ในที่สุด เมื่อถึงเวลาดอกพุดซ้อนก็จะเบ่งบานในได้เชยชม

พุดซ้อนหวนรัก #whatproject​​ - บทที่ 3 หลงทาง โดย k.n. star​ light​ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,แฟนตาซี,พล็อตหาเรื่อง,พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,ความรัก,แฟนตาซี,ดราม่า,นิยายรัก,นิยายวาย,boylove ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พุดซ้อนหวนรัก #whatproject​​

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตหาเรื่อง,พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,ความรัก,แฟนตาซี,ดราม่า,นิยายรัก,นิยายวาย,boylove

รายละเอียด

ในที่สุด เมื่อถึงเวลาดอกพุดซ้อนก็จะเบ่งบานในได้เชยชม

ผู้แต่ง

k.n. star​ light​

เรื่องย่อ

เรื่องย่อๆ

พุด เด็กหนุ่ม​15 ในปี 2567 เกิดประสบอุบัติเหตุ​ถูกรถชนจนอาการโคม่า​อย่างหนัก ซึ่งอีกที่ในวันและเวลาเดียวกันในปี 2510 เต็มไปด้วยบรรยากาศ​มื่นชื่นงานแต่งงานของพิกุลและยงค์ แต่หลังจากงานมงคลจบลง พิกุลตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเป็นจังหวะเวลาเดียวกันกับที่ดวงจิตที่หลงทางของพุดได้พบทางออก แต่มันดันเป็นร่างของพิกุล


สารบัญ

พุดซ้อนหวนรัก #whatproject​​-บทนำ บทนำ,พุดซ้อนหวนรัก #whatproject​​-บทที่ 0 ดอกพุดซ้อน,พุดซ้อนหวนรัก #whatproject​​-บทที่ 1 ต่างจิต ต่างเวลา,พุดซ้อนหวนรัก #whatproject​​-บทที่ 2 วันสำคัญ​ต่างยุค,พุดซ้อนหวนรัก #whatproject​​-บทที่ 3 หลงทาง,พุดซ้อนหวนรัก #whatproject​​-บทที่ 4 การจากไป

เนื้อหา

บทที่ 3 หลงทาง

บทที่ 3 หลงทาง
วันพุธที่ 5 มิถุนายน ปี 2567

"นี่ กันต์" กันต์หันมาตามเสียงที่พุดถามหลังจากข้ามถนนมาแล้ว

"มีอะไรมั้ย"

"ไม่มีแล้ว" พุดพูด พยักหน้า แล้วเริ่มเดินต่อไปเพื่อเข้าโรงเรียน

ทั้งคู่เดินเข้ามาภายในโรงเรียนพร้อมกับพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับวันเกิดของพุดและเรื่องงานที่ต้องคู่ต้องทำ แต่ใบหน้าของพุดกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสงงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองในช่วงวัน สองวันที่ผ่านมา ไหนจะเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะเข้ามาในโรงเรียนอีก เรื่องทั้งหมดทำให้พุดคิดวิตก กังวลอยู่จนถึงตอนนี้ จนพุดปล่อยให้กันต์คุยกับลมกับอากาศอยู่นาน พุดคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างตั้งใจจนทำให้คนภายนอกมองว่าเขาเหม่อ

"พุด!!" กันต์ตะโกนขึ้นพร้อมๆ กับดึงตัวพุดอย่างแรง

พุดสะดุ้งโหยงเพราะตกใจเสียงและแรงดึงจากกันต์

"ดึงทำไมเนี้ยย" พุดหันไปถามกันต์

"พุดเหม่ออะไร เรียกตั้งนาน"

"ขอโทษไม่ได้ยิน ส่วนที่ดูเหม่อก็กก.... ไม่มีอ่ะ" 

"โอเค งั้นไปหาที่นั่งกัน"

พูดจบ กันต์กอดคอพุดด้วยแขนข้างเดียวและเดินไปที่สวนป่าของโรงเรียน ทั้งสองนั่งลงและเริ่มทำในสิ่งที่ทำกันเป็นประจำทุกๆ วัน แต่ขณะนั้นสายตาของกันต์ ได้เหลือบไปเห็นต้ากำลังเดินจับมือพูดคุยอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่น่าจะไม่ใช่เพื่อนกันแน่นอน "ไอ้สัส!!" กันต์ตะโกนออกมาเสียงดัง พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างจับหน้าของพุดไม่ให้หันไปตามทิศที่ตัวเองหันอยู่เพราะไม่อยากให้เพื่อนได้เห็นสิ่งที่ต้องมีผลต่อจิตใจ

"ทำไรเนี้ย!" พุดพูดขึ้นมาด้วยความงงงวยกับสิ่งที่กันต์ทำ

"เปล่า"

พุดมองด้วยสายตาสงสัย ก่อนที่กันต์จะค่อยๆ ปล่อยมือออกจากใบหน้าของพุดแล้วกลับไปก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเอง ก่อนที่เริ่มชวนพุดพูดคุยเกี่ยวกับการทำรายงานวิชาประวัติศาสตร์ "เราจะทำรายงานเรื่องอะไรดีพุด" กันต์ถาม

"กันต์อยากทำเรื่องอะไรล่ะ"

กันต์คิดอยู่สักพักก่อนที่จะตอบออกมา "ยุคล่าแม่มดเถอะ" 

"อะเค" พุดตอบ

ทั้งคู่ต่างก้มหน้าก้มตาโฟกัสที่งานของตัวเองโดยแทบไม่ได้พูดคุยกันเลยจนถึงเวลาเข้าแถวตอนเช้า เสียงกริ่งจากลำโพงดังขึ้นทั่วโรงเรียนเป็นสัญญาณให้นักเรียนทุกคนมารวมตัวกันที่โดม พุดและกันต์ที่ทำงานอยู่ต่างรีบเก็บของที่วางอยู่รกเต็มโต๊ะ ก่อนที่จะเดินไปพร้อมๆ กับนักเรียนคนอื่นๆ พุดเดินไปพร้อมกับพยายามมองหาอะไร หรือใครบางคนด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยจนทำให้กันต์ที่สังเกตเห็นอยู่ตลอดเริ่มเป็นห่วงเพื่อนของตนมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมก่อนที่เขาจะคว้าเอากล่องเค้กในมือของพุดมา ทำให้พุดราวกับได้สติและหันมาทางกันต์ "เดี๋ยวเอาเค้กไปฝากป้าร้านค้าแช่ตู้เย็นให้นะ" พุดพยักหน้าให้กันต์และยืนรอกันต์อยู่เฉยๆ ก่อนที่เขาจะมองไปเห็นต้าที่กำลังเดินมากับเพื่อน

"พี่ต้าครับ" พุดออกเสียงเรียกชินที่เดินมาในระยะที่ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

เสียงแซวของเพื่อนต้าดังขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้ดังจนกลายเป็นที่สนใจสักเท่าไหร่ แต่แค่เพียงเท่านี้ก็ทำให้พุดเกิดอาการเขินอายขึ้นมาได้ ก่อนที่ต้าจะเดินเข้ามาพุด

"มีอะไรรึเปล่า" ต้ากล่าวถาม

"เอ่ออ พักกลางวันมากินเค้กด้วยกันมั้ย ที่สวนป่า" 

"พักกลางวันหรอ ไม่น่าจะได้นะพี่มีเรียนอีกฝั่งเลยตั้งแต่ก่อนพักเที่ยงคงไม่ได้มาฝั่งนี้แล้ว" 

"หรอครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ" พุดพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่แลดูเศร้า แต่ก็พยายามที่จะยิ้มออกมา

"ว่าแต่ เค้กอะไรหรอ" ต้าถามพุด

"วันนี้วันเกิดผมน่ะ แต่ถ้าพี่ไม่ว่างตอนพักเที่ยง เปลี่ยนเป็นตอนเย็นได้มั้ย"

"ได้สิ่ แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะครับ" ต้าใช่มือไปลูบที่หัวของพุดแล้วค่อยๆ ลูบมือลงมาที่หน้าของพุดและหยิกแก้มเบาๆ

"พุด!!" กันต์ตะโกนเรียนพุดก่อนที่จะวิ่งเข้ามาถึงพุดแล้วรีบเดินไปเข้าแถว

พุดหยุดเดินแล้วทำหน้าสงสัยปนโมโหเล็กๆ ใส่ชิน พุดสูบอากาศเข้าทางปากก่อนที่แก้มทั้งสองข้างจะพองนู้นกลมขึ้น "ลากมาทำไมเนี้ย" พุดพูดขึ้นมาแต่กันต์ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่เลือกที่จะลากพุดต่อไปซึ่งทั้งหยุดก็อยู่ในสายตาของต้าและเพื่อนๆ

"สองคนนั้นเหมือนแฟนกันยิ่งกว่ามึงกับน้องเขาอีก แล้วจะว่าไปน้องนี่แฟนจริงหรือแค่...." ต้าตบไปที่หัวของเพื่อนคนที่พูดขึ้นมาก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดอะไรต่ออีก

"ไปเข้าแถวได้แล้ว ไป!" ต้าพูดแล้วเดินต่อไปเพื่อนเข้าแถว



ช่วงเวลาผ่านเลยไปจนถึงช่วงพักเที่ยง กิจกรรมทุกอย่างของพุดก็เหมือนเดิมในทุกๆ วัน แต่ในวันนี้สมองของพุดนั้นเอาแต่คิดกังวลตามนิสัยส่วนตัวของเขา

"โอเคมั้ย" กันต์ถามพุด

"อืม" พุดยิ้ม "ก็..มั้งนะ" 

กันต์จับมือของพุดคือมาก่อนที่จะมองไปที่ใบหน้าของพุดแล้วยิ้มให้อย่างจริงใจ ก่อนที่พุดจะพรั่งพรูความรู้สึกที่เก็บกดมาทั้งหมดผ่านสายน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างรุนแรง ก่อนที่กันต์จะดึงตัวของพุดเข้ามากอดด้วยความรู้สึกห่วงใย และใช่มือของตัวเขาเองลูบไปที่หลังของพุดอย่างเบามือ "ไม่เป็นไรนะพุด"

"พี่รออยู่นะพุดซ้อนของพี่" พุดได้ยินเสียงนิ่งๆ พุ่งตรงเข้ามาที่หูจนทำให้พุดสะดุ้งตกใจเล็กน้อย แต่เขากลับรู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัว อาจจะเพราะกอดของกันต์ หรือเสียงนั่น เขาได้แต่คิดสงสัย

เพียงสักพักทั้งคู่ผละตัวออกจากกันอยากเบามือ "โอเคขึ้นมั้ย" กันถาม

"ดีแล้วแหละ ได้ร้องออกมาจนหมด มันก็เลยโล่งขึ้นมาอีกนิดน่ะ" 

"ดีแล้ว" กันต์บอกแล้วตบที่ไหล่ของพุดเบาๆ



พุดหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วเริ่มพิมพ์ข้อความ

/พี่ต้าครับ จะให้พุดไปหาตอนไหนครับ/-พุด

/ก่อนกลับบ้านแล้วกันนะ พี่เรียนเกือบถึง4โมงเลย/-ต้า

/แล้วจะได้กินเค้กด้วยกันมั้ยครับ/-พุด

/ต้องได้สิ่ สักคำ/-ต้า

/ครับ แล้วจะให้พุดไปหากี่โมงดี/-พุด

/16:00 ที่637นะ/-ต้า

/ไม่ช้าไป หรอครับ/-พุด

/พี่ไม่ค่อยว่างน่ะ/-ต้า

/ครับ เย็นนี้เจอกันนะ/-พุด



ในที่สุดช่วงเวลาที่พุดรอคอยก็ได้มาถึงพุดรีบตรงดิ่งไปที่ร้านน้ำคุณป้าเพื่อนำเค้กวันเกิดที่ได้มาจากเพื่อนอย่างกันต์ แล้วรีบไปที่ห้องที่ได้นัดกับต้าเอาไว้พร้อมๆ กับกันต์ พุดรีบเร่งเดินอย่างรวดเร็วเพราะหวังเพียงว่าจะไปให้ทันก่อนที่จะเลิกเรียน

"กันต์เร็วๆ" พุดพูดพร้อมกวักมือเรียกกันต์

"เออออ"

พูดจบ พุดรีบวิ่งขึ้นบันไดไปจนถึงชั้นสามอย่างรวดเร็ว เขามองดูเลขห้องเรียนก่อนที่หยุดเดินแล้วพักหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะค่อยๆ เดินอย่างเงียบๆ เพื่อไปเซอร์ไฟรส์ต้า พุดตะแคงหัวเข้าไปมองภายในห้องก่อนที่จะได้พบกับภาพที่ทำให้ความรู้สึกดีทั้งหมดพังทลายลงในทันที พุดมองเข้าไปที่ต้าซึ่งกำลังใช้ปากและลิ้นจูบกับผู้หญิงอีกคนอย่างดูดดืมโดยไม่แคร์ว่าจะมีใครมาเจอ มือใหญ่หนาของต้าจับและบีบไปที่หน้าอกของเธอคนนั้น ส่วนมือของฝ่ายหญิงลูบไปทั่วทั้งหัวของต้า น้ำตาของพุดเริ่มไหลหยดลง เสียงสะอื้นค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ พุดหันหลังเพื่อที่จะเดินกลับไปอย่างเงียบที่ให้ แต่สุดท้ายเขาก็ชนกลับประตูจนทำให้คนในห้องเริ่มรู้ตัวว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย พุดรีบวิ่งลงบันไดสวนทางกับต้าที่ตามมาอย่างช้าๆ 

"พุดเป็นไรว่ะ" กันต์คว้ามือพุดและถามออกไป

"ไม่ ไม่มี" พุดกระชากมือกลับก่อนจะรีบวิ่งไปเพื่อจะออกจากโรงเรียน

พุดวิ่งไปร้องไห้ไปตอนนี้เขารู้สึกแค่ว่าต้องรีบวิ่งกลับไปให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะกลับบ้านก่อนที่เขาจะสะดุดล้มลงจนหัวเขาถลอกพร้อมกับเสียงแว่วเรียกชื่อเขาจะบนตึกซึ่งน่าจะเป็นเสียงของต้า ก่อนที่พุดจะลุกขึ้นยื่นแล้วรีบวิ่งต่อไป เขาวิ่งจนถึงทางม้าลายก่อนที่จะหยิบหูฟังมาเพื่อฟังเพลง พุดมาถึงใสตอนที่นักเรียนทหารพึ่งปล่อยรถในสัญจรต่อจนทำให้พุดต้องยื่นรออยู่สักพัก น้ำตาไหลออกมาอยู่เรื่อยๆ ไม่หยุด พร้อมกับผู้คนที่ค่อยๆ มายื่นรอจนทำให้เขาพยายามที่เบี่ยงหน้าหนีเพื่อไม่ให้ใครได้เห็น จนในที่สุดถนนก็พร้อมสำหรับการข้าม ทุกๆ คนที่รออยู่เริ่มก้าวออกไปบนถนนอย่างพร้อมๆ กัน 

พุดเดินก้มหน้าก้มตาไม่สนใจสิ่งรอบข้างจนมาถึงเกาะกลางถนนเพื่อรอข้ามถนนอีกรอบ ในเวลาเพียงไม่นานนักเรียนทหารเริ่มโบกไม้โบกมือเพื่อให้รถหยุดลง พุดที่เหลือบตาไปเห็นเริ่มก้าวขาลงไปบนถนนภายในหูของเขามีเพียงเสียงเพลงก้องกังวลอยู่ก่อนที่เพลงจะจบลงจนทำให้พุดได้ยินเสียงโวยวายของผู้คนจนทำให้เขาที่กำลังยื่นอยู่กลางถนนหันไปเจอกับรถที่กำลังขับพุ่งเข้ามาที่เขาโดยตรง โดยที่ความเร็วของรถเร่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้พุดไม่สามารถหลบได้ทันก่อนที่เขาจะ...



?????

พุดตื่นขึ้นมากลางถนนอีกครั้งด้วยความรู้สึกปวดหัว เขามองไปรอบๆ ตัวที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าไร้ซึ่งผู้คน พุดได้แต่คิดสงสัยก่อนที่เขาจะค่อยๆ ลุกยืนขึ้นและเริ่มมองหากล่องเค้กที่หาไปจากมือของเขา ก่อนที่เขาจะได้เจอกลับของเหลวสีแดงที่ไหลอยู่ทั่วพื้นโดยรอบของเขา พร้อมกับร่างเนื้อของเขาที่นอนแน่นิ่งอยู่ กล่องเค้กที่บี้แบนอยู่ไม่ไกลจากตัวเขา ก่อนที่เขาจะเริ่มได้ยินเสียงวุ่นวายของผู้คนมากมายแต่กลับไม่เห็นตัวตนของใครเลยแม้แต่คนเดียว มีเพียงเสียงโวยวายอยู่รอบๆ ตัว เป็นเสียงที่เต็มไปด้วยอาการช็อกและตกใจกลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้เขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่าอะไรเกิดขึ้นกับเขา

พุดพยายามตั้งสติเพื่อคิดและประมวลผลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาค่อยๆ ก้าวขาออกไปข้างหน้าอย่างช้าๆ มือข้างขวาเริ่มยื่นออกไป พุดย่อตัวลงช้าๆ เพื่อให้มือของเขาแตะโดนร่างเนื้อของเขา มือที่สัมผัสลงไปผ่านทะลุเข้าไปในร่างกายความรู้สึกหนาแน่นของเนื้อที่อยู่รอบๆ มือทำให้พุดยังรู้สึกเชื่อมต่อกับโลกนี้อยู่

ก่อนที่อยู่ๆ จะมีลมพัดแรงพร้อมกับหมอกควันสีขาวพุ่งมาปะทะกับตัวของพุดจนแทบทำให้เขาล้มลง และตามมาด้วยเสียงและเเรงสั่นสะเทือนอย่างหนักจนทำให้พุดล้มลง เริ่มเกิดรอยร้าวบนพื้นที่มีจุดศูนย์กลางคือร่างของพุด รอยร้าวที่แตกออกมานั้นเริ่มขยายแยกตัวออกจากกันและทำให้พื้นถนนเริ่มร่วงหล่นลงไปในพื้นที่สีดำมือ 

พุดที่เห็นแบบนั้นพยายามลุกยืนขึ้นแต่ก็สู้แรงสะเทือนไม่ไหวทำให้สุดท้ายต้องล้มกลับลงไปอยู่ดี พุดใช้ทั้งมือและเท้าทั้งหมดตะเกียกตะกายตัวเองออกมาจากตรงนั้น ร่างของพุดตกลงไปในหลุมแห่งความมืดที่ค่อยๆ ขยายตัวอย่างไม่หยุดตัว ในสายตาที่พุดเห็นนั้นพื้นที่สีดำนั้นไม่ได้ต่างไปจากหลุมดำเลยแม้แต่นิดเดียวทุกสิ่งทุกอย่างหายไป แม้แต่ต้นไม้ บ้านเรือน และ ท้องฟ้า ต่างแตกตัวและร่วงหล่นลง จนวิสัยทัศน์โดยรอบกลายเป็นสีดำ 

เขายังพยายามที่จะวิ่งต่อไป แต่ในที่สุดแรงเฮือกสุดท้ายก็หมดลงพร้อมๆ กับรอยแตกที่ตามไล่หลังมาจนทัน พุดร่วงลงไปสู่ความดำมืดไร้ที่สิ้นสุดตอนนี้เขารู้เหมือนกับว่ากำลังจมลงไปใต้ก้นมหาสมุทร "นี่เราอยู่ในโลกนี้ได้แค่นี้เองหรอ" พุดตัดพ้อกับตัวเองก่อนที่เขาจะหลับตาลงด้วยความรู้สึกน้อมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

"เสียงอะไรว่ะ" 

"ถอดออก!!" 

พุดลืมตาขึ้นอีกครั้งเพราะเสียงโว้ยวายเมื่อครู่นี้ เขาพยายามมองไปรอบๆ ก่อนที่เสียงนั้นจะเกิดขึ้นอีกครั้ง



"พิกุล! พิกุล!!"

"เดี๋ยวกูไปตามผู้ใหญ่มา"

"ทำไม...คุ้นจัง" แม้ไม่รู้ว่าเจ้าของเสียงนี้จะเป็นของใครบ้าง แต่ก็มีเสียงหนึ่งที่รู้สึกคุ้นเคยที่สุดราวกับว่าเคยได้ยินมาเมื่อไม่นานนี้ พุดไม่รอช้าเขาเริ่มขยับตัวหมุนไปมาเพื่อหามาเสียงนั้นมาจากทางไหน ก่อนที่เขาจะได้พบกับใครบางคนที่กำลังแหวกว่ายในความดำมืดนี้เช่นกัน ถึงแม้จะกลัวที่เขาก็เลือกที่จะว่ายเข้าไปใกล้กับคน คนนั้น หญิงสาวที่ลอยนิ่งตรงเริ่มกระตุกและร่วงลงไปลึกกว่าเดิมเมื่อพุดเข้าไปใกล้ ก็ที่เขาจะเริ่มร่วงตามลงไปอีกจนในที่สุดพื้นที่สีฟ้าเข้มก็ปรากฏขึ้น จิตวิญญาณของเขากระแทกลงพื้นในท่านอนคว่ำอย่างแรงพร้อมๆ กับเสื้อผ้าที่สลายหายไปจนหมด

พุดเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ เขาได้เจอกับจิตวิญญาณมากมายที่อยู่สภาพแบบเขา แต่เพียงแค่มองเท่านั้นก็รู้ว่าพวกเขานั้นไร้ซึ่งความรู้สึก สิ่งที่ทุกคนทำเป็นเพียงแค่การเดินไปเรื่อยๆ เดินสวนกันไปมา ชนและทะลุผ่าน ส่วนบางจิตก็ยังคงร่วงหล่นต่อไปอีก แต่ก่อนที่พุดจะเริ่มคุ้นชินกับที่นี่นั้น มือของใครบางคนโอบกอดและค่อยๆ ดึงพุดขึ้นไปอีกครั้ง จนกลับมาอยู่ในพื้นที่ดำมืดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขายังคงล่องลอยขึ้นไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เกิดแรงดูดอย่างรุนแรง ดึงเขาเข้าไปที่จุดแสงสีขาวเล็กๆ 



วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน ปี 2510

"อยู่ได้นะมึง" เสียงเป็นห่วงดังออกมาจากปากของเพื่อนประยงค์

"เออได้"

"ได้" พูดจบเขาเดินออกมาจากบ้านปล่อยให้ประยงค์อยู่กับพิกุลเพียงสองคน

ประยงค์ยังคงทำหน้าสงสัยอยู่ก่อนที่จะอุ้มพิกุลขึ้นไปนอนบนเตียง "เมื่อกี้มัน เสียงใคร" ประยงค์คุ่นคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องนอนแล้วมานั่งทำหน้าสงสัยต่อที่ระเบียงบ้าน เขามองไปรอบๆ บ้านของตัวเองและพิกุลผู้ซึ่งเป็นภรรยาของเขา บรรยากาศที่เริ่มมืดมาพร้อมๆ กับเสียงจิ้งหรีดที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เป็นธรรมชาติที่สะบายหู สะบายตาเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่อยู่ในเมืองบ่อยกว่าชนบทอย่างประยงค์

ก่อนที่ประยงค์จะเผลอหลับไปบนเก้าอี้เอนได้ด้วยความเหนื่อยล้าของงานที่ผ่านมาตลอดทั้งวันนี้และวันก่อนหน้า



วันอังคารที่ 6 มิถุนายน ปี 2510

ในที่สุดประยงค์ก็ตื่นขึ้นมาในช่วงเช้ามืด หรือเอาง่ายๆ คือเขานอนตากลมตากน้ำค้างทั้งคืนโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่เขาจะพยายามสลัดความง่วงและลุกขึ้นยืน สูบอาการเข้าปอดอย่างเต็มที่แล้วค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อออกจนหมดเพราะทั้งคืนเขานอนด้วยชุดทางการจนแน่นตัวไปหมดก่อนที่ประยงค์จะค่อยๆ เปิดประตูห้องนอนอย่างเบาๆ เพื่อเข้าไปในห้องนอน เพื่อหยิบอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ เพื่อไปอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านนอกของบ้าน โดยที่ไม่ลืมที่จะเดินไปที่เตียงเพื่อดูพิกุล

เขานั่งลงบนเตียงข้างๆ พิกุลและเริ่มใช้มือจับลูบไปที่หัวของเธอจนพิกุลค่อยๆ ตื่นขึ้น

"ใครอ่ะ ฝันหรอเนี้ย" จิตของพุดในร่างกายของพิกุลพูดออกมา

"แล้วซิกแพ็ก ชัดมาก! ฝันดีจัง" พุดพูดพลางเอามือไปลูบที่หน้าท้องของประยุงค์ อย่างสนุกมือจนเรียกก่อนที่จะหลับไปอีกรอบ ด้วยสิ่งนี้เรียกได้ว่ามันทำให้ประยงค์เกิดเสียอาการเลยที่เดียว 

ประยงค์รีบลุกไปหยิบของต่างๆ ก่อนที่จะรีบพุ่งตัวไปที่ห้องน้ำทันที เขาถอดเสื้อผ้าออกและเริ่มตักน้ำจากในโอ่งขึ้นมาลาดตัวเพื่อดับความคิดฟุ้งซ่านออกไปให้หมด

"เฮ้อ เฮ้อออ รู้สึกแปลกๆ จัง" ประยงค์บ่นกับตัวเอง "มายก๊อดดดด!!!!!" อยู่ๆ พิกุลก็ตะโกนโวยวายจนประยงค์ต้องรีบวิ่งขึ้นบ้านไป



*********************************************

ตัวอย่าง บทถัดไป

//"เขาเป็นใครหรอลูก" "ลุงนั้นแหละคนนอก แล้วก็ยังเป็นคนผิดของเรื่องนี้ด้วย" //



🌟🌟 นิยายเรื่องนี้อยู่ภายใต้นามปากกา​ k.n. star​ light เนื้อเรื่องทั้งหมดจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่แต่งภายใต้นามปากกา k.n.star​ light​​ 🌟🌟

ติดตามเพื่อรับข่าวสาร

ig : iamnine.krp

x : @iamninekrp

threads : iamnine.krp

public : 2024/03/10