ภาระกิจเพื่อชาติยังไม่ยากเท่าภาระกิจพิชิตใจเธอ ระหว่างพระเอกสายซึน มึนทุกสถานการณ์ กับพระเอกสายหมาเด็ก หมาลายเสือ ใครจะทำภาระกิจสำเร็จก่อนกัน

ฝ่าวิกฤต สงครามอนาคต - ตอนที่ 2 รวบรวมกำลังพล โดย Jupiter _CP @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,เมะลูกหมา,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ฝ่าวิกฤต สงครามอนาคต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เมะลูกหมา,นิยายวาย

รายละเอียด

ภาระกิจเพื่อชาติยังไม่ยากเท่าภาระกิจพิชิตใจเธอ ระหว่างพระเอกสายซึน มึนทุกสถานการณ์ กับพระเอกสายหมาเด็ก หมาลายเสือ ใครจะทำภาระกิจสำเร็จก่อนกัน

ผู้แต่ง

Jupiter _CP

เรื่องย่อ

ปี 2050 เกิดเหตุฝูงบินรบประหลาด ไม่ทราบสัญชาติ เข้าโจมตีฐานทัพอากาศและฐานทัพเรือ สร้างความเสียหายให้กองทัพอย่างมหาศาล

ผู้บังคับบัญชาสูงสุด จึงสั่งการให้มีการจัดตั้งทีมหน่วยรบพิเศษขึ้น เพื่อปฏิบัติภาระกิจในครั้งโดยเฉพาะ โดยมีอลันเป็นหัวหน้าทีม อลันได้รวมรวบสมาชิกทีมที่มากความสามารถ ทั้งของกองทัพเรือและกองทัพอากาศ พวกเขาต้องทำงานร่วมกัน เพื่อปฏิบัติภาระสำคัญในครั้งนี้ให้สำเร็จ ซึ่งนอกเหนือจากภาระกิจในทีมที่ต้องทำแล้ว ยังมีภาระกิจของหัวใจที่หนักหน่วงไม่แพ้กัน

แมททิว

“กูไม่รู้ว่ามันมาจากไหน แต่ที่รู้ ๆ คือวันนี้ทุกคนต้องรอด รวมถึงมึงด้วย มึงต้องรอดลงไปเป็นแฟนกูก่อน” 

เดนิส

“กว่าจะพูดได้นะมึง นี่กูคงต้องขอบคุณพวกมันซินะ ที่สามารถง้างปากคนซึนอย่างมึงได้” 

วิคเตอร์

“เฮ้อ กูละเหนื่อยใจกับมึงจริง ๆ เอางี้ถ้ามึงทำภาระกิจสำเร็จ กูหายโกรธมึงก็ได้” 

ไค

“จริงนะพี่วิค ถ้างั้นระวังตัวด้วย แล้วเจอกันนะครับ วันนี้ผมจะเลี้ยงเหล้าพี่เอง” 


WARNING

- นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงโดยจินตนาการของผู้เขียน ตัวละคร สถานที่และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ผู้เขียนไม่ได้มีจุดประสงค์ลบหลู่ผู้ใจ หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้

- นิยายเรื่องนี้เป็นนิยาย ชxช ผู้อ่านท่านใดไม่ชอบแนวนี้กดออกได้เลยนะคะ


Enjoy reading ขอบคุณค่า


สารบัญ

ฝ่าวิกฤต สงครามอนาคต-ตอนที่ 1 แนะนำตัวละคร,ฝ่าวิกฤต สงครามอนาคต-ตอนที่ 2 รวบรวมกำลังพล,ฝ่าวิกฤต สงครามอนาคต-ตอนที่ 3 บทเรียน 1/2

เนื้อหา

ตอนที่ 2 รวบรวมกำลังพล

ธันวาคม ปี 2050 

เกาะมากัส

ตูม เสียงระเบิดดังสนั่น หลังจากวัตถุที่มีลักษณะคล้ายยานอวกาศพุ่งตกลงมาจากท้องฟ้าด้วยความเร็ว ก่อนจะตกกระทบลงบนพื้นดินของเกาะมากัส สิ้นเสียงระเบิด ทุกอย่างสงบลงชั่วครู่ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์แปลกประหลาด เมื่อวัตถุที่ตกลงมาค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงรูปร่างจากยานอวกาศ กลายเป็นโดมครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ ภายในมีเครื่องบินรูปร่างประหลาดหลายลำ ที่ติดอาวุธจำนวนมหาศาล


ฐานทัพอากาศ

ฟิ้ว 

“นั้นมันเครื่องบินของใครว่ะ รีบรายงานหัวหน้าด่วน” เจ้าหน้าที่หอบังคับการบินตรวจพบฝูงบินที่กำลังบินทะยานเข้ามายังฐานทัพด้วยความเร็ว จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่อีกรายรีบรายงานสถานการณ์ทันที

“รับทราบครับ” 

ตู้ม 

แต่ยังไม่ทันที่จะรายงานสถานการณ์ เหตุการณ์วุ่นวายก็เกิดขึ้น เมื่อฝูงบินที่พบนั้นบินตรงเข้ามาบริเวณฐานทัพอากาศ พร้อมกับทิ้งระเบิดใส่เครื่องบินรบที่จอดเรียงรายอยู่ในฐานทัพ และไล่ยิงเจ้าหน้าที่ ที่ตอนนี้กำลังวิ่งหนีอย่างชุลมุน 

นักบินขับไล่ ที่ยังคงมีสติบางส่วนพยายามนำเครื่องบินขึ้นบิน เพื่อโจมตีตอบโต้ศัตรู แต่ก็ทำได้อย่างยากลำบาก เพราะถูกยิงสกัดก่อนที่เครื่องจะบินขึ้นได้สำเร็จ 

“ไมเคิล ยิงคุ้มกันให้กูด้วย กูจะเอาเครื่องขึ้น” เดนิสตะโกนบอกเพื่อนทหารที่วิ่งมาพร้อมกัน ก่อนจะรีบกระโดดขึ้นเครื่องบินอย่างรวดเร็ว

“เออ รีบขึ้นไปจัดการพวกเวรนั้นให้หมดเลยเพื่อน” ไมเคิลกระโจนเข้าบังเกอร์ก่อนจะหยิบปืนไล่ยิงเครื่องบินที่บินโฉบไปมาบนศีรษะของตน

หลังจากที่เดนิสขึ้นเครื่องบินได้สำเร็จ และกำลังเตรียมที่จะนำเครื่องขึ้นบิน กับมีเครื่องบินของศัตรูลำหนึ่งบินวนกลับมา 

“เจอกูหน่อยเป็นไง ทางนี้พวก ปัง ๆ ๆ ๆ “ ไมเคิลเล็งปืนกลในมือ กราดยิงไปที่เครื่องบินของศัตรูที่บินวนกลับมา แต่กระสุนจากปืนกลก็ไม่อาจทำอันตรายเครื่องบินรบแปลกประหลาดที่กำลังโจมตีฐานทัพได้ เพียงแค่ช่วยเบี่ยงเบียนความสนใจจากเครื่องบินของเดนิสที่กำลังจะขึ้นบินเท่านั้น

หลังจากถูกสาดกระสุนใส่อย่างหนัก เครื่องบินลำดังกล่าวจึงเปลี่ยนเป้าหมายการโจมตีจากเดนิส มาที่ไมเคิล ที่กำลังรัวกระสุนใส่อย่างบ้าคลั่ง 

ปัง ๆ ๆ เสียงกระสุนปืนถูกปล่อยออกมาจากเครื่องบิน หลายนัดเหมือนฝนดาวตกพุงตรงไปยังบังเกอร์ที่ใช้เป็นฐานในการโจมตี ทำให้ไมเคิลถูกกระสุนปืนจำนวนหลายนัดยิงเข้าตามลำตัว จนแน่นิ่งไป

“ไมเคิล ไอ้พวกเวรเอ๊ย กูจะแก้แค้นแทนมึงเพื่อน” เดนิสสบถอย่างหัวเสียเมื่อเห็นเพื่อนตายไปต่อหน้าต่อตา ก่อนที่จะตั้งสติแล้วนำเครื่องขึ้นได้สำเร็จ 

“มาดูกันว่ามึงจะแน่สักแค่ไหน” เดนิสบังคับเครื่องบิน ขับไล่เครื่องบินประหลาดลำที่ยิงไมเคิลทันที หลังจากตั้งตัวได้

“เสร็จกู ล๊อคเป้า ไปลงนรกซะเถอะมึง บูม ลาก่อน” 

หลังจากขึ้นบินมาได้ไม่นาน เครื่องบินประหลาดก็ถูกเดนิสยิงร่วงลงไปหนึ่งลำ สร้างความหักเหิมให้กับเหล่าเพื่อนทหารที่อยู่ด้านล่างเป็นอย่างมาก

“มึงคิดว่าจะจัดการกูได้เหรอ ช้าไปไอ้น้อง” เดนิสบินหลบหลีกเครื่องบินลำที่กำลังบินจี้ตนอยู่ด้วยความเร็ว ก่อนจะหักซ้ายทันทีที่เห็นเครื่องบินอีกลำอยู่ด้านหน้าของตน ทำให้เครื่องบินทั้งสองลำพุ่งชนกันอย่างแรงจนระเบิดและตกลงทั้งสองลำ

“เป็นไง บอกแล้วว่าจะจัดการกับพี่ ช้าไปสิบปีไอ้น้อง” 

“เดย์ ศัตรูที่เก้านาฬิกา ระวังด้วย” แอนนา ที่ขึ้นบินตามมาทีหลัง ส่งสัญญาณให้เดนิสหลบหลีกการโจมตีของศัตรูได้อย่างเฉียดฉิว

“ฮู้ เกือบไปแล้ว ขอบใจมากแอน” 

“เรามาช่วยกันจัดการพวกมันที่เหลืออยู่กันดีกว่าเดย์”

“ได้เลยแอน”

หลังจากนั้นทั้งเดนิสและแอนนา ต่างช่วยกันจัดการเครื่องบินประหลาดของศัตรูไปได้อีกหลายลำ ก่อนพวกที่เหลืออยู่จะบินหนีไป

“มันไปหมดแล้ว เราจะตามมันไปไหมแอน”

“อย่าดีกว่าเดย์ เราไม่รู้ว่ามันเป็นพวกไหน อีกอย่างเกิดเรื่องอะไรกันแน่เราก็ไม่รู้ เรารีบลงไปข้างล่างกันดีกว่า”

“โอเค งั้นเจอกันข้างล่างแอน” เดนิสบินโฉบไปคนละด้านกับแอนนา ก่อนที่ทั้งคู่จะค่อย ๆ นำเครื่องบินลงจอดยังลานจอดด้านล่างที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเศษซากของเครื่องบินที่ถูกทำลาย และคนเจ็บมากมายที่กำลังรอการช่วยเหลือ


ศูนย์บังคับการกองทัพพิเศษ

“มันเกิดอะไรขึ้น มีใครพอจะบอกกับผมได้บ้าง” ผู้บังคับการกองทัพพิเศษถามขึ้นในที่ประชุม ที่ถูกจัดขึ้นด่วน หลังเกิดเหตุการณ์ลอบโจมตีฐานทัพอากาศและฐานทัพเรือพร้อมกัน

“มีเครื่องบินรบไม่ทราบสัญชาติ บุกเข้ามาโจมตีฐานทัพของเราครับท่าน” นายพลทหารท่านหนึ่งตอบคำถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด 

“มันโจมตีพวกเราพร้อมกันทั้งฐานทัพเรือและฐานทัพอากาศครับ มันทำลายเครื่องบินรบ เรือรบ และคลังอาวุธของพวกเราโดยใช้เครื่องบินขับไล่ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ผมตรวจสอบข้อมูลแล้ว ยังไม่พบข้อมูลของเครื่องบินที่พวกมันใช้โจมตีเราเลยครับท่าน” นายพลอีกท่านกล่าวเสริมขึ้น

“แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นใคร มาจากที่ไหน” 

“นักบินขับไล่ของเราสองคนที่นำเครื่องขึ้นไปสู้กับพวกมันได้ ยิงเครื่องมันตกหลายลำ เรากำลังทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่ครับ อีกไม่นานเราน่าจะพอรู้”

“ถ้ามีความคืบหน้าอะไรให้รายงานผมทันที”

“รับทราบ”

“อีกเรื่อง ผมคิดว่าเราอาจจะต้องตั้งทีมพิเศษขึ้นมาเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเหมือนในวันนี้ ฝากคุณจัดการด้วยอลัน

“รับทราบครับท่าน”


ห้องประชุมฐานทัพอากาศ

“ไม่ทราบว่าท่านเรียกพวกเราสองคนมา มีอะไรหรือเปล่าครับ” เดนิสและแอนนาทำความเคารพผู้บังคับบัญชาของตนทันทีที่เข้าห้องประชุม หลังจากถูกเรียกตัวให้เข้าพบโดยด่วน ก่อนที่เดนิสจะยิงคำถามที่สงสัยออกมา

“คุณคือนักบินสองคนที่สามารถนำเครื่องบินของเราขึ้นไปสู้กับพวกศัตรูได้ใช่ไหม” ผู้บังคับบัญชาการฐานทัพถามกลับ

“ใช่ครับ/ใช่ค่ะ” ทั้งเดนิสและแอนนาตอบรับพร้อมกัน

“เยี่ยม ผมมีภาระกิจพิเศษที่อยากให้คนเก่งอย่างพวกคุณทั้งสองคนเข้าร่วม แต่ภาระกิจนี้เป็นงานที่อันตรายมาก เราไม่สามารถรับผิดชอบความปลอดภัยให้กับพวกคุณทั้งสองคนได้ ที่ผมเรียกพวกคุณทั้งคู่มา เพื่อสอบถามความสมัครใจในการทำภาระกิจในครั้งนี้”

“ครับ/ค่ะ”

“ดีมาก ถ้าอย่างนั้น ผมจะแนะนำให้คุณรู้จัก นาวาอากาศโทอลัน เกรย์ เขาจะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดหน่วยรบพิเศษที่พวกคุณจะเข้าร่วมทีมด้วย หลังจากนี้ผมให้เวลาพวกคุณ 24 ชั่วโมง เก็บของใช้ที่จำเป็น บอกลาครอบครัวให้เรียบร้อย ก่อนออกเดินทางไปยังฐานที่มั่นของหน่วยรบพิเศษ หลังจากนี้ทุกคนในทีมจะเข้าร่วมการฝึกสำคัญเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดสำหรับการปฏิบัติภาระกิจพิเศษนี้”

“ทราบ”

“ดี เชิญพวกคุณทำความรู้จักกันตามสบาย” 

“ครับ/ค่ะ”


“สวัสดี ผมอลัน ผมคงไม่ต้องแนะนำตัวแล้ว ถึงตาพวกคุณแนะนำตัวให้ผมได้รู้จักพวกคุณบ้าง เชิญ” 

“ผมเรืออากาศโทเดนิส หรือคุณจะเรียกผมว่าเดย์ก็ได้ ผมเป็นนักบินขับไล่ของกองทัพอากาศ ถึงผมจะเข้ามาเป็นนักบินได้ไม่นาน แต่ผมก็สามารถขับเครื่องบินรบได้ทุกรุ่น ทุกลำ แต่หลังจากนี้ก็ฝากคุณด้วยแล้วกันครับ หัวหน้า”

“ยินดีเดย์ ดีใจที่ได้ร่วมงาน” อลันจับมือกับเดนิส แสดงความยินดีที่ได้ร่วมงาน

“ฉันเรืออากาศโทหญิงแอนนา หรือแอน ฉันอยู่มาก่อนเดย์สองปี ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ ฉันได้ยินเรื่องของคุณมาเยอะ ดีใจที่ได้ร่วมงานนะคะ”

“ยินดีเช่นกันแอน”


หน่วยรบพิเศษ

ภายในหน่วยรบพิเศษจะแบ่งพื้นที่ทั้งหมดเป็น 3 โซนหลัก ๆ โดยโซนที่หนึ่งจะเป็นโซนสำหรับห้องประชุม ห้องปฏิบัติการต่าง ๆ ใช้ในการจัดประชุม วางแผนงาน ห้องเรียนโซนที่สองเป็นโซนสำหรับพักผ่อน มีห้องออกกำลังกาย สนามกีฬา สระว่ายน้ำ ห้องอาหาร รวมถึงห้องพักของเจ้าหน้าที่ทุกคนจะอยู่รวมกันที่โซนนี้ และโซนสุดท้าย โซนที่สามจัดเป็นโซนพิเศษ เพราะเป็นโซนที่ใช้พื้นที่เกินครึ่งของหน่วยรบพิเศษนี้ เพราะเป็นโซนที่ใช้สำหรับฝึกปฏิบัติการต่าง ๆ สนามยิงปืน รวมถึงลานจอดเครื่องบิน จะอยู่ในโซนนี้ 

“ต่อจากนี้ไปที่นี้จะเป็นฐานที่มั่นสำหรับหน่วยรบพิเศษ เราจะฝึกฝน เตรียมความพร้อมกันที่นี้ หลังจบหลักสูตรที่นี้จะเป็นที่ทำงานของทุกคนในทีม”

“ครับ/ค่ะ”

“ผมจะให้ชาลีพาพวกคุณไปที่พัก ระหว่างที่ผมออกไปรวบรวมคนเข้าทีม เชิญคุณสองคนพักผ่อนได้เต็มที่”

“ครับ/ค่ะ”

“ฝากด้วยชาลี”

“ครับผม”


หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ 

ตู้ม 

เสียงน้ำกระทบร่างกายของเหล่ามนุษย์กบที่ถูกมัดมือมัดเท้าไว้อย่างแน่นหนา ก่อนจะถูกจับโยนลงสู่พื้นน้ำเบื้องล่างทีละคน ๆ ซึ่งหลังจากนี้ ทุกคนต้องแก้มัดเชือกที่ผูกทั้งแขนและขาของตนเองไว้ เพื่อเอาชีวิตรอดจากใต้น้ำให้ได้ 

เฮือก 

เสียงการหายใจที่พยายามกอบโกยเอาอากาศเข้าไปให้ได้มากที่สุด หลังจากอยู่ในสถานการณ์ที่ไร้ซึ่งอากาศหายใจใต้น้ำลึกของเหล่านักเรียนหลักสูตรนรกหลายนายดังขึ้นต่อเนื่อง ตามจำนวนของคนที่รอดชีวิตจากสถานการณ์ใต้น้ำลึกมาได้

“เอาตัวพวกเขาขึ้นมา” แมททิว สั่งให้ครูฝึกคนอื่น ๆ นำตัวของนักเรียนที่สามารถแก้มัดเชือกและลอยตัวขึ้นจากใต้น้ำมาได้ ขึ้นบนเรือยางที่ลอยลำอยู่กลางทะเล 

“เรือทุกลำ เช็คพล แล้วรายงานด้วย”

“ลำที่หนึ่งครบครับ”

“ลำที่สี่ครบ”

“ลำที่สามครบครับ” 

เหล่าครูฝึกที่ดูแลนักเรียนในเรือแต่ละลำขานรายงาน หลังตรวจสอบกำลังพลจนครบทุกนาย โชคดีที่การฝึกครั้งนี้ พวกเขาไม่ต้องสูญเสียนักเรียนที่เข้าร่วมฝึกเหมือนครั้งที่ผ่านมา แม้ว่าก่อนการเข้าร่วมฝึกจะต้องมีการเซนต์ยินยอม เพื่อรับความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตระหว่างฝึกได้ พวกเขาเหล่าครูฝึกทุกคน ก็ไม่มีใครที่อยากเห็นนักเรียนในความดูแลของตัวเอง ต้องได้รับอันตราย ไม่ว่าจะมากน้อย หรือเสียชีวิตไปเลยก็ตาม 

“ดีมาก ครบแล้วเตรียมตัวขึ้นบก รับการฝึกต่อไป”

“รับทราบ”


“สวัสดีเรือโทแมททิว ผมนาวาอากาศโทอลัน เกรย์ เรามีเรื่องต้องคุยกัน ผมคงต้องรบกวนเวลาของคุณสักครู่” อลันกล่าวทักทายและแนะนำตัวเองทันที ที่แมททิวเดินขึ้นฝั่งหลังจากออกฝึกกลางทะเล

“สวัสดีครับ เชิญด้านนี้ครับท่าน” แม้จะประหลาดใจไม่น้อยที่จู่ ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่ยศสูงจากหน่วยงานอื่นเข้ามาหาตนในยามวิกาลเช่นนี้ แต่แมททิวก็ไม่อาจปฏิเสธได้ จึงเดินนำอลันไปยังห้องทำงานของตน

“ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของท่านมามาก ที่มาวันนี้ต้องการให้ผมช่วยอะไรครับ”

“ตรงประเด็นดีนี้”

“เชิญท่านว่ามาเลยครับ”

“ที่ผมมาวันนี้ เพราะผมมีเรื่องให้คุณช่วย เมื่อไม่นานมานี้คุณคงทราบเรื่องที่ฐานทัพเรือและอากาศถูกโจมตีจากเครื่องบินรบไม่ทราบสัญชาติในเวลาพร้อมกัน สร้างความเสียหายให้กองทัพและเหล่านายทหารจำนวนมาก ผู้บังคับบัญชาสูงสุด จึงสั่งการให้มีการจัดตั้งหน่วยรบพิเศษขึ้นมาเพื่อปฏิบัติภาระกิจเฉพาะในกรณีที่เกิดขึ้น”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมครับท่าน”

“เพราะคุณคือคนที่ผมเลือกให้เข้ามาอยู่ในทีม แมท”

“ผมเนี่ยนะ ด้วยความเคารพครับท่าน ท่านล้อผมเล่นหรือเปล่า”

“อย่าดูถูกความสามารถตัวเองเลยแมท ประสบการณ์ในหน่วยรบเมื่อห้าปีก่อน นักบินขับไล่ของกองทัพเรือที่ยิงเครื่องบินล้ำสมัยของข้าศึกตกมากมายในสงครามเมื่อสามปีก่อน แล้วยังจะประสบการณ์อื่น ๆ อีก คุณคือคนที่เหมาะสำหรับทีมของผม แมท”

“แต่ตอนนี้ผมเป็นครูฝึก” ยังไม่ทันที่แมททิวจะพูดจบก็ถูกขัดเสียก่อน

“ผมต้องการคนแบบคุณจริง ๆ มาช่วยให้ทีมของพวกเราแข็งแกร่ง พร้อมสู้กับอะไรไม่รู้ที่มันตั้งใจจะทำลายพวกเราเถอะแมท”

“ถ้าท่านมั่นใจ ก็ตามนั้นครับผม”

“ผมมีอีกเรื่องให้คุณช่วย ผมอยากให้คุณหาคนที่มีฝีมือดีอีกคนเข้าร่วมทีมนี้”

“ให้ผมเลือก”

“ใช่ ผมเชื่อมือคุณได้ใช่ไหม”

“ครับท่าน”

“ดีมาก ผมมีเวลาให้คุณสามวัน หวังว่าคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวัง”


วันต่อมา

ปัง ๆ ๆ

เสียงปืนดังก้องสนามฝึกซ้อมของเหล่านักเรียนหลักสูตรนรก ตอนนี้พวกเขากำลังฝึกยิงปืนทั้งระยะใกล้และไกล เป้านิ่งและเคลื่อนที่ และความท้าทายของการฝึกนี้คือ คนยิงต้องเคลื่อนไหวไปตามเส้นทางที่กำหนดเพื่อยิงเป้าในแต่ละจุด โดยต้องหลบหลีกการถูกโจมตีจากศัตรูที่มองไม่เห็นไปด้วย 

ไค หนึ่งในนักเรียนหลักสูตรนรกนี้ กำลังเคลื่อนที่ไปด้านหน้าพร้อมหลบหลีกการโจมตีของข้าศึกได้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะยิงปืนไปยังเป้าในแต่ละจุดได้อย่างแม่นย้ำ เขาใช้เวลาไม่นานก็เก็บครบทุกเป้าที่กำหนด โดยที่ไม่ถูกโจมตีจากศัตรูเลยสักครั้ง 

“คนนี้ พอได้ไหมครับ” หลังจากยืนดูไคยิงปืนจนครบ แมททิวจึงหันไปถามอลันที่ยืนดูอยู่ข้างกันตั้งแต่ต้น

“ดี แม่นยำ คล่องตัว มั่นใจ แต่ก็มีความระมัดระวังที่ดี” อลันพยักหน้ารับ

“คนนี้คือ เรือตรีไค เป็นรุ่นน้องของผม แต่ที่ผมเลือกมันเนี่ย ไม่ใช้สิทธิพิเศษเพราะรู้จักมันเป็นการส่วนตัวนะครับท่าน แต่เพราะความสามารถของมันต่างหาก เห็นหน้าเด็กแบบนี้ มันจบหลักสูตรการบินของกองทัพเรือ สามารถควบคุมเครื่องบินรบได้หมดทุกรุ่น แถมยังเป็นหัวกระทิของหลักสูตรนรกนี้อีก”

“ถ้าคุณยืนยันแบบนั้น ผมก็ให้สิทธิคุณได้ตัดสินใจ เย็นนี้พาเขามาพบผมแล้วกัน”

“ครับ”


ก๊อก ๆ ๆ

“เชิญ”

“สวัสดีครับ” หลังจากเปิดประตูเข้ามา ไคกล่าวทักทายพร้อมทำความเคารพผู้อาวุโสกว่าทันที

“แมทคงบอกคุณแล้วว่าผมเป็นใคร และมาทำอะไร”

“ครับ”

“ผมคิดว่าคุณคงคิดทบทวนกับเรื่องที่แมทบอกไปแล้ว ผมต้องการคำตอบของคุณตอนนี้”

“ตกลงครับท่าน เป็นเกียรติของผมอย่างยิ่งที่จะได้เข้าร่วมทีมของท่านครับ”

“ดี ผมให้เวลาพวกคุณสองคนเก็บของใช้ส่วนตัว ทำภาระกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย เราจะออกเดินทางกันเที่ยงคืนนี้” 

“รับทราบครับ”


ขณะนี้รถของอลันกำลังแล่นไปบนเส้นทางตามที่เขาเป็นคนบอกให้พลขับจำเป็นอย่างแมททิว ขับไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ 

“ทางนี้มันไม่ใช่ทางไปฐานนี่ครับ” แมททิวทักขึ้น

“ใครว่าผมจะพาพวกคุณกลับฐานวันนี้หละ”

“แล้วเราจะไปไหนกันครับท่าน” ไคชะโงกหน้าเข้ามาถามด้วยความสงสัย

“เราจะไปหาคนเข้าทีมเพิ่มกัน” อลันหันหน้ามาตอบคำถามให้ไคหายสงสัย พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์


ชายฝั่งอ่าวเวย์

“นี่ท่านจะเล่นอะไรครับเนี่ย” แมททิวถามอลันที่ตอนนี้กลายเป็นหัวหน้าของเข้าแบบเต็มตัวแล้ว

“ผมไม่ได้เล่น ผมเอาจริง คุณเห็นผมเป็นพวกเด็กสามขวบหรือไง” อลันตอบกลับด้วยใบหน้าจริงจัง ผิดกับการกระทำในตอนนี้

“ท่านจะให้พวกเราใช้เรือลำนี้ เพื่อตามเรือรบวิลสันเนี่ยนะครับ” ไคเอยถามขึ้นอีกคน 

“หรือพวกคุณขับเรือนี้ไม่เป็น” อลันพูดพร้อมกับมองไปยังเรือประมงกลางเก่ากลางใหม่ที่ขอเช่ามาจากชาวบ้านในละแวกนี้

“ด้วยความเคารพครับท่าน จะให้พวกเราขับมันก็ได้อยู่ แต่เจ้าหน้าที่เขาก็บอกเรามาแล้วนี่ครับ ว่าอีกแค่สองวันเรือรบวิลสันก็กลับจากฝึกแล้ว” แมททิวตอบกลับด้วยสีหน้าเอื่อมระอา

“แต่ผมรอถึงสองวันไม่ได้ ภายในวันนี้ผมต้องได้ตัวสองคนนั้น แล้วพาพวกเขากับฐานพร้อมกัน” 

“ถ้าท่านยืนยันแบบนั้น ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วครับ ไปไคออกเรือ”

“เอาจริงดิพี่”

“เออ รีบออกเรือ จะได้รีบกลับ”

“ครับพี่”

“ดีมาก” 


กลางทะเลอ่าวเวย์

“มีเรือประมงไม่ทราบสัญชาติ กำลังเข้ามาใกล้เรือของเราครับท่าน” ต้นหนประจำเรือรบวิลสันรีบรายงานสถานการณ์ให้ผู้บังคับเรือทราบทันที ที่เห็นเรือประมงลำหนึ่งขับเข้ามาทางเรือของตนด้วยความเร็วสูงกว่าเรือประมงหาปลาทั่วไป

“นี้คือเสียงของเรือรบวิลสัน เรือประมงที่กำลังเข้ามาทางเรือรบของเรา โปรดแสดงตัวทันที ย้ำโปรดแสดงตัวทันที” กัปตันเรือหยิบกล้องส่องทางไกลออกมาดู ก่อนจะรีบประกาศให้เรือลำดังกล่าวยืนยันตัวตนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์

“ผมเองอลัน เกรย์ หัวหน้าทีมหน่วยรบพิเศษ คุณกัปตันเรือช่วยพาพวกเราขึ้นเรือหน่อยได้ไหมครับ ผมมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับลูกเรือของคุณ” หลังจากได้ยินเสียงประกาศจากเรือใหญ่ อลัยจึงรีบออกมายืนที่หัวเรือ พร้อมตะโกนเสียงดังเพื่อรายงานตัวให้อีกฝ่ายรับทราบทันที

“ใช่เขาจริง ๆ ครับท่าน ผมเคยอบรบหลักสูตรระยะสั้นกับเขา” ลูกเรือนายหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากส่องกล้องไปยังเรือประมงที่อลันยืนอยู่

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ใช้เรือประมงขับตามเรือรบของเรามาเนี่ยนะ” กัปตันเรือพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

“ถ้าเป็นคนอื่นคงแปลก แต่เป็นเขาผมถือว่าปกติครับ” ลูกเรือคนเดิมพูดออกมาพร้อมกลั้นขำ

“พาพวกเขาขึ้นมา”


“ขอบคุณครับ ผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ผมนาวาอากาศโทอลัน เกรย์ เป็นหัวหน้าทีมหน่วยรบพิเศษ ผมขอความร่วมมือของกัปตัน ขอพบเรือโทวิคเตอร์และเรือตรีหญิงจินครับ” หลังจากถูกนำตัวขึ้นมาจากเรือประมง อลันจึงรีบบอกสิ่งที่ต้องการกับกัปตันเรือทันที

“ไปตามตัวสองคนนั้นมา” กัปตันเรย์ออกคำสั่งให้ตามตัวคนที่อลันต้องการมาพบทันที

“รับทราบ”

“รบกวนคุณอลันช่วยตามมาคุยกับผมที่ห้องก่อนครับ” 

“ได้ครับ พวกนายสองคนรออยู่นี่ก่อน” อลันรับคำของกัปตัน ก่อนจะหันไปบอกคนของตนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“ครับท่าน”


ห้องกัปตันเรือ

“คุณทำอะไรของคุณไม่ทราบ”

“ผมทำภาระกิจอยู่ครับ ผมต้องรีบรวบรวมทีมของผมให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทำภาระกิจสำคัญ”

“เรื่องนั้นผมทราบ แต่คุณใช้เรือประมงที่จะพังแหล่ไม่พังแหล่ ขับตามเรือรบของผมมาเนี่ยนะ”

“เรือของผมยังไม่เก่าขนาดนั้นนะคุณ”

“แต่มันอันตราย ถ้าเรือขัดข้องขึ้นมา พวกคุณจะทำยังไง”

“โถ้ ที่รักผมขอโทษ เพราะผมรู้ไงว่าคุณเป็นกัปตันเรือนี้ผมถึงกล้ามาแบบนี้ไง”

“ไม่ต้องมาพูดดีเลย ผมเกือบสั่งลูกน้องยิงเรือคุณทิ้งไปแล้วรู้ไหม”

“แต่คุณก็ยังไม่ยิง”

“อลัน”

“ครับ เมีย”

“ผมเหนื่อยกับคุณมากนะ”

เรย์ ผมขอโทษ ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี้ไง มา ๆ ขอกอดให้หายคิดถึงหน่อย ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เจอกันเลย คุณผอมไปหรือเปล่าเนี่ย” อลันพูดพร้อมสวมกอดคนรักที่ไม่ได้เจอหน้ากันนาน เรย์หรือนาวาตรีเรย์ ผู้บังคับการเรือรบวิลสัน คนรักของอลัน ทั้งคู่คบกันหลังจากเจอกันตอนที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตรของกองเรือยุทธการ น้อยคนที่จะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขา ไม่ใช้ว่าจะกลัวคนอื่นมองไม่ดี แต่พวกเขาทั้งสองคนไม่เห็นความจำเป็นที่จะป่าวประกาศว่ารักกันให้คนอื่นทราบ จึงมีแต่บรรดาเพื่อนสนิทและคนในครอบครัวที่ทราบเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขา

“คุณก็ทำผมใจอ่อนตลอด”

“ก็เพราะคุณรักผมไง” อลันป้อนคำหวานก่อนจะจูบลงบนริมฝีปากสีเชอร์รี่ ที่แม้ใคร ๆ จะมองว่าน่ากลัว หรือดุแค่ไหน แต่สำหรับอลันแล้ว เรย์ก็คือแมวสีขาวจมูกชมพูตัวน้อยสำหรับเขาอยู่ดี ทั้งคู่จูบกันอย่างดูดดื่ม พอให้หายคิดถึงก่อนจะผละออกจากัน

“ผมคิดถึงคุณอลัน”

“ผมก็คิดถึงคุณ”

“เฮ้อ หมดเวลาแล้ว เราออกไปข้างนอกกันดีกว่า คนที่คุณต้องการพบน่าจะมาถึงแล้ว”

“ครับ”


“มาพร้อมกันแล้ว ผมขอแนะนำตัวอีกครั้ง ผมนาวาอากาศโทอลัน เกรย์ หัวหน้าทีมหน่วยรบพิเศษ ที่ผมมาพบพวกคุณสองคนในวันนี้ เพราะผมต้องการให้คุณทั้งสองคนมาเข้าร่วมทีมของผมเพื่อปฏิบัติการภาระกิจสำคัญ”

“ครับ/ค่ะ” ทั้งวิคเตอร์และจินต่างทำความเคารพอลันทันทีที่เจอ

“ผมไม่มีเวลาให้พวกคุณทั้งสองคนนาน ผมต้องการคำตอบตอนนี้”

“ตกลงครับ/ค่ะ”

“ดี ผมให้เวลาคุณยี่สิบนาทีเก็บข่าวของของพวกคุณแล้วกลับไปกับพวกผม”

“ท่านจะให้พวกเรากลับไปกับเรือประมงลำที่ท่านมาเหรอคะ” จินถามด้วยความสงสัย พร้อมกับมองไปทางเรือประมงที่จอดเทียบอยู่ใกล้ๆ เรือรบ

“ผมไม่ยอมให้ลูกน้องของผมลำบากหรอกนะ เดี๋ยวผมจะให้คนของผม ขับเครื่องบินไปส่งลูกน้องของผมทั้งสองคนที่ฝั่งเอง ส่วนพวกคุณมายังไงก็เชิญกลับไปเหมือนเดิมนะครับ” เรย์พูดพร้อมสั่งการให้ลูกน้องของตนเตรียมนำเครื่องขึ้น

“อะไรนะครับ แม้ไหน ๆ ท่านจะให้คนไปส่งสองคนนี้แล้ว ขอพวกผมติดไปด้วยไม่ได้เหรอครับ” ไคเจรจาต่อรองทันที พร้อมทำหน้าตาที่คิดว่าน่ารักที่สุดขอร้องกัปตันเรือ

“แล้วเรือของพวกคุณหละครับ ชาวบ้านที่คุณเช่าเรือของเขามา ถ้าพวกคุณไม่ขับเรือไปคืน เขาจะเอาเรือที่ไหนหาปลา เลี้ยงตัวเอง” เรย์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงยี่ยวน หางตามองไปยังอลันอย่างเหนือกว่า

“ใจร้าย ตามนั้นแหละ แมท ไค กลับ เราต้องรีบไปให้ถึงก่อนพวกเขา” อลันหันมาสั่งลูกทีมของตัวเองทันที ก่อนจะเดินไปยังเรือประมงของตนที่ลอยลำอยู่

“โถ้ ท่านครับ” ไคงอแง ไม่ยอมเดินตามไป

“เลิกงอแงแล้วมาขับเรือได้แล้วไค ไม่ได้ยินที่ท่านสั่งเหรอ เราต้องรีบกลับถึงฝั่งก่อนค่ำนะ” แมททิวรีบดึงเสื้อของรุ่นน้องตัวเองให้เดินตามไปที่เรือลำน้อยของพวกเขา

“ครับพี่”