ไพริน สาวน้อยวัย16 ปีได้เห็นว่าจริงๆแล้วที่พ่อให้เธอมาหาได้ปีล่ะครั้งเพราะฉันคือลูกเมียน้อย เลยตัดสินใจเรียนจนได้อยู่ห้องกิ๊ฟแล้วพวกเราก็โดนวางยาพิษ โชคชะตาก็ทำให้ฉันและเพื่อนๆย้อนเวลากลับไปเมื่อสามปีที่แล้วเพื่อตามหาคนร้าย
รัก,ดราม่า,อาชญากรรม,ไทย,ชาย-หญิง,มหาวิทยาลัย,ย้อนเวลา,แก้ไขอดีต,วัยรุ่น,โรงเรียนไทย,นิยายชายหญิง,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก ,นิยายรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ไดอารี่สีชาดไพริน สาวน้อยวัย16 ปีได้เห็นว่าจริงๆแล้วที่พ่อให้เธอมาหาได้ปีล่ะครั้งเพราะฉันคือลูกเมียน้อย เลยตัดสินใจเรียนจนได้อยู่ห้องกิ๊ฟแล้วพวกเราก็โดนวางยาพิษ โชคชะตาก็ทำให้ฉันและเพื่อนๆย้อนเวลากลับไปเมื่อสามปีที่แล้วเพื่อตามหาคนร้าย
ไดอารี่หน้าที่ 13
เอาผมไปคุยกับรากมะม่วงเลย
2วันต่อมา
ฉันแทบไม่คุยอะไรกับเต้เลย ไม่ใช่ว่าฉันรับไม่ได้นะแต่มันตกใจจนฉันยอมรับว่าถึงพวกเราจะคบกันมา3ปีแล้วก็เถอะ ฉันคิดว่ามันยังเร็วไปที่จะทำเรื่องอย่างว่า ฉันก็เข้าใจเต้นะที่ต้องอดทนมากเพื่อจะไม่ทำอะไรกับฉันแล้วก็ไม่เคยไปทำคนอื่นด้วย
"แกจะไม่คุยอะไรกับเต้มันหน่อยเหรอ" คริสตัลถามฉันเพราะหลังจากที่มีงานเลี้ยงก่อนวันงานของโรงเรียนฉันก็ไม่คุยอะไรกับเต้เลย ส่วนเหตุผลนั้นฉันโกหกไปว่าเต้แอบมาดูฉันเปลื่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลื่ยนชุด
"รินมีอะไรก็คุยกับมันเถอะ ไอเต้มันมีแค่พวกเรานะที่อยู่ใกล้มัน" เดชเดินมาบอกฉัน มันก็จริงที่ผ่านมาถึงจะเจออะไรต่อมิอะไรมา แต่นี้คงเป็นสิ่งหนึ่งที่ฉันเองไม่กล้าลองแล้วก็ไม่อยากยอมตอนนี้
"ฉันขออยู่ตัวคนเดียวนะถ้าอะไรดีขึ้นแล้วจะมาเล่าให้ฟังเอง" ฉันเดินขึ้นหอพักแล้วเรียบขึ้นห้องนั่งกอดเข่าร้องไห้เพื่อให้ความทรมารลดลง ฉันหยิบหูฟังแบบครอบหัวแล้วเลือกเปิดเพลงฟัง ผ่านไปสักพักก็มีคนส่งข้อความมาว่า
(ตอนนี้เต้ก็ไม่ยอมคุยเลยอาการหนักมากข้อร้องล่ะออกมาคุยกันเถอะ ) พอฉันอ่านจากที่อยากไปช่วยเลยโทรไปหาเต้
(รินผมขอโทษที่ทำตัวหื่นมากไปโดยไมสนใจความรู้สึกขอคุณ) เต้พูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด ส่วนฉันที่โทรไปจากที่กล้าๆตอบกลายเป็นหงุดหงิด
(นี้น้อยเหรอถ้าตอนนั้นมีถุงนายคงจักการฉันแล้วใช่ไหม) ฉันตอบกลับไปก่อนที่ลุกออกไปพร้อมเอาปลอกกระบี่ที่ฉันขอยืมมาจากมิเกล
"เปิดออกไปคุยกันหน่อยสิเต้" ฉันไปอยู่หน้าห้องของเต้ด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราดกำปลอกกระบี่แน่นจนเห็นเส้นเลือด ไม่นานเขาก็เปิดประตูออกมาไม่รอช้าฉันพุ่งตีเต้ด้วยแรงที่มี
"รินใจเย็นก่อนนะ คุณทำผมแล้วมันได้อะไรครับ" เต้พูดพร้อมหลบฉันเสียงที่ดังจนทุกคนต้องออกมาห้ามกันเพื่อให้สงบจะเดชพูดออกมา
"ถ้ากูเป็นรินก็โกรธไม่น้อยเหมือนกันทำอะไรไม่คิดเสียตำแหน่งประธานโรงแรมในอนาคตหมด" เดชพูดแล้วก็เดินลงบันไดหนีไฟไปข้างนอก เพื่อไปสูบบุหรี่คริสตัลเองก็เดินตามไปเหมือนกัน เนื่องจากฉันดิ้นจนหยกทนไม่ไหวเลยกดจุดที่ทำให้ฉันชาชั่วคราวไป
"ขอบใจนะหยกแล้วก็มิเกลนะครับ" เต้ขอบคุณหยกกับมิเกลแต่ วาวี่เดินมาตบหน้าเต้เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นฉันบอกกับวาวี่ทั้งหมดเพราะรู้สึกดีที่จะบอกเธอ
"คิดว่าคนที่โดนแบบนั้นเขาจะรู้สึกอะไรบ้างเหรอ ถึงจะเป็นแฟนกันมานานแล้วก็เถอะ แต่คนเขามีอดีดไม่ดีนายความให้เธอพร้อม ไม่ใช่ให้แต่ตัวเองคนเดียว" หลังจากที่วาวี่ตบหน้าเต้ก็เดินออกมารอนอกห้อง เพื่อควบคุมอารมณ์เพราะวาวี่เคยโดนแบบนี้เหมือนกันแต่ด้วยความว่าพ่อกับแม่ของวาวี่สอนไว้ว่าอย่าใช้กำลังในตอนที่อารมณ์เสียอยู่ไม่งั้นจะมีแต่ปัญหาเกิดขึ้น
"กูเคยบอกแล้วนะว่าอย่าหื่นให้มันมาก กูล่ะอยากให้มึงไปสำนึกผิดใต้ต้นมะม่วงเลย" กรพูดแล้วถอนหายใจเพราะเคยเตือนหลายรอบแล้วไม่เคยจำ แต่ก่อนจะพาเต้ไปสำนึกผิดก็มีคนพูดขึ้นมาว่า
"เดี๋ยวนะพวกเราต้องสำนึกผิดที่โบสถ์ไม่ใช่เหรอ" มิเกลพูดแต่เหมือนเธอไม่รู้ว่าเราสามารถสำนึกผิดตรงไหนก็ได้ที่จิตใจเราต้องการ แต่ที่พวกเราอยากให้เป็นเพราะประโยคเด็ดอย่าง ไปคุยกับรากมะม่วง !!!!! ที่มาจากอนิเมะชื่อดังเรื่องหนึ่ง
"ที่โรงเรียนมีต้นมะม่วงด้วยเหรอ" ฉันถามทุกคนที่มาเพราะมาถึงก็แทบไม่เคยมาสำรวจโรงเรียนเลยแม้แต่น้อย ไม่นานเต้ก็เริ่ม
"กระผมนายเตวิช พิชญาเดชาสำนึกผิดที่กระทำอันไม่ควรกับนางสาว วีรดา พิมพิภัทร ขอให้พระผู้เป็นเจ้าให้อภัยต่อลูกด้วย" จากนั้นเต้ก็นั่งแล้วไหว้ต้นมะม่วง มันเลยทำให้บรรยากาศตอนนี้เต็มไปด้วยการยืนสงบนิ่ง
"อาเมน" มิเกลพูดแล้วทุกคนก็พูดตามเพื่อให้ผู้เป็นเจ้าทราบถึงสิ่งที่เต้สำนึกผิด หลังจากนั้นฉันก็แยกตัวออกไปซื้อของพอเดินจะถึงหอก็ดันเดินไปชนใครคนหนึ่ง
"ขอโทษนะครับเจ็บตรงไหมครับ" ชายคนนั้นดึงฉันขึ้นมา แต่เขาจับมือของฉันไม่ปล่อยแถมยังนวดตรงชีพจร ฉันเลยสะบัดมือแล้วขอลา รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้ตั้งใจทำฉันล้มแต่คนที่พ่อบอกก็อาจจะเป็นไปได้ เพื่อความแน่ใจฉันเลยไปหากรที่ห้อง
"ไอเต้ทำลูกป๊าอีกแล้วเหรอ" กรถามก่อนที่ฉันจะส่ายหัวแล้วตอนนั้นมิเกลก็อยู่ด้วย ส่วนชุดที่ใส่คือชุดนักเรียนเกาหลี พอมองห้องกรแล้วนี่ห้องหรือสตูดิโอ ถ่ายหนังขนาดเล็ก
"มีอะไรให้ป๊าช่วยเหรอจ๊ะลูก" มิเกลถามฉันส่วนกรนั้นกำลังตัดต่อวิดีโออยู่ ทั้งคู่ทำช่องzeetube เกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่นผู้ติดตามหลักล้านด้วยเนื้อหาเข้าใจง่ายไม่สับสนมากและสนุก แถมบางทีก็มีติวหนังสือให้แฟนคลับด้วย
"ช่วยแฮกข้อมูลชื่อนักเรียนให้หน่อยนะคะ มีเรื่องสงสัย" ไม่นานก็ได้แต่ไม่ได้แฮกนะแต่ด้วยความว่าชมรมที่กรอยู่คือ ประธานนักเรียนการจะมีรายชื่อพร้อมประวัติเล็กน้อยของคนที่เดินมาชนฉันมันเลยง่ายมาก
"หยุดก่อนนะ ชื่อ....เสืออยู่ชั้นม.5" ฉันอ่านประวัติไปสักพักอยู่ดีๆ ฉันก็ไม่มีเรี่ยวแรงแล้วล้มดีที่มิเกลรับทัน
ไดอารี่ของกร
ผมและมิเกลตกใจมากด้านมิเกลเรียบโทรเรียกรถโรงพยาบาล ส่วนผมเองหลังจากตั้งสติได้ก็เคาะประตูเพื่อเรียกเพื่อนทุกคน
"เกิดอะไรกับริน" คนที่เปิดคนแรกคือเต้ที่วิ่งทยอยเคาะประตูห้องของทุกคนช่วยผม ใช้เวลาไม่นานก็มีรถพยายบาลมารับตัวไพรินไปรักษา แต่ด้วยความว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มคนที่ไปได้เลยมีแต่ผมกับมิเกล ส่วนทางเต้นั้นเรียบโทรบอกน้าสาเพื่อบอกข่าว พอรถพยายบาลถึงที่ก็เรียบพาไพรินไปห้องฉุกเฉิน ไม่นานหมอเดินออกมาพร้อมกับบอกอาการซึ่งพอรู้ก็ตกใจมาก เพราะไพรินไม่เคยบอกใครเลยว่าตัวเองเป็นโรคหอบหืด
"รินเป็นอะไรคะหมอ" พี่สาวของไพรินวิ่งมาพร้อมกับน้าสาวที่ดูจากสีหน้าของทั้งคู่คือเศร้าและคุณหมอก็พาไปซักประวัติ ไม่นานทั้งสองคนแนะนำชื่อตัวเอง แล้วก็เล่าเรื่องสุขภาพของไพรินให้ฟังอย่างลเอียด
"จริงๆ แล้วรินจะไม่เกิดเพราะแม่รินไม่ได้อยากมีลูกเพิ่ม โดยกินยาขับออกมาแต่ไม่ออกพอคลอดออกมาตอนแรกก็เห็นว่าสมบูรณ์ครบ32แต่พอเข้า2ขวบ หมอรักษาจนอาการเบาลงแต่" พอผมกับมิเกลฟังก็เริ่มมีน้ำตาไหลรินแน่นอนว่าพวกผมรู้สึกสงสารเพื่อนที่ชื่อไพรินอย่างมาก
"คงต้องใช้หน้ากากให้ออกซิเจนประมาณ3วันก่อนนะครับ แล้วค่อยกลับมาตรวจอีกครั้ง" คุณหมอพูดก่อนที่จะเข็นเก้าอี้คนป่วยที่ไพรินนั่งอยู่จากนั้นทั้ง4คนก็วิ่งเข้ามากอดไพริน
จบไดอารี่ของกร
"ไปทำอะไรให้อาการกำเริบขึ้นเนี่ยริน น้าบอกแล้วนิว่าถ้าหายใจไม่สะดวกมาหรือรินสูบบุหรี่" น้าสาบ่นฉันด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง ส่วนเรื่องสูบบุหรี่นั้นมิเกลเป็นพยายว่าฉันไม่ได้สูบและในห้องฉันก็ไม่มีบุหรี่อยู่ด้วย จากนั้นพี่เมเปิ๊ลก็ขับไปส่งน้าสาเพราะถึงเวลาที่พี่แกต้องไปทำงานแล้ว
"พี่เปิ๊ลหนูฝากเอาสารตัวนี้ไปให้พี่บูมตรวจให้หน่อยนะคะ คือหนูว่ามันคือสิ่งที่ทำให้อาการหนูกำเริบ" ฉันหยิบขวดสารสีม่วงที่ขอให้หมอสกัดจากเลือดตรงที่โดนนวด
"ขอไม่ให้เป็นแบบนั้นนะ" พี่เมเปิ๊ลรับมาแล้วก็จอดส่งพวกเราก่อนจะขับรถออกไปทำงาน
"ไว้ใจได้เหรอถึงจะเป็นญาติของรินก็เถอะกลัวจะเป็นเหมือนออกัส" มิเกลถามเพราะเรื่องในวันเกิดของลูกพีช ฉันเล่าให้ทุกคนฟัง แน่นอนว่า ออกัสโดนให้สารภาพบาปที่บ้านลูกพีช ตอนแรกคิดว่าอีกฝ่ายจะขอเลิกแต่ลูกพีชบอกว่าอยากให้โอกาสออกัสแล้วจะทำให้ออกัสไปรักใครไม่ได้เลย
"พี่เมเปิ๊ลเห็นอย่างนั้นเขาก็ทุกอย่างที่ฉันไม่มีนะอย่างแม่" ฉันบอกกับกรและมิเกลแต่ทั้งคู่ปิดประตูลิฟต์แล้วถามฉัน
"อย่าหลอกกันเลยรินแม่เธอยังมีชีวิตอยู่ พวกเราลองหาข้อมูลไว้แล้วถึงจะยากมากกว่าจะได้มา" ทั้งคู่มองมาที่ฉันแล้วพอถึงชั้น5ทุกคนเดินมาดูอาการฉันก่อนจะแยกย้ายเข้านอน
จบ