คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
ชาย-ชาย,#BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
ผู้แต่ง
ดาวดวงที่ห้า
เรื่องย่อ
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างถี่ถ้วน
*****
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องราวแต่งที่เกิดจากจินตนาการเท่านั้น ตัวละคร ฉาก สถานที่
และเหตุการณ์ในเรื่องล้วนสมมุติขึ้นมาทั้งหมด
ไม่ได้มีการพาดพิงถึงใคร ไม่ได้เน้นหลักความสมเหตุสมผลหรือหลักการความเป็นจริงเท่าที่ควรนะคะ
นิยายวายพีเรียด ไม่อิงประวัติศาสตร์ใด ๆ ภาษาที่ใช้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด อาจมีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย เพื่อให้เข้ากับบริบทของตัวละคร (ตรงส่วนนี้ต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ)
เนื้อหาในนิยายมีการแบ่งแยกชนชั้นทางสังคมอย่างชัดเจน มีการใช้อำนาจ การดูถูกเหยียดหยาม การถูกกีดกันต่าง ๆ มีฉากความรุนแรง กักขัง ทำร้ายร่างกาย บังคับขู่เข็ญ ไปจนถึงฆาตกรรม มีการกล่าวถึงไสยศาสตร์ ความเชื่อ วิญญาณ ความสูญเสีย
ตัวละครในเรื่องบางตัวละครมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรลอกเลียนแบบ
*****
เรื่องราวความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน นำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ยากจะลืมเลือน
เมื่อคุณชายคำหอม บุตรชายเพียงคนเดียวของพระยาคมศักดิ์ ผู้ปกครองเมืองภูคำใต้ ดันไปตกหลุมรัก พบกล้า ทาสหนุ่มในเรือนของตนเข้าอย่างจัง และเพราะความผูกพันที่ทั้งคู่มีให้กันตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้พวกเขาต่างชอบพอกัน จนก่อตัวเป็นความรักในที่สุด แต่มันดันติดปัญหาตรงที่พวกเขาทั้งคู่ไม่เหมาะสมที่จะเคียงคู่กันเลยสักนิดนี่สิ
เมื่อคนหนึ่งเป็นถึงคุณชายผู้สูงศักดิ์ กับอีกคนเป็นแค่ทาสใช้แรงงานผู้ต่ำต้อย
เมื่อคนหนึ่งมีคู่หมั้นหมายที่เหมาะสมกันทั้งหน้าตา ฐานะและยศศักดิ์ กับอีกคนที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีความเหมาะสมใด ๆ เลยสักนิดเดียว
เมื่อคนหนึ่งรักมากจนแสดงออกมาอย่างชัดเจน กับอีกคนที่รักมากแต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้
เมื่อคนหนึ่งรักสุดหัวใจ จนไม่สนเรื่องความถูกต้องและความเหมาะสมใด ๆ กับอีกคนที่รักสุดใจ แต่ไม่สามารถมอบความรักให้อีกฝ่ายได้ เพราะเจียมตัวว่าเราต่างไม่คู่ควรกัน
*****
ความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน หากยังคงฝืนรักกันต่อไป อาจนำมาซึ่งความสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปตลอดกาล
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
.
.
.
หยาดน้ำตาที่ยังคงไหลรินของทาสหนุ่ม ผู้ใดแลเห็นเป็นต้องเศร้าโศก ผู้ใดแลเห็นเป็นต้องสงสาร ผู้ใดแลเห็นเป็นต้องทุกข์ใจไม่แพ้กัน
เป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์มานี้ ที่ทาสหนุ่มผู้น่าสงสารยังคงให้ความเศร้าโศกเข้าครอบงำจิตใจ บาดแผลตามแผ่นหลังเริ่มแห้งสนิทดี ร่องรอยของบาดแผลบนแผ่นหลังที่นอกจะสร้างความเจ็บปวดให้ตัวของเขาแล้ว ยังสร้างความทรงจำเลวร้ายให้กับตัวเขาอีกด้วย เพราะบาดแผลที่เขาได้รับมานั้น เป็นวันเดียวกับที่คนรักจากไปตลอดกาล
แม้เขาจะไม่ได้ร่ำไห้เหมือนช่วงแรก ๆ แต่ความเศร้าทางจิตใจยังคงอยู่กับเขาเรื่อยมา ฝ่ามือหยาบกระด้างพยายามกอบกุมพวงมาลัยดอกไม้เอาไว้อย่างดี แม้มาลัยดอกไม้ในมือนี้จะไม่ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกมะลิเหมือนอย่างช่วงแรกที่ได้รับมาแล้ว แม้มาลัยดอกไม้นี้มันจะแห้งเหี่ยวและโรยราไปตามกาลเวลาแล้วก็ตาม
แต่พบกล้าก็เลือกที่จะไม่ทิ้งไป เขาเลือกที่เก็บรักษามันไว้เป็นอย่างดี ต่อให้ดอกไม้พวกนั้นจะร่วงโรยจนไม่เหลือเศษซากใด ๆ พบกล้าก็เลือกที่จะเก็บเอาไว้อยู่ดี
เพราะมาลัยดอกไม้แห้งเหี่ยวที่อยู่ในมือของตนในยามนี้ เป็นของแทนใจของคนสำคัญที่ทำให้พบกล้าต้องเสียน้ำตาทุกครั้งที่จ้องมองมัน แม้จะเสียน้ำตาทุกครั้งแต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พบกล้าไม่มีความคิดที่อยากจะทิ้งมันไปเลยสักนิด หากเขาเลือกที่จะทิ้งไป เท่ากับว่าเขาจะต้องทิ้งความทรงจำและภาพแห่งความสุขที่เกี่ยวกับมาลัยดอกไม้นี้ไปจากใจเช่นกัน และแน่นอนว่าการทำเช่นนั้นมันยิ่งทำให้พบกล้าเจ็บปวดมากกว่าที่เป็นอยู่ก็เป็นได้ เขาถึงได้เลือกที่จะไม่ทิ้งไปแต่เลือกที่จะเก็บเอาไว้ข้างกายเป็นอย่างดี
มาลัยดอกไม้นี้มีความทรงจำต่าง ๆ มากมาย ที่เกิดขึ้นกับตัวเขาและชายผู้เป็นที่รัก เป็นมาลัยดอกไม้ที่คุณชายคำหอมมอบให้เขาในทุก ๆ วัน และพบกล้าเอง ก็มักได้รับมาลัยดอกไม้มาตั้งแต่ช่วงที่คุณชายคำหอมเริ่มมีใจให้เขามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันสุดท้ายที่เขาได้รับมันจากมือของคนรัก นั่นก็คือช่วงเช้าของวันที่คุณชายจะถูกฆาตกรรม นั่นเป็นมาลัยดอกไม้พวงสุดท้ายที่เขาได้รับจากมือของคุณชายคำหอม ผู้เป็นคนรักของตน
นับเป็นเวลากว่าเจ็ดปีแล้วที่พบกล้าได้รับมาลัยดอกไม้มาตลอด แต่หลังจากนี้เขาคงไม่มีโอกาสได้รับมาลัยดอกไม้จากมือของคนรักอีกต่อไปแล้ว เพราะคุณชายคำหอม คนรักที่เป็นทั้งรักแรกและรักเดียวของตนนั้น ได้จากไปไกลแสนไกลแล้วจริง ๆ
“ตัวเจ้าคำหอมของข้า ป่านนี้ท่านจะเป็นเช่นไรบ้าง ได้กินอิ่ม นอนหลับสบายบ้างฤๅไม่ขอรับ”
เพราะไม่รู้เลยว่ายามนี้ คนรักของตนเป็นอย่างไรบ้าง แม้อีกฝ่ายจะจากไปไกลแสนไกลแล้วก็ตาม หากแต่ความเป็นห่วงเป็นใยที่พบกล้ามีให้คุณชายคำหอมมาตลอด ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงไป
“ตัวเจ้าคำหอมของข้า ข้ามารอท่านอยู่ใต้ต้นพิกุลนี่เหมือนอย่างทุกวัน ไยป่านนี้แล้วท่านถึงยังมิมาหาข้ากันล่ะขอรับ”
ต้นพิกุลที่พบกล้าเอ่ยถึง เป็นต้นไม้ที่มีความทรงจำมากมายระหว่างเขากับคุณชายคำหอม ต้นพิกุลนี่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของเรือนรอง ซึ่งเป็นเรือนพักอาศัยของคุณชายคำหอม แน่นอนว่าช่วงที่คุณชายคำหอมยังมีชีวิตอยู่ พวกเขามักถูกกีดกันไม่ให้อยู่ด้วยกัน นั่นจึงทำให้คุณชายคำหอมและพบกล้าเลือกใช้ต้นพิกุลนี่เป็นจุดแอบนัดพบกันในช่วงเวลาสั้น ๆ
ในยามนั้นเพียงแค่พวกเขาทั้งคู่ได้พบหน้ากันเพียงแค่เสี้ยววินาที ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของทั้งสองฝ่ายแล้ว
“ไยป่านนี้แล้ว ข้าถึงยังมิได้รับมาลัยดอกไม้กับรอยยิ้มสดใสของท่านกันล่ะขอรับ”
ในยามนั้น มาลัยดอกไม้ที่เคยคิดว่าเป็นเพียงสิ่งของนอกกาย ที่อีกฝ่ายเพียงแค่มอบให้มาตนก็ยินดีที่จะรับไว้เช่นกัน หากแต่ในยามนี้ มาลัยดอกนี้ได้กลายเป็นของแทนใจของคุณชายคำหอมไปเสียแล้ว
“ฮึก…ตัวเจ้าคำหอม คุณชายคำหอมของข้า นี่ท่านทิ้งข้าไปแล้วจริง ๆ สินะขอรับ”
แม้จะเอ่ยตัดพ้อและหวนคิดไปถึงเรื่องราวความทรงจำในอดีตมาเพียงใด สุดท้ายแล้วพบกล้าก็ต้องทำใจยอมรับ และยืนหยัดอยู่บนโลกแห่งความจริงให้ได้ นอกจากมาลัยดอกไม้ที่แห้งเหี่ยวในมือแล้ว ภาพความว่างเปล่าตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เป็นสิ่งเตือนใจเขาแล้วว่า คุณชายคำหอมผู้เป็นที่รักของตน ไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว
“ตัวเจ้าคำหอมของข้า ท่านรู้ฤๅไม่ว่าตั้งแต่ที่ท่านจากไป ข้ามิเคยมีความสุขอีกเลยนะขอรับ”
…
“ฮึก…คุณชายคำหอมของข้า ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน ข้าคิดถึงท่านสุดหัวใจ”
น้ำเสียงสั่นเครือของทาสหนุ่ม เอ่ยพูดกับมาลัยดอกไม้แห้งเหี่ยวที่อยู่ในมือของตนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ความเสียใจและความสูญเสียอาจทำให้ทาสหนุ่มทำใจยอมรับความจริงได้ยาก
ในยามนี้พบกล้าราวกับคนไร้สติ ยังคงคิดฟุ้งซ่านอยู่เพียงลำพัง ตั้งแต่ที่คนรักจากไปเหมือนอย่างทุกวันที่ผ่านมา ความเสียใจทำให้สภาพจิตใจของพบกล้าย่ำแย่ลง เขายังคงจมปรักอยู่กับความเศร้าเสียใจ ยังคงยึดติดอยู่กับภาพความทรงจำในอดีต ยังคงยึดติดอยู่กับช่วงเวลาที่ตัวเขาและคุณชายคำหอมยังคงอยู่ด้วยกันไม่จากกันไปไหน
.
.
ภาพของทาสหนุ่มผู้เป็นที่รักนั่งน้ำตาซึมอยู่ใต้ต้นพิกุล อีกทั้งในมือยังคงถือพวงมาลัยดอกไม้พวงสุดท้ายที่เขาเป็นคนมอบให้ก่อนจะจากไป ทาสหนุ่มยังคงพร่ำเพ้อคิดถึงเขาแทบจะตลอดเวลาไม่หยุดหย่อน ยิ่งได้เห็นภาพเหล่านั้นก็ยิ่งสร้างความเสียใจให้กับดวงวิญญาณของคุณชายคำหอมอยู่ไม่น้อย เป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ตัวเขายังคงวนเวียนอยู่ข้างกายทาสหนุ่มไม่จากไปไหน แต่อีกฝ่ายไม่ได้รับรู้ถึงความเป็นอยู่ของเขาเลย
สายตาของคุณชายคำหอมในยามนี้กำลังจับจ้องไปยังคนรักอย่างไม่วางตา ยิ่งได้เห็นคนรักเศร้าโศกเสียใจ และยังคงหวนคิดถึงช่วงเวลาที่พวกเขายังอยู่ด้วยกันมากเพียงใด คุณชายคำหอมก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจมากขึ้นเท่านั้น เพราะเขาเองก็ทำใจยอมรับไม่ได้และไม่ได้อยากให้เรื่องราวทั้งหมดลงเอยแบบนี้เลยสักนิดเดียว
“ตัวเจ้าคำหอมของข้า ป่านนี้ท่านจะเป็นเช่นไรบ้าง ได้กินอิ่ม นอนหลับสบายบ้างฤๅไม่”
‘ฮึก…ข้าสบายดี ตราบใดที่ข้าอยู่ข้างกายพี่ ข้าย่อมสบายดี’
ทุกคำถามที่คนรักเอ่ยถามแน่นอนว่า คุณชายคำหอมเองก็ตอบกลับแทบจะทุกประโยค หากแต่คนรักของตนไม่สามารถได้ยินมันก็เท่านั้นเอง
“ตัวเจ้าคำหอมของข้า ข้ามารอท่านอยู่ใต้ต้นพิกุลนี่เหมือนอย่างทุกวัน ไยป่านนี้แล้วท่านถึงยังมิมาหาข้ากันล่ะขอรับ”
‘ข้ามาหาพี่แล้วไง ฮึก…ข้าอยู่ข้างกายพี่มาตลอด ยามนี้ข้ามาอยู่กงหน้าพี่แล้วนี่ไง’
แม้คุณชายคำหอมพยายามส่งเสียงร้องเรียก พยายามเอ่ยคำพูดใด ๆ ออกไป หรือแม้กระทั่งแสดงท่าทางใด ๆ ออกไป คนรักของตนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็ไม่ได้ยินอยู่ดี
สำหรับคุณชายคำหอมแล้วไม่มีอะไรเจ็บปวดใจเท่ากับการที่เขายังคงอยู่ข้างกายคนรัก แต่คนรักของตนกลับไม่ได้รับรู้ถึงการเป็นอยู่ของเขาเลย โลกที่คนรักของเขาอยู่ช่างต่างจากโลกที่เขาอยู่เหลือเกิน อีกฝ่ายเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ต่างจากเขาที่เป็นเพียงดวงวิญญาณมีบ่วง ที่ยังคงไปไหนไม่ได้จนกว่าสิ่งที่ค้างคาอยู่จะได้รับการคลี่คลาย ไม่มีตัวตนในสายตาของผู้ใดเลย แม้กระทั่งสายตาของคนที่ตนรักที่สุดในหัวใจก็ตาม
“ไยป่านนี้แล้ว ข้าถึงยังมิได้รับมาลัยดอกไม้กับรอยยิ้มสดใสของท่านกันล่ะขอรับ”
‘ฮึก…ข้าเสียใจ ข้าเสียใจที่มิอาจทำเช่นนั้นให้พี่ได้อีกต่อไปแล้ว ฮึก…ข้าเสียใจจริง ๆ’
ตลอดระยะเวลากว่าเจ็ดปีที่ตัวเขาได้ทำในสิ่งที่รัก ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่คุณชายคำหอมรู้สึกเจ็บปวดใจเท่านี้มาก่อน การได้ทำในสิ่งที่รักมาตลอดหลายปี แต่อยู่มาวันหนึ่งกลับไม่มีโอกาสได้ทำอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่เพราะไม่ชอบ ไม่ใช่เพราะไม่อยากทำ หรือไม่ใช่เพราะไม่เห็นค่าใด ๆ จากการทำสิ่งเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเพราะเขาไม่สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้อีกต่อไปแล้วต่างหาก
หากตัวเขาไม่ด่วนจากไปเสียก่อน วันนี้จะเป็นอีกหนึ่งวันที่สร้างความทรงจำที่สวยงามให้กับพวกเขาทั้งคู่ก็ว่าได้ เพราะในวันนี้จะครบรอบแปดปี ที่เขาได้ทำมาลัยดอกไม้มามอบให้กับทาสหนุ่ม ผู้เป็นคนรักของตน
“ฮึก…ตัวเจ้าคำหอม คุณชายคำหอมของข้า นี่ท่านทิ้งข้าไปแล้วจริง ๆ สินะขอรับ”
‘ข้ามิเคยทิ้งพี่ไปไหน ข้ายังคงอยู่ข้างกายพี่ จนกว่าจะถึงเวลาที่ข้าต้องจากไปจริง ๆ’
แม้จะเศร้าใจมาเพียงใด แต่คุณชายคำหอมก็ยังคงตอบกลับทุกคำเอ่ยถามของคนรักเช่นกัน
“ตัวเจ้าคำหอมของข้า ท่านรู้ฤๅไม่ว่าตั้งแต่ที่ท่านจากไป ข้ามิเคยมีความสุขอีกเลยนะขอรับ”
‘ข้ารับรู้...ฮึก ข้ารับรู้และมองเห็นมาตลอด ข้ามิอยากให้มันเป็นเช่นนี้ ข้ายังมิอยากตาย ข้ายังอยากอยู่กับพี่’
“ฮึก…คุณชายคำหอมของข้า ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน คิดถึงท่านสุดหัวใจ”
‘ฮึก…ฮืออ พี่กล้า ข้าเองก็คิดถึงพี่ใจจะขาด ข้าอยากกอดพี่เหลือเกิน แต่ข้ากลับทำเช่นนั้นมิได้เลย’
สิ้นคำเอ่ยของทาสหนุ่มผู้เป็นที่รัก คุณชายคำหอมไม่อาจทนต่อความเสียใจได้อีกต่อไป ความรักและความผูกพันที่ตัวเขามีให้กับคนรัก มันมากเกินกว่าจะให้เขาตัดใจและยอมรับความจริงถึงการสูญเสียได้
แน่นอนว่าทั้งคุณชายคำหอมและตัวของพบกล้าเอง ไม่สามารถลืมเลือนเรื่องราวความทรงจำในอดีตที่พวกเขามีต่อกันได้ ต่อให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะจากไปแล้ว หากแต่ความรัก ความผูกพัน และภาพความจำแห่งความสุขในอดีต ยังคงอยู่ในใจของพวกเขาตลอดกาล
.
.
.
หลังจากคุณชายคำหอม บุตรชายของพระยาคมศักดิ์และคุณหญิงจันทร์หอมจากไป ก็เป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ที่บรรยากาศในเรือนไทยแห่งนี้ ไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเหมือนตอนที่คุณชายคำหอมยังมีชีวิตอยู่
บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความเศร้า เสียงร่ำไห้ยังคงดังระงมเป็นครั้งคราว บรรดาทาสคนสนิทและเจ้าของเรือน ยังคงเศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์ความสูญเสียนั้น แต่พวกเขาก็พยายามทำใจยอมรับความจริง แม้จะเสียใจมากเพียงใดแต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี
หลังจากผ่านไปกว่าสองสัปดาห์ ในที่สุดทุกคนในเรือนก็เริ่มทำใจถึงความสูญเสียนั้นได้ และแม้ว่าคนในเรือนส่วนใหญ่จะทำใจกันได้แล้วก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วก็ยังมีบุคคลหนึ่ง ที่ยังคงให้ความเศร้าเสียใจนั้นกัดกินใจตนอยู่ตลอดเวลาไม่เปลี่ยนแปลง
“กล้าเอ๊ย เจ้าอย่าได้จมอยู่กับความเศร้านักเลย คำหอมเองก็คงมิอยากเห็นเจ้าอยู่ในสภาพเช่นนี้หรอกหนา”
น้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยของคุณหญิงจันทร์หอมดังขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาเศร้าหมองของทาสหนุ่มที่ตนรักและเอ็นดูเหมือนลูกชายอีกคน
ตลอดระยะเวลาสองสัปดาห์มานี้ เธอยังคงเห็นทาสหนุ่มยังคงจมปรักอยู่กับความเศร้าเสียใจ แม้ว่าจะมีบางช่วงที่อีกฝ่ายตั้งตาตั้งตาเอาแต่สืบหาความจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนไม่ยอมกินไม่ยอมหลับยอมนอน ติดต่อกันมานานเป็นเวลาหลายวัน ส่งผลให้ร่างกายจากที่เคยแข็งแรง กลับซูบผอมและโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด
“คุณหญิง…ข้าพยายามแล้วขอรับ ข้าพยายามทำใจยอมรับความจริงแล้ว หากแต่ภาพและความทรงจำในใจข้า ยังคงมีคุณชายคำหอมอยู่ตลอดเลยขอรับ”
“…”
“ข้ามิอาจลืมเลือนภาพเหล่านั้นได้ และข้าก็มิได้อยากลืมเลือนภาพเหล่านั้นเช่นกันขอรับ ถึงแม้มันจะทำให้ข้าเศร้าใจอยู่เช่นนี้ ข้าก็ยินดีนะขอรับ”
คำตอบที่คุณหญิงจันทร์หอมได้ยินนั้น นอกจากจะสร้างความเศร้าใจให้กับเธอแล้ว เธอยังมองเห็นความจริงใจที่ว่า ทาสหนุ่มผู้นี้รักลูกชายของเธอมากจริง ๆ รักมาตลอด และก็ถูกกีดกันความรักจากสามีของเธอมาตลอดเช่นกัน
ในยามนี้เธอทั้งสงสาร ทั้งรู้สึกผิดต่อทาสหนุ่มและบุตรชายของเธอ ในตอนที่คำหอมยังมีชีวิตอยู่ เธอไม่สามารถช่วยให้พวกเขาทั้งคู่มีความสุขได้เลย เพราะในยามนั้นเธอไม่ได้มีอำนาจหรือมีสิทธิ์มีเสียงมากพอ ในการพูดเจรจาต่อรองกับสามีได้เลย สามีของเธอย่อมมีอำนาจกว่าทุกคนเสมอ แม้กระทั่งกับเธอเองเช่นกัน
“เฮ้อ…เจ้ากล้าเอ๊ย ในเมื่อเจ้าลืมมิได้ก็มิต้องลืม หากแต่เจ้าควรกลับมารักตัวเองบ้าง หน้าตาโทรมลงไปมาก อีกทั้งร่างกายเจ้าซูบผอมลงเช่นนี้ คำหอมจะเป็นห่วงเจ้าเอาหนา”
“…”
“หากเจ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป มิยอมกินยอมนอน เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาคงเดิม มีหวังตามสืบหาความจริงต่อไปมิไหวแน่ เจ้าอยากให้เป็นเช่นนั้นฤๅ”
แม้ช่วงแรกคุณหญิงจันทร์หอมจะไม่เห็นด้วยในการปล่อยให้ทาสหนุ่ม ตามสืบหาความจริงทั้งหมดเพียงคนเดียว เพราะเธอเป็นห่วงทาสหนุ่มกลัวว่าอาจจะเกิดอันตรายร้ายแรงกับอีกฝ่ายได้ แต่เมื่อเธอได้เห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของอีกฝ่าย เธอจึงตัดสินใจปล่อยให้ทาสหนุ่มได้ทำตามความตั้งใจของอีกฝ่ายเอง และเธอจะคอยเป็นหูเป็นตาให้กับทาสหนุ่มอยู่ไกล ๆ เมื่อใดก็ตามที่ทาสหนุ่มผู้นี้ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ เมื่อนั้นเธอจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว
“ข้ามิอยากให้เป็นเช่นนั้นขอรับ ข้าสัญญากับคุณชายคำหอมแล้วว่า ข้าจะตามหาความจริงของเรื่องนี้ให้เจอ”
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าจงดูแลตัวเองให้ดี ข้าให้ฉัตรเตรียมอาหารมาให้เจ้าแล้ว อย่าลืมกินเสียล่ะ”
ทันทีที่คุณหญิงจันทร์หอมว่าจบ ฉัตร ทาสหนุ่มคนสนิทของคุณชายคำหอม ที่หลังจากคุณชายคำหอมจากไป ได้มาทำหน้าที่ในการดูแลคุณหญิงจันทร์หอมแทน ก็เดินถือถาดอาหารชุดใหญ่ที่คุณหญิงจันทร์หอมสั่งให้เตรียมไว้ ยกมาวางตรงหน้าของพบกล้าทันที
“ขอบพระคุณขอรับคุณหญิง”
“ขอแค่เจ้าดูแลตัวเองให้ดี หลังจากนี้หากเจ้าจะสืบหาความจริงใด ๆ ข้าจะมิห้ามเจ้าอีกต่อไป หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ข้าจะช่วยเหลือเจ้าเต็มที่เอง เข้าใจฤๅไม่”
“ขอรับคุณหญิง ข้าเข้าใจแล้วขอรับ”