คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ไทย,BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
.
.
.
เนื่องด้วยเวลาที่ล่วงเลยมาถึงย่ำรุ่ง (ช่วงเวลาประมาณตีสอง) เป็นเวลาปกติที่บรรยากาศภายในเมืองแห่งนี้จะเงียบสงัด ผู้คนในเมืองต่างพากันหลับใหลเข้าสู่ห้วงนิทรา มีเพียงเหล่าคนไม่กี่คนที่ยังคงทำหน้าที่ของตน อย่างเช่น ทาสในแต่ละเรือนที่ทำหน้าที่เฝ้าเวรยามยังคงมิหลับใหล เนื่องจากต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยและคอยป้องกันพวกโจรป่าบุกรุกในยามที่เจ้าของเรือนหลับใหล
นอกจากทาสเฝ้าเวรยามที่ยังไม่หลับใหลแล้ว ยังมีอีกหนึ่งครอบครัวที่ดูเหมือนจะมีความสุขล้นจะนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว เนื่องจากพวกเขากำลังมีความสุขกับแผนการที่ดูเหมือนจะสำเร็จได้ขั้นหนึ่งแล้ว
“ฮ่าฮ่า…จะว่าไปพระยาคมศักดิ์ก็ตัดสินใจถูกนะขอรับ ที่ป่าวประกาศออกไปเช่นนั้น ถือเป็นการกำจัดคู่แข่งออกไปได้มากพอตัว”
น้ำเสียงขบขันของไตรภพที่เอ่ยออกมา ขณะกำลังนั่งดื่มด่ำกับรสชาติของน้ำเมา
หลังจากเดินทางกลับมาจากงานเลี้ยงที่เรือนของพระยาคมศักดิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งพระยาไตรเทพและไตรภพก็ไม่ได้แยกย้ายกันไปพักผ่อนอย่างที่ควรจะเป็น แต่พวกเขากลับเลือกที่จะมานั่งดื่มสังสรรค์กันต่อ ราวกับว่ายามนี้มีความสุขล้น จนลืมสิ้นไปแล้วว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า พวกเขาทั้งคู่จะต้องแยกย้ายกันไปทำงานอีก
“ถึงอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งได้ใจไป เอ็งยังมีคู่แข่งตัวฉกาจอยู่” น้ำเสียงเรียบเฉยของบิดาบอกกล่าวบุตรชายของตน
“ท่านพ่อหมายถึงผู้ใดรึขอรับ”
“ก็คนในใจของคำหอมอย่างไรเล่า”
“…”
“เอ็งงงอะไรนักวะ ก็ไอ้ทาสชั้นต่ำนั่นไง ข้าได้ยินจากปากสหายมาตลอด มิคิดว่าวันนี้ไอ้เจ้านั่นจะโผล่มาหน้ามาให้เห็นเสียด้วย”
เมื่อเห็นว่าบุตรชายทำหน้ามึนงงเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ พระยาไตรเทพถึงได้พยายามอธิบายให้บุตรชายฟัง
“ข้ามิชอบหน้ามันขอรับท่านพ่อ ดูเหมือนน้องคำหอมจะเอาแต่สนใจมัน จนเผลอทำตัวมิดีใส่ข้าตั้งหลายครั้งหลายครา”
ยิ่งหวนคิดไปถึงเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ความเคียดแค้นที่ไตรภพมีต่อพบกล้าก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีก เขารู้สึกเจ็บใจที่คุณชายคำหอมเอาแต่สนใจทาสในเรือนออกนอกหน้า แถมยังพยายามพูดจาหรือแม้กระทั่งแสดงพฤติกรรมไม่ดีต่อหน้าเขาตั้งหลายครั้งหลายหน ราวกับว่าอีกฝ่ายกำลังเหยียดหยามเขา และทำอะไรข้ามหน้าข้ามตา จนทำให้ไตรภพรู้สึกไม่ชอบใจ
ด้วยนิสัยของไตรภพที่ปกติเป็นคนชอบถือยศถือศักดิ์ ไม่ต่างจากบิดาของตน ไม่ชอบให้คนอื่นมามองข้าม เขาถึงได้รู้สึกไม่พอใจยามที่ได้เห็นคุณชายคำหอม ไม่สนใจเขาแต่เลือกที่จะสนใจทาสในเรือนที่มียศศักดิ์ต่ำต้อยกว่าเขา
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขามีนิสัยเช่นนั้น เพราะปกติแล้วเวลาอยู่ต่อหน้าบุคคลอื่น ไตรภพจะพยายามใส่หน้ากาก แสร้งแสดงตนว่าตัวเองเป็นคนดี ไม่แบ่งแยกชนชั้น ชอบช่วยเหลือผู้อื่น นั่นก็เพื่อผลประโยชน์บางอย่างเท่านั้น
“มิใช่แค่เอ็ง สหายของข้าก็เช่นกัน เรื่องที่สหายข้าเคยบอกกล่าวเอาไว้ ว่าบุตรชายของมันมีคนในใจอยู่แล้ว เพียงแต่สหายของข้ามิอยากยอมรับคนผู้นั้น ถึงได้พยายามมองหาคนที่เหมาะสมกับคำหอมมาตลอด”
พระยาไตรเทพยังคงอธิบายถึงเรื่องที่เขารับรู้มาให้บุตรชายฟัง
“ฤๅว่าในใจของน้องคำหอม คือไอ้พบกล้าจริง ๆ ขอรับ”
“ก็จากที่เจ้าและข้าเห็นในวันนี้ ดูท่าจะเป็นเรื่องจริง”
มีหลายครั้งหลายคราที่พระยาไตรเทพเห็นว่า คุณชายคำหอมดูสนอกสนใจทาสหนุ่มคนนั้นเป็นพิเศษ แถมยังแสดงอาการบางอย่างออกมาให้เห็นชัดเจน จนพระยาไตรเทพที่แอบมองดูถึงการกระทำของคุณชายคำหอมอดคิดไม่ได้ว่า คนที่อยู่ในใจของคุณชายคำหอม คือพบกล้าจริง ๆ
ทั้งพยายามเชิญชวนทาสหนุ่มในเรือนในทานอาหารร่วมกัน ทั้งแสดงท่าทีเป็นห่วงเมื่อได้เห็นอีกฝ่ายเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วไหนจะร่ำไห้วิ่งหนีออกไปจากงานเมื่อเขาเอ่ยถึงเรื่องสัญญาหมั้นหมาย แถมยังกลับมาที่งาน พร้อมกับทาสหนุ่มรายนั้นอีก และสิ่งที่ทำให้พระยาไตรเทพมั่นใจขึ้นไปอีก ก็คือพระยาคมศักดิ์ แสดงท่าทางไม่พอใจทุกครั้ง ที่เห็นบุตรชายตนเองอยู่ใกล้กับทาสหนุ่มรายนั้น
“หึ…เป็นแค่ทาสต่ำต้อย แต่กลับได้ครองใจน้องคำหอมอย่างนั้นฤๅ ช่างน่าขันสิ้นดี”
“เอ็งอย่าได้กังวลไป ถึงอย่างไรซะเอ็งจะได้หมั้นหมายกับคำหอมอยู่ดี”
พระยาไตรเทพยังคงมั่นใจในตัวเพื่อนสนิทของเขา สัญญาที่ประกาศกร้าวออกไป ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะผิดสัญญาอย่างแน่นอน
“เพราะเหตุนี้ท่านพ่อถึงได้พยายามเสนอชื่อข้า ให้พระยาคมศักดิ์พิจารณาสินะขอรับ”
“ใช่ ข้าพยายามเป่าหูสหายข้ามาตลอด พูดถึงแต่เรื่องดี ๆ ของเอ็ง สหายข้าเองก็คิดเหมือนกันกับข้า หากเอ็งมิเหมาะสม ก็มิมีผู้ใดเหมาะสมไปมากกว่านี้แล้วล่ะ”
“…”
“และต่อให้มีคนที่เหมาะสมมากกว่าเอ็ง ถึงอย่างไรซะ ข้าก็จะหาวิธีกีดกันมิให้สหายข้าเลือกคนผู้นั้นแทนเอ็งอยู่ดี”
น้ำเสียงเรียบเฉยยังคงเอ่ยออกไป ด้วยความภาคภูมิใจ แผนการทั้งหมดที่เขาพยายามทำมา ดำเนินการมาได้ครึ่งทางแล้ว เหลือก็เพียงรอเวลาให้บุตรชายของพวกเขาได้หมั้นหมายกัน ถึงเวลานั้นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด ก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
“ท่านพ่อคิดจะทำเช่นนั้นจริง ๆ ฤๅขอรับ พระยาคมศักดิ์ก็เป็นสหายรักของท่านพ่อนี่ขอรับ”
แผนการของบิดา ไตรภพเองก็รับรู้มาตลอดเช่นกัน แม้จะไม่รู้ถึงจุดประสงค์หลักที่แท้จริง แต่สุดท้ายแล้วไตรภพก็ยอมทำตามในสิ่งที่บิดาต้องการอยู่ดี
“สิ่งที่ข้าสนใจมีเพียงอำนาจ ชื่อเสียง เงินทอง และสิ่งที่ควรจะเป็นของข้ามาตั้งแต่แรก กลับคืนมาก็เท่านั้น”
“บัดนี้ท่านพ่อก็มีอำนาจ ชื่อเสียง แม้กระทั่งเงินทองมากพอแล้วนี่ขอรับ”
“ยังหรอกมันยังมิพอ เพราะข้ายังมิได้สิ่งที่ข้าต้องการกลับคืนมาเลยน่ะสิ”
“แม้ว่านั่นจะเป็นการหักหลังสหายรักของท่านพ่องั้นฤๅขอรับ”
“ต่อให้ต้องฆ่า เพื่อแย่งคืนสิ่งเหล่านั้นกลับคืนมา ข้าก็จะทำ”
น้ำเมาในมือถูกยกซดดื่มจนหมดแก้ว ก่อนที่พระยาไตรเทพจะหวนกลับไปคิดถึงความหลังที่ทำให้เขารู้สึกคับแค้นใจ ถึงขนาดยอมหักหลังเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก อย่างที่บุตรชายว่าเอาไว้ ถ้าหากพระยาคมศักดิ์ผู้เป็นเพื่อนรักของเขา มารับรู้ทีหลังว่าถูกหักหลังจากเขาที่เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว จะรู้สึกอย่างไร
พระยาคมศักดิ์อาจจะเสียใจจนคลั่ง หรือจะโกรธแค้นเขาไปตลอดชีวิต นั่นเป็นสิ่งที่พระยาไตรเทพเองก็ไม่สามารถรับรู้ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต่อให้เขาจะรู้สึกผิดต่อเพื่อน หรือสงสารอีกฝ่ายมากแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่จะทำตามแผนการที่วางไว้อยู่ดี
“ของสิ่งนั้นคืออะไรฤๅขอรับ”
หลังจากได้ยินบิดาเอาแต่พูดถึงสิ่งเหล่านั้น ไตรภพถึงได้เอ่ยถามออกไป เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าของที่บิดาต้องการ ถึงขนาดยอมหักหลังเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่คบกันมาตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ หากจะให้เขาคาดเดา ของสิ่งนั้นต้องมีความจำเป็นกับบิดาของตนเป็นแน่ และคนที่แย่งของสิ่งนั้นไปจากบิดาของเขา คงจะเป็นพระยาคมศักดิ์อย่างแน่นอน
“เมื่อถึงเวลานั้นเอ็งก็จะรู้เอง”
“หากพระยาคมศักดิ์มารู้ภายหลังว่าสหายที่ตนทั้งรักและเถิดทูล ดันมาหักหลังกันซะได้ จะมิเสียใจแย่เลยฤๅขอรับ”
“จะเสียใจฤๅไม่ ก็มิใช่กงการอะไรของข้า” น้ำเสียงเรียบเฉยตอบกลับบุตรชายของตน
“ท่านพ่อนี่ละหนา มิใช่ว่าสุดท้ายแล้ว จะเป็นตัวท่านที่รู้สึกผิดเสียเองนะขอรับ”
ต่อให้บิดาจะพูดออกมาเช่นนั้น แต่ในใจลึก ๆ แล้ว ไตรภพก็เชื่อว่าบิดาของตนต้องรู้สึกอะไรบางอย่างแน่นอน อาจรู้สึกผิด รู้สึกเสียใจ หรือรู้สึกสงสารพระยาคมศักดิ์อยู่ไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วบิดาก็ยังเลือกที่จะทำตามแผนการ เลือกที่จะหักหลังพระยาคมศักดิ์ เพียงเพราะความต้องการของเขานั้นมีมากกว่า มิตรภาพความเป็นเพื่อนของพวกเขาอยู่ดี
“มิมีวัน ข้าตัดสินใจแล้ว ย่อมรู้ตัวเองดี”
“แต่คนอย่างพระยาคมศักดิ์ เหตุใดถึงเชื่อคำท่านพ่อได้ลงเช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่ท่านพ่อของข้าก็มิใช่คนดีอะไรขนาดนั้น”
“ไอ้เจ้านี่ ข้าก็เป่าหูมันสิวะ สหายข้ามันฉลาดทุกเรื่อง ดันมาโง่เพราะถูกข้าเป่าหูอย่างไรล่ะ”
“ท่านพ่อนี่ใจร้ายจังนะขอรับ” ไตรภพยังคงแกล้งเอ่ยแซวบิดาของตน
“พูดอย่างกับเอ็งเป็นคนดีนักแหละ ว่าก็ว่าเถอะ เอ็งชอบคำหอมอย่างที่พูดเอาไว้จริงฤๅไม่ หากเจ้ารักคำหอมจริง ๆ ข้าเกรงว่าแผนการของข้าอาจจะมีปัญหาตามมาภายหลัง”
“หึ…ข้ามิได้รักคำหอมตามที่บอกไปก่อนหน้านี้หรอกขอรับ ก็แค่ต้องทำตัวดีต่อหน้าว่าที่พ่อตามิใช่ฤๅขอรับ”
ในงานเลี้ยงที่ไตรภพเอ่ยออกไปต่อหน้าทุกคนว่าเขานั้นรักคุณชายคำหอม และอยากดูแลอีกฝ่ายนั้น ไม่เป็นความจริงเลยสักนิด ไตรภพไม่เคยชอบคุณชายคำหอม เพราะนิสัยและพฤติกรรมของอีกฝ่าย ที่ยังเป็นเด็กไม่รู้จักโต ชอบทำให้เขาอารมณ์เสียทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะกลับมาเจอกัน ชอบทำตัวเมินเฉยและไม่สนใจในสิ่งที่เขาพูด แถมยังเอาแต่ใจ ทำตัวเมินเฉยเขา ทั้ง ๆ ที่ตั้งแต่เกิดมา ไตรภพไม่เคยถูกใครหน้าไหนเมินเฉยเขาเลยสักคนเดียว นั่นเป็นสาเหตุที่ไตรภพไม่พึงชอบในตัวคุณชายคำหอมเลยสักนิด
แต่ที่เขาพูดออกไปว่าทั้งหลงรักและอยากดูแลคุณชายคำหอมเช่นนั้น ก็เพื่อต้องการเอาชนะบรรดาคู่แข่งของเขา รวมไปถึงต้องการเอาชนะใจพระยาคมศักดิ์ที่เป็นบิดาของคุณชายคำหอม ให้ไว้ใจในตัวเขาเช่นกัน
“ไอ้เจ้านี่ แสบใช่เล่นเหมือนกันนี่หว่า” พระยาไตรเทพเอ่ยแซวบุตรชายของตน
“แต่มีอย่างหนึ่งที่ข้าชอบในตัวเด็กนั่นจริง ๆ นะขอรับ”
แม้เขาจะไม่ชอบนิสัยใจคอ และพฤติกรรมของคุณชายคำหอม แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไตรภพนั้นชอบในตัวคุณชายคำหอมอยู่
“อย่าบอกนะว่า…”
“อย่างที่ท่านพ่อคิดนั่นแหละขอรับ ร่างกายที่ไร้มลทินใด ๆ ร่างกายบริสุทธิ์ของเด็กนั่น ช่างน่าลิ้มลองดีนะขอรับ”
สำหรับไตรภพแล้ว เขาไม่ชอบมีสัมพันธ์กับหญิงสาว เพราะมีแต่ปัญหาตามมา เพราะแบบนี้เขาถึงได้พึงชอบมีสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน การได้ครอบครองชายหนุ่มผู้บริสุทธิ์เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและเร้าใจสำหรับตัวเขา ไตรภพชอบมีสัมพันธ์กับชายหนุ่มที่ไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน การได้เห็นอีกฝ่ายร่ำไห้เพราะถูกเขากระทำเป็นครั้งแรก มันก็ยิ่งทำให้ไตรภพรู้สึกชอบใจและสะใจเข้าไปอีก
หากเขารู้สึกสนใจถึงขนาดต้องการคนคนนั้นมาครอบครอง ไตรภพจะไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมีคู่ครองหรือไม่ หากมีอยู่แล้วเขาจะแย่งชิงมา หากอีกฝ่ายยังไม่มีคู่ครอง เขาจะใช้วาจาและการกระทำมาหลอกล่อให้เหยื่อติดกับ
ไตรภพไม่ได้สนใจในอายุ หรือการงานของอีกฝ่าย แต่สิ่งที่เขาสนใจคือหน้าตาและร่างกายที่เย้ายวนของชายหนุ่มผู้บริสุทธิ์ ยิ่งคุณชายคำหอมที่มีทั้งหน้าตา และร่างกายดึงดูดใจขนาดนั้น มันยิ่งทำให้ไตรภพอยากครอบครองอีกฝ่ายให้ได้โดยเร็วมากขึ้นไปอีก
หากถามว่ามีผู้ใดรับรู้ถึงการกระทำและรสนิยมอันเลวทรามเหล่านั้นของไตรภพหรือไม่ แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดล่วงรู้ เพราะอำนาจและยศศักดิ์ของเขา สามารถใช้ในการต่อรองเจรจาเพื่อปิดปากบรรดาคนที่ตกเป็นเหยื่อของเขาทั้งสิ้น
เพราะแบบนี้ต่อให้ไตรภพจะกระทำการเรื่องเลวทราม ก็ไม่มีข่าวฉาวเสีย ๆ หาย ๆ หลุดลอยออกไป ชื่อเสียงของเขายังคงเป็นเพียงชายหนุ่มที่มีจิตใจดี มีหน้าที่การงานดี แถมยังหน้าตาดีจนใครต่อใครพากันอิจฉา และอยากได้ชายหนุ่มจิตใจดีผู้นี้มาครอบครอง
“ต่อให้เอ็งมิเอ่ยปากออกมา ข้าก็พอจะรู้ว่าเอ็งคิดจะทำอะไร หากคำหอมมิยินยอมรับรักจากเอ็ง”
พระยาไตรเทพที่รู้นิสัยและพฤติกรรมของบุตรชายมาตลอด ก็ย่อมรู้อยู่แล้วว่าบุตรชายของตนนั้นคิดที่จะทำอะไร แต่เขานั้นไม่เคยคิดห้ามปราม แถมยังให้ท้ายและช่วยปิดข่าวมาตลอดเช่นกัน
“แหม...ท่านพ่อ ช่างรู้ใจข้าเสียจริงนะขอรับ”
“อย่าทำอะไรให้มันเกินหน้าเกินตา เดี๋ยวเหยื่อของเราจะแตกตื่นเข้าเสียก่อน”
“ข้ารู้หน่าท่านพ่อ”
“เอาเถอะ แล้วก็อย่าปล่อยให้ไอ้พบกล้าอะไรนั่น แย่งคำหอมไปจากเจ้าได้เด็ดขาด มิเช่นนั้นแผนการที่ข้าอุตส่าห์พยายามทำมาทั้งหมด จะมิมีความหมายอะไรเลย”
น้ำเสียงเรียบเฉยพยายามย้ำเตือนบุตรชายอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นจากไป ทิ้งไว้เพียงบุตรชายที่ยังคงดื่มด่ำกับน้ำเมา พร้อมกับเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ยามคิดถึงร่างกายอันเย้ายวนของชายที่เขาหมายปอง