คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL) - ตอนที่ ๒ ดวงจิตของคำหอม โดย ดาวดวงที่ห้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,#BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

#BL,พีเรียดไทย,ดราม่า

รายละเอียด

คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?

ผู้แต่ง

ดาวดวงที่ห้า

เรื่องย่อ

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างถี่ถ้วน

*****

    นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องราวแต่งที่เกิดจากจินตนาการเท่านั้น ตัวละคร ฉาก สถานที่
และเหตุการณ์ในเรื่องล้วนสมมุติขึ้นมาทั้งหมด
ไม่ได้มีการพาดพิงถึงใคร ไม่ได้เน้นหลักความสมเหตุสมผลหรือหลักการความเป็นจริงเท่าที่ควรนะคะ

    นิยายวายพีเรียด ไม่อิงประวัติศาสตร์ใด ๆ ภาษาที่ใช้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด อาจมีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย เพื่อให้เข้ากับบริบทของตัวละคร (ตรงส่วนนี้ต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ)

    เนื้อหาในนิยายมีการแบ่งแยกชนชั้นทางสังคมอย่างชัดเจน มีการใช้อำนาจ การดูถูกเหยียดหยาม การถูกกีดกันต่าง ๆ มีฉากความรุนแรง กักขัง ทำร้ายร่างกาย บังคับขู่เข็ญ ไปจนถึงฆาตกรรม มีการกล่าวถึงไสยศาสตร์ ความเชื่อ วิญญาณ ความสูญเสีย

    ตัวละครในเรื่องบางตัวละครมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรลอกเลียนแบบ

*****

   เรื่องราวความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน นำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ยากจะลืมเลือน

  เมื่อคุณชายคำหอม บุตรชายเพียงคนเดียวของพระยาคมศักดิ์ ผู้ปกครองเมืองภูคำใต้ ดันไปตกหลุมรัก พบกล้า ทาสหนุ่มในเรือนของตนเข้าอย่างจัง และเพราะความผูกพันที่ทั้งคู่มีให้กันตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้พวกเขาต่างชอบพอกัน จนก่อตัวเป็นความรักในที่สุด แต่มันดันติดปัญหาตรงที่พวกเขาทั้งคู่ไม่เหมาะสมที่จะเคียงคู่กันเลยสักนิดนี่สิ

  เมื่อคนหนึ่งเป็นถึงคุณชายผู้สูงศักดิ์ กับอีกคนเป็นแค่ทาสใช้แรงงานผู้ต่ำต้อย

  เมื่อคนหนึ่งมีคู่หมั้นหมายที่เหมาะสมกันทั้งหน้าตา ฐานะและยศศักดิ์ กับอีกคนที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีความเหมาะสมใด ๆ เลยสักนิดเดียว

  เมื่อคนหนึ่งรักมากจนแสดงออกมาอย่างชัดเจน กับอีกคนที่รักมากแต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้

  เมื่อคนหนึ่งรักสุดหัวใจ จนไม่สนเรื่องความถูกต้องและความเหมาะสมใด ๆ กับอีกคนที่รักสุดใจ แต่ไม่สามารถมอบความรักให้อีกฝ่ายได้ เพราะเจียมตัวว่าเราต่างไม่คู่ควรกัน 

*****

   ความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน หากยังคงฝืนรักกันต่อไป อาจนำมาซึ่งความสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปตลอดกาล

สารบัญ

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-บ่วงเจ้าคำหอม อารัมภบท,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑ คำสัญญาของทาสหนุ่ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒ ดวงจิตของคำหอม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓ เรื่องที่ยากจะลืมเลือน,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๔ ความปรารถนาของทาสหนุ่ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๕ เบาะแสจากภาพความฝัน,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๖ ภาพจำอดีตของเด็กชายพบกล้า,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๗ ภาพจำเมื่อครั้งแรกเจอ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๘ สาเหตุแรกของความเกลียดชัง,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๙ จากเด็กชายตัวน้อยสู่ชายหนุ่มผู้เติบโต,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๐ เราต่างมีอิทธิพลต่อจิตใจ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๑ รักแรกของว่าที่คู่หมั้น,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๒ ว่าที่คู่หมั้นที่คำหอมไม่ปลื้ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๓ ข้อตกลงที่ไม่คาดคิด,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๔ พบกล้าใจดีกับคำหอมเสมอ

เนื้อหา

ตอนที่ ๒ ดวงจิตของคำหอม

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

.

.

.

   ทุก ๆ การจากลา ย่อมเป็นเรื่องยากจะทำใจ จากเป็นยังพอมีหวังได้หวนกลับมาพบกันใหม่ หากจากตายย่อมเป็นเรื่องยากที่จะได้หวนกลับมาพบกันอีก แม้ทุก ๆ การจากลา อยากจะให้เป็นเพียงแค่ฝันร้ายมากเพียงใด แต่สุดท้ายแล้วความจริงจะคอยตอกย้ำให้ต้องยอมรับเสมอ

   หลังจากการปะทะคารมระหว่างผู้เป็นนายและทาสหนุ่มได้สงบลง เสียงร่ำไห้แทบขาดใจยังคงดังขึ้นไม่ขาดสาย สร้างความมึนงงให้กับผู้มาเยือนใหม่ จนอดไม่ได้ที่จะต้องย่างกรายเข้ามายืนดูเหตุการณ์เช่นกัน

   ผู้มาเยือนใหม่พยายามสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากบรรดาทาสในเรือน เหมือนอย่างทุก ๆ ครั้งที่ตนต้องการคำตอบ


   “เกิดเรื่องอันใดขึ้นเช่นนั้นรึ เสียงดังเอะอะโวยวายดังไปถึงเรือนข้าเชียว”

   …

   “เดช…เกิดเรื่องอันใดขึ้น ตั้งแต่เกิดมาข้ายังมิเคยเห็นเจ้าร่ำไห้เช่นนี้เลย ไยเจ้าถึงมายืนร่ำไห้อยู่กงนี้เพียงลำพัง”

   …

   “ข้าเข้าใจว่ามันยากจะตอบคำถาม หากเจ้ายังคงเสียใจอยู่ เช่นนั้นข้าจะไปหาคำตอบจากผู้อื่นก่อน”

   …

   “ไยพวกเจ้ามิไปทำงานกันเล่า มายืนมุงดูอันใดกัน หากท่านพ่อมาพบเข้า ได้มาดุด่าพวกเจ้าอีกเป็นแน่”

   …

   “แปลกจริง เหตุใดถึงมิมีผู้ใดสนใจข้า หรือคิดตอบคำถามข้าเลยล่ะ”

   …

   “เดือน…นั่นเจ้าร่ำไห้ด้วยเหตุอันใดกัน ยามนี้ข้าเห็นแต่พวกเจ้าร่ำไห้กันมิหยุดหย่อน”

   …

  “นี่พวกเจ้า…มิได้ยินที่ข้าถามเช่นนั้นรึ”


   หากแต่ครั้งนี้มันเป็นเรื่องแปลก เมื่อสอบถามออกไป กลับไม่มีทาสในเรือนให้คำตอบกลับมาแม้แต่คนเดียว แถมทาสพวกนั้นยังพากันเดินร่ำไห้ผ่านหน้าไป โดยไม่สนใจเขาเลย ราวกับว่าไม่มีผู้ใดได้ยินเสียงหรือมองเห็นเขาเลยแม้แต่คนเดียว

   มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่? นั่นเป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจของคุณชายคำหอม

   ความสงสัยและคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบ ส่งผลให้คุณชายคำหอมรีบย่างกรายเข้าไปหาคำตอบทันที ก่อนจะต้องชะงักนิ่งและแสดงท่าทีกังวลออกมา เมื่อได้เห็นใบหน้าของคนที่ตนรักกำลังร่ำไห้แทบขาดใจ ทั้งมารดาผู้เป็นที่รัก ทั้งทาสคนสนิทที่ตนรักและเอ็นดูไม่ต่างจากพี่ชายในสายเลือด รวมไปถึงทาสหนุ่มผู้เป็นคนรักของตน พากันร่ำไห้แทบขาดใจด้วยสาเหตุใดกันแน่

   ความเศร้าโศกของบรรดาคนที่ตนรัก พาให้หัวใจของคุณชายคำหอมรู้สึกเจ็บปวดและเศร้าใจไม่แพ้กัน เมื่อเป็นเช่นนั้นคุณชายคำหอมรีบย่างกรายเข้าไปหวังจะโอบกอด เพื่อปลอบใจบุคคลผู้เป็นที่รักทันที จังหวะที่เขากำลังเดินเข้าไปในวงล้อมนั้น สายตาดันเหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างเข้า จนทำให้เขาต้องหยุดชะงักทันที

   สายตาแห่งความสับสนมึนงง จ้องมองไปยังเบื้องหน้าอย่างสงสัย นั่นคือตัวเขาที่กำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นด้วยสภาพน่าอนาถใจ หากว่านั่นคือตัวเขาจริง ๆ แล้วตัวเขาที่กำลังยืนแน่นิ่งอยู่ตรงนี้...คือผู้ใดกัน?

   .

   .

  จากร่างกายที่มีผิวพรรณเปล่งปลั่งยามนี้กลับซีดเผือด ร่างกายที่เคยสวยงามไร้รอยขีดข่วนใด ๆ ยามนี้กลับเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดที่เกิดจากบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณลำคอ ร่างกายที่เคยมีความอบอุ่นยามนี้กลับเย็นชืดเริ่มแข็งตัว

  ภาพของมารดาและบรรดาทาสคนสนิทกำลังร่ำไห้แทบขาดใจ ภาพของคนรักที่สะอื้นไห้กอบกุมฝ่ามือของตนเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ภาพของคนรักที่ให้คำมั่นสัญญาต่อร่างไร้วิญญาณของตน เป็นสิ่งที่คอยตอกย้ำให้คุณชายคำหอมต้องยอมรับความจริง

   แม้ภาพที่เห็นตรงหน้าในยามนี้มันจะเป็นความจริง หากแต่คุณชายคำหอมก็อยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง เผื่อว่าภาพที่เขาเห็นจะเป็นเพียงฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนเขาก็เท่านั้น

   เมื่อคิดได้เช่นนั้น สองขาเรียวยาวค่อย ๆ เดินตรงมาหยุดอยู่ตรงหน้าของผู้เป็นมารดา ก่อนจะส่งเสียงเรียกมารดาของตนที่ยังคงร่ำไห้ไม่หยุดหย่อน


   “ทะ...ท่านแม่ ท่านได้ยินข้าฤๅไม่ขอรับ”

   “ฮึก…ฮือ”

   “ฮึก…ท่านแม่ ข้าอยู่นี่แล้วไง ข้าอยู่กงหน้าท่านแล้ว ท่านมองเห็นข้าฤๅไม่ขอรับ”

   และก็เป็นอย่างที่คุณชายคำหอมคิดเอาไว้จริง ๆ ไม่มีการตอบกลับหรือตื่นตระหนกใด ๆ คุณหญิงจันทร์หอมยังคงร่ำไห้ไม่หยุดหย่อน แม้ตัวเขาพยายามส่งเสียงเรียก หรือทำท่าทางใด ๆ มารดาของตนก็ไม่ได้ยินเรียกเลยสักนิดเดียว

   “ข้า…ฮึก ข้าจะลากมันมาลงโทษให้สาสม”

   ทันทีที่น้ำเสียงสั่นเครือของทาสหนุ่มที่ตนรักดังขึ้น คุณชายคำหอมจึงเบนความสนใจจากมารดาของตน ไปยังทาสหนุ่มผู้เป็นคนรักของตนทันที เขาได้แต่ขอร้องอ้อนวอนและภาวนาขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน อย่างน้อย ๆ ก็ขอให้คนรักมองเห็นตนแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว


   “ฮึก…พี่กล้า พี่ได้ยินข้าฤๅไม่”

   “…”

   “พี่กล้า…ข้าอยู่กงหน้าท่านแล้วไง ไยท่านถึงเอาแต่ร่ำไห้กันเล่า”

   “…”

   หากแต่คำขอร้องอ้อนวอนนั่นไม่มีทางเป็นจริงได้ เมื่อไม่มีการตอบกลับใด ๆ จากคนที่ตนรัก แม้ว่าคุณชายคำหอมจะร้องเรียกคนรักดังมากแค่ไหน ก็ไม่มีการตอบกลับใด ๆ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ได้ยินหรือมองเห็นเขา นั่นยิ่งทำให้คุณชายคำหอมรู้สึกเสียใจเข้าไปใหญ่ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกัน แล้วเหตุใดเขาถึงตกอยู่ในสภาพนี้ได้

   “กล้าเอ๊ย! แม้คำหอมจะจากไป แต่เจ้ายังคงอยู่ ข้ามิอยากให้เจ้าทำเรื่องเกินตัว เจ้าเองก็มีคนจ้องจะกำจัดอยู่ร่ำไป ทางที่ดีข้าว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางการจะดีและปลอดภัยกับตัวเจ้าหนา”

   “ข้าทราบดีว่าคุณหญิงเป็นห่วงข้า แต่ข้ามิอาจทนเฉยได้หรอกขอรับ คุณชายคำหอมของข้า มิควรต้องมีจุดจบเช่นนี้”

   “...”

   “ฮึก...ข้าสัญญา ข้าจะตามหาตัวไอ้ชั่วนั่นให้เจอ แม้ตัวข้าจะต้องตายจาก ข้าจะลากมันมาลงนรกให้จงได้”


   ทั้ง ๆ ที่คุณชายคำหอม ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาแท้ ๆ แต่ไม่มีผู้ใดมองเห็นเขาเลยแม้แต่คนเดียว ในทางกลับกัน คุณชายคำหอมดันมองเห็นและได้ยินที่มารดา รวมไปถึงคนที่ตนรักกำลังพูดคุยกัน แม้กระทั่งบรรยากาศความเศร้าโศกที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาได้รับรู้ ได้มองเห็น และได้ยินทุก ๆ อย่าง แต่กลับไม่มีผู้ใดรับรู้ถึงการเป็นอยู่ของเขาเลย

   คุณชายคำหอมในยามนี้ได้กลายเป็นบุคคลผู้โดดเดี่ยวบนโลกนี้ไปเสียแล้ว ช่างไม่ยุติธรรมกับตัวเขาเอาเสียเลย

   “ฮึก…พี่กล้า พี่อย่าได้ร่ำไห้ไปเลย”

   ตั้งแต่เกิดมา คุณชายคำหอมยังไม่เคยเห็นน้ำตาของคนรักเลยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นน้ำตาของคนรัก ยิ่งได้เห็น ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดเจียนตาย ความรู้สึกที่อยากจะเข้าไปปลอบใจคนรัก ทำให้คุณชายคำหอมตัดสินใจทำตามความรู้สึกของตนทันที

   ฝ่ามือเรียวค่อย ๆ เอื้อมไปหวังจะโอบกอดเพื่อปลอบใจคนรัก ไม่ให้เศร้าโศกเสียใจไปมากกว่านี้ แต่กลับเป็นคุณชายคำหอมที่ต้องร่ำไห้แทบขาดใจเสียเอง

   ทันทีที่ฝ่ามือเรียวของตนแตะเข้าไปบริเวณไหล่หนาของคนรัก กลับพบว่าฝ่ามือเรียวที่ตนเพิ่งจะแตะตัวคนรักไปเมื่อครู่นี้ ดันทะลุผ่านร่างกายของคนรักไปอย่างง่ายดาย ไม่ว่าพยายามอีกกี่ครั้ง ก็ทะลุผ่านทุกครั้งไป และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ตอกย้ำให้คุณชายคำหอมเข้าใจว่า เพราะเหตุใดถึงไม่มีผู้ใดได้ยินหรือมองเห็นเขาเลย

    ราวกับทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างหยุดเคลื่อนไหว สายตาของคุณชายคำหอมจ้องมองไปยังเบื้องหน้าอย่างเศร้าสร้อย หยาดน้ำตาค่อย ๆ หลั่งไหลออกมาช้า ๆ ภาพตรงหน้ามันยากเกินกว่าจะให้เขายืนหยัดและทำใจยอมรับความจริงได้ แม้กระทั่งจะแตะตัวคนที่ตนรักยังทำไม่ได้เลยสักนิดเดียว มันเป็นเรื่องจริงที่ว่า ตนนั้นได้จากพวกเขาไปจริง ๆ เสียแล้ว


   “ฮึก…นี่ข้าตายไปแล้วจริง ๆ สินะ”

   ...

   “มิรู้ตัวเลยจริง ๆ ข้ามิรู้มาก่อนเลยว่า เมื่อลืมตาตื่นมาในครั้งนี้ จะมิมีผู้ใดมองเห็นและได้ยินข้าอีกต่อไปแล้ว”

   แม้ตอนมีชีวิตอยู่ตัวเขาจะไม่เคยทำกรรมชั่ว หากแต่เมื่อตายไป ดวงจิต ดวงวิญญาณยังคงวนเวียนไม่จากไปไหน เพราะยังมีบ่วงเป็นตัวฉุดรั้งให้เขาต้องวนเวียนอยู่ที่นี่ จนกว่าสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจจะได้รับการคลี่คลาย เมื่อนั้นดวงวิญญาณของเขาจะจากไปอย่างสงบ ไม่มีบ่วงใด ๆ มาคอยรั้งให้เขาต้องอยู่อีกต่อไป

   นับว่ายังเป็นเรื่องดีที่เกิดขึ้นกับดวงวิญญาณของคุณชายคำหอม แม้ร่างกายก่อนจะสิ้นลมหายใจมีสภาพที่น่าสยดสยอง หากแต่ดวงวิญญาณในยามนี้ ยังคงสภาพสวยงาม ไม่ได้น่าเกลียดน่ากลัวเลยสักนิดเดียว

   “ฮึก…มิเป็นไร แม้ท่านแม่ แม้พี่กล้า หรือแม้กระทั่งพวกเจ้าจะมองมิเห็นข้า ก็มิเป็นไร”

   ...

   “ฮึก…จนกว่าจะถึงเวลาที่ข้าต้องไป ข้าจะอยู่เคียงข้างพวกท่านเช่นนี้ตลอดไป”

    คุณชายคำหอมพยายามทำใจและยอมรับความจริง แม้ตัวเขาจะจากไปหากแต่ดวงจิตยังคงผูกติดกับที่แห่งนี้ จนกว่าจะได้รับรู้ความจริงถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องด่วนจากไป คุณชายคำหอมจะยังอยู่กับคนที่ตนรักไม่จากไปไหน และเมื่อถึงเวลาที่ความจริงทั้งหมดคลี่คลาย เมื่อถึงเวลานั้นตัวเขายินดีที่จะจากไปเช่นกัน

   .

   .

   หลังจากใช้เวลาทำใจอยู่นาน ในที่สุดคุณชายคำหอมก็ตัดสินใจย่างกรายเข้าไปมองดูร่างของตนเองอีกครั้ง ชุดที่สวมใส่อยู่บนร่างกายของเขา เป็นชุดเดียวกันกับที่ดวงวิญญาณของเขากำลังสวมใส่อยู่

   สายตาแห่งความสงสัยยังคงจับจ้อง มองไปยังบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณลำคอไม่หยุดหย่อน บาดแผลนั่นน่าจะเกิดขึ้นจากการถูกของมีคมเฉือนเข้าตัดเส้นเลือดโดยตรง 

  เพราะแบบนี้ถึงได้มีหยาดเลือดสีแดงสดนั่นเปรอะเปื้อนไปเกือบทั้งตัวเช่นนี้ สายตาของคุณชายคำหอมมองตามหยาดเลือดเป็นจุด ๆ ที่ติดอยู่บนพื้น ก่อนจะพบเข้ากองเลือดขนาดใหญ่บริเวณหน้าประตูห้องเก็บของเก่า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร่างไร้วิญญาณของเขาประมาณสี่ห้าก้าว

   และแน่นอนว่าบริเวณที่พบกองเลือดขนาดใหญ่นั้น น่าจะเป็นจุดที่เขาถูกฆาตกรรมแน่นอน อาจเป็นไปได้ว่าก่อนจะสิ้นลมหายใจ ตัวเขาพยายามฝืนสังขารเพื่อจะขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไปได้ไม่ไกลเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงได้มานอนนิ่งอยู่ตรงจุดที่ร่างไร้วิญญาณของตนกำลังนอนอยู่

   ผู้ใดเป็นคนกระทำการเลวร้ายเช่นนี้ ผู้ใดเป็นคนฆ่าปาดคอเขา แล้วเมื่อคืนนี้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับตนกันแน่  คุณชายคำหอมพยายามหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรเขาก็คิดไม่ออกเสียที ก่อนที่เสียงร่ำไห้แทบขาดใจของคนรัก มาสะกิดใจให้คุณชายคำหอมรีบย่างกรายเข้าไปหาอีกครั้ง


   “ฮึก…ข้าขอโทษ ที่เมื่อคืนนี้ข้ามิได้อยู่กับท่าน”

   ...

   “หากข้าอยู่กับท่าน บางทีท่านอาจจะมิจากข้าไปไกลแสนไกลเช่นนี้”

   ภาพของคนรักยังคงโอบกอดร่างไร้วิญญาณของตนไว้ไม่ยอมจากไปไหน แม้ว่าในยามนี้จะผ่านมาหลายชั่วโมงและควรถึงเวลาที่ต้องนำร่างของตนออกไปจากบริเวณนี้แล้วก็ตาม แต่คนรักของตนก็ยังไม่ยอมให้ผู้ใดนำร่างของตนออกไปจากบริเวณนี้ นั่นยิ่งทำให้คุณชายคำหอมได้แต่สะอื้นไห้และเจ็บปวดใจไม่ต่างกัน

   เขาอยากเข้าไปโอบกอด อยากเข้าไปปลอบใจคนที่ตนรัก หากแต่ยามนี้ตนไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกต่อไปแล้ว

   เมื่อเห็นว่าคนรักของตนไม่ยอมปล่อยร่างไร้วิญญาณของตนไปง่าย ๆ หากยังปล่อยให้คนรักทำเช่นนั้น มีหวังทาสหนุ่มผู้เป็นคนรักของตนได้มีปากเสียงกับบิดาของตนอีกเป็นแน่ แม้รู้ว่าไม่มีผู้ใดได้ยินหรือมองเห็น แต่คุณชายคำหอมก็เลือกที่จะพูดกับคนรักซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น


   “พี่กล้า…ข้ายังอยู่ข้างกายพี่ ได้โปรดเถิดหากพี่ยังมิปล่อยร่างข้า มีหวังได้ถูกท่านพ่อดุด่าอีกเป็นแน่”

  “พี่กล้า…พี่ได้ยินข้าฤๅไม่”

   “พี่กล้า…พี่ต้องปล่อยร่างข้าบัดเดี๋ยวนี้ อีกประเดี๋ยวท่านพ่อจะมากงนี้”

   “พี่กล้า…ได้โปรด ข้ามิอยากให้พี่ถูกท่านพ่อดุด่าอีก”

   “พี่กล้า…ได้โปรด ได้โปรดปล่อยร่างข้าไป ข้ามิได้ทิ้งพี่ไปไหน ดวงจิตข้ายังคงอยู่กับท่านกงนี้”

   ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พบกล้ายอมปล่อยร่างไร้วิญญาณของคนรักให้เป็นอิสระ ทั้ง ๆ ที่เขาแทบไม่อยากจะปล่อยมือจากคนรักของตนเลยสักนิด แต่จู่ ๆ เขากลับรู้สึกเหมือนว่าตนเองกำลังทำตามเสียงเรียกร้องของคนที่ตนผูกพันเป็นอย่างดีอย่างไรอย่างนั้น

   หลังจากเห็นว่าทาสหนุ่มยอมปล่อยร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นนายให้เป็นอิสระ บรรดาทาสคนสนิทของคุณชายคำหอม ต่างรีบพากันนำร่างของคุณชายคำหอมออกไปจากบริเวณนี้ทันที และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พระยาคมศักดิ์เดินกลับมารับภรรยาสุดที่รัก ให้ไปพักผ่อนที่เรือนหลักหลังจากร่ำไห้มาเป็นเวลานานพอดิบพอดี หากพบกล้ายังไม่ยอมปล่อยให้ร่างไร้วิญญาณของคนรักเป็นอิสระ มีหวังได้มีปากเสียงกับพระยาคมศักดิ์อีกเป็นแน่

   .

   .

   .

   ในยามนี้เหลือเพียงพบกล้า ทาสหนุ่มผู้เป็นคนรักของคุณชายคำหอมอยู่เพียงผู้เดียว เขายังทำใจกับการจากไปของคนรักไม่ได้ ทำใจไม่ได้กับการจากไปทั้ง ๆ ที่ไม่ได้บอกลากัน ทำใจไม่ได้ที่เขาไม่สามารถปกป้องคนรักได้เลย ยิ่งพบกล้ารู้สึกผิด รู้สึกเสียใจมากแค่ไหน คุณชายคำหอมก็ยิ่งรับรู้ความรู้สึกของคนรักมากขึ้นเท่านั้น

   ทันทีที่คุณชายคำหอมเอื้อมมือออกไป หวังจะโอบกอดคนรักอีกครั้ง แม้เขาจะรู้ดีว่าสุดท้ายแล้ว ตัวเขาก็ไม่สามารถสัมผัสร่างกายของคนรักได้ แต่ก็ยังอยากทำ

   ช่วงจังหวะที่ฝ่ามือเรียวกำลังโอบกอดเข้าไปที่แผ่นหลังของคนรัก คุณชายคำหอมต้องชะงักไปอีกครั้ง เมื่อสายตาดันมองเห็นบาดแผลที่ยังแห้งไม่สนิทดี มันเป็นบาดแผลที่เกิดจากการถูกเฆี่ยนตี บาดแผลเต็มแผ่นหลังของคนรัก ทำให้คุณชายคำหอมพยายามหวนนึกไปถึงที่มาของบาดแผลนั่นอีกครั้ง

   ก่อนที่ภาพเหตุการณ์ที่นั้น จะค่อย ๆ ไหลย้อนเข้ามาเป็นช่วง ๆ ยิ่งภาพความทรงจำไหลย้อนเข้ามามากเพียงใด ยิ่งทำให้คุณชายคำหอมมั่นใจและเข้าใจว่า เมื่อคืนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ ยังทันได้เห็นช่วงเวลาที่คนรักได้รับบาดแผลพวกนี้มา แต่หลังจากนั้นเขากลับจำอะไรไม่ได้อีกเลย

   เขาต้องถูกฆาตกรรมเมื่อคืนนี้อย่างแน่นอน แต่จะเป็นช่วงเวลาใด และผู้ใดเป็นคนพรากชีวิตของเขาไปกันแน่ หลังจากนี้คุณชายคำหอมจะตามสืบหาความจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเอง เขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้หลุดมือไปง่าย ๆ ผู้ที่พรากชีวิตของเขาไป จะต้องได้รับโทษอย่างสาสม