คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL) - ตอนที่ ๑๒ ว่าที่คู่หมั้นที่คำหอมไม่ปลื้ม โดย ดาวดวงที่ห้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,#BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

#BL,พีเรียดไทย,ดราม่า

รายละเอียด

คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?

ผู้แต่ง

ดาวดวงที่ห้า

เรื่องย่อ

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างถี่ถ้วน

*****

    นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องราวแต่งที่เกิดจากจินตนาการเท่านั้น ตัวละคร ฉาก สถานที่
และเหตุการณ์ในเรื่องล้วนสมมุติขึ้นมาทั้งหมด
ไม่ได้มีการพาดพิงถึงใคร ไม่ได้เน้นหลักความสมเหตุสมผลหรือหลักการความเป็นจริงเท่าที่ควรนะคะ

    นิยายวายพีเรียด ไม่อิงประวัติศาสตร์ใด ๆ ภาษาที่ใช้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด อาจมีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย เพื่อให้เข้ากับบริบทของตัวละคร (ตรงส่วนนี้ต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ)

    เนื้อหาในนิยายมีการแบ่งแยกชนชั้นทางสังคมอย่างชัดเจน มีการใช้อำนาจ การดูถูกเหยียดหยาม การถูกกีดกันต่าง ๆ มีฉากความรุนแรง กักขัง ทำร้ายร่างกาย บังคับขู่เข็ญ ไปจนถึงฆาตกรรม มีการกล่าวถึงไสยศาสตร์ ความเชื่อ วิญญาณ ความสูญเสีย

    ตัวละครในเรื่องบางตัวละครมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรลอกเลียนแบบ

*****

   เรื่องราวความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน นำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ยากจะลืมเลือน

  เมื่อคุณชายคำหอม บุตรชายเพียงคนเดียวของพระยาคมศักดิ์ ผู้ปกครองเมืองภูคำใต้ ดันไปตกหลุมรัก พบกล้า ทาสหนุ่มในเรือนของตนเข้าอย่างจัง และเพราะความผูกพันที่ทั้งคู่มีให้กันตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้พวกเขาต่างชอบพอกัน จนก่อตัวเป็นความรักในที่สุด แต่มันดันติดปัญหาตรงที่พวกเขาทั้งคู่ไม่เหมาะสมที่จะเคียงคู่กันเลยสักนิดนี่สิ

  เมื่อคนหนึ่งเป็นถึงคุณชายผู้สูงศักดิ์ กับอีกคนเป็นแค่ทาสใช้แรงงานผู้ต่ำต้อย

  เมื่อคนหนึ่งมีคู่หมั้นหมายที่เหมาะสมกันทั้งหน้าตา ฐานะและยศศักดิ์ กับอีกคนที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีความเหมาะสมใด ๆ เลยสักนิดเดียว

  เมื่อคนหนึ่งรักมากจนแสดงออกมาอย่างชัดเจน กับอีกคนที่รักมากแต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้

  เมื่อคนหนึ่งรักสุดหัวใจ จนไม่สนเรื่องความถูกต้องและความเหมาะสมใด ๆ กับอีกคนที่รักสุดใจ แต่ไม่สามารถมอบความรักให้อีกฝ่ายได้ เพราะเจียมตัวว่าเราต่างไม่คู่ควรกัน 

*****

   ความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน หากยังคงฝืนรักกันต่อไป อาจนำมาซึ่งความสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปตลอดกาล

สารบัญ

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-บ่วงเจ้าคำหอม อารัมภบท,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑ คำสัญญาของทาสหนุ่ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒ ดวงจิตของคำหอม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓ เรื่องที่ยากจะลืมเลือน,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๔ ความปรารถนาของทาสหนุ่ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๕ เบาะแสจากภาพความฝัน,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๖ ภาพจำอดีตของเด็กชายพบกล้า,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๗ ภาพจำเมื่อครั้งแรกเจอ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๘ สาเหตุแรกของความเกลียดชัง,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๙ จากเด็กชายตัวน้อยสู่ชายหนุ่มผู้เติบโต,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๐ เราต่างมีอิทธิพลต่อจิตใจ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๑ รักแรกของว่าที่คู่หมั้น,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๒ ว่าที่คู่หมั้นที่คำหอมไม่ปลื้ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๓ ข้อตกลงที่ไม่คาดคิด,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๔ พบกล้าใจดีกับคำหอมเสมอ

เนื้อหา

ตอนที่ ๑๒ ว่าที่คู่หมั้นที่คำหอมไม่ปลื้ม

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
.

.

.

    คุณชายคำหอมจำได้ว่า หลังจากที่บิดาของตนกีดกันไม่ให้ตนกับเด็กชายพบกล้าได้มาเจอกันอีก ผ่านไปประมาณสองปี ตนนั้นได้รู้จักกับเด็กชายคนหนึ่ง แต่กลับจำชื่ออีกฝ่ายไม่ได้ หากแต่ในยามนี้คุณชายคำหอมได้รับรู้แล้วว่าอีกฝ่ายคือไตรภพคนนี้นั่นเอง

    แต่สาเหตุที่ทำให้คุณชายคำหอมจำไตรภพตอนเจอกันเมื่อครู่ไม่ได้ เนื่องจากตอนเป็นเด็กนั้น เขาไม่ได้ใส่ใจเด็กชายคนนั้นเท่าที่ควร เด็กชายคนนั้นดูโตกว่าเขา ทั้งส่วนสูงและอายุที่น่าจะใกล้เคียงกับพี่ชายใจดีที่เขามักคิดถึง

    เด็กชายคนนั้นมักจะมาชวนเขาเล่นด้วยกันอยู่เสมอ แรก ๆ เขาก็เล่นด้วย เพราะรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว แต่พักหลังเขาไม่ชอบการกระทำของเด็กชายคนนั้น เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ใจดีเหมือนอย่างเด็กชายพบกล้าเลยสักนิด

    เด็กชายไตรภพในตอนนั้น มักพูดจาอวดเก่ง กลั่นแกล้งและพูดจาไม่ดีต่อหน้าทาสติดตาม และที่สำคัญเด็กชายไตรภพมักจะชอบมาหยอกล้อเขาอยู่เสมอ และด้วยความที่ในยามนั้นยังเป็นเด็ก จึงทำให้เขาเอาแต่ร่ำไห้งอแงเวลาที่อีกฝ่ายจะมาเล่นด้วยเสมอ แน่นอนว่าอีกฝ่ายเองก็ทำอะไรไม่ถูกเวลาที่เขาเอาแต่ร่ำไห้ เด็กชายไตรภพจึงใช้วิธีปลอบใจโดยการหอมแก้มอ้วน ๆ ของเด็กชายคำหอม ก่อนจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายน่ารักเกินกว่าจะแกล้งให้เสียใจ

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่เด็กชายไตรภพรู้สึกชอบเด็กชายคำหอมมากขึ้นไปอีก และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเด็กชายไตรภพก็หยุดหยอกล้อเด็กชายคำหอมไปโดยปริยาย พยายามชวนอีกฝ่ายเล่น พยายามเข้าหาอีกฝ่ายดี ๆ ไม่จู่โจม ไม่กลั่นแกล้ง แต่เด็กชายคำหอมเอาแต่พยายามหนีจากเด็กชายไตรภพอยู่ดี

    ก่อนท้ายที่สุดเด็กชายคำหอม เห็นถึงความพยายามของเด็กชายไตรภพที่ทำตัวดีขึ้น ไม่ได้กลั่นแกล้งเขาเหมือนก่อนหน้านี้ จึงไม่หลีกหนีแต่กลับเล่นกับอีกฝ่ายอย่างสบายใจ บิดาของทั้งสองฝ่ายที่เห็นบุตรชายของตนเข้ากันได้ดี เล่นกันอย่างสนุกสนานก็รู้สึกดีใจ และมักพาพวกเขาทั้งคู่มาเล่นด้วยกันเสมอ

    เด็กชายไตรภพที่เห็นเด็กชายคำหอมมีความสุขเวลาที่ได้อยู่กับตน จึงตั้งมั่นเอ่ยวาจาต่อหน้าเด็กชายคำหอมในยามนั้นว่า

    “ไว้โตขึ้นพวกเรามาแต่งงานกันหนา”

    แม้ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่เด็กชายไตรภพกลับรู้สึกมีความสุขเวลาได้เห็นอีกฝ่ายเล่นสนุก และมีความสุข เด็กชายไตรภพมั่นใจว่าในอนาคตข้างหน้า เขาสามารถดูแลและปกป้องเด็กชายคำหอมคนนี้ได้เป็นอย่างดี
   
    แต่ถ้าหากในอนาคตเด็กชายคำหอมจะมีคู่ครองเป็นคนอื่น แต่คู่ครองในอนาคตของเด็กชายคำหอมกลับไม่ได้รักและดูแลเด็กชายคำหอมให้ดี เหมือนอย่างที่เขากำลังดูแลอีกฝ่าย หากเป็นเช่นนั้นขึ้นมาจริง ๆ เด็กชายไตรภพคงรู้สึกเสียใจมากกว่ารู้สึกยินดี

    เด็กชายไตรภพเคยทำผิดกับเด็กชายคำหอมมาก่อน เขาถึงได้รู้สึกผิดที่ก่อนหน้านี้เคยกลั่นแกล้งและหยอกล้อเด็กชายคำหอมอยู่อย่างนี้ และในอนาคตข้างหน้าเด็กชายไตรภพก็ไม่อยากให้เด็กชายคำหอมต้องเศร้าโศกเสียใจ

   เพราะแบบนี้เด็กชายไตรภพถึงอยากอยู่ใกล้ อยากดูแลและปกป้องเด็กชายคำหอมไปตลอดกาล และแน่นอนว่าเด็กชายไตรภพตั้งมั่นกับตัวเองว่า เขาจะไม่มีทางมองใครอื่นนอกจากเด็กชายคำหอมคนนี้เป็นอันขาด คู่ครองในอนาคตของเขาจะต้องเป็นเด็กชายคำหอมคนนี้เท่านั้น และมันคงจะดีกว่านี้หากอีกฝ่ายคิดแบบเดียวกับเขาเช่นกัน

   “ท่านพี่หมายถึงสิ่งใดฤๅ”

   เด็กชายคำหอมที่เอาแต่เล่นสนุกกับการขุดดิน จึงไม่ได้ฟังในสิ่งที่เด็กชายไตรภพเอ่ยออกมาก่อนหน้านี้

   “ฮ่าฮ่า…เจ้าตัวเล็ก พวกเราแค่เล่นกัน เจ้าแค่ตอบออกมาว่าตกลงฤๅไม่ก็เพียงพอแล้ว”

   ไตรภพที่เห็นเด็กชายคำหอมทำหน้าทำตามึนงงก็อดไม่ได้ที่จะเอ็นดูอีกฝ่าย

   “อือ…ข้ามิเข้าใจที่ท่านพี่พูด แต่ถ้าเล่นกัน ข้าตอบตกลงขอรับ”

    เด็กชายคำหอมตอบกลับพร้อมฉีกยิ้มสั่งให้อีกฝ่ายอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะกลับไปตั้งหน้าขุดดินเล่นอย่างสบายใจต่อไป

   “เจ้าตกลงแล้วหนา”

   “อื้อ”

    เด็กชายคำหอมยังคงมึนงง เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายสื่อ คิดเพียงแค่ว่าเป็นการเล่นกันเหมือนอย่างทุกครั้งจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก

    .

    .

    หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมา พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่ได้พบเจอกันอีกเลย เด็กชายคำหอมจำเป็นต้องไปเรียนที่โรงเรียนประจำตามคำสั่งของบิดา ส่วนเด็กชายไตรภพก็ไม่ได้มาหาเด็กชายคำหอม แม้จะไม่ได้พบเจอกันอีก แต่เด็กชายไตรภพก็ไม่วายคอยถามสารทุกข์สุกดิบของเด็กชายคำหอม จากบิดาของตนที่มักไปหาบิดาของคุณชายคำหอมอยู่เสมอ คอยถามมาตลอดตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบันนี้

    แน่นอนว่าตลอดเวลาหลายปี พระยาคมศักดิ์รับรู้ว่าบุตรชายของเพื่อนสนิท มีใจให้บุตรชายของตน เขาก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และให้คำมั่นสัญญาไว้ว่า เมื่อคุณชายคำหอมมีอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ เมื่อนั้นพระยาคมศักดิ์จะเปิดโอกาสให้ไตรภพได้มาทำพูดคุยและทำความรู้จักกับคุณชายคำหอมมากขึ้น

    และหากพวกเขาทั้งคู่มีโอกาสที่จะสานสัมพันธ์กันต่อไป พระยาคมศักดิ์ก็ยินดีจะยกบุตรชายให้หมั้นหมายกับบุตรชายของเพื่อนสนิทอย่างแน่นอน เพราะเขารู้ดีว่าไตรภพเป็นคนดี เป็นคนมีความสามารถ และยิ่งครอบครัวทั้งสองฝ่ายได้เกี่ยวดองกันเมื่อใด จะยิ่งส่งผลดีให้พวกเขามากขึ้นเป็นไหน ๆ

    พระยาคมศักดิ์เล็งเห็นแล้วว่า ไตรภพคนนี้เป็นคนที่เหมาะสมจะเคียงคู่กับบุตรชายของตน มากกว่าทาสในเรือนที่บุตรชายมีใจให้เสียอีก แน่นอนว่าไตรภพเองก็รอคอยให้ถึงวันนั้นมาตลอดเช่นกัน เขารอคอยให้รักแรกของตนกลับมา รอคอยวันที่พวกเขาทั้งคู่จะได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง และแล้ววันนี้ก็มาถึงจนได้ วันที่เด็กชายคำหอมรักแรกของตนได้มายืนอยู่ตรงหน้าในยามนี้


    “ทะ…ท่านพี่ไตรภพเองรึขอรับ” น้ำเสียงตะกุกตะกักเอ่ยขึ้น

    “ใช่แล้ว ข้าเองเจ้าตัวเล็ก หากแต่ในยามนี้เจ้าคงลืมข้าไปแล้วสินะ”

    น้ำเสียงแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจของไตรภพ ทำให้ผู้ฟังอย่างคุณชายคำหอมรู้สึกผิดขึ้นมา ตลอดระยะเวลาเกือบสิบปีที่คุณชายคำหอมลืมสิ้นถึงอีกฝ่าย แม้จะเป็นคนที่เล่นด้วยกันมาตลอด แต่คุณชายคำหอมกลับลืมพี่ชายอย่างไตรภพไปง่ายดาย กลับกันคุณชายคำหอมเอาแต่คิดถึงพี่ชายใจดีอย่างพบกล้ามาตลอด ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะรู้จักกันได้เพียงวันเดียวเท่านั้น

    ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะลักษณะนิสัยของพบกล้าและไตรภพที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน พบกล้าพยายามปลอบใจเขาตั้งแต่แรกเจอ ต่างจากไตรภพที่เข้าหาเขาด้วยวิธีการกลั่นแกล้งหยอกล้อ เพราะแบบนี้คุณชายคำหอมถึงได้ไม่เคยลืมเลือนพบกล้าออกไปจากใจได้เลย

    “ข้าขอโทษที่ก่อนหน้านี้ ข้าจำท่านพี่มิค่อยได้ขอรับ ท่านพี่อย่าได้ถือโทษโกรธเคืองข้าเลยขอรับ” 

    “ฮ่าฮ่า…ก็หายกันไปเป็นสิบปี ตัวเล็กจะจำข้ามิได้ก็มิเป็นไรหนา เจ้าอย่าได้คิดมากไปเลย” ไตรภพเองก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอีกฝ่าย

    จากความตลกขบขันก่อนหน้านี้ แปรเปลี่ยนเป็นความเงียบงันและความอึดอัดใจ แน่นอนว่าคนที่รู้สึกเกร็งจนไม่กล้าขยับตัวไปไหน ไม่แม้แต่จะมองหน้าอีกฝ่ายตรง ๆ คงมีเพียงคุณชายคำหอมเท่านั้น เขาได้แต่หลบตาและเผยรอยยิ้มเจื่อน ๆ ให้กับอีกฝ่ายก็เท่านั้น ต่างจากไตรภพที่พยายามทำตัวร่าเริง ไม่มีความกังวลใด ๆ ก่อนที่เขาพยายามทำลายความเงียบโดยการชวนอีกฝ่ายพูดคุยอยู่เสมอ

    แต่คุณชายคำหอมก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตา และการที่คุณชายคำหอมเอาแต่ก้มหน้าก้มตาราวกับไม่อยากพูดคุยกับเขานั้น ทำให้ไตรภพเริ่มทำตัวไม่ถูก ก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากบิดาของอีกฝ่าย

   พระยาคมศักดิ์ที่เห็นการกระทำของบุตรชายเช่นนั้น ก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมา แต่เขาต้องเก็บงันความรู้สึกนั้นไว้ในใจจะแสดงออกมาในยามที่ไตรภพยังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ พระยาคมศักดิ์จึงหาทางออกของปัญหานี้ทันที


    “ฮ่าฮ่า…พวกเจ้าจากกันไปนาน คำหอมเขาเพิ่งกลับมา คงจะจำเอ็งมิค่อยได้ เอ็งอย่าได้ถือสาน้องเลยหนาเจ้าภพ”

   น้ำเสียงขบขันของพระยาคมศักดิ์ทำให้ความอึดอัดนั้นบรรเทาลงไปได้ชั่วขณะ

   “ขะ…ขอรับท่านลุง แค่ท่านลุงชวนเชิญข้ามาทำความรู้จักกับน้องคำหอม เพียงเท่านี้ก็ดีแล้วขอรับ” ไตรภพรีบตอบกลับทันที

   “เป็นคนดีเสียจริงเอ็งเนี่ย”

   “ท่านลุงก็ชมเกินไป ข้าก็เป็นแบบนี้มาตลอดนั่นแหละขอรับ”

   “ดี ๆ ข้าว่าเอ็งเนี่ย ช่างเหมาะสมกับคำหอมเสียจริง” น้ำเสียงหยอกล้อของพระยาคมศักดิ์ยังคงดังขึ้นไม่หยุดหย่อน

    และเพราะคำพูดของบิดานั้น ทำให้คุณชายคำหอมเงยหน้าขึ้นมาทันที ก่อนจะเริ่มเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บิดาของตนกำลังพูดให้ตนได้ยินว่าเขานั้นรู้สึกปลื้มไตรภพคนนี้มากกว่าคนที่อยู่ในใจคุณชายคำหอมเป็นไหน ๆ แต่คุณชายคำหอมกลับไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย จึงได้แต่ยืนฟังพวกเขาทั้งคู่พูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ

   “แหม…ท่านลุงพูดเช่นนี้ ข้าก็ทำตัวมิถูกสิขอรับ”

   “ฮ่าฮ่า…ข้าว่าอย่ามัวแต่ยืนคุยกันให้เสียเวลา ข้าว่าได้เวลาอาหารแล้ว คำหอมพาพี่เขาไปนั่งโต๊ะเดียวกับเราสิลูก”

   พระยาคมศักดิ์เอ่ยขึ้นก่อนหันมามองหน้าบุตรชายด้วยสายตาขุ่นเคืองเล็กน้อย

   “ขะ…ขอรับท่านพ่อ”

    เมื่อเห็นสายตาของบิดา คุณชายคำหอมจึงได้แต่ทำตามที่บิดาสั่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะกลัวจะถูกดุด่า

   .

   .

   .

   บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความครึกครื้น โต๊ะอาหารเต็มไปด้วยแขกเหรื่อที่พระยาคมศักดิ์เชื้อเชิญมา อาหารมากถูกยกออกมาตั้งตามโต๊ะต่าง ๆ โดยทาสในเรือนของพระยาคมศักดิ์ แน่นอนว่าเมื่อได้เห็นบรรยากาศเช่นนี้ คุณชายคำหอมเองก็มีความสุขที่ได้รับรู้ว่าทุกคนในงาน ต่างเดินทางมายินดีที่ตนนั้นเรียนจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

   และหลังจากนี้คุณชายคำหอมตั้งใจว่าจะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น แน่นอนว่าพระยาคมศักดิ์เองก็อยากให้คุณชายคำหอมได้ร่ำเรียนในระดับที่สูงขึ้นเช่นกัน และอีกหนึ่งเดือนต่อจากนี้คุณชายคำหอมจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เขาจำเป็นต้องจากถิ่นไปอยู่ไกลถึงต่างประเทศ แม้จะเป็นเรื่องยากแต่คุณชายคำหอมก็ไม่มีความกังวลใด ๆ แต่มีหนึ่งสิ่งที่ทำให้คุณชายคำหอมเป็นกังวลใจไม่รู้จบสิ้น คือเรื่องของพบกล้า

   ก่อนที่กลิ่นหอม ๆ ของอาหารจะทำให้คุณชายคำหอมหลุดจากภวังค์ความคิดมากได้ กลิ่นหอมอบอวลนั่น ทำให้เขาจำได้ทันทีว่ากลิ่นของอาหารนี้ คือมัสมั่นไก่ของโปรดปราน สายตาของคุณชายคำหอมจับจ้องไปยังอาหารสำรับนั้นอย่างไม่วางตา ก่อนที่สายตานั้นจะไปสะดุดตาเข้ากับคนที่กำลังหยิบยกอาหารนั้นมาจัดวางที่โต๊ะของเขา


    “อาหารจานหลักขอรับนายท่าน”

    เป็นพบกล้าเดินยกอาหารเข้ามา ก่อนจะเอ่ยขึ้นเป็นการขออนุญาตพระยาคมศักดิ์

    “เอ้อดี ๆ เอาวางไว้กงหน้าคำหอมเถิด ของโปรดลูกข้า”

    แม้จะไม่ค่อยชอบใจที่พบกล้าเป็นคนยกสำรับอาหารพวกนี้ออกมา แต่สุดท้ายแล้วพระยาคมศักดิ์ก็ต้องมองข้ามจุดนี้ไปเพราะมีแขกคนอื่น ๆ นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

   “ขอรับนายท่าน”

   “จะว่าไป น้องคำหอมชอบทานมัสมั่นเหมือนข้าเลยหนา”

    ทันทีที่ได้กลิ่นของอาหารในสำรับที่พบกล้ายกมา ไตรภพก็รู้ได้ทันทีว่าอาหารในสำรับนั้นคืออะไร

   “อย่างนั้นฤๅขอรับ” คุณชายคำหอมเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าอีกฝ่ายจะชอบมัสมั่นเหมือนกันกับเขา

   “ไว้ว่าง ๆ น้องคำหอมลองมาที่เรือนของข้าสิ ข้าจะให้คนเตรียมมัสมั่นไว้ให้”

    “ขอบคุณขอรับท่านพี่ เพียงแต่ข้า…” ไม่ทันที่คุณชายคำหอมจะพูดจบ พบกล้าก็ยกอาหารมาถึงตรงหน้าตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

   “ข้าขออนุญาตวางนะขอรับคุณชาย”

   “อื้อ…ขอบคุณหนาพี่กล้า”

   คุณชายคำหอมกล่าวขอบคุณพี่ชายใจดี โดยลืมไปว่าบิดาของตนได้สั่งไม่ให้ตนนั้นพูดคุยกับพบกล้าเป็นอันขาด

   “เอ่อ…มิเป็นไรขอรับคุณชาย นี่เป็นหน้าที่ของข้า คุณชายมิต้องขอบคุณข้าหรอกขอรับ” เพราะทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่ตน ทำให้พบกล้าจำเป็นต้องตอบกลับไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

   “ว่าแต่พี่ได้กินอะไรรึยัง อาหารพวกนี้อร่อยมากเลยหนา”

   “ยังหรอกขอรับ หน้าที่ของข้ายังมิเสร็จขอรับคุณชาย”

   “พี่อย่าลืมกินมัสมั่นด้วยหนา ขอโปรดข้าอร่อยที่สุดไปเลยล่ะ”

   “ขะ…ขอรับคุณชาย”

   ท่าทางของบุตรชายที่เอาแต่พูดคุยกับทาสหนุ่มในเรือน จนไม่สนใจไตรภพที่นั่งอยู่ใกล้กัน นั่นยิ่งทำให้พระยาคมศักดิ์รู้สึกไม่ชอบใจเข้าไปใหญ่ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่พระยาคมศักดิ์ที่รู้สึกไม่พอใจ แต่เป็นไตรภพเองเช่นกัน ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามชวนคุณชายคำหอมพูดแต่อีกฝ่ายไม่ได้แสดงท่าทีดีใจ เหมือนตอนที่ได้เจอทาสหนุ่มอย่างพบกล้าเลยสักนิดเดียว

   “อะแฮ่ม…ไอ้กล้าวางเสร็จแล้วก็ไปทำงานของมึงต่อซะ อาหารพวกนั้นก็อย่าลืมไปกินซะล่ะ ลูกกูอุตส่าห์กำชับกูไว้ว่าให้แบ่งทาสในเรือนทุกคน”

   พระยาคมศักดิ์พยายามพูดเชิงขับไล่พบกล้าให้ออกไปจากบริเวณนี้โดยเร็วที่สุด

   “ขอรับนายท่าน” แน่นอนว่าพบกล้าเองก็เข้าใจถึงเจตนาของผู้เป็นนาย

   “น้องคำหอมของข้านิสัยดีกับทุกคนเสียจริง กับทาสต่ำต้อยพวกนี้ก็ยังขอบคุณ ข้าละคิดถูกจริง ๆ ที่ชอบเจ้า”

   แม้ท่าทางของไตรภพเหมือนกำลังให้ความสนใจคุณชายคำหอม แต่สายตาของเขากลับมองพบกล้าอย่างไม่พอใจ เพราะเมื่อได้มองสายตาของคุณชายคำหอม ก็รับรู้ว่าอีกฝ่ายต้องชอบพอทาสหนุ่มคนนี้อย่างแน่นอน และไตรภพเองก็ไม่มีทางปล่อยให้รักแรกของตนไปชอบทาสหนุ่มต่ำต้อยคนนี้แน่นอน

   “ท่านพี่ว่าอะไรนะขอรับ” คุณชายคำหอมค่อนข้างตกใจกับประโยคคำพูดของไตรภพอยู่ไม่น้อย

   “ข้าชอบเจ้าไง เจ้าตัวเล็ก”

   ไตรภพเอ่ยขึ้น ก่อนจะลอบมองไปยังพบกล้าอย่างสะใจ ราวกับว่าต้องการประกาศศึกกับอีกฝ่ายว่าคุณชายคำหอม คือคนที่เขาชอบ เพราะฉะนั้นทาสต่ำต้อยอย่างพบกล้าไม่ควรเข้ามายุ่งกับคุณชายคำหอมอีกต่อไป

   “ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะขอรับ หากคุณชายอยากได้อะไรเพิ่มเติมสามารถเอ่ยเรียกทาสพวกนั้นได้เลยนะขอรับ”

   พบกล้าที่ได้ยินและเห็นท่าทางของอีกฝ่ายก็เข้าใจได้ว่า เขาควรจะออกไปจากบริเวณเต็มที ว่าจบพบกล้าก็หันหลังเดินจากไปทันที

   “ดะ…เดี๋ยวสิพี่กล้า”

   “น้องคำหอมมิต้องไปเรียกเจ้าทาสต่ำต้อยนั่นหรอกหนา หากน้องคำหอมต้องการอะไร ก็เรียกใช้คนอื่นเสียเถิด” ไตรภพหันมาพูดกับคุณชายคำหอมอีกครั้ง

   “ท่านพี่…ได้โปรดอย่าพูดเช่นนี้อีก ข้ามิได้ชอบท่าน”

   “แย่เสียจริง ต่อให้เจ้าจะปฏิเสธข้ามากเพียงใด แต่ข้ายังคงชอบเจ้ามิเปลี่ยนแปลง”