ไพริน สาวน้อยวัย16 ปีได้เห็นว่าจริงๆแล้วที่พ่อให้เธอมาหาได้ปีล่ะครั้งเพราะฉันคือลูกเมียน้อย เลยตัดสินใจเรียนจนได้อยู่ห้องกิ๊ฟแล้วพวกเราก็โดนวางยาพิษ โชคชะตาก็ทำให้ฉันและเพื่อนๆย้อนเวลากลับไปเมื่อสามปีที่แล้วเพื่อตามหาคนร้าย
รัก,ดราม่า,อาชญากรรม,ไทย,ชาย-หญิง,มหาวิทยาลัย,ย้อนเวลา,แก้ไขอดีต,วัยรุ่น,โรงเรียนไทย,นิยายชายหญิง,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก ,นิยายรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ไดอารี่สีชาดไพริน สาวน้อยวัย16 ปีได้เห็นว่าจริงๆแล้วที่พ่อให้เธอมาหาได้ปีล่ะครั้งเพราะฉันคือลูกเมียน้อย เลยตัดสินใจเรียนจนได้อยู่ห้องกิ๊ฟแล้วพวกเราก็โดนวางยาพิษ โชคชะตาก็ทำให้ฉันและเพื่อนๆย้อนเวลากลับไปเมื่อสามปีที่แล้วเพื่อตามหาคนร้าย
ไดอารี่หน้าที่ 25
กีฬาสีที่รอคอย
หลังจากที่ฉันได้มาถึงโรงพยาบาลก็เรียบตามหาออกัส แล้วก็เจอกับน้ายศที่ดูเหมือนจะร้องไห้ ส่วนพี่ไนท์นั้นร้องไห้ออกมาโดยไม่เก็บอาการ คนที่ปลอบก็คือพี่เฟิร์น ทางพี่เมเปิ๊ลนั้นยื่นรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความเครียดฉันเลยเรียบเดินไปถาม
"เกิดอะไรกับน้าสาเหรอคะพี่เมเปิ๊ล" ฉันที่มาพร้อมกับพลอยและอามเลยวิ่งไปถามแล้ว ก็ได้รู้ว่าน้าสานั้นรถล้มไปชนกับตัวเงินตัวทองที่วิ่งย้อยกลับมา แต่ดีที่ว่าน้าสาใส่หมวกกันน็อกเลยเป็นลมเพราะคงห่วงเจ้าตัวเงินตัวทองตัวนั้น จนเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดแล้วพวกเราทุกคนก็เรียบวิ่งมาถามอาการคุณหมอ
"คนไข้ไม่เป็นอะไรมากครับ เดี๋ยวนอนพักสักนิดก็กลับบ้านได้แล้ว" คุณหมอบอกกับพี่เมเปิ๊ล ส่วนน้ายศนั้นก็เดินไปจ่ายค่ารักษา ไม่นานพวกเราก็ไปที่ห้องพักฟื้นแล้วก็เห็นน้ายศที่กอดน้าสา ด้วยความเป็นห่วงถึงฉันจะเข้าใจว่าพวกท่านทั้ง 2 อยู่ด้วยกันทั้งยามสุขและยามทุกข์มาด้วยกันก็นะ
"แล้วนี่เจ้ากะเพรากับพะแนงเป็นไงบ้างล่ะ" เจ้ากะเพรากับเจ้าคือหมาพันธุ์ ลาบราดอร์ที่น้าสารักยิ่งกว่าลูกเพราะพวกมันเคยช่วยน้าสาจากงูที่อยู่ดีๆก็บุกเข้าบ้านมาตอนที่น้าสาทำสวน แล้วก็อีกรอบตอนน้าสาเจอตุ๊กแกตัวใหญ่เท่าฝาบ้านเจ้าพวกนี้ก็จัดการให้ น้าสาเลยจะรักพวกมันเป็นพิเศษ
"แม่อะห่วงหมามากว่าตัวเองอีกนะ" พี่เมเปิ๊ลพพูดด้วยความรู้สึกน้อยใจ ที่ผู้เป็นแม่ห่วงหมามาก แต่ไม่นานน้ายศก็โทรไปหาออกัสแล้วให้เปิดวิดีโอคอลกับน้องหมาที่บ้าน
"กระดิกหางคิดถึงกันเหรอเดี๋ยวกลับไปให้ขนมนะ" อยู่ดีๆ น้าสาก็เปลื่ยนมาใช้เสียงสองกับน้องหมาทั้งสองตัว แล้วดูเหมือนมันจะรู้ทุกอย่างที่น้าสาบอกจนเวลาผ่านไป 5 ชั่วโมงพวกเราก็กลับบ้านยกเว้นฉันที่ไปส่งพลอยกับอามที่บ้านแล้วกลับหอพักของตัวเอง
3เดือนต่อมา
"สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคนด้วยนะคะ ดิฉันชื่อพลอย และผมชื่ออาม พวกเราจะมาเป็นพิธีกรในงานนี้" คนที่พวกเราคุ้นเคยนั้นก็คือพลอยกับอามที่เป็นเพื่อนของพวกเราส่วนเหตุผลที่ต้องเป็น 2 คนนี้เพราะทางอเมริกาเกิดปัญหาด้านการเดินทางกลับไป เลยส่งเอกสารมาให้ทางโรงเรียน ผู้อำนวยการเลยให้ร่วมกิจกรรมโดยให้เป็นพิธีกร
"ถ้างั้นผมขอเชิญท่าน ทศพล พิชญาเดชา ผู้อำนวยการขึ้นมาเปิดพิธีด้วยครับ" จากนั้นพ่อเต้ก็ขึ้นมากล่าวโอวาทแล้วเปิดงานกีฬาสีโดยทุกคนในงานต่างปรบมือแล้วจากนั้นทุกคนก็ออกไปจากสนาม โดยใช้เวลาไม่นานสถานที่ก็พร้อมให้ใช้แข่งขันโดยกีฬาแรกนั้นก็คือฟุตบอล โดยรอบแรกเริ่มจากสีชมพูกับสีฟ้า นั้นก็แปลว่าพวกเต้เจอกับห้องศิลป์-ภาษา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องนักกีฬาเยอะสุดในโรงเรียน
หลังจากได้ยินเสียงนกหวีดดังขึ้น กีฬาก็ได้เริ่มทางฝ่ายสีชมพูได้แย่งบอลจากเต้แล้วคนคุมประตูก็คือเดชไม่นานอีกฝั่งยิ่งเข้าไปแต่เดชก็รับได้ จนเวลาผ่านไปจนถึงเวลาพักครึ่งแรกฉันและมิเกลก็เดินไปหาพวกเต้
“ไหวไหมเนี่ย” ฉันถามเต้ที่ดูจะเหนื่อยกว่าคนอื่น ตอนแรกพวกเราก็นึกว่าสามารถรวมชายหญิงได้แต่กรรมการบอกว่าต้องชายทั้งหมดพวกเราเลยต้องให้พวกรุ่นพี่มาช่วยส่วนทางเรานั้นก็ต้องไปสลับตัวกับรุ่นพี่ โดยทางเราจะส่งม.4ทั้ง5คน ม.5จำนวน3คน และม.6จำนวน3คน พอหมดเวลาพักก็เริ่มรอบนี้ทางสีชมพูนั้นได้เปลี่ยนผู้เล่น5คนโดยแต่ล่ะคนดีกรีนักกีฬาฟุตบอลทั้งนั้นส่วนทางเราได้เปลื่ยน พี่เสือม.5กับพี่มาร์คม.6 แต่ดูเหมือนความคิดนั้นจะดีเพราะพี่มาร์คเคยเล่นฟุตบอลกับนักกีฬามืออาชีพมาหลายครั้งเลยทำให้พี่แกชำนาญเรื่องนี้ แล้วไม่นานกรก็แย่งลูกมาจาก คีนได้แล้วจะยิ่งเข้าประตูเลยกร
“ท่าไม้ตาย ลูกเตะวิหคเพลิง” ทุกคนในสนามลุ้นกันว่าจะเข้าไหม สรุป
“เรียบร้อยครับ เป็นลูกเตะที่สวยงามมากครับคุณกร” พิธีกรอย่างอามได้พูดส่วนคนในสนามก็เริ่มตะโกนว่า
“เบาได้เบานะน้องนายไม่ใช่ซึบาสะนะ” คนที่ตะโกนบอกคือพี่เสือที่นั่งพักอยู่เลยทำให้สนามเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ แล้วจากที่พวกเราดีใจกันไม่นานสีชมพูก็ได้ไป1ต่อ1แล้วจนเวลาหมดเลยต้องยิ่งลูกโทษ โดยทางที่เริ่มก่อนคือสีชมพู ทุกคนต่างลุ้นว่าจะเข้าไหม
“เข้าไปแล้วครับลูกแรกของสีชมพู” พิธีกรหนุ่มอย่างอามพูดเพื่อเพิ่มสีสันของกีฬาส่วนลูกต่อไปนั้น
“พลาดไปโดนเสาแล้วค่ะ ลูกบอลคงคิดถึงเสาแหละคะ” พลอยพูดติดตลกเพื่อให้คนดูในสนามสนุกไปด้วยแล้วก็กลายเป็นว่าสีชมพูได้ไป2ลูก
"เอาล่ะทางสีฟ้าได้ส่งน้องเดชมาครับ ส่วนผู้รักษาประตูของทางสีชมพูคือน้องมากครับ" พีธีกรหนุ่มบอกก่อนที่กรรมการในสนามจะเป่านกหวีดเพื่อส่งสัญญาณให้ยิ่ง แล้วด้วยความว่าพวกเรามันไม่ใช่เด็กที่จะทำอะไรธรรมดา
"ท่าไม้ตาย บาคุเนทสึพั๊นซ์" แล้วเดชก็เตะไปแถมเข้าด้วย คนรอบสนามก็ต่างดีใจแล้วก็ยิ่งไปจนครบแต่ก็ต้องยิ่งอีกรอบเพราะได้2ลูกเท่ากัน
"ทางผู้อำนวยการได้ส่งข่าวมาว่าให้ส่งตัวแทนผู้หญิงมาคนล่ะ 1 สี โดยผู้รักษาประตูรอบนี้เป็นของสีเขียวที่จะได้แข่งพรุ่งนี้กับผู้ชนะไปเลยค่ะ" พิธีกรสาวได้บอกส่วนทางสีชมพูได้ส่งน้องนาวา ออกมาส่วนทางสีฟ้านั้นแน่นอนว่าต้องเป็นฉันเพราะจับได้ไม้สั่นสุดเลยต้องเป็นคนออกไป โดยคนแรกนั้นก็คือทางสีชมพูแต่เหมือนจะแรงไปหน่อยจนไปโดนหัวของผู้รักษาประตูจนสลบเลย
"จะเกินปุยมุ้ย" ทุกคนก็ได้แต่มองน้องนาวาด้วยสีหน้าที่ซีดเป็นไก่ต้ม จนไม่นานก็เอาตัวสำรองมาแทน แต่เรื่องความเก่งนั้นไม่เป็นสองรองใครเลยจากที่เคยได้ยิน
"ท่าไม้ตาย ลูกเตะไพรินโกลเด้นวิคเตอรี่" แล้วแน่นอนว่าลูกนั้นก็เข้าประตูไปได้สวยงามจนคนในสนามพากันกริ๊ดแล้วเชียร์อย่างสนุกสนาน
"ฟุตบอลระดับชั้นม.4ผู้ชนะคือสีฟ้าครับ" ทุกคนพาปรบมือแล้วก็กระจายกันไปกินข้าวแล้วก็กลับมาดูฟุตบอลของรุ่นพี่ม.5และม.6 แน่ว่าทั้ง 2ระดับชั้นนั้นไม่ได้รางวัลมาเพราะพวกสีเขียวม.5คือโหดมาก ส่วนสีชมพูม.6นั้นก็เคลื่อนไหวเก่งมาก ส่วนเทนนิสนั้น ม.4พวกเราได้มาหมด ม.5นั้นได้ของผู้หญิง ม.6 ได้ผสม แล้วเวลาก็ผ่านมาจนถึง18.00ทุกคนก็กลับบ้าน ส่วนพวกเรานั้นก็เก็บของที่สีพวกเราใช้กันไม่นานก็เสร็จแล้วพวกเราก็มานั่งรวมกันที่ดาดฟ้าของชั้น 5ด้วยชุดนอน
"นี้จ้าโกโก้ร้อนๆ จะได้ผ่อนคลาย" ฉันถือกระติกนมร้อนมาพร้อมกับให้เต้ช่วยถือแก้วร้อนและโกโก้บอลมาให้ทุกคน พวกเรานั่งดื่มกันพร้อมมองดาวที่ระยิบระยับบนท้องฟ้า ลมเย็นสบายกับโกโก้อุ่นๆ คือดีมากเลยส่วนเรื่องยุงนั้นพวกเราใช้ตัวไล่ยุงไว้ อยู่ดีๆ ก็มีคนร้องขอขนม
"ไม่มีขนมเลยเหรอ" คนที่ร้องขอขนมก็คือหยกฉันเลยเดินไปหยิบบานอฟฟี่ ที่ทำไว้มาให้หยกกินแล้วไม่มีขอเพราะมันดึกแล้วหลังจากที่นั่งพักกันเสร็จ พวกเราทุกคนก็ทยอยเข้าห้องไปทำธุระส่วนตัวของตัวเอง
(นอนยังคะ) คนที่ส่งข้อความมาหาฉันก็คือเต้เหมือนจะส่งรูปโทนเนอร์มาให้ดูแล้วข้อความมา
(ของผมหมดรินพอจะมีสำรองไหมคะ)
(มีจ้า เดี๋ยวเอาไปให้นะ) ฉันส่งข้อความเสร็จก็เดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบโทนเนอร์มาให้เต้แล้วก็มีเสียงเคาะประตูฉันเลยเปิดดูที่ตาแมวแล้วคนข้างหน้าห้องคือเต้ พวกเราก็ส่งของให้กันจากนั้นฉันก็ไปนอน
จบ