ไพริน สาวน้อยวัย16 ปีได้เห็นว่าจริงๆแล้วที่พ่อให้เธอมาหาได้ปีล่ะครั้งเพราะฉันคือลูกเมียน้อย เลยตัดสินใจเรียนจนได้อยู่ห้องกิ๊ฟแล้วพวกเราก็โดนวางยาพิษ โชคชะตาก็ทำให้ฉันและเพื่อนๆย้อนเวลากลับไปเมื่อสามปีที่แล้วเพื่อตามหาคนร้าย
รัก,ดราม่า,อาชญากรรม,ไทย,ชาย-หญิง,มหาวิทยาลัย,ย้อนเวลา,แก้ไขอดีต,วัยรุ่น,โรงเรียนไทย,นิยายชายหญิง,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก ,นิยายรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ไดอารี่สีชาดไพริน สาวน้อยวัย16 ปีได้เห็นว่าจริงๆแล้วที่พ่อให้เธอมาหาได้ปีล่ะครั้งเพราะฉันคือลูกเมียน้อย เลยตัดสินใจเรียนจนได้อยู่ห้องกิ๊ฟแล้วพวกเราก็โดนวางยาพิษ โชคชะตาก็ทำให้ฉันและเพื่อนๆย้อนเวลากลับไปเมื่อสามปีที่แล้วเพื่อตามหาคนร้าย
ไดอารี่หน้าที่ 11
ทำไปเพราะรัก
2ปีผ่านไป
ตอนนี้ฉันกำลังนั่งรถไปจังหวัดนครสวรรค์เพื่อไปหาพ่อ บางอย่างก็เป็นเหมือนเดิน อย่างพี่ไนท์ได้เป็นตำรวจ พี่เมเปิ๊ลเป็นผู้ช่วยน้ายศ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นใหม่คือน้ากวินตอนนี้บวชเป็นพระ ส่วนเพื่อนห้องกิ๊ฟหลังจากจบม.3แล้วซีกับนิวก็ไปอยู่ที่อังกฤษ ส้มนั้นเห็นว่าไปได้สามีที่ญี่ปุ่นบอกเลยว่าตกใจอยู่นะ ส่วนโอมนั้นเห็นว่าไปเรียนสายอาชีพกับนนท์ ส่วนอามกับพลอยนั้นไปเรียนที่อเมริกาเพราะเรื่องที่แม่อามนั้นจ้างมาทำร้ายจะจบแล้วแต่พ่ออามก็กลัวว่าจะมีคนมาทำร้ายลูกชายของตนทางด้านพลอยนั้นก็ได้หมั้นกับอามเพื่อเป็นหลักประกันว่าถ้าทั้งคู่เรียนจบจะได้แต่งงานกันส่วนฉันคิดว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมาหาพ่อตัวเอง กว่าจะถึงที่หมายฉันก็เลยไม่โทรหาพ่อตัวเองเพราะฉันว่าถ้าไปด้วยตัวเองคงเห็นอะไรได้เยอะกว่านี้พอรถบัสถึงที่หมาย ฉันก็เรียกแท็กซี่ไปร้านวัสดุก่อสร้างของพ่อ ก่อนจะเข้าไปฉันก็ใส่แว่นตาสีดำจากนั้นก็เดินไปสั่งของ
"สวัสดีค่ะรับอะไรดีคะ" คนที่ถามคงเป็นลูกอีกคนแน่นอนเพราะดูจากหัวจรดเท้าแล้วใช่แน่นอน หลังจากที่ฉันบอกกับเธอเสร็จก็รอ แต่คนที่เดินกลับมาไม่ใช่คนที่มารับออเดอร์สินค้าคนเดิม
"ขอโทษนะคะคุณลูกค้าทางร้านเราไม่มีตัวที่ลูกค้าต้องการค่ะ" จากที่ดูเป็นคนมีอายุแถมสวยอยู่มากด้วยดูท่าจะเป็นแม่ของผู้หญิงคนนั้นแล้วฉันเลยตัดสินใจคิดจะสร้างบ้าน เพราะฉันดันได้ที่ดินที่สวยๆมาที่หนึ่พอดี แถมอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ด้วย
"ไม่เป็นไรค่ะ ที่นี่รับสร้างบ้านไหมคะพอดีฉันมีที่ดินอยู่หนองบัวว่าจะสร้างบ้านพักตากอากาศ" ฉันถามจนสักพักคนที่เป็นเจ้าของร้านมาคุยกับฉัน
"สวัสดีครับ คุณต้องการสร้างบ้านใช่ไหมครับ " เจ้าของร้านถามฉันแล้วเขาก็ยื่นน้ำให้เพราะเขาคงเห็นว่าฉันมานานแล้ว
"ขอบคุณนะคะ" ฉันเลยถอดแว่นตาออกแต่เหมือนอีกฝ่ายเริ่มมีสีหน้าซีด เพราะคงไม่คิดว่าคนที่เห็นจะเป็นลูกของตัวเอง
"รินมาทำอะไรที่นี้ล่ะลูก" อีกฝ่ายตกใจแล้วเหมือนทุกคนในบ้านก็เริ่มเข้ามาหาฉัน เพื่อไม่ให้ตัวเองตื่นเต้นเหมือนกันฉันเลยทำสีหน้านิ่งเฉย คนที่ดูจะเป็นแม่ของอีกฝ่ายอยู่ดีๆ ก็เดินมากอดฉัน
"เดี๋ยวนะคุณเป็นใครแล้วมากอดฉันทำไมก่อน" ฉันเรียบดันแต่ผิดคาดเพราะพ่อของฉันบอกว่านี่คือแม่ของฉันส่วนอีกคนคือพี่สาวของฉัน
"แม่ขอโทษนะที่ทิ้งหนูไว้ที่นั่น กลับมาอยู่บ้านเราเถอะนะ" แม่พูดพร้อมกับยังกอดฉันส่วนทางพี่สาวก็ยิ้มอยู่ห่างๆ พ่อก็เหมือนจะเดินมากอดอีกคน
"หนูชื่อไพริน วีรดา พิมพิภัทร ต่างหากค่ะ" แม่ของฉันจากที่ดูเป็นห่วยฉันตอนนี้นางได้แสดงธาตุแท้ออกมา นั้นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการเพราะฉันมีเรื่องที่สงสัยเยอะ
"คิดว่าฉันอยากให้แกเกิดขึ้นมาหรือไงไอลูกทรพี ที่ฉันต้องทำแบบนี้ก็เพื่อแก แต่ดูสิ ดูสิ่งที่แกทำกับที่ให้แกเกิดมา " ฉันรู้สึกเจ็บปวดแทบจะขาดใจตายตรงนี้เพราะคนที่พูดคือผู้ที่ให้กำเนิดของฉันเอง ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะตบฉัน แต่พี่สาวของฉันได้ห้ามไว้
"แม่หยุดนะถ้าคิดว่าการใช้กำลังมันดีแล้วเหรอ ถ้าหนูเป็นน้องก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ไหนจะให้ไปอยู่กับน้าตั้งแต่เด็ก พ่อก็ให้มาหาแค่ช่วงปิดเทอมใหญ่อีก ดีที่น้องมันไม่มาสร้างความเดือดร้อนกว่านี้นะ" พี่สาวพูดก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเดินออกไปเพื่อสงบอารมณ์
"เอาล่ะอยากรู้เรื่องอะไรถามพี่มาเลย " คนที่เป็นพี่สาวฉันเริ่มเล่าให้ฟังเพราะตอนนี้ก็14.30แล้ว ฉันก็เริ่มคำถามพื้นฐานอย่างพี่ชื่ออะไร แล้วก็ถามไปหลายอย่างเลยได้คำตอบว่า พี่เขาชื่อเพชร ตอนนี้เรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนชื่อเล่นของฉันพี่เขาถามแม่แล้วได้คำตอบว่ามันคือ เพชรโฮปต้องคำสาป แน่นอนว่าจากที่ฉันได้ยินคำตอบนั้นเลยยิ่งกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เลยร้องไห้ออกมาทำให้ทั้งพี่เพชรกับพ่อจะเข้ามาปลอบแต่ฉันยกมือห้ามไว้ แล้วถามต่อว่าทำไมแม่ต้องโกหกว่าตัวเองตายล่ะ พ่อตอบว่าตอนนั้นมีเพื่อนสนิทของพ่อที่เขากำลังจะหาคู่หมั่นให้ลูกตัวเองแต่ตอนนั้นหนูพึ่งจะ3เดือนพวกเราเลยตัดสินใจหลอกพวกนั้นว่าหนูตายแล้ว เพราะพ่อแม่และพี่เพชรอยากให้หนูเลือกคู่ชีวิตของหนูเอง แล้วที่หลอกหนูเพราะถ้าหนูรู้ว่าแม่ยังไม่ตายก็คงอยากมาหา ฉันเลยถามพี่เพชรว่า
"แล้วพี่เพชรละโดนบังคับไหม" ฉันถามแล้วมองไปก็ทำให้รู้ว่าเจ้าตัวโดนบังคับแถมดูแล้วจะตั้งครรภ์อยู่ด้วย แล้วพี่เพชรก็เริ่มร้องไห้เพราะมันสิ่งที่พี่เขาไม่ได้ต้องการ เพราะสามีของพี่เขาเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรงถึงจะดีที่เขาไม่เคยใช้กับภรรยาตัวเอง แถมอายุก็เท่ากับน้องสาวอีก
"แต่พ่อคิดสั้นไปหน่อยเพราะเหมือนพวกนั้นจะเจอลูกแล้ว พ่อก็ไม่รู้ว่าทางนั้นจะทำอะไรหนูไหม" พ่อพูดด้วยสีหน้าที่เศร้าที่ไม่สามารถดูแลลูกได้สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่การดูแลลูกไม่ดีมันเจ็บแค่ไหนไม่มีใครรู้นอกจากตัวเอง
"แล้วผู้ชายคนนั้นชื้ออะไรเหรอคะ เพราะเอาจริงชีวิตหนูก็เสี่ยงอันตรายมาเยอะ ทั้งเพื่อนสนิทโดนทำร้ายร่างกาย ทั้งการวางยาอีก" ฉันถามพ่อเพื่อจะได้รู้ว่าใช่คนที่ฉันคิดหรือเปล่า แล้วได้ข้อมูลเล็กน้อยมากอย่างเขาชื่อสกายเป็นอดีตตระกูลมาเฟียที่มีชื่อเสียงมากแต่เห็นว่าเมื่อปี2007 มาเฟียก็ล้มละลาย ส่วนคนในตระกูลก็กระจัดกระจายไปกันหมด
หลังจากที่รู้ทุกอย่างจากที่ฉันไม่อยากเจอพวกท่าน เลยใช้วิธีแชทผ่านเสมือนจริง เพื่อความปลอดภัยของฉันและทุกคนรอบตัว หลังจากเรื่องส่วนตัวจบลงฉันก็คุยเรื่องการสร้างบ้านแน่นอนว่าอันนี้เป็นเรื่องจริงทำเลที่ตั้งมันติดกับภูเขา พอทุกอย่างโอเคแล้วอยู่ดีๆ ก็มีรถมาจอดหน้าร้าน
"กลับนนทบุรีไหมจ๊ะริน" คนที่ลดกระจกมาคือวาวี่ที่ไม่ได้มาคนเดียว แต่ที่ตกใจคือคนขับรถคือเต้ที่ไปทำเลสิกกับดัดฟันจนหล่อมากกว่าเดิมหลายเท่าแถมดูหล่อระดับที่เป็นดาราได้สบาย จากนั้นฉันก็ลาพวกท่านแล้วขึ้นรถกลับนนทบุรี
"หน้าบวมแดงไปหมดเลยนะโดนอะไรเนี้ยริน" วาวี่ถามฉันแล้วก็เอาผ้าเย็นมาประกบรอบดวงตาที่ตอนนี้บวมแดงจากที่ฉันร้องไห้ ขับไปสักพักเต้ก็เลี้ยวรถเข้าปั๊มเพื่อไปซื้อโมจิ วาวี่บอกว่าต้องไปรับ คีตะ คริสตัล มิเกล ที่สนามบินอีกสักพักก็มีคนโทรมา
(มีอะไรเต้) วาวี่รับโทรศัพท์แล้วเปิดลำโพง
(ช่วยมาขนขนมหน่อยครับ) พอได้ยินแบบนั้นเลยทำให้ฉันกับวาวี่ต้องลงไปช่วยขนของกัน หลังจากขนกันเสร็จเต้ก็ขับรถจนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
"ทางนี้จ้า" ที่ตะโกนเรียกคือมิเกลนอกจากนั้นยังมีเดช กร ที่มาก่อนพวกเราวาวี่เลยแนะนำให้พวกเราไปกินชาบูแน่นอนทุกคนตอบตกลงแล้วพวกเราก็มุ่งหน้ากลับนนทบุรี
"อยากแวะเที่ยวอะ" คีตะพูดทำให้ทุกคนเห็นด้วยแล้วที่แรกนั้นก็คือ วัดสลักเหนือ ด้วยความว่าพวกเรามากันเวลาเกือบปิดของทางวัดเลยแค่ไหว้พระแล้วก็ไปที่ต่อไปคือท่าน้ำนนท์เพื่อไปหาของกิน แล้วอีกอย่างคือร้านชาบูที่จะมากินก็อยู่แถวนี้ด้วย
"ไงจ๊ะน้องริน น้องเดชแล้วน้องผา" เจ้าของร้านทักทายพวกเราสามคนเพราะด้วยความว่ามากินประจำเขาเลยจำได้โดยเฉพาะกลางเดือนจะเป็นช่วงที่มาบ่อยสุด
"อ้าวแล้วอามกับพลอยไม่มีด้วยเหรอ" เจ้าของร้านถามฉันก่อนที่เดชจะตอบแทนแล้วเขาก็พาพวกเรามานั่งที่มุมประจำแต่รอบนี้ต้องต่อโต๊ะเพราะทุกทีจะมามากสุดแค่6คน แต่รอบนี้มา10คน เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มพวกเราเลยสลายตัวมีแค่ฉันกับเต้
"ริน ตอนนี้ผมเรียกคุณว่าที่รักได้ยังครับ" ตอนนี้พวกเรามาเดินต่อที่สวนสาธารณะแล้วมาหยุดนั่งอยู่ตรงบ่อปลา พอฉันหันหน้าไปหาเต้เขาก็จูบฉันถึงจะบอกว่าฉันเปิดโอกาสให้เต้จีบแต่ให้มากสุดคือจูบกับไซร้คอเพราะฉันยังไม่พร้อม แต่ถามว่าอยากไหม ก็อยากนะ
จบ