คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL) - ตอนที่ ๑๕ ความสุขของคำหอม โดย ดาวดวงที่ห้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,#BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

#BL,พีเรียดไทย,ดราม่า

รายละเอียด

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL) โดย ดาวดวงที่ห้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?

ผู้แต่ง

ดาวดวงที่ห้า

เรื่องย่อ

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างถี่ถ้วน

*****

    นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องราวแต่งที่เกิดจากจินตนาการเท่านั้น ตัวละคร ฉาก สถานที่
และเหตุการณ์ในเรื่องล้วนสมมุติขึ้นมาทั้งหมด
ไม่ได้มีการพาดพิงถึงใคร ไม่ได้เน้นหลักความสมเหตุสมผลหรือหลักการความเป็นจริงเท่าที่ควรนะคะ

    นิยายวายพีเรียด ไม่อิงประวัติศาสตร์ใด ๆ ภาษาที่ใช้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด อาจมีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย เพื่อให้เข้ากับบริบทของตัวละคร (ตรงส่วนนี้ต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ)

    เนื้อหาในนิยายมีการแบ่งแยกชนชั้นทางสังคมอย่างชัดเจน มีการใช้อำนาจ การดูถูกเหยียดหยาม การถูกกีดกันต่าง ๆ มีฉากความรุนแรง กักขัง ทำร้ายร่างกาย บังคับขู่เข็ญ ไปจนถึงฆาตกรรม มีการกล่าวถึงไสยศาสตร์ ความเชื่อ วิญญาณ ความสูญเสีย

    ตัวละครในเรื่องบางตัวละครมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรลอกเลียนแบบ

*****

   เรื่องราวความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน นำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ยากจะลืมเลือน

  เมื่อคุณชายคำหอม บุตรชายเพียงคนเดียวของพระยาคมศักดิ์ ผู้ปกครองเมืองภูคำใต้ ดันไปตกหลุมรัก พบกล้า ทาสหนุ่มในเรือนของตนเข้าอย่างจัง และเพราะความผูกพันที่ทั้งคู่มีให้กันตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้พวกเขาต่างชอบพอกัน จนก่อตัวเป็นความรักในที่สุด แต่มันดันติดปัญหาตรงที่พวกเขาทั้งคู่ไม่เหมาะสมที่จะเคียงคู่กันเลยสักนิดนี่สิ

  เมื่อคนหนึ่งเป็นถึงคุณชายผู้สูงศักดิ์ กับอีกคนเป็นแค่ทาสใช้แรงงานผู้ต่ำต้อย

  เมื่อคนหนึ่งมีคู่หมั้นหมายที่เหมาะสมกันทั้งหน้าตา ฐานะและยศศักดิ์ กับอีกคนที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีความเหมาะสมใด ๆ เลยสักนิดเดียว

  เมื่อคนหนึ่งรักมากจนแสดงออกมาอย่างชัดเจน กับอีกคนที่รักมากแต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้

  เมื่อคนหนึ่งรักสุดหัวใจ จนไม่สนเรื่องความถูกต้องและความเหมาะสมใด ๆ กับอีกคนที่รักสุดใจ แต่ไม่สามารถมอบความรักให้อีกฝ่ายได้ เพราะเจียมตัวว่าเราต่างไม่คู่ควรกัน 

*****

   ความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน หากยังคงฝืนรักกันต่อไป อาจนำมาซึ่งความสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปตลอดกาล

สารบัญ

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-บ่วงเจ้าคำหอม อารัมภบท,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑ คำสัญญาของทาสหนุ่ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒ ดวงจิตของคำหอม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓ เรื่องที่ยากจะลืมเลือน,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๔ ความปรารถนาของทาสหนุ่ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๕ เบาะแสจากภาพความฝัน,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๖ ภาพจำอดีตของเด็กชายพบกล้า,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๗ ภาพจำเมื่อครั้งแรกเจอ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๘ สาเหตุแรกของความเกลียดชัง,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๙ จากเด็กชายตัวน้อยสู่ชายหนุ่มผู้เติบโต,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๐ เราต่างมีอิทธิพลต่อจิตใจ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๑ รักแรกของว่าที่คู่หมั้น,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๒ ว่าที่คู่หมั้นที่คำหอมไม่ปลื้ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๓ ข้อตกลงที่ไม่คาดคิด,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๔ พบกล้าใจดีกับคำหอมเสมอ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๕ ความสุขของคำหอม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๖ ฉัตรผู้ซื่อตรง

เนื้อหา

ตอนที่ ๑๕ ความสุขของคำหอม

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
.

.

.

   จากอาการเศร้าสร้อยก่อนหน้านี้พลันหายไปในพริบตา เมื่อคุณชายคำหอมได้ยินในสิ่งที่พบกล้าเอ่ยกล่าวไปเมื่อครู่นี้ แม้เวลาจะผ่านไปนานหลายปี ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยเด็กหรือกระทั่งในยามนี้ พบกล้าก็ยังคงเป็นคนเดียวที่ปลอบใจเขาได้ดีไม่เปลี่ยนแปลง

   “พี่คิดเช่นนั้นฤๅ”

   “เชื่อข้าเถอะขอรับ คุณชายเหมาะกับรอยยิ้มที่สุดแล้วขอรับ”

   “หากพี่ว่าเช่นนั้น ข้าคงต้องยิ้มให้พี่เห็นบ่อย ๆ แล้วสินะ”

   ว่าจบหยาดน้ำตาที่เคยไหลริน ก็ถูกเช็ดออกไปในทันที ก่อนที่คุณชายคำหอมจะเผยรอยยิ้มออกมา

   “ถ้าเป็นเช่นนั้นได้ ก็ดีนะขอรับ”

   แน่นอนว่าสำหรับพบกล้าแล้ว เขาต้องการให้คุณชายคำหอมมีแต่รอยยิ้ม และความสุข มากกว่ามีแต่หยาดน้ำตา และความเศร้าเสียใจ

   “พี่กล้าเนี่ย ตลกเสียจริง”

    “ว่าแต่จริง ๆ แล้ว งานเลี้ยงก็ยังมิเลิกมิใช่ฤๅขอรับ เหตุใดคุณชายถึงมานั่งอยู่กงนี้คนเดียวล่ะขอรับ บรรยากาศก็ดูน่าวังเวงเช่นนั้น อีกทั้งความสว่างก็มีเพียงน้อยนิด คุณชายมิกลัวฤๅขอรับ”

    คำถามของพบกล้า ทำให้คุณชายคำหอมเกิดอาการสับสนและมึนงงกับตนเองเล็กน้อย ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วเขาเป็นคนที่กลัวการหลงทาง กลัวความมืดและบรรยากาศที่ดูน่าวังเวงเช่นนี้เสียยิ่งกว่าอะไร แต่นี่เขากลับวิ่งออกมาจากงานเลี้ยงด้วยความเสียใจ ไม่มีแม้กระทั่งแสงไฟจากตะเกียงเป็นตัวนำทาง มีเพียงแสงจันทร์สาดส่องลงมาให้เห็นเพียงเล็กน้อย

    ความเสียใจ ความสิ้นหวัง และความผิดหวังทำให้คุณชายคำหอมลืมสิ้นความกลัวเหล่านั้นไปเสียหมด หากพบกล้าไม่เอ่ยถามขึ้นมา เขาก็คงจะลืมสิ้นไปแล้วว่าตนเองเคยกลัวสิ่งเหล่ามากเพียงใดเช่นกัน



   “ก่อนหน้านี้ เพราะมัวแต่เสียใจ ข้าเลยมิกลัวเท่าใดหรอกพี่กล้า จนกระทั่งพี่กล้าเอ่ยออกมาเช่นนี้”

   สายตาของคุณชายคำหอมลอบมองไปยังบรรยากาศรอบด้าน หากไม่มีพบกล้าอยู่ตรงหน้า หลังจากนี้บางทีเขาอาจจะรู้สึกตื่นตระหนกและสติแตกไปมากกว่านี้ก็เป็นได้

   “แต่พี่มิต้องห่วงข้าหรอก เพราะตอนนี้มีพี่อยู่ด้วย ข้าก็มิกลัวแล้วหนา”

   “เช่นนั้นแล้ว คุณชายจะกลับไปที่งานเลี้ยงพร้อมกับข้าฤๅไม่ขอรับ ข้ามีของต้องนำไปมอบให้กับพี่ศักดิ์พอดีเลยขอรับ”

   พบกล้าเอ่ยขึ้น เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องอยู่ท่ามกลางบรรยากาศวังเวงเพียงลำพัง และเขาเองก็รู้ดีว่าคุณชายคำหอมที่ไม่คุ้นเคยเส้นทางนี้อาจจะเดินกลับไปยังบริเวณที่จัดงานไม่ถูก พบกล้าถึงได้อาสาที่จะเป็นคนทางให้กับอีกฝ่ายเอง ในเมื่อจุดหมายปลายทางของพบกล้าก็คือบริเวณที่จัดงานเลี้ยงเช่นกัน

   “อืม…ข้าขออยู่กับพี่อีกสักเดี๋ยวจะได้ฤๅไม่ แล้วของสิ่งนั้นจำเป็นต้องใช้ด่วนฤๅไม่”

   ด้วยความที่คุณชายคำหอมยังไม่อยากกลับไปที่งานเลี้ยง แต่ดูเหมือนพบกล้าน่าจะมีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปยังงานเลี้ยงมากกว่าเขา หากยังคงให้พบกล้าอยู่กับเขาต่อ มีหวังของในมือนั้นจะส่งไปไม่ถึงคนที่ต้องการเสียที เพราะเหตุนี้คุณชายคำหอมถึงได้เอ่ยถามพบกล้า หากว่าอีกฝ่ายมีความจำเป็นต้องรีบไปจริง ๆ คุณชายคำหอมก็จะไม่รั้งพบกล้าเอาไว้

   “มิได้เร่งด่วนอะไรขนาดนั้นหรอกขอรับ”

   พบกล้ารีบตอบกลับ เพราะเขาเองก็ไม่อยากทิ้งให้คุณชายคำหอมอยู่ตรงนี้เพียงลำพังเช่นกัน

   “ข้าขอโทษที่เอาแต่ใจ เพียงแต่ในยามนี้ข้ายังมิอยากกลับไป”

   “ได้สิขอรับคุณชาย ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเองนะขอรับ”

   “พี่นี่ใจดีกับข้าเสมอเลยหนา”

   “เพราะมันคือหน้าที่ของข้า ที่ย่อมต้องเชื่อฟังคุณชายนี่ขอรับ”

    แม้พบกล้าจะอายุมากกว่าคุณชายคำหอมหลายปี แต่ถึงอย่างไรซะคุณชายคำหอมก็เป็นนายของเขาเช่นกัน และพบกล้าที่เป็นทาสในเรือนนั้น ก็ต้องทำตามที่ผู้เป็นนายสั่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว

   “ถึงอย่างไร พี่ก็ใจดีกับข้ามากกว่าผู้ใดอยู่ดี”

   “คุณชาย…”

   “พี่นั่งลงเถอะ มานั่งใกล้ ๆ ข้าก็ได้ อย่ายืนให้เมื่อยเลย”

   เพราะเห็นว่าพบกล้าเอาแต่ยืนสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่นานหลายนาที และคุณชายคำหอมเองก็เริ่มรู้สึกเกรงใจที่ปล่อยให้อีกฝ่ายยืนอยู่นาน เขาถึงได้พยายามเอ่ยปากชวนให้พบกล้ามานั่งใกล้ ๆ กัน

   “มิได้หรอกขอรับคุณชาย ข้ามิสมควรนั่งใกล้กับคุณชายหรอกขอรับ”

   แน่นอนว่าคนอย่างพบกล้าย่อมเจียมตัวเสียยิ่งกว่าอะไร และเขาเองก็ไม่มีทางที่จะยอมนั่งเสมอกับคุณชายคำหอม อย่างที่อีกฝ่ายต้องการ

   และเมื่อเห็นว่าพบกล้าพยายามปฏิเสธ คุณชายคำหอมถึงได้เริ่มทำหน้าบึ้งตึงจ้องมองไปยังพบกล้าอย่างไม่วางตา ราวกับว่านี่คือคำสั่งและพบกล้าจะต้องทำตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

   “พี่กล้า…”

   “เอ่อ…ถ้าเช่นนั้น ข้าขอนั่งกงนี้นะขอรับ”

   ว่าจบพบกล้าก็เลือกที่นั่งลงบนพื้นหญ้า จุดที่ต่ำกว่าที่คุณชายคำหอมนั่งอยู่ และเว้นระยะห่างระหว่างเขากับคุณชายคำหอมมากพอสมควร อย่างน้อย ๆ การทำสิ่งนี้ก็เพื่อความสบายใจของพบกล้า และเลือกที่จะทำตามความเหมาะสมระหว่างฐานะและยศศักดิ์

   .

   .

   “ข้าขอถามอะไรพี่อย่างหนึ่งสิ” คุณชายคำหอมเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาขึ้นมาอีกครั้ง

   “คุณชายอยากรู้เรื่องอะไรฤๅขอรับ หากข้ารู้ข้าจะตอบขอรับ”

   “หลังจากที่พวกเราถูกกีดกันจากกัน พี่เคยคิดถึงเด็กชายตัวน้อยอย่างข้าบ้างฤๅไม่ ฤๅพี่ลืมข้าไปเสียแล้ว”

   มันเป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจของคุณชายคำหอมมาตลอดหลายปี เขาแค่อยากรู้ว่าอีกฝ่ายเคยคิดถึงเขา เหมือนที่เขาคิดถึงอีกฝ่ายบ้างหรือไม่ หรือบางทีพบกล้าไม่เคยคิดถึงเขาเลยด้วยซ้ำ มีเพียงเขาที่คิดถึงอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น

   “หากจะให้พูดความจริง ข้ามิเคยลืมเด็กขี้แยคนนั้นเลยหนาขอรับ เพียงแต่ข้ามิสามารถพูดออกมาได้ ข้ายังคงเป็นห่วงเด็กคนนั้นมาตลอดหลายปี”

   ในเมื่อคุณชายคำหอมเอ่ยถามเขา ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่พบกล้าจะต้องนิ่งเฉย แน่นอนว่าตลอดระยะเวลาสิบปีที่ห่างหายกันไป ไม่เคยมีวันไหนเลยที่พบกล้าจะไม่คิดถึง และเลิกเป็นห่วงเด็กชายคนนั้นได้ ในใจของเขายังคงหวังดีต่อคุณชายคำหอมอยู่เสมอ แม้กระทั่งในยามนี้เช่นกัน

   “ดีใจจัง ตั้งแต่ในตอนนั้นมาจนถึงในยามนี้ ข้าเองก็มิเคยลืมพี่ชายใจดีคนนั้นเลยหนา”

   “ขะ…ขอรับ”
  
   “ว่าแต่พี่กล้า…พี่ก็อายุขนาดนี้แล้ว มีคนที่ชอบแล้วรึยัง”

   คุณชายคำหอมเลือกถามอีกหนึ่งคำถาม ที่ติดค้างอยู่ในใจของเขามาตลอดหลายปีเช่นกัน

   เนื่องจากพบกล้าในยามนี้ก็เติบโตเป็นชายหนุ่ม หากจะมีความรักหรือชอบพอผู้ใดก็ตาม ในช่วงอายุมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สำหรับคุณชายคำหอมแล้ว พบกล้าคนนี้เป็นคนที่อยู่ในใจเขามาตลอดหลายปี และหากเขาได้รับรู้ว่าคนที่ตนเองชอบ ดันมีคนรักหรือมีคนที่ชอบ บางทีคำตอบที่เขาอยากได้ยินจากปากของพบกล้า อาจจะช่วยให้คุณชายคำหอมตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ง่ายขึ้นก็เป็นได้

   “เรื่องแบบนั้น ข้ามิมีหรอกขอรับคุณชาย”

   พบกล้าตอบกลับตามความจริงทุกประการ ตั้งแต่เติบโตมา เขาแทบไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยสักนิด ไม่ได้สนใจ ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยแอบชอบผู้ใด หรือแม้กระทั่งถูกแอบชอบมาก่อน

   “เพราะเหตุใดล่ะ” คุณชายคำหอมเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยินจากปากของอีกฝ่าย

   “ข้ามิเคยคิดถึงเรื่องนี้เลยขอรับ บางทีคนอย่างข้าอาจจะมิเหมาะสม ที่จะไปชอบผู้อื่นได้หรอกขอรับ”

   “เหตุใดพี่ถึงคิดเช่นนั้น”

   “ข้าทั้งต่ำต้อย ทั้งกำพร้าไร้ที่พึ่งพา เนื้อตัวมอมแมมสกปรก อีกทั้งหน้าตาก็มิได้ดีขนาดนั้น ข้ามิกล้าไปชอบผู้อื่นหรอกขอรับ”

   หลังจากบิดามารดาจากไป พบกล้าก็กลายเป็นเด็กกำพร้าไร้ที่พึ่งพา แม้จะมีเหล่าทาสรุ่นพี่คอยอบรมเลี้ยงดู แต่สำหรับเขาแล้วก็ไม่มีผู้ใดสามารถมอบไออุ่นให้เขาได้ดีเท่ากับบิดาและมารดาที่แท้จริง แถมฐานะของพบกล้านั้นก็ไม่ได้สูงส่งไปกว่าผู้ใด เขาเองก็เป็นเพียงทาสใช้แรงงานต่ำต้อย รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้ดีเหมือนคนอื่น ๆ

   “ข้าแค่ใช้ชีวิตของตนเองให้ดีในแต่ละวัน ไม่เบียดเบียนและสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น เท่านี้ก็เพียงพอแล้วขอรับ”

   สิ่งที่พบกล้าสนใจมากกว่าเรื่องความรัก มีเพียงจะทำอย่างไรให้ไว้ชีวิตอย่างอยู่รอดในแต่ละวัน ทำอย่างไรให้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น

   “แม้กระทั่งในบรรดาทาสด้วยกัน พี่ก็มิมีคนที่ชอบเลยรึ”

   “ขอรับ”

   “ถึงพี่จะมิชอบผู้ใด แต่พี่เชื่อข้าไหมว่ามีคนที่ชอบพี่อยู่หนา”

   เพราะเห็นสีหน้าและท่าทางที่ดูคิดมากของพบกล้า ก็ยิ่งทำให้คุณชายคำหอมอดสงสารอีกฝ่ายไม่ได้ เขาแทบไม่เคยรู้มาก่อนว่าพบกล้าจะเป็นคนที่คิดมากขนาดนี้ พบกล้าไม่เคยคิดเข้าข้างตนเอง ไม่น้อยใจในโชคชะตาของตนเอง แถมยังเป็นคนที่มีจิตใจดี คอยช่วยเหลือเขาแทบทุกเมื่อ และดูเหมือนสิ่งนี้ จะเป็นตัวกลางสำคัญที่อาจทำให้คุณชายคำหอมพึงชอบพบกล้าไม่เปลี่ยนแปลงก็เป็นได้

   “มิมีทางหรอกขอรับ ผู้ใดจะมาชอบคนอย่างข้ากัน”

   “เมื่อถึงเวลานั้นพี่จะรู้เอง เขาคนนั้นอยู่มิใกล้มิจากพี่นักหรอก”

   “…”

   หลังจากได้ฟังพบกล้าพูดทุกสิ่งทุกอย่าง รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณชายคำหอมก็เผยออกมาให้เห็น สาเหตุที่ทำให้เขายิ้มออกมานั้น คงเป็นเพราะได้รับรู้ความจริงจากปากของพบกล้าว่า พบกล้านั้นไม่เคยมีความรัก หรือแอบชอบใครมาก่อน ซึ่งแบบนี้ก็เท่ากับว่าคุณชายคำหอมนั้นยังมีสิทธิ์ที่จะชอบพบกล้าต่อไป

   และคุณชายคำหอมก็ยิ่งมั่นใจกับตนเอง ว่าเขาจะไม่มีทางเปลี่ยนใจจากพบกล้าไปชอบคนอื่นเด็ดขาด และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมกว่านี้ บางทีคุณชายคำหอมอาจจะเป็นฝ่ายสารภาพกับพบกล้าในเรื่องนี้เองก็เป็นได้ เขาจะทำทุกวิถีทางให้พบกล้ารับรู้ว่าคนที่ชอบพอพบกล้า ก็คือคุณชายคำหอมคนนี้นั่นเอง

   และต่อให้ท้ายที่สุดแล้ว คุณชายคำหอมจะต้องทำตามข้อสัญญาข้อตกลงที่บิดาและครอบครัวของไตรภพขึ้นมาจริง ๆ เขาจะคัดค้านจนถึงที่สุด คุณชายคำหอมจะไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้นเป็นอันขาด เพราะเขานั้นไม่ได้รักไตรภพ แต่คนที่เขารักนั้นคือทาสหนุ่มตรงหน้าคนนี้ต่างหาก ต่อให้จะต้องถูกกีดกันหรือต้องถูกแยกออกจากกันอีก คุณชายคำหอมก็ยังยืนยันที่จะรักพบกล้าคนนี้ไม่เปลี่ยนแปลง

   .

   .

   .

   หลังจากใช้เวลาพูดคุยกันมาสักพัก คุณชายคำหอมตัดสินใจแล้วว่า เขาควรจะกลับเข้าไปที่งานเลี้ยงได้เสียที เขาจะกลับไปทำให้งานเลี้ยงฉลองจบลงอย่างสวยงามตามแบบฉบับที่มันควรจะเป็น แม้ว่าความรู้สึกในใจตอนนี้จะไม่ได้มีความสุขกับงานเลี้ยงฉลองแล้วก็ตาม และหลังจากจบงานเลี้ยงฉลองในค่ำคืนนี้เขาเองก็มีบางสิ่งบางอย่าง ที่จะต้องทำความตกลงกับบิดาของตนเช่นกัน 

   “พี่กล้า…ข้าว่าข้าสบายใจขึ้นมาแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ”

   “ให้ข้านำทางนะขอรับ”

   “อื้อ…”

   พบกล้าค่อยลุกขึ้นยืน ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำทางให้คุณชายคำหอม เดินตามเขามาอย่างช้า ๆ เนื่องจากบรรยากาศรอบด้านค่อนข้างมืด พวกเขาจึงจำเป็นต้องเดินอย่างระมัดระวัง

   “ค่อย ๆ เดินนะขอรับคุณชาย กงนี้ค่อนข้างมืดนิดหน่อยนะขอรับ”

   “ถ้าเช่นนั้นข้าขอจับมือพี่ เหมือนตอนเด็ก ๆ ได้ฤๅไม่”

   “เอ่อ…ข้าเกรงว่านั่นอาจจะมิเหมาะสมนะขอรับ”

   หากเป็นตอนที่พวกเขายังเด็ก พบกล้าคงจะไม่ปฏิเสธ แต่ในยามนี้พวกเขาไม่เหมาะสมที่จะทำเช่นนั้นเหมือนในอดีตได้อีก

   “ชิ! ถ้าเช่นนั้น หากข้าเดินมิดูตาม้าตาเรือ สะดุดหินหรือตอไม้กงไหนขึ้นมา พี่ต้องรับผิดชอบด้วยหนา”

   คุณชายคำหอมแกล้งหยอกล้อพบกล้า เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่สนใจเรื่องความเหมาะสมไม่เหมาะสมอยู่ได้

   “แถวนี้มิมีตอไม้หรอกขอรับคุณชาย สบายใจได้พวกข้าโค่นทิ้งไปหมดแล้วขอรับ”

   “แล้วก้อนหินล่ะ”

   “อาจจะมีบ้างแต่ขนาดน่าจะเท่ากรวดเล็ก ๆ ขอรับ ข้าจำเส้นทางในเรือนทั้งหมดได้ดี คุณชายคำหอมมิมีทางเจ็บตัวแน่นอนขอรับ”

   “ฮ่าฮ่า…พี่นี่ชอบทำให้ข้าขำอยู่เรื่อย พี่รู้ไหมว่าข้าน่ะ ชอบเวลาได้อยู่กับพี่ที่สุด”

   คุณชายคำหอมยกให้พบกล้าเป็นพี่ชายใจดี ที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจและมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน และแน่นอนว่าในอนาคตข้างหน้าคุณชายคำหอมจะเลื่อนตำแหน่งให้พบกล้า จากพี่ชายใจดีเป็นคนของใจก็เป็นได้

   “จะว่าไป คุณชายคำหอมขอรับ มิรู้ว่าจะเหมาะสมฤๅไม่ แต่ข้า…เอ่อ” หลังจากพวกเขาเดินกันมาได้สักระยะหนึ่ง จู่ ๆ พบกล้าก็นึกอะไรบางอย่างออก

   “พี่พูดมาเถอะ ข้ามิว่าอะไรหรอก”

   “คือว่า…”

   “ว่าไงพี่กล้า”

   “สุขสันต์วันเกิดนะขอรับ”

   พบกล้าใช้ความกล้าทั้งหมดของตนเองเอื้อนเอ่ยคำอวยพรให้กับคุณชายคำหอม เนื่องจากเขานึกขึ้นได้ว่าวันนี้คือวันเกิดครบรอบสิบแปดปีของคุณชายคำหอม และเขาก็หวังว่าหลังจากนี้คุณชายคำหอมจะมีแต่ความสุขไม่ต้องเศร้าโศกเสียใจเหมือนก่อนหน้านี้อีก

   “ขอบคุณนะพี่กล้า วันนี้พี่ทำให้ข้ามีความสุขที่สุดเลย”