เมื่อหญิงสาวที่มีพลังมองเห็นโลกมืดเหนือธรรมชาติ มาเจอกับทายาทมหาเศรษฐีร้อยล้านที่ตามหาความจริงเกี่ยวกับอดีตบางอย่างของตน เส้นบางๆ ที่กั้นระหว่างโลกมนุษย์กับโลกมืดเกิดเบลอเสียจนแทบแยกไม่ออกอีกต่อไป
พารานอมอล,ลึกลับ,อาชญากรรม,รัก,ผจญภัย,ผจญภัย,ดราม่า,ชาย-หญิง,ลึกลับ,สยองขวัญ,หลอน,วิญญาณ,พระเจ้า,ผี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
แขกที่ไม่ได้รับเชิญ (มี Ebook)เมื่อหญิงสาวที่มีพลังมองเห็นโลกมืดเหนือธรรมชาติ มาเจอกับทายาทมหาเศรษฐีร้อยล้านที่ตามหาความจริงเกี่ยวกับอดีตบางอย่างของตน เส้นบางๆ ที่กั้นระหว่างโลกมนุษย์กับโลกมืดเกิดเบลอเสียจนแทบแยกไม่ออกอีกต่อไป
เมื่อหญิงสาวที่มีพลังมองเห็นโลกมืดเหนือธรรมชาติ มาเจอกับทายาทมหาเศรษฐีร้อยล้านที่ตามหาความจริงเกี่ยวกับอดีตบางอย่างของตน เส้นบางๆ ที่กั้นระหว่างโลกมนุษย์กับโลกมืดเกิดเบลอเสียจนแทบแยกไม่ออกอีกต่อไป
หวานกับการันต์เบิกตาโพลงก่อนหันหน้ามองหน้ากัน
นั่นเป็นโรงแรมเดียวกันกับที่พวกเขาเข้าพัก..
--------
"เดี๋ยวนะ แล้วนี้พวกเธอพักกันที่ไหน?" พ่อจักรถามหลังเห็นท่าทางแปลกพิกลของทั้งหวานและการันต์ หวานกับการันต์เงียบพูดไม่ออก "อย่าบอกนะ.." พ่อจักรพูดน้ำเสียงตกใจ
"ได้มีการชันสูตรศพหรือเปล่าครับ?" การันต์ถามมีความรีบเร่งในน้ำเสียง
"ฉันอยู่กับนภาตลอดตั้งแต่ตอนพวกเขาพบศพจนถึงวันที่ญาติมารับศพ ไม่เห็นว่าจะมีการชันสูตรอะไรเลยนะ" พ่อจักรพูดมือลูบคางด้วยท่าทีครุ่นคิด การันต์คอตก ถ้าไม่มีข้อมูลการชันสูตรศพ ก็เท่ากับว่าเขาไม่มีวันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่นภากันแน่
"ที่แปลกก็คือ.." พ่อจักรยังคงเหม่อมองไปข้างหน้าโดยไม่ได้มองอะไรเป็นพิเศษ ราวกับกำลังมองเห็นภาพความหลังในจินตนาการ "ตอนฉันเข้าไปยืนยันตัวตนของนภา ฉันเห็นรอยเขียวช้ำตามแขนขาของเธอเต็มไปหมด"
การันต์เงยมองพ่อจักร "รอยเขียวช้ำเหรอครับ?"
"ใช่ เหมือนเวลาคนถูกต่อยน่ะ เราจะเห็นรอยช้ำเขียวๆ ม่วงๆ เป็นจ้ำใช่มั้ยล่ะ แบบนั้นเลย" พ่อจักรตอบ
"แล้วตำรวจไม่สงสัยอะไรเลยเหรอครับ ได้มีการสืบสวนคดีอะไรบ้างหรือเปล่า?" การันต์ถามเสียงเครียดขณะหวานแปลภาษาไปมาให้ทั้งพ่อและการันต์ฟัง
"ฉันเองก็ขอร้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวนคดี แต่รูปการมันชี้ไปที่การฆ่าตัวตายชัดเจน พวกเขาไม่คิดว่าจำเป็นต้องสืบสาวหาความอะไรอีก" พ่อจักรดูดบุหรี่ที่ตอนนี้กุดแทบจรดนิ้วมือ "ฉันก็โมโห แต่ชาวบ้านธรรมดาไม่มีเส้นมีสายอย่างเรา ทำอะไรมากไม่ได้หรอก"
ทุกคนนั่งฟังกันเงียบๆ หวานไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขาจะบังเอิญเข้าพักในโรงแรมเดียวกันกับที่ที่แม่ของคุณการันต์จบชีวิตของเธอลง
"พ่อ.. ตอนนั้นคุณนภาเค้าพักอยู่ห้องไหน?" หวานถามเงียบๆ
"พ่อก็ไม่รู้นะ อย่างที่บอก ทุกครั้งที่ไปหานภาที่โรงแรม เราจะพบกันที่ล็อบบี้ข้างล่างเท่านั้น" พ่อจักรตอบ
หวานบอกตัวเองในใจให้ลองถามพนักงานดูตอนกลับที่พัก ถึงจะรู้ดีว่าเรื่องมันเกิดขึ้นนานแล้ว พนักงานที่ทำงานอยู่ที่โรงแรมตอนนี้อาจจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้ แต่อย่างน้อย ก็ต้องลองดูก่อนเผื่อจะได้ข้อมูลอะไรบ้าง
หวานถือโอกาสลาพ่อกับย่าภาเพื่อกลับที่พัก ระหว่างทาง ทั้งหวานและการันต์ต่างนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ส่วนโอ๊ตเองก็รอนานแสนนานจนอารมณ์เสียเลยไม่อยากพูดอะไรไปด้วยอีกคน
พอกลับถึงกำพันอินน์ การันต์ขอตัวกลับห้อง ส่วนหวานกับโอ๊ตเดินไปขอเปิดห้องใหม่กับพนักงานโรงแรมให้โอ๊ต คราวนี้หวานเจาะจงของห้องที่เธอใช้จิตสัมผัสรับรู้ว่าไม่มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญใดๆ โอ๊ตทำท่าทีเซ็งๆ ที่ต้องแยกห้องกับหวาน หวานถอนใจ
"โตๆ กันแล้ว จะมานอนห้องเดียวกันเหมือนเด็กอนุบาลได้ที่ไหน ไม่มีใครมองฝ่ายชายไปในทางเสื่อมเสีย แต่ผู้หญิงที่จะถูกมองไม่ดี" หวานบอกเพื่อน
โอ๊ตทำหน้าเศร้าแต่ไม่ได้คัดค้านอะไร "งั้นขอฉันไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะ อยู่ข้างนอกทั้งวัน เหนียวตัวไปหมด"
หวานพยักหน้า พอโอ๊ตเดินเข้าลิฟท์ไปแล้ว เธอหันไปหาพนักงาน "น้องคะ พี่มีเรื่องอยากถามนิดนึง"
"ค่ะพี่" น้องพนักงานตอบพร้อมรอยยิ้ม
"พี่ได้ยินมาว่ามีคนกระโดดตึกตายที่นี่เมื่อสิบแปดปีก่อน.." หวานเริ่ม
พนักงานหน้าเจื่อน "กระโดดตึกเหรอคะ หนูเพิ่งทำงานที่นี่ได้สามปี ไม่รู้จริงๆ ค่ะพี่ เอ่อ.. รอแป้บนะคะ" เธอพูดก่อนเดินไปหาพนักงานรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ไม่ไกล เธอพูดกับรุ่นพี่อยู่สักพักก่อนทั้งสองเดินกลับมาหาหวาน
พนักงานรุ่นพี่พูดขึ้น "สวัสดีค่ะ ลูกค้าอยากทราบเรื่องเหตุที่เกิดเมื่อสิบแปดปีที่แล้วเหรอคะ ถามได้มั้ยคะว่าอยากรู้เพราะอะไร?"
"เอ่อ.. พอดีฉันเป็นคนที่นี่น่ะค่ะ เกิดที่นี่ โตมาที่นี่ แล้วไปได้ยินเรื่องนี้มา เลยอยากหาข้อมูลไว้เป็นความรู้น่ะ" หวานตอบเรื่อยๆ
"อ๋อค่ะ คือดิฉันเองก็ทำงานที่นี่ได้ไม่ถึงสิบแปดปีนะคะ แต่มีลุงภารโรงอายุมากคนนึงที่เคยทำงานที่นี่มาหลายปี นับย้อนหลังไปก็น่าจะเกินสิบแปดปีเลยค่ะ" พนักงานรุ่นพึ่อธิบาย
หวานเลิกคิ้วตาโต "ดีเลยค่ะ งั้นฉันขอพบคุณลุงเขาหน่อยได้มั้ยคะ"
"แกเกษียนไปแล้วล่ะค่ะ" พนักงานตอบ หวานคอตก ความหวังที่จะได้ข้อมูลเพิ่มเริ่มจะเลือนลาง
"แต่บ้านแกอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นะคะ ถ้าอยากไปหาแก เดี๋ยวฉันจดที่อยู่ให้ค่ะ" พนักงานรุ่นพี่ตอบน้ำเสียงร่าเริง
หวานยิ้มกว้าง ขอบอกขอบใจพนักงานแสนดีเป็นการใหญ่ ก่อนรับแผ่นกระดาษจดที่อยู่แผ่นเล็กๆ มาถือไว้ในมือ
----
ก่อนเดินออกจากโรงแรมมา หวานส่งข้อความไปหาการันต์ ขอให้เขาส่งรูปถ่ายของแม่นภามาให้เธอ การันต์ทำตามที่หวานขอและถามว่าเธอจะเอาไปทำอะไร
"ไว้กลับมาแล้วฉันเล่าให้ฟังนะคะ" เธอตอบ
"ให้ผมไปส่งนะ คุณไปคนเดียว ผมเป็นห่วง" เขาส่งข้อความตอบเธอ
หวานอ่านแล้วต้องอ่านอีกรอบ ก่อนรู้สึกหน้าร้อนผ่าว "ไม่ไกลค่ะ ใกล้ๆ นี่เอง แล้วก็ไม่ใช่สถานที่อันตรายอะไร ลืมแล้วเหรอคะ ว่าที่นี่เป็นบ้านเกิดฉันเอง?" เธอจ้องมองข้อความยาวเหยียดของตัวเองในช่องเขียนอยู่เป็นนาน ก่อนตัดสินใจกดปุ่มส่ง
"โอเคครับ แต่กลับมาถึงเมื่อไหร่บอกผมด้วยนะ"
หวานอ่านข้อความแล้วเผลอยิ้มเล็กๆ ก่อนจะรู้สึกตัวแล้วกระแอมออกมาเบาๆ เธอเขียนข้อความ "ได้เลยค่ะ" กดส่ง เธอเอามือถือใส่กระเป๋าหลังก่อนยกแผ่นกระดาษเล็กๆ ขึ้นดูอีกครั้ง จากนั้นออกเดินไปตามถนนเล็กๆ ข้างหน้า
-- จบ --