ไพริน สาวน้อยวัย16 ปีได้เห็นว่าจริงๆแล้วที่พ่อให้เธอมาหาได้ปีล่ะครั้งเพราะฉันคือลูกเมียน้อย เลยตัดสินใจเรียนจนได้อยู่ห้องกิ๊ฟแล้วพวกเราก็โดนวางยาพิษ โชคชะตาก็ทำให้ฉันและเพื่อนๆย้อนเวลากลับไปเมื่อสามปีที่แล้วเพื่อตามหาคนร้าย

ไดอารี่สีชาด - 32 บทส่งท้าย โดย BluelemonSky @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,อาชญากรรม,ไทย,ชาย-หญิง,มหาวิทยาลัย,ย้อนเวลา,แก้ไขอดีต,วัยรุ่น,โรงเรียนไทย,นิยายชายหญิง,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก ,นิยายรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไดอารี่สีชาด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,อาชญากรรม,ไทย,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

มหาวิทยาลัย,ย้อนเวลา,แก้ไขอดีต,วัยรุ่น,โรงเรียนไทย,นิยายชายหญิง,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก ,นิยายรัก

รายละเอียด

ไพริน สาวน้อยวัย16 ปีได้เห็นว่าจริงๆแล้วที่พ่อให้เธอมาหาได้ปีล่ะครั้งเพราะฉันคือลูกเมียน้อย เลยตัดสินใจเรียนจนได้อยู่ห้องกิ๊ฟแล้วพวกเราก็โดนวางยาพิษ โชคชะตาก็ทำให้ฉันและเพื่อนๆย้อนเวลากลับไปเมื่อสามปีที่แล้วเพื่อตามหาคนร้าย

ผู้แต่ง

BluelemonSky

เรื่องย่อ

สารบัญ

ไดอารี่สีชาด-0 บทนำ,ไดอารี่สีชาด-1 จุดเริ่มตอนของความหายนะ,ไดอารี่สีชาด-2 จุดเริ่มต้นของความหายนะ 2,ไดอารี่สีชาด-3 จุดเริ่มต้นความหายนะ 3,ไดอารี่สีชาด-4 ย้อนหลังชีวิตหรือสร้างมันใหม่,ไดอารี่สีชาด-5 สาวสวยประจำโรงเรียน,ไดอารี่สีชาด-6 ตำแหลงห้องกิ๊ฟที่แปลก,ไดอารี่สีชาด-7 วันเกิดที่เต็มไปด้วยสีชาด,ไดอารี่สีชาด-8 ความสุขของเธอคือความสุขของผม,ไดอารี่สีชาด-9 หมอกสีชมพูมาจากไหน,ไดอารี่สีชาด-10 ได้เวลาทำตามแผนแล้ว,ไดอารี่สีชาด-11 ทำไปเพราะรัก,ไดอารี่สีชาด-12 มึงจะอยู่ดีๆหรือจะเอาไม้หน้าสามครับเพื่อน,ไดอารี่สีชาด-13 เอาผมไปคุยกับรากมะม่วงเลย,ไดอารี่สีชาด-14 โรงพยาบาล=สวนสนุก,ไดอารี่สีชาด-15 เวลาเลือกวีรบุรุษ,ไดอารี่สีชาด-16 วันเสาร์คือนรกของคนดีย์,ไดอารี่สีชาด-17 วันเสาร์คือนรกสำหรับคนดีย์ 2,ไดอารี่สีชาด-18 ลูกเทวดาของแม่,ไดอารี่สีชาด-19 วันรุ่นมีครั้งเดียว,ไดอารี่สีชาด-20 มนต์โบราณ,ไดอารี่สีชาด-ประกาศพิเศษ แจ้งลดราคานิยาย,ไดอารี่สีชาด-21 HBD. นะคะที่รัก,ไดอารี่สีชาด-22 ฉันมาทำอะไรที่นี่,ไดอารี่สีชาด-23 ได้เวลาสนุกแล้วสิ,ไดอารี่สีชาด-24 ได้เวลาสนุกแล้วสิ 2,ไดอารี่สีชาด-25 กีฬาสีทีรอคอย,ไดอารี่สีชาด-26 กีฬาสีที่รอคอย 2,ไดอารี่สีชาด-27 welcome to college ,ไดอารี่สีชาด-28 welcome to college 2,ไดอารี่สีชาด-29 ขอกินเธอทั้งตัวเลยได้ไหม,ไดอารี่สีชาด-30 ต้อนรับลูกเขยและลูกสะใภ้เข้าบ้าน,ไดอารี่สีชาด-31 ชีวิตแลกชีวิต,ไดอารี่สีชาด-32 บทส่งท้าย

เนื้อหา

32 บทส่งท้าย

ไดอารี่หน้า 32

บทส่งท้าย

4ปีต่อมา

ตอนนี้ครบรอบวันเสียชีวิตของมังกรกับและหยกโดยรูปหน้าอัฐิคือรูปที่ทั้งคู่เคยถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยกัน โดยแม่มังกรได้เอาเครื่องไหว้ที่ทั้งคู่ชอบกินตอนยังมีชีวิตมาวางไว้โอม นนท์ วาวี่ เต้ คีตะ มิเกล เดช กร และคริสตัลที่ใส่ชุดครุยมาที่หน้าอัฐิของมังกรและหยก

"นี้ถ้าพวกแกยังอยู่คงจะดีนะ เพราะตอนนี้กูกับมิเกลสอบราชการติดแล้วแถมได้งานใหญ่ด้วย" เดชพูดพร้อมกับวางดอกกุหลาบสีแดงที่หยกชอบเพราะมังกรเคยบอก หลังจากที่พวกเรามาทำความเคารพหน้าอัฐิของมังกรและหยก แล้วพวกเราก็ขอลาแม่มังกร ทางพี่สกายนั้นเป็นบทเรียนให้รู้เลยว่าการได้รับข้าวสารผิดๆ ตั้งแต่เด็กมันฝั่งจำจนคนที่ดูจะเป็นเด็กน่ารัก ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใครกลายเป็นฆาตกรได้

"แล้วนี่พวกแกต้องบินไปทำงานเลยไหม"   ฉันถามคริสตัลที่กำลังดื่มกาแฟอเมริกาโน่อยู่ อีกฝ่ายเลยบอกว่าอีก 5ชั่วโมงส่วนฉันก็โทรไปแลกเวรกับพี่บีที่พี่แกต้องเข้ารอบดึก หลังจากจัดการทุกอย่างพร้อมฉันก็ไปเที่ยววัดกันจนถึงเวลาที่ทั้งคู่ต้องไปโดยคนไปส่งคือพ่อเดช วาวี่ที่ตอนนี้ได้เป็นนักแสดงหลักก็โชคดีที่มีงานที่นนทบุรี่พอดี เลยได้เจอกันบ่อยคีตะก็ทำงานที่สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย โดยตอนนี้อยู่ในตำแหน่งชำนาญการพิเศษ โอมนั้นหลังจากที่เรียนจบก็ได้ทำที่โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพ นนท์นั้นก็โรงพยาบาลในกรุงเทพเหมือนกันแต่เป็นของรัฐบาล เต้นั้นบอกเลยว่าฉันฝึกงานที่โรงพยาบาลไหนก็ตามมาตลอดจนตอนนี้ทางโรงพยาบาลที่ลำปางไม่อยากให้พวกเรากลับนนทบุรีเลย แต่ทำไงได้เพราะตอนนี้ฉันย้ายมาฝึกงานอยู่ที่จังหวัดนครปฐม บอกเลยว่าค่าที่พักไม่ต้องเสียเพราะอยู่กับย่าพิมแถมเวลาหมอนัด อากุ๊กก็มักจะบอกฉันให้พาย่ามาตลอด ทางเต้นั้นด้วยความว่าย่าค่อนข้างเอ็นดูฉันเป็นพิเศษเลยให้ เต้ไปอยู่ที่หอพักที่ย่าปล่อยให้เช่าแถวโรงเรียนประจำจังหวัด โดยให้ราคาเหมือนขุดเลือดขุดเนื้อเพราะคนอื่นแกคิดเดือนล่ะ 2,800-3,000บาทต่อเดือนแต่ของเต้เป็นเดือนล่ะ5,000บาทต่อเดือน แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้บ่นอะไรและพร้อมเสีย

ตอนนี้เหลือคือ เต้ มิเกล กร และฉันพวกเราเลยไปที่นครปฐมเพราะที่นี้มีพระปฐมเจดีย์ที่สวยมากแล้วถูกสร้างไว้ตั้งแต่สมัยทวารวดี ข้าวหลามก็อร่อย อาหารก็อร่อย  คาเฟ่ก็เยอะบอกเลยว่าผู้หญิงถ่ายรูป ผู้ชายก็กินจนถึงเวลาที่ฉันต้องเข้างานเลยบอกลามิเกลและกร ฉันกับเต้ก็ได้มาถึงโรงพยาบาลก่อนเวลา1ชั่วโมงคนที่แลกเวร อย่างพี่บีก็เรียบจักการหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จแล้วกลับบ้าน ฉันที่เข้างานต่อก็ทำงานปกติ จนวนมาถึง08.30ที่จะเป็นเวลางานปกติหลังจากที่ฉันตรวจคนป่วยคนสุดท้ายของรอบเช้าเสร็จก็ได้มี หมอที่เป็นพี่เลื้ยงได้เอาเอกสารจบการฝึกที่โรงพยาบาลมาส่งให้ฉันที่หลังจัดการเก็บของใช้ส่วนตัวเสร็จแล้วเจอพี่บี

"ยินดีที่ฝึกงานจบนะจ๊ะถ้าคิดถึงกันก็มาหากันได้นะ"    พี่บีบอกก่อนที่พี่แกจะมาเข้างานต่อจากฉัน ไม่นานฉันก็ส่งข้อความไปบอกเต้แต่ที่ฉันตกใจคือจริงๆ แล้วเต้ไม่ได้มาทำงานที่เดียวกับฉัน แต่เล่นหุ้นต่างหากโดยหลอกฉันเพื่อให้ฉันสบายใจส่วนที่ฉันจับได้เพราะมีอยู่วันหนึ่งฉันขอร้องย่าพิมว่าขอนอนหอ1วันเพราะฉันพึ่งไปปาร์ตี้กับเพื่อนมาแล้วนางเช่าหอพักนี้พอดีห้องที่ฉันได้คือห้องที่ติดกับเต้ฉันเลยได้ยินทุกอย่างที่ทางเต้คุยกับพี่สมาย

"ช่วงนี้ผมลงหุ้นสือดีไหมหรือน้ำมันดีครับ"

"จากความคิดพี่นะน้ำมันถึงจะพุ่งแต่ไปทางสื่อสารดีกว่า"

"ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับเดี๋ยวผมคงต้องไปทำงานจริงจังแล้วล่ะครับ"

"ทำอะไรคิดให้ดีแล้วกันถ้าแกไม่อยากให้เป็นเหมือนพี่ที่ต้องแยกกันอยูกับเมียเพราะไม่บอกความจริง"    หลังจากที่ฉันได้ยินทั้งหมดมันทำให้ฉันรู้ว่าถึงทั้งคู่แยกกันอยู่ แต่ทางพี่สมายยังรักและคิดถึงพี่เพชรตลอด  เหตุผลที่ทั้งคู่แยกกันอยู่เพราะพี่เพชรเข้าใจผิด แล้วไม่เชื่อในสิ่งที่พี่สมายพูดเลยจบแบบนี้ ล้วไม่เชื่อในสิ่งที่พี่สมาย ่วนอยูู่ั้งแต่สมัยทวารดียหยกก็กำลังจะขึ้นกันแล้วเหมือนพระเจ้าจะไม่เป็นใจกับมังกรที่โดนกระสูนเขช่วงขขนาดฉันกับเต้ช่วยพี่สมาย พี่เพชรก็ไม่เชื่อขนาดพ่อกับแม่บอกยังไม่ยอมเลยจบแบบนี้

"รับทราบครับพี่ เดี๋ยวผมไปรับรินก่อนครับ"    หลังจากที่เห็นข้อความฉันเลยเรียบออกมารอ แต่ฉันก็พยายามตั้งใจจะเปิดประตูเพื่อให้เต้รู้

"รินผมขอโทษที่ไม่ได้มารับนะครับ"    เต้บอกฉันก่อนที่ฉันจะเรียกเต้มาคุยแล้วฉันเหนือยใจเลยตกลงจะแยกกันนอนพรุ่งนี้ค่อยไปเอาของที่บ้านย่าพิม

เช้าวันต่อมา

"เอาหมูหันไปฝากน้าสาด้วยนะ ส่วนผลไม้พวกนี้เอาไปถวายหลวงพี่นะ"     ฉันกับเต้ขนของกันจนไม่นานพวกเราก็ออกเดินทางกลับนนทบุรี่  จุดหมายแรกคือวัดที่หลวงพี่กวินได้จำพรรษาแล้วเหมือนท่านจะบวชจนกว่าฉันจะเรียนจบ

"นมัสการหลวงน้า"    หลังจากที่ฉันและเต้ได้ถวายสังฆทานและผลไม้พวกเราต้องเรียบไปอีกที่ นั่นคือมหาวิทยาลัยเพื่อไปส่งเอกสารโชคดีที่อาจารย์ในคณะยังไม่ไปทานข้าว พอทุกอย่างครบฉันเลยขอร้องเต้ให้พาไปส่งที่บ้านน้าสา

"ไหนๆ ก็มากันครบแล้วหมั้นทั้งคู่ไว้เลยไหม"   แม่ฉันเป็นคนเปิดประเด็นแล้วทุกคนก็เห็นชอบรวมไปถึงพ่อกับแม่เต้ที่มากันตอนไหนไม่รู้

"อย่างที่คุณตองพูดเลย แล้วอีกอย่างเราไปจัดการกันที่บ้านพวกเราดีกว่า แต่ก่อนไปต้องปิดตาคู่หนุ่มสาวด้วยนะจ๊ะ"    หลังจากที่คุณเตยผู้เป็นแม่เต้บอกก็พาพวกเราขึ้นรถ ส่วนที่เหลือก็คงตามมาจนตอนนี้ฉันได้กลิ่นมะลิที่อยู่หลังบ้านเต้

"เอาล่ะพ่อๆ เปิดตาลูกได้แล้ว"   คนที่เปิดตาฉันไว้คือพ่อเต้ อีกฝั่งคือพ่อฉันที่เปิดให้เต้ แล้วตอนนี้บ้านของเต้ที่ห้องต้อนรับได้ถูกจัดให้เป็นงานหมั้น ประธานฝ่ายชาย นาย ทศพล พิชญาเดชา นาง วรรณวิสา พิชญาเดชา ประธานฝ่ายหญิง นาย ประเสริฐ หาญกล้า นาง ปรียาวดี หาญกล้า หลังจากที่พวกเรามองทั้งการ์ดงานหมั้น เพื่อนๆของพวกเราที่ถูกเปลื่ยนเสื้อผ้าตอนไหนไม่รู้ หลังจากที่ทุกอย่างพร้อมพวกเราก็ทำพิธีกันโดยมีทองคำ1บาทจำนวน 10เส้น เงินสดอีก1,000,000บาท โฉนดที่ดินอีก10ไร่ ทองคำแท่ง 50บาทจำนวน 2 แท่งที่เอามายื่นให้พ่อกับแม่ฉัน

"เยอะจนไม่รู้จะตีค่าเลยคะ"    แม่ฉันบอกก่อนที่พิธีจะเสร็จพวกเราก็ถ่ายรูปกันเป็นภาพที่มีทั้งพ่อและแม่มาร่วมงานฉันมีความสุขและดีใจที่ได้เป็นลูกพ่อและแม่ ถึงฉันจะไม่ได้อยู่กับท่านเลยในชีวิตแต่ฉันก็รักพวกท่านตลอด แล้วจะมีคนมาดูแลฉันเพิ่มนั้นคือเต้แล้วพวกเราก็ดีใจที่โชคชะตาทำให้พวกเราได้มารักกัน

ไดอารี่ตอง

หลังจากที่ฉันได้จัดการงานหมั้นของไพรินเสร็จแล้วก็เห็นกันต์ที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ก็คงยังรู้สึกผิดในเรื่องที่ตัวเองทำไว้ยอมรับว่าตอนที่ไพรินโทรไปบอกว่าตอนนี้สกายเข้าคุกไปแล้วเรื่องที่ทำให้พวกเราต้องหลบซ่อนเลยจบ เพียงแค่นี้แล้วเรื่องที่กันต์พยายามจะให้ไพรินแต่งงานกับสกายมันเลยทำให้ฉันต่อยน้องชายสุดที่รักของเขาเพราะสำหรับฉันลูกเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุด

"รินครับผมขอโทษเรื่องที่ผมโกหกว่าไปทำงานกับคุณนะ"    หลังจากที่ฉันได้ยินคำสารภาพบาปจากเต้  ก็ทำให้ฉันดีใจที่เขาไม่เก็บไว้คนเดียวอีก พวกเราตัดสินใจว่าจะเล่าเรื่องที่เป็นปัญหาให้อีกฝ่ายตลอดแล้วจะเขียนไดอารี่เรื่องที่เคยทำให้พวกเราทุกข์ใจเพื่อเป็นการเตือนตัวเองตลอดไป

จบบริบูรณ์