื่น 'ดารินทร์' ก็พบว่าตัวเขาได้เข้ามาอยู่ในเกมผจญภัยในโลกแฟนตาซีที่เคยเล่นในอดีต ทว่า "ร่างที่ฉันเข้ามาอยู่กำลังจะถูกลอบสังหารในอีก 3 วัน"

เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก - EP.1 ตัวประกอบผู้ไม่มีแม้แต่บท โดย Zephyr_W @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ชาย-ชาย,ตะวันตก,transmigration,ทะลุมิติ,ต่างโลก,แฟนตาซี,แนวระบบ,ตลก,แอ็คชั่น ,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ชาย-ชาย,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

transmigration,ทะลุมิติ,ต่างโลก,แฟนตาซี,แนวระบบ,ตลก,แอ็คชั่น ,ดราม่า

รายละเอียด

เมื่อลืมตาตื่น 'ดารินทร์' ก็พบว่าตัวเขาได้เข้ามาอยู่ในเกมผจญภัยในโลกแฟนตาซีที่เคยเล่นในอดีต ทว่า "ร่างที่ฉันเข้ามาอยู่กำลังจะถูกลอบสังหารในอีก 3 วัน"

ผู้แต่ง

Zephyr_W

เรื่องย่อ

[ The tale of light ] หรือ [TOL] หนึ่งในเกมผจญภัยในโลกแฟนตาซี ที่มีตัวเอกเป็นนักบุญของมหาวิหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเน้นเรื่องราวการผจญภัยไปกับชายรูปงามที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายรักขายดีอันดับหนึ่งติดต่อกัน 3 ปีซ้อน


เป็นเกมออนไลน์แนว open world ที่จะเปิดโอกาสท่องโลกเก็บเกี่ยวประสบการณ์เรื่องราวความรักและการต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาด อีกทั้งยังมีระบบแต่งบ้าน สร้างร้านค้า ดูแลอาณาเขตที่ดินและระบบจีบ


ทว่า...


" ร่างที่ฉันเข้ามาอยู่ในตอนนี้กำลังจะถูกลอบสังหารในอีก 3 วัน"


รินทิ้งศรีษะลงบนมือทั้งสองที่นุ่มเกินกว่าจะเป็นมือของเขาทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ดังนั้น


...นี่มันแย่ชะมัด




สารบัญ

เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก-EP.1 ตัวประกอบผู้ไม่มีแม้แต่บท,เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก-EP.2 ยับยั้งการสังหารหมู่ (1),เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก-EP.3 ยับยั้งการสังหารหมู่ (2),เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก-EP.4 ยับยั้งการสังหารหมู่ (3),เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก-EP.5 สามสิ่งที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง,เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก-EP.6 เพราะมันมีต้นฉบับเป็นนิยายรักโรแมนติก (?),เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก-EP.7 คืนวันลอบสังหาร (1),เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก-EP.8 คืนวันลอบสังหาร (2),เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก-EP.9 ดัชเชสเอวาเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตราย,เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก-EP.10 ต้องวางแผนกันใหม่ (1),เกิดใหม่เป็นตัวประกอบไร้บท #นายท่านต้องการลาออก-EP.11 ต้องวางแผนกันใหม่ (2)

เนื้อหา

EP.1 ตัวประกอบผู้ไม่มีแม้แต่บท




EP.1 ตัวประกอบผู้ไม่มีแม้แต่บท





มีคนเคยกล่าวเอาไว้เสมอว่าโลกใบนี้อะไร ๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ทั้งมาในรูปแบบที่คาดหวังเอาไว้และมาแบบไม่ทันตั้งตัว

ซึ่งอย่างหลังก็เป็นสิ่งที่คนอย่างรินเกลียดมากที่สุด

'ฮ่ะ!'

รินหัวเราะเย้ยหยันให้กับตัวเขาเบื้องหน้า มุมปากยกระดับแลยินดีผิดกับหัวคิ้วขมวดมุ่นเป็นปม

'นี่มัน...ไม่ใช่แค่ไม่คาดหวังแต่มันไม่เคยมีอยู่ในหัวสมองเลยต่างหาก'

รินจ้องมองลงไปในลำธารเล็ก ๆ ตรงหน้าที่อยู่ ๆ เขาก็ตื่นขึ้นมาในร่างของใครสักคน ใบหน้าที่เคยหยาบกร้านของชายวัยกลางคนกลับกลายเป็นใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ แม้แต่เส้นผมเองก็ยังดูสุขภาพดี มันเป็นประกายสีม่วงเมื่อต้องแสงอาทิตย์ดูแปลกตา ทว่าสายตาของเขาตอนนี้กลับถูกดึงโฟกัสไปยังจุดจุดหนึ่ง

ดวงตาสีม่วง

มันเป็นสีสดใสเหมือนแร่อเมทิสต์ที่มีชีวิต แต่ก็ดูปลอมในความคิดของรินเช่นกัน

'ให้ตายสิ นี่มัน...'

เขามักตั้งคำถามเสมอทุกครั้งที่อ่านนวนิยายหรือภาพยนตร์ ว่าทำไมเหล่าตัวละครหลักที่เปลี่ยนไปกะทันหันจะต้องพูดประโยคประโยคหนึ่งขึ้นมาเหมือนกันหมด ราวกับเป็นบทที่ถูกเซตเอาไว้ ทว่า...

'เกิดบ้าอะไรขึ้น?'

ไม่รู้ว่าเพราะรินเป็นคนใจเย็นหรือมีเรื่องให้ตกใจมากมายถาดโถมใส่เข้ามาพร้อม ๆ กันในทีเดียวจนเหนื่อยที่จะตกใจ

เขาเริ่มนึกย้อนกลับไปอย่างใจเย็น

ถึงความทรงจำของเขาที่มีก่อนจะโผล่มาอยู่ในร่างของใครสักคนในสวนส้มแห่งนี้

ดารินทร์ เขาเป็นเพียงพนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่งที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก ไม่ว่าจะหน้าตาหรือความสามารถ ถือเป็นแค่บุคลากรที่มักถูกนับเป็นจำนวนตัวเลขในเอกสารฉบับหนึ่งเท่านั้น

และในวันสุดท้ายที่เขาจำได้คือวันที่เขาทิ้งเอกสารที่ปั่นมาตลอดสามวันสามคืนแต่ก็ยังไม่เสร็จเสียที หนีไปนั่งดื่มกาแฟชมวิวทิวทัศน์ นั่งโต้ลมเย็นยามฝนตกอยู่ชั้นหนึ่งของอาคารแทน

'นี่ฉันโดนพระเจ้าลงโทษเพราะไม่ยอมทำงานต่อหรือไงกัน'

รินมุ่นคิ้วของเขาเป็นปม มือขาวที่นิ่มเกินกว่าจะเป็นมือของเขาสางเส้นผมที่ยาวรุ่มร่ามน่ารำคาญมาตั้งแต่เมื่อกี้ไปด้านหลัง ในใจเฝ้าสาปแช่งถึงพระเจ้าสักองค์ที่พอจะนึกออกได้จากในความทรงจำ

อันที่จริง ดารินทร์เป็นคนที่ไม่เชื่อในเรื่องของพระเจ้าเลยแม้แต่นิดเดียว เขาก็แค่หาที่ลงก็เท่านั้น ในตอนนั้นเองที่มีใครบางคนเดินมาหาเขาจากด้านหลัง เอ่ยทักด้วยโทนเสียงเส้นเดียวที่ชวนให้นึกถึงสิริ เรียกความสนใจให้เขาหันกลับไปสบตา

"นายน้อย ได้เวลากลับแล้วค่ะ"

เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่มีรูปลักษณ์ภายนอกราวๆ 15 ปี ผมสีชมพูน่ารักถูกมัดรวบไปด้านหลังอย่างเรียบร้อย สวมชุดสาวใช้สไตล์ยุคกลางที่เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน นัยน์ตาของเธอนั้นดูเย็นชา ทว่าต่อให้จับไปยืนรวมกับสาวใช้คนอื่น ๆ ร้อยทั้งร้อยก็ต้องชี้ตัวว่าเธอเป็นสาวใช้ที่สวยที่สุดอย่างแน่นอน

ใบหน้าของเธอดูคุ้นมาก แต่รินก็จำไม่ได้ว่าเคยเจอเธอที่ไหน

ในตอนนั้นเอง

[ เควสระดับง่าย : รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ 'แคลเรต เอ แครอล' เพื่อชีวิตของคุณที่ดีขึ้น! ]

[ ยืนยัน ]

หางคิ้วของเขาเริ่มกระตุก มองหน้าจอสีฟ้าใสที่เหมือนกับหน้าต่างเกมที่อยู่ ๆ ก็โผล่มา มีเถาวัลย์ดอกไม้กับฟิลเตอร์สีทองระยิบระยับรอบ ๆ ข้อความจนน่าหมั่นไส้

นี่อะไร?

สัญชาตญาณกำลังสั่งร่างกายก่อนสมอง  ปลายนิ้วของเขากด [ ยืนยัน ] ไปโดยไม่ทันได้คิดอะไร



[ เควสระดับง่าย : รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ 'แคลเรต เอ แครอล' เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

 ลองติดตามไรรีย์สาวใช้ประจำตัวที่น่ารักและน่าเอ็นดูของ 'แคลเรต เอ แครอล' ดูสิ ]



"จะกลับปราสาทเลยไหมคะนายน้อย"

"อ อืม"

รินตอบรับคำ เดินตามสาวใช้ที่น่าจะชื่อไรรีย์ไป  พวกเขาเดินผ่านสวนส้ม ชาวไร่หรือแม้แต่คอกม้า มุ่งหน้าไปยังปราสาทขนาดใหญ่สไตล์ยุคกลางที่ดูเก่าแก่แต่ไม่ได้ทรุดโทรมอะไรมากนัก ถ้าจะให้พูด มันดูราวกับต้องมนต์ขลังเสียมากกว่าด้วยซ้ำ

ถ้าดูจากชุดที่เขาใส่กับวิธีที่ถูกปฏิบัติ บางทีร่างนี้คงไม่พ้นลูกผู้ดีในยุคกลางหรือไม่ก็ลูกหลานพ่อค้าผู้ร่ำรวยเป็นอย่างต่ำ และนั่นถือเป็นข่าวดีสำหรับเขาไม่น้อยที่จะได้ละทิ้งชีวิตวัยทำงานแม้มันอาจจะเป็นเพียงฝันสั้นๆ

แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่โดนพวกคนงานเขม่นใส่หรือพวกผู้หญิงวิ่งหนีเวลาเผลอสบตาด้วยน่ะนะ

ระหว่างทางที่เบื่อรินจึงคว้าผลส้มใกล้ๆ มือลงมาปอกเปลือกกินเล่น แม้จะถูกผู้คนทำท่าทีรังเกียจแต่ก็ย้อมใจด้วยการลูบหัวม้าที่อยู่ในคอกเล่น แน่นอนว่าเขาสามารถทำมันได้โดยไม่มีใครว่าอะไร หนำซ้ำไรรีย์ยังยืนรอให้เขาลูบมันสักพักก่อนจะเดินต่ออีกครั้ง เขาพยายามทำตัวให้ชินกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถชินกับมันได้เสียที

'ไม่มีใครทักเรื่องสีผมขัดธรรมชาติที่ไม่ได้ผ่านการยอมนี่หน่อยเหรอ?'

เขาเหลือบมองสีผมของสาวใช้ที่สูงพอ ๆ กับเขา ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็ดูเป็นผมจริงที่ไม่ได้ผ่านการกัดหรือย้อมแม้แต่น้อย แต่สีผมของเธอรวมถึงคนงานบางคนในไร่กลับมีสีผมที่แปลกประหลาดเหมือนลูกกวาดไม่มีผิด

แกรก!

แอดดด

"เชิญค่ะ"

เธอเปิดประตูทางเข้าปราสาท ถอยหลังออกเพื่อหลีกทางให้กับเขา

รินไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงชี้คางไปด้านหน้าเป็นสัญญาณให้เธอนำทาง จากนั้นจึงยัดส้มในมือเข้าปากไปอีกหนึ่งคำ เขาเดินทอดน่องตามสาวใช้คนนั้นไป มองสำรวจทางเดินที่ดูคุ้นตาจนน่าแปลกใจ ไม่นานนักเขาก็เดินมาถึงห้องห้องหนึ่งที่น่าจะเป็นของตน

เขาเดินเข้าไปด้านในโดยไม่ลืมเอ่ยกำชับให้กับสาวใช้อีกเล็กน้อย

"ไปทำงานอย่างอื่นเถอะ"

"ทราบแล้วค่ะ"

พอเดินพ้นประตูมา สาวใช้คนนั้นก็ก้มหัวบอกลาแล้วเดินจากไปในทันที ไม่แม้แต่จะถามหรือซักไซ้ใด ๆ ทั้งสิ้น

เขาอยากจะหยิกแก้มตัวเองสักทีสองทีทดสอบว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่ทุกอย่างก็ดูสมจริงเกินกว่าจะเป็นความฝันเช่นกัน ไม่ว่าจะเสียงของลม ผู้คน สัมผัสของม้า หรือแม้แต่รสชาติของส้มที่เขาเพิ่งกินไปเมื่อครู่

'มันสมจริงเกินไป'

รินสาวเท้าไปรอบ ๆ ห้องอย่างพินิจ รีบเดินสำรวจข้าวของเครื่องใช้ในห้องนอนที่มีขนาดใหญ่พอๆ กับบ้านทั้งหลัง กวาดเอาหนังสือทุกเล่มที่มีในห้องมาเปิดอ่าน ถ้าให้รินเลือกระหว่างการเดินไปถามใครสักคนว่า 'แคลเรต เอ แครอล' คือใครแล้วโดนสงสัยขึ้นมา สู้เปิดหาจากในหนังสือก่อนเพื่อความแน่นอนและปลอดภัยเสียงยังดีกว่า

ยังไงก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะกลับไปเป็นรินเมื่อไหร่

ในฐานะคนที่เคยอ่านนิยาย bad end บ่อยแล้ว ไม่สามารถไว้วางใจอะไรได้แม้แต่น้อย



...



ปึก!

'ให้ตายสิ'

รินเริ่มไม่อยากเชื่อกับความเป็นจริงบางอย่าง เขาทุบหนังสือเล่มหนาลงบนสมุดไดอารี่ที่ไม่กล้าเปิดอ่านมันต่อ ขณะลอบมองกองหนังสือจำนวนมากที่อ่านไปแล้วกว่าหลายสิบเล่ม มีทั้ง'ประวัติศาสตร์ของตระกูล' 'ผลงานที่ทำเพื่ออาณาจักร' 'รายชื่อบุคคลสำคัญในอาณาจักร' 'รายชื่อสภาอาวุโส' 'บุตรหลานชนชั้นสูงในดัชชี' 'งานปาร์ตี้ในแวดวงสังคมใหญ่'  และอื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องนัก

ส่วนเหตุผลที่ทำให้เขาหงุดหงิดน่ะเหรอ?

รินมองหน้าต่างระบบที่เด้งขึ้นมาใหม่สองอันอย่างขุ่นเคือง



[ได้รับรางวัลจากเควสระดับง่าย : รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ 'แคลเรต เอ แครอล' เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น!]

[ได้รับ ข้อมูลโดยพื้นฐานเกี่ยวกับ 'แคลเรต เอ แครอล' ]



'นี่มันไม่สมเหตุสมผลสักนิด'

โดยปกติในนวนิยายหรือเกมที่มีระบบอยู่ในนั้น พวกมันมักทำหน้าที่เป็นดั่งผู้ช่วยหรือผู้ผลิตที่มักมอบบางสิ่งที่มีค่า ไม่ว่านั่นจะเป็นสกิลความสามารถ อาหารหรือไอเทมที่มีประโยชน์ในอนาคต ทว่าสิ่งที่เขาได้กลับไม่เข้าข่ายสิ่งใดที่ว่านั้นเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นข้อมูลที่เขาได้มาจากการทำงานหนักด้วยตัวเองเพียงเท่านั้น

แล้วไอ้พลุกระดาษนี่มันอะไรอีกล่ะ

รินปัดเศษกระดาษหลากสีออกจากศีรษะ ที่เพิ่งพวยพุ่งมาจากหน้าต่างระบบเมื่อครู่ทิ้ง น่าแปลกที่เขาสามารถเข้าใจภาษาที่ไม่รู้จักมาก่อนพวกนี้ได้ในทันที แต่ก็ถือว่าสะดวกในระดับหนึ่ง บางทีการใช้สมองร่วมกับแคลเรต เอ แครอลที่เข้าใจภาษาของโลกนี้อาจมีส่วนให้เขาเข้าใจมัน

เขาเดินหนีไปอาบน้ำหวังให้หัวร้อนๆ ของเขาเย็นลง หลังจากรวบรวมข้อมูลมาตลอดครึ่งวันก็ได้ข้อสรุปที่ว่า

เขาได้เข้ามาอยู่เกม [ The tale of light ] เกมต่อสู้ผจญภัยแนว Open World ที่ถูกดัดแปลงมาจากนวนิยายรักแฟนตาซีขายดีอันดับหนึ่งติดต่อกัน 3 ปีซ้อน

มันเป็นเกมที่ได้รับความนิยมมากในหมู่คนจำนวนมาก ด้วยกราฟิกดีไซน์ที่สมจริงและสามารถจับต้องได้ทุกสิ่งราวกับโลกอีกใบที่ถูกจำลองขึ้นมา ทั้งยังมีระบบแต่งบ้าน จัดร้านค้า ดูแลอาณาเขตรวมถึงระบบจีบ และสามารถเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับตัวละครในเกมได้ทุกตัวเพื่ออ่านเนื้อเรื่องที่ซ้อนอยู่

ส่วน แคลเรต เอ แครอล นั้น เป็นเพียงตัวประกอบที่ยิ่งกว่าตัวประกอบ ไม่มีทั้งหน้าตาหรือเสียงพากย์ให้ได้ยิน ไม่เปิดเผยทั้งนิสัยหรือแม้แต่เงาดำ ๆ อย่างตัวประกอบ A ที่เคยเห็นทั่วไปด้วยซ้ำ

แต่โผล่มาในฐานะช่องคำพูดที่ว่า 'ลูกติดของดัชเชสคนใหม่'

เป็นเพียงลูกติดที่เกาะชายกระโปรงมารดาเข้ามาในตระกูลดยุกที่เคยมั่งคั่งและแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรคาร์เธีย

ใช่ มันแค่ 'เคยเป็น' เท่านั้น

เนื่องจากดัชเชสคนใหม่หรือแม่ของแคลเรตเอาแต่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแถมไม่ยอมให้ดยุกทำงานเป็นชิ้นอันจนโดนพวกข้าราชบริพารยักยอกเงินไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ 

เรียกว่ามีแต่เงินไหลออกก็คงจะถูก

จากที่มั่งคั่งที่สุดกลายเป็นตกต่ำที่สุดเพียงเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง

แถมในอนาคตคนในตระกูลนี้ยังต้องถูกฆ่ายกครัวอีกต่างหาก

'ชีวิตครั้งใหม่ของฉัน...เริ่มต้นด้วยการยืนอยู่หน้าปากประตูนรกโดยมีเคียวของยมทูตคล้องคอชัดๆ'

แค่คิดถึงข้อเท็จจริงรินก็อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน



...



หลังจากอาบน้ำล้างตัวเสร็จ ริน ไม่สิ แคลเรตจึงสวมชุดคลุมอาบน้ำออกมาจากห้องน้ำ สั่นกระดิ่งเรียกสาวใช้ที่อยู่ด้านนอกเข้ามา

คราวนี้เป็นสาวใช้ที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

"มีอะไรให้ดิฉันรับใช้หรือคะนายน้อย?"

"เช็ดผมให้หน่อยสิ"

"คะ?!!"

สาวใช้อุทานเสียงดังลั่นห้อง สวนประสาทให้แคลเรตปวดหัวเล่นจนเผลอมุ่นคิ้วเข้าหากัน

'มันคงจะดีกว่านี้ถ้าคนที่นี่ไม่แสดงออกโอเวอร์เหมือนเป็นตัวละครในเกม'

เขาผลักผมไปด้านหลัง โยนผ้าเช็ดตัวผืนหนาไปให้เธอ พยายามไม่ตำหนิท่าทางงุ่มง่ามนั้นแล้วเดินไปนั่งรออยู่หน้ากระจก

"ทำแค่วันนี้ก็พอ ข้าเหนื่อยขี้เกียจทำเอง"

ในความเป็นจริงตลอดของการใช้ชีวิตเป็นดารินทร์ เขาก็ไม่เคยไว้ผมยาวเท่านี้มาก่อน เลยทำเองไม่เป็นก็เท่านั้น

ดูเธอทำให้หนึ่งครั้งหลังจากนี้ก็น่าจะทำตามได้นั่นแหละ

"เร็วสิ"

"คะ? อา ค่ะ ทราบแล้วค่ะ!"



...



"...นายน้อย?"

ไรรีย์ สาวใช้ประจำตัวของเขาเดินเข้ามาในห้องมองแคลเรตสลับกับสาวใช้ตรงหน้า ทำหน้าตาไม่ไว้วางใจผู้เป็นเจ้านาย ด้านหลังของเธอยังมีบรรดาสาวใช้อีกประมาณ 5-6 คนเดินตามมาติดๆ

เธอส่งน้ำส้มคั้นในมือให้กับเจ้านายตน

"นี่น้ำส้มค่ะนายน้อย"

"ขอบใจ"

แคลเรตรับมันขึ้นมาดื่ม

"พรากบริสุทธิ์ไปแล้วหรือคะ"

พรูดดด

"แค่กๆๆ"

"นายน้อยคะ!!!"

"เป็นอะไรหรือเปล่าคะนายน้อย!"

แคลเรตสำลักน้ำส้มอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ๆ  บรรดาสาวใช้ต่างวิ่งกรูกันมาลูบหลังเขาอย่างเป็นห่วงเป็นใย บ้างก็ประคองไหล่เขาเอาไว้ ส่วนไรรีย์ทำเพียงหยิบผ้าเช็ดหน้าให้เขาเหมือนเป็นเรื่องปกติ

แคลเรตเมินผ้าเช็ดหน้าแล้วเช็ดคราบน้ำส้มด้วยแขนเสื้อตัวเอง พอหายใจคล่องจึงเงยหน้ามามองคาดโทษใส่ไรรีย์

เธอกำลังพูดเรื่องบ้าอะไรน่ะ?

'เธอเห็นฉันเป็นคนยังไงกันแน่ ไม่สิ แคลเรต เอ  แครอล ไอ้หมอนั่นมันเป็นคนยังไงกันแน่'

เขาอดไม่ได้ที่จะแอบด่าทางสายตา พลันฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ในทันที

ไรรีย์ เจเนซิส หนึ่งในไม่กี่คนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์สังหารหมู่คนในตระกูลที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ แถมยังเป็นคนที่ไว้ใจและเชื่อถือได้ที่สุดในบรรดาคนใกล้ตัวเขาตอนนี้ การันตีจากการที่เธอจะมีบทบาทสำคัญที่คอยช่วยเหลือตัวเอกหรือผู้เล่นในเกมหลายต่อหลายครั้ง

เป็นอีกหนึ่งสาวงามที่เหล่าผู้เล่นต่างโอดครวญขอให้ทางบริษัทเพิ่มเธอลงไปในลิสต์รายชื่อตัวละครหลัก ที่จะสามารถจีบได้ รวมถึงการเพิ่มค่าความสัมพันธ์ไปในทิศทางคนรักและสามารถออกเดต รวมฟังชั่นอื่น ๆ ที่จะมีมากกว่า npc ธรรมดาทั่วไป

เนื่องจากรูปลักษณ์ที่ดูน่ารักบอบบางแต่เย็นชา แถมยังติดท็อป 10 บุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดตามผลโหวตจากบรรดาผู้เล่นอีกด้วย

แน่นอนว่าฝีมือของเธอเป็นรองเพียงพวกตัวละครหลักหรือตัวร้ายเท่านั้น

คิดได้เช่นนั้นคำด่าที่เต็มอยู่ในลำคอก็ถูกกลืนลงท้องไป เปลี่ยนไปส่งยิ้มสดใสให้ไรรีย์จากนั้นจึงรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปาก

การผูกมิตรกับเธอก็ถือว่ามีเปอร์เซ็นต์รอดเพิ่มขึ้นมาอีก 0.5 %

ถึงจะน้อยนิดแต่ก็ถือว่ามีโอกาสรอด

"ขอบใจ"

เขาส่งผ้าเช็ดหน้าคืนเธอแล้วยกน้ำส้มคั้นหวาน ๆ ขึ้นมาดื่มอีกอึกใหญ่ๆ ฮัมเพลงในใจเงียบๆ

คิดแผนวางอนาคตที่สดใสนั้นอยู่ไม่ไกล หากเขาสามารถรอดพ้นวิกฤตที่ตระกูลแครอลจะล่มสลายในอนาคตนี่ได้ และคุยกับดัชเชสสักครั้งเกี่ยวกับการคลัง บางทีต่อจากนี้เขาอาจจะไม่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเหมือนตอนที่ใช้ชีวิตเป็นดารินทร์จนถึงเมื่อเช้านี้

หนำซ้ำยังมีคนคอยหาเงินมาให้ใช้  และการจัดสรรเงินที่ได้ในฐานะสมาชิกของชนชั้นเองก็มากพอที่จะให้เขาสามารถใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ออกไปเที่ยวเล่นได้อย่างตามใจ

'แค่คิดก็พบว่าชีวิตใหม่ของเขานั้นแสนสุขสบาย'

ขอแค่ไม่ต้องออกไปเสี่ยงตายให้สัตว์ประหลาดข้างนอกนั่นจับกินก็พอ

ติ๊ง!

แต่ยังไม่ทันได้พอใจกับการวาดฝันถึงอนาคตอันสดใส แคลเรตก็ต้องนิ่งค้างไปทันที เมื่อพบหน้าต่างระบบเด้งขึ้นมา เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังก้องกังวานอยู่ภายในหัว มันอ่านตามข้อความในหน้าต่างระบบให้เขาฟัง

แก้วในมือของเขาแทบจะหล่นลงพื้น แคลเรตรู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมากะทันหัน เขาเบิกตากว้างเพื่ออ่านมันให้แน่ใจ ก่อนจะหรี่ลงอีกครั้งอย่างไม่เชื่อในสายตา



[ เควสระดับยาก : ยับยั้งการสังหารหมู่ตระกูลดยุกแครอล

เควสจะเริ่มในอีก 3 วัน

หากล้มเหลว : การล่มสลายของตระกูลแครอล , การตายของคุณ ]



[ อัตราความสำเร็จปัจจุบัน 0% ]



'...อะไรวะ'