คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
ชาย-ชาย,#BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
ผู้แต่ง
ดาวดวงที่ห้า
เรื่องย่อ
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างถี่ถ้วน
*****
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องราวแต่งที่เกิดจากจินตนาการเท่านั้น ตัวละคร ฉาก สถานที่
และเหตุการณ์ในเรื่องล้วนสมมุติขึ้นมาทั้งหมด
ไม่ได้มีการพาดพิงถึงใคร ไม่ได้เน้นหลักความสมเหตุสมผลหรือหลักการความเป็นจริงเท่าที่ควรนะคะ
นิยายวายพีเรียด ไม่อิงประวัติศาสตร์ใด ๆ ภาษาที่ใช้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด อาจมีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย เพื่อให้เข้ากับบริบทของตัวละคร (ตรงส่วนนี้ต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ)
เนื้อหาในนิยายมีการแบ่งแยกชนชั้นทางสังคมอย่างชัดเจน มีการใช้อำนาจ การดูถูกเหยียดหยาม การถูกกีดกันต่าง ๆ มีฉากความรุนแรง กักขัง ทำร้ายร่างกาย บังคับขู่เข็ญ ไปจนถึงฆาตกรรม มีการกล่าวถึงไสยศาสตร์ ความเชื่อ วิญญาณ ความสูญเสีย
ตัวละครในเรื่องบางตัวละครมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรลอกเลียนแบบ
*****
เรื่องราวความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน นำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ยากจะลืมเลือน
เมื่อคุณชายคำหอม บุตรชายเพียงคนเดียวของพระยาคมศักดิ์ ผู้ปกครองเมืองภูคำใต้ ดันไปตกหลุมรัก พบกล้า ทาสหนุ่มในเรือนของตนเข้าอย่างจัง และเพราะความผูกพันที่ทั้งคู่มีให้กันตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้พวกเขาต่างชอบพอกัน จนก่อตัวเป็นความรักในที่สุด แต่มันดันติดปัญหาตรงที่พวกเขาทั้งคู่ไม่เหมาะสมที่จะเคียงคู่กันเลยสักนิดนี่สิ
เมื่อคนหนึ่งเป็นถึงคุณชายผู้สูงศักดิ์ กับอีกคนเป็นแค่ทาสใช้แรงงานผู้ต่ำต้อย
เมื่อคนหนึ่งมีคู่หมั้นหมายที่เหมาะสมกันทั้งหน้าตา ฐานะและยศศักดิ์ กับอีกคนที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีความเหมาะสมใด ๆ เลยสักนิดเดียว
เมื่อคนหนึ่งรักมากจนแสดงออกมาอย่างชัดเจน กับอีกคนที่รักมากแต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้
เมื่อคนหนึ่งรักสุดหัวใจ จนไม่สนเรื่องความถูกต้องและความเหมาะสมใด ๆ กับอีกคนที่รักสุดใจ แต่ไม่สามารถมอบความรักให้อีกฝ่ายได้ เพราะเจียมตัวว่าเราต่างไม่คู่ควรกัน
*****
ความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน หากยังคงฝืนรักกันต่อไป อาจนำมาซึ่งความสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปตลอดกาล
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
.
.
.
ความมืดมิดและความหวาดหวั่นเริ่มกัดกินจิตใจ เมื่อพบว่าคนที่เขากำลังตามหาดันหายตัวไป เนื่องจากคลาดสายตาไปเพียงแค่เสี้ยววินาที ในขณะที่ฉัตรกำลังวิ่งตามหลังคุณชายคำหอมมา จู่ ๆ เขาก็ต้องชะงักนิ่งขึ้นมา
“โอ๊ย!”
เสียงอุทานที่บ่งบอกว่า ฉัตรเกิดการเสียหลักเล็กน้อยเนื่องจากเท้าของเขาสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง ก่อนจะค่อย ๆ ทรงตัวเพื่อไม่ให้ตนเองล้มคะมำลงไปกับพื้นหญ้า
“อะไรอีกวะเนี่ย คนยิ่งรีบ ๆ อยู่”
เนื่องจากบรรยากาศที่มืดมิดทำให้เขามองเส้นทางไม่ค่อยเห็น ก่อนหน้านี้เพราะเร่งรีบทำตามคำสั่งของคุณหญิงจันทร์หอม ทำให้ฉัตรไม่มีเวลาได้คิดที่จะหยิบตะเกียงติดมือมาด้วย มีเพียงแสงระยิบระยับจากเสื้อผ้าที่ปกคลุมร่างกายคุณชายคำหอมเท่านั้น ที่เป็นตัวนำทางให้ฉัตรวิ่งตาม คุณชายคำหอมมาได้ตลอดทาง
และฉัตรเองก็ไม่แน่ใจว่าอุปสรรคที่กำลังขัดขวางเขาอยู่ในยามนี้คืออะไรกันแน่ แต่ถ้าจะให้เขาคาดเดาคงหนีไม่พ้นพวกตอไม้ เถาวัลย์ หรือไม่ก็พวกก้อนหินเป็นแน่ ก่อนจะค่อย ๆ ก้มตัวลงไปควานหาตัวการเจ้าปัญหาที่ทำให้เขาต้องเสียเวลาอยู่แบบนี้
“หินก้อนเท่ามด ทำกูเสียเวลาจนได้นะมึง”
ฉัตรได้แต่บ่นกับตัวเองอย่างหัวเสียเมื่อเห็นสภาพของตัวการเจ้าปัญหา มันเป็นเพียงหินก้อนเล็ก ๆ เท่านั้น ฉัตรรีบเขวี้ยงมันออกไปให้พ้นทาง แน่นอนว่าถึงแม้เขาใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีในการกำจัดหินก้อนนั้น แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาฉัตรกลับพบว่า คุณชายคำหอมได้หายตัวไปจากจุดที่เขาเห็นก่อนจะสะดุดหินก้อนนี้เสียแล้ว
คุณชายคำหอมที่วิ่งร่ำไห้ออกมาจากงานเลี้ยงฉลองด้วยสภาพที่สติไม่ค่อยเต็มร้อย มีทั้งหยาดน้ำตา ความเสียใจ และความมืดยามราตรีมาบดบังการมองเห็น หากแต่คุณชายคำหอมกลับวิ่งอย่างทะมัดทะแมง ไร้ซึ่งสิ่งใดสามารถมากีดขวางให้เขาชะงักนิ่งได้ ต่างจากฉัตรที่มีสติเต็มร้อย ไม่มีแม้กระทั่งหยาดน้ำตาหรือความเสียใจใด ๆ แต่เขากลับสะดุดหินก้อนเล็ก ๆ ขึ้นมาเสียได้ มันช่างน่าอายเสียจริง
“คุณชายขอรับ…คุณชายคำหอมขอรับ”
ฉัตรพยายามตะโกนเรียกเพื่อหวังจะให้คุณชายคำหอมขานตอบ แต่ฉัตรดันลืมคิดไปว่าคุณชายคำหอมในยามนี้กำลังเสียใจอย่างหนัก จึงไม่มีทางขานตอบเขาอย่างแน่นอน และทางเดียวที่ฉัตรสามารถทำได้ คือต้องเป็นฝ่ายตามหาคุณชายคำหอมด้วยตัวเองเท่านั้น
.
.
จุดสุดท้ายที่ฉัตรมองเห็นคุณชายคำหอมก่อนที่อีกฝ่ายจะหายไป เป็นทางแยกสองทางที่ฉัตรจำเป็นต้องเลือกเดินไป เพื่อจะตามคุณชายคำหอมให้ทัน แต่มันดันติดปัญหาตรงที่ฉัตรไม่รู้ว่าเมื่อครู่นี้ คุณชายคำหอมเลือกไปทางไหนกันแน่ เพราะเส้นทางหนึ่งเป็นทางกลับไปยังเรือนพักผ่อนของคุณชายคำหอม
ซึ่งระหว่างทางจะมีเรือนพักผ่อนของทาสติดตาม และเรือนของผู้เป็นนายอย่างพระยาคมศักดิ์และคุณหญิงจันทร์หอมอยู่ไม่ไกลกัน ซึ่งฉัตรค่อนข้างมั่นใจว่าคุณชายคำหอมจะต้องเลือกไปเส้นทางนี้อย่างแน่นอน ต่างจากอีกเส้นทางที่เป็นทางไปยังเรือนทาสใช้แรงงานและป่ารก ซึ่งฉัตรเองก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเส้นทางนี้ คุณชายคำหอมไม่มีทางเลือกเดินไปอย่างแน่นอน
ไม่รีรอให้เสียเวลา ฉัตรจึงเลือกเส้นทางที่เขามั่นใจ เส้นทางที่ไปยังเรือนพักผ่อนของคุณชายคำหอมในทันที ก่อนที่แสงจันทร์จะสาดส่องลงมาให้ความสว่างอีกครั้ง แต่ฉัตรนั้นไม่ทันได้สังเกตเลยว่าเขาเลือกวิ่งไปผิดทาง เพราะเส้นทางที่เขาเลือกวิ่งไปนั้นไม่มีรอยเท้าของคุณชายคำหอมเลยสักนิด ต่างจากอีกเส้นทางที่เห็นรอยเท้าของคุณชายคำหอมอย่างชัดเจน
ยิ่งเข้าใกล้เรือนพักผ่อนของคุณชายคำหอมมากเพียงใด ความสว่างไสวจากแสงไฟก็ยิ่งคืบคลานเข้ามาให้เห็นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น จากบรรยากาศมืดมิดดูวังเวงก่อนหน้านี้แปรเปลี่ยนเป็นความสว่างไสวและความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ แม้จะมีแต่ความเงียบงันเป็นเพื่อนคู่ใจ เนื่องจากคนอื่น ๆ ยังคงอยู่ที่งานเลี้ยงฉลอง แต่ฉัตรไม่ได้รู้สึกวังเวงรู้สึกกลัวเหมือนตอนที่เขาอยู่ตรงทางแยกก่อนหน้านี้
ด้วยความที่เส้นทางนี้ฉัตรคุ้นเคยเป็นอย่างดี เขาแทบจะรู้ทุกซอกทุกมุมของบริเวณนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเขาเองก็พักอาศัยอยู่บนเรือนทาสติดตาม ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันกับเรือนพักผ่อนของคุณชายคำหอม เมื่อเป็นเช่นนั้นฉัตรจึงรีบวิ่งตรงไปยังเรือนพักผ่อนของคุณชายคำหอมทันที เขาหวังว่าคุณชายคำหอมจะอยู่ในห้อง ไม่เช่นนั้นฉัตรต้องรู้สึกผิดต่อคุณหญิงจันทร์หอม ที่ไหว้วานให้เขาตามมาคอยดูแลคุณชายคำหอมเป็นแน่
ทันทีที่ฉัตรมาถึงหน้าห้องของคุณชายคำหอม เขาพบว่ามีแสงสว่างอยู่ภายในห้อง เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าก็เผยให้เห็นออกมาทันที แม้จะรู้สึกเหนื่อยหอบจากการวิ่งมานาน แต่ฉัตรกลับรู้สึกสบายใจและโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะเขารู้สึกได้ว่าคุณชายคำหอมต้องอยู่ในห้องพักอย่างแน่นอน ฉัตรไม่รีรอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ เขาต้องหาวิธีเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ คอยอยู่เป็นเพื่อนคุณชายคำหอมตามคำสั่งของคุณหญิงจันทร์หอมให้ได้ เมื่อนั้นหน้าที่ตามที่เขาได้รับมอบหมายถึงจะสมบูรณ์แบบ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นโดยฝีมือของฉัตร เพื่อเป็นการส่งเสียงขออนุญาตเจ้าของห้องที่น่าจะอยู่ด้านใน อย่างน้อย ๆ หากคุณชายคำหอมยอมเปิดประตูให้เขา ฉัตรจะรู้สึกสบายใจมากขึ้นกว่านี้
“คุณชายขอรับ…เปิดประตูให้บ่าวได้ฤๅไม่ขอรับ”
...
“คุณหญิงท่านสั่งให้บ่าวมาอยู่เป็นเพื่อนคุณชายขอรับ”
…
“คุณชายขอรับ คุณชายได้ยินบ่าวฤๅไม่ขอรับ”
แม้ฉัตรจะพยายามส่งเสียงเรียกคุณชายคำหอมเพียงใด แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมามีเพียงความเงียบงันเท่านั้น คุณชายคำหอมไม่แม้แต่จะส่งเสียงกลับมาเลยแม้แต่น้อย หากอีกฝ่ายกำลังร่ำไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ อย่างน้อย ๆ ฉัตรที่ยืนอยู่หน้าห้องก็น่าจะได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของคุณชายคำหอมที่อยู่ในห้องบ้าง แต่ฉัตรกลับไม่ได้ยินเสียงใด ๆ เลยแม้แต่น้อย
หรือเป็นเพราะคุณชายคำหอมร่ำไห้จนเผลอหลับไป แต่ในความคิดของฉัตร เขากลับรู้สึกว่านั่นเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้มากที่สุด เนื่องจากพวกเขาคลาดสายตากันเพียงเสี้ยววินาที และฉัตรเองก็รีบวิ่งตามมาในทันที หากคุณชายคำหอมจะหลับไประหว่างที่ฉัตรรีบวิ่งมา มันก็ดูจะรวดเร็วเกินไป ไม่มีผู้ใดนอนหลับในระยะเวลาอันสั้นเช่นนั้นได้ แล้วเพราะเหตุใดคุณชายคำหอมถึงไม่ยอมเอ่ยขานหรือส่งเสียงใด ๆ ตอบกลับมาเลย หรือคุณชายคำหอมไม่ได้อยู่ในห้องแห่งนี้กันแน่
“คุณชายขอรับ บ่าวมิได้มาตามคุณชายกลับไปที่งานนะขอรับ บ่าวแค่มาอยู่เป็นเพื่อนคุณชายเท่านั้นขอรับ”
ฉัตรกำลังคิดในแง่ดีว่า บางทีที่คุณชายคำหอมไม่ยอมเอื้อนเอ่ย หรือขานตอบกลับใด ๆ มา เนื่องจากอีกฝ่ายอาจจะคิดว่าฉัตรน่าจะเป็นคนของบิดา ที่ถูกสั่งให้มาตามตัวคุณชายคำหอมกลับไปที่งานเลี้ยงก็เป็นได้
“บ่าวแค่ทำตามคำสั่งของคุณหญิงจันทร์หอมให้มาดูแลคุณชายขอรับ หากคุณชายมิสบายใจให้บ่าวเข้าไป ขอเพียงแค่เอื้อนเอ่ยให้บ่าวได้ยินเสียงคุณชายก็พอขอรับ”
แม้ว่าฉัตรพยายามอธิบายและขอร้องคุณชายคำหอมมากเพียงใด แต่สิ่งที่ฉัตรได้รับกลับมาทุกครั้งก็ยังคงเป็นเพียงความเงียบงันอยู่เรื่อยไป แล้วแบบนี้เขาควรจะทำอย่างไรดี
แม้จะมีเพียงความเงียบงันที่ได้รับกลับมา แต่อย่างน้อย ๆ ฉัตรก็อยากเห็นกับตาว่า คุณชายคำหอมยังอยู่ในห้องพักแห่งนี้ไม่ได้หายตัวไปไหน และหากคุณชายคำหอมหายตัวไปขึ้นมาจริง ๆ ปัญหาใหญ่ที่จะตามมาคือ ตัวเขาอาจจะเดือดร้อนได้ แน่นอนว่าฉัตรเองก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นทางเดียวที่จะพิสูจน์ได้ว่า คุณชายคำหอมยังอยู่ในห้องพักแห่งนี้หรือไม่ มีแต่จะต้องเข้าไปภายในห้องให้เห็นกับตาเท่านั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
ฉัตรเคาะประตูห้องพักของคุณชายคำหอมอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าประตูดันเปิดแง้มออกมา เนื่องจากไม่ได้ทำการล็อกเอาไว้ ฉัตรจึงถือวิสาสะก้าวขาเดินเข้าไปด้านใน ก่อนจะเห็นแสงสว่างจากตะเกียงภายในห้อง
ความตื่นตระหนกเริ่มเข้ามาแทนที่อีกครั้ง เมื่อกวาดสายตาไปทั่วห้องแต่กลับไม่พบแม้กระทั่งคนที่ตนกำลังตามหา สิ่งที่สะดุดตามีเพียงเสื้อผ้าสบาย ๆ ที่คุณชายคำหอมใส่ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดที่ใส่ในงานเลี้ยงฉลองพับเป็นระเบียบอยู่ที่ปลายเตียงเท่านั้น
“คุณชายขอรับ”
ฉัตรยังคงพยายามส่งเสียงเรียก เผื่อบางทีคุณชายคำหอมอาจจะแค่หายไปอยู่ที่ส่วนอื่นภายในห้องจะได้ยินเสียงร้องเรียกของเขา แต่ไม่ว่าฉัตรจะพยายามมองหาคุณชายคำหอมมากเพียงใด สิ่งที่ได้รับกลับมาก็ยังคงเป็นเพียงความเงียบงันอยู่เรื่อยไป และเมื่อฉัตรเริ่มมั่นใจแล้วว่าคุณชายคำหอมไม่ได้อยู่ในห้อง ทางออกเดียวที่ฉัตรคิดออก คือต้องรีบออกตามหาคุณชายคำหอมโดยเร็ว
เมื่อคิดได้เช่นนั้นฉัตรจึงหยิบตะเกียงที่อยู่ในห้องของคุณชายคำหอมติดมือมาด้วย อย่างน้อย ๆ หากเขาจำเป็นต้องหาตามที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ ตะเกียงอันนี้พอจะช่วยนำทางเขาได้ ฉัตรพยายามตามหาทุกซอกทุกมุมของเรือนแห่งนี้ แต่สิ่งที่ได้ก็ยังมีเพียงความว่างเปล่า คุณชายคำหอมไม่ได้อยู่ที่เรือนแห่งนี้ ฉัตรจึงรีบออกตามหาทั่วทุกเรือนในบริเวณนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรือนพักผ่อนของทาสติดตาม เรือนของพระยาคมศักดิ์และคุณหญิงจันทร์หอม ฉัตรพยายามตามหาทุกซอกทุกมุม และสิ่งที่ได้กลับมาก็ยังคงเป็นความว่างเปล่าอยู่ดี
ฉัตรเริ่มรู้สึกเหนื่อยกับการออกตามหาคุณชายคำหอม เขาจึงตัดสินใจนั่งพักหายใจอยู่ใกล้ ๆ กับต้นพิกุลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดอะไรบางอย่างออก
“อย่าบอกนะว่า คุณชายคำหอมจะไปอีกทาง”
…
“ไอ้ฉัตรเอ๊ย! เหตุใดกูถึงมิคิดให้มันรอบคอบกว่านี้วะ นี่ถ้าคุณหญิงจันทร์หอมรู้เรื่องเข้ากูตายแน่ ๆ”
…
“ป่านนี้แล้ว คุณชายคำหอมจะเป็นอย่างไรบ้างเนี่ย ทางนั้นก็มืดเสียยิ่งกว่าอะไรอีก”
…
“มิได้ กูมิควรมาเสียเวลาอยู่กงนี้ กูต้องรีบกลับไปเดี๋ยวนี้”
…
“คุณชายคำหอม อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะขอรับ รอบ่าวก่อนนะขอรับ บ่าวจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากบ่นและตำหนิตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ฉัตรก็รีบวิ่งกลับไปยังทางแยกอีกครั้ง เขาได้แต่หวังว่าและภาวนาขอให้คุณชายคำหอมไม่ไปในเส้นทางนั้นจริง ๆ เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างมืดและอันตราย หากผู้ใดก็ตามที่เดินหลงเข้าไปในป่ารกนั้น จะเป็นเรื่องยากจะหาตัวเจอ อีกทั้งบรรดาทาสใช้แรงงาน ต่างพากันไปอยู่ที่งานเลี้ยงจนหมด นั่นก็ยิ่งเป็นอันตรายกับคุณชายคำหอมเข้าไปใหญ่ อย่างน้อย ๆ หากมีบรรดาทาสใช้แรงงานอยู่ที่บ้านพักบ้าง พวกเขาอาจจะช่วยกันคุณชายคำหอม ไม่ให้เข้าใกล้เขตพื้นที่ป่ารกได้
แต่ในยามนี้ทาสทุกคนภายในเรือน ต่างพากันไปอยู่ที่งานเลี้ยงจนหมด นั่นยิ่งทำให้ฉัตรเริ่มกังวลและรู้สึกเป็นห่วงคุณชายคำหอมเข้าไปใหญ่ เขากลัวว่าคุณชายคำหอมจะเดินหลงเข้าไปในป่ารกเสียยิ่งกว่าสิ่งใด เพราะแบบนี้ฉัตรถึงได้ภาวนาอย่าให้คุณชายเดินตรงมายังเส้นทางนี้เลย
แต่ดูท่าสิ่งที่เขาภาวนาคงจะไม่เป็นผล เนื่องจากในยามนี้ตะเกียงที่ฉัตรถือมา เป็นตัวนำทางและให้แสงสว่างกับฉัตร ทำให้เขามองเห็นรอยเท้าที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ ๆ และเขาก็มั่นใจว่านี่คือรอยเท้าของคุณชายคำหอมอย่างแน่นอน คุณชายคำหอมเดินมาในเส้นทางนี้จริง ๆ ฉัตรไม่รอช้าให้เสียเวลาไปมากกว่า แม้จะรู้สึกกลัวอยู่เล็กน้อย แต่ฉัตรก็จะจำเป็นต้องตามหาตัวคุณชายคำหอมให้เจอโดยเร็ว
.
.
.
ทางด้านของคุณชายคำหอม
“ขอบคุณนะพี่กล้า วันนี้พี่ทำให้ข้ามีความสุขที่สุดเลย”
เพียงแค่คำอวยพรประโยคเดียวจากคนที่ตนชอบ ก็ทำให้คุณชายคำหอมมีความสุขล้นอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าในอีกไม่กี่นาทีข้างเขาจะต้องกลับไปเผชิญหน้ากับบิดาที่อาจจะดุด่า ทั้งเขาและพบกล้าอีกก็เป็นได้
เพราะแบบนี้คุณชายคำหอมถึงได้พยายามก้าวเดินอย่างช้า ๆ เพราะเขานั้นยังอยากใช้เวลาร่วมกันกับพบกล้าให้นานเท่าที่จะนานได้
“คุณชายเจ็บกงไหนฤๅขอรับ”
“เหตุใดพี่จึงถามข้าเช่นนั้น”
“ข้าเห็นคุณชายเดินช้าลง เลยเป็นห่วงกลัวว่าคุณชายจะเจ็บกงไหนน่ะขอรับ”
“ฮ่าฮ่า ข้ามิได้เจ็บกงไหนหรอกพี่กล้า เพียงแค่ยังมิอยากให้ถึงเร็ว ๆ ข้ายังอยากอยู่กับพี่” คุณชายคำหอมตอบตามความรู้สึกในใจจริง ๆ
“คุณชาย...”
“แล้วพี่ล่ะ ยังอยากอยู่กับข้าอีกฤๅไม่”
“ข้าเกรงว่า...”
พบกล้าที่โดนคุณชายคำหอมตั้งคำถามใส่ก็ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะพยายามคิดหาทางตอบกลับคำถามของคุณชายคำหอม
แต่ในขณะที่พบกล้าจะตอบกลับ จู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกขอใครบางคนดังขึ้นมาจากด้านหน้าของพวกเขา
“คุณชายขอรับ...ฮึก คุณชายคำหอมของบ่าว”
ภาพของชายหนุ่มสองคน ที่กำลังจะเดินสวนออกมา ทำให้ฉัตรรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะหนึ่งในสองคนนั้น มีคนที่เขากำลังตามหาอยู่
“...” คุณชายคำหอมได้แต่ยืนนิ่งเงียบ ยามที่ชายตรงหน้าวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาตน
“คุณชายขอรับ...บ่าวตามหาเสียตั้งนาน ที่แท้คุณชายก็มาอยู่ที่นี่เอง”
“เจ้า...ว่าแต่เจ้าคือผู้ใดกัน ไยถึงต้องตามหาข้า”
เพราะไม่เคยหน้า แถมยังไม่รู้จักชื่อของอีกฝ่าย นั่นก็ยิ่งทำให้คุณชายคำหอมสับสนเข้าไปอีก ว่าบุคคลนี้คือผู้ใดกัน แล้วมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ชายคนนี้ต้องมาตามหาตนในเวลานี้ หรือคนคนนี้จะเป็นคนของบิดา ที่ถูกสั่งให้มาตามตัวเขากลับไปยังงานเลี้ยงฉลองกันแน่
“บ่าวชื่อฉัตรขอรับคุณชาย คุณหญิงจันทร์หอมให้ฉัตรมาอยู่เป็นเพื่อนคุณชายขอรับ”
ฉัตรรีบตอบกลับทันที เมื่อเห็นใบหน้าชวนสงสัยของคุณชายคำหอม
“ที่แท้ก็คนของท่านแม่นี่เอง ทำเอาตกอกตกใจเสียหมด”