คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ไทย,BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
.
.
.
ถ้อยคำเอื้อนเอ่ยที่ออกมาจากปากของไตรภพทั้งหมดนั้น แน่นอนว่าสามารถทำให้คุณชายคำหอมชะงักนิ่งไปได้ แม้ไม่รู้แน่ชัดว่าสิ่งที่ไตรภพเอื้อนเอ่ยออกมานั้น เพียงเพราะต้องการแสดงอำนาจเพื่อข่มขู่ให้เขากลัว หรือแค่ต้องการประกาศศึกกับเขากันแน่ แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายต้องการสิ่งใด ในอนาคตข้างหน้าคุณชายคำหอมไม่มีทางยอมตบแต่งกับไตรภพอย่างแน่นอน
“เช่นนั้นแล้วก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตเถอะขอรับท่านพี่ ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านโมโหเช่นนี้”
“ข้ามิโกรธเจ้า แต่อยากจะขอร้องเจ้า ในยามนี้ได้โปรดอย่าได้ผลักไสข้าเลย ข้าชอบเจ้าจริง ๆ หนา”
ท่าทางเสแสร้งแกล้งทำให้ เพื่อให้อีกฝ่ายเห็นใจถูกถ่ายทอดออกมา ผ่านสายตาขอร้องอ้อนวอน ผ่านน้ำเสียงสั่นเครือ ที่ดูเหมือนจะได้ผลในชั่วขณะ
“…” คุณชายคำหอมเริ่มอึดอัด และเริ่มรู้สึกคิดหนักกับคำพูด รวมไปถึงท่าทางชวนสงสารของอีกฝ่าย
“ถึงแม้ในใจของเจ้าจะมิมีข้าอยู่ในนั้นเลยก็ตาม แต่เจ้าโปรดจงรู้ไว้ ในใจของข้านั้นมีแต่เจ้าเพียงผู้เดียว”
“ท่านพี่…”
ในขณะที่คุณชายคำหอมกำลังรู้สึกอึดอัดกับท่าทางและคำพูดของอีกฝ่ายนั้น จู่ ๆ ฉัตรก็เดินตรงเข้ามารายงานให้เขาทราบถึงคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย นั่นจึงทำให้คุณชายคำหอมสามารถคลายความกังวลต่อไตรภพได้ชั่วขณะ
“ขออภัยขอรับคุณชาย ยามนี้ของหวานทั้งหมดถูกจัดเตรียมให้กับพระยาคมศักดิ์และแขกท่านอื่น ๆ เรียบร้อยแล้วขอรับ”
ฉัตรรายงานทุกอย่างตามหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมายจากคุณชายคำหอม
“เช่นนั้นแล้ว พี่ก็ไปพักเถอะหนา อย่าลืมทานกล้วยบวชชีของข้าเสียด้วยล่ะ”
“ขอรับคุณชาย”
“ว่าแต่พี่ฉัตร แล้วพี่กล้าอยู่ที่ไหนล่ะ ข้ายังมิเห็นพี่เขามาที่นี่เลย”
แม้จะมีเหล่าทาสแรงงานแวะเวียนเข้ามารับกล้วยบวชชีไม่ขาดสาย แต่คุณชายคำหอมกลับยังไม่พบคนที่เขาต้องการเจอมากที่สุดเสียที
“อีกประเดี๋ยวก็คงจะมาถึงขอรับ”
“อื้อ…เช่นนั้นพี่ไปพักเถอะ ไว้ข้าจะกลับเรือนค่อยให้คนไปตามพี่หนา”
“ขอรับคุณชาย”
คุณชายคำหอมที่มัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาคุยกับทาสติดตาม จนลืมคู่สนทนาอย่างไตรภพไปเสียสนิท ก่อนจะเห็นอีกฝ่ายนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ราวกับคนกำลังอารมณ์ไม่ดี เพราะเมื่อเขาได้ยินชื่อของใครบางคนออกมาจากปากของคุณชายคำหอม มันกลับทำให้เขารู้สึกแสลงหู และรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก จนเผลอแสดงท่าทีไม่พอใจออกมา
“เอ่อ…ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทต่อท่านขอรับ”
เพราะรู้ตัวดีว่าเผลอเสียมารยาทใส่อีกฝ่าย แถมยังเอาแต่พูดคุยกับทาสติดตามอย่างสบายใจ จนลืมไตรภพที่นั่งเงียบอยู่นาน คุณชายคำหอมถึงต้องเป็นฝ่ายขอโทษขอโพยอีกฝ่ายก่อน
“เห็นท่าทางเช่นนั้นของเจ้า ข้าก็นึกว่าเจ้าลืมข้าไปแล้วเสียอีก”
แม้ในใจจะรู้สึกขุ่นเคืองใจ แต่ไตรภพกลับพยายามปั้นหน้า แสร้งทำเป็นเสียใจที่อีกฝ่ายไม่สนใจในตัวเขา
“ข้าต้องขอโทษจริง ๆ ขอรับ”
“เอาเถอะ ในยามนี้ข้าก็มิได้อยากบังคับฝืนใจเจ้าขนาดนั้น แต่จะว่าไปกล้วยบวชชีของเจ้าก็อร่อยใช่ได้นี่”
“เอ่อ…ข้าดีใจที่ท่านพี่ชอบนะขอรับ”
“แต่มันคงจะดีกว่านี้ หากเจ้าทำให้ข้าได้ลิ้มลองแต่เพียงผู้เดียว”
ในขณะที่ไตรภพเอื้อนเอ่ยออกไป สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นใครบางคน ที่เขานั้นไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุดในชีวิต กำลังเดินตรงมาทางโรงครัว
“ขออภัยที่ข้ามิสามารถทำให้ท่านพี่ทานได้แต่เพียงผู้เดียว นั่นเพราะข้าตั้งใจทำกล้วยบวชชีให้ทุกคนได้ลิ้มลองอยู่แล้วขอรับ”
“ถ้าเช่นนั้น ครั้งหน้าหากข้าอยากลิ้มลองรสชาติอีก ข้าสามารถขอร้องให้เจ้าทำให้ข้าแต่เพียงผู้เดียวได้ฤๅไม่”
“ข้ามิรับปากนะขอรับ แต่ในเมื่อท่านพี่ขอร้องข้าขนาดนี้ ข้าจะเก็บไว้พิจารณาขอรับ”
“เพียงเท่านี้ก็ดีมากพอแล้ว”
.
.
.
ทางด้านพบกล้า ที่เดินเข้ามาในโรงครัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ไม่รู้ว่าคุณชายคำหอมผู้เป็นนายของเขา กำลังพูดคุยอะไรกับว่าที่คู่หมั้นอย่างขุนไตรภพ แต่จากสายตาที่พบกล้ามองไปที่ทั้งสองฝ่าย พวกเขาทั้งคู่ช่างเหมาะสมกันมากเลยทีเดียว
ก่อนจะสังเกตเห็นฉัตร สหายรักสหายคนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของเขา ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตากับการตักกล้วยบวชชีแบ่งใส่ถ้วยให้กับเหล่าทาสในเรือน และเมื่ออีกฝ่ายสังเกตเห็นเขาก็พยายามโบกมือเรียกให้เขาเดินไปหา แน่นอนว่าพบกล้าก็เดินตรงไปหาฉัตรอย่างไม่ลังเล
“มาแล้วรึ คุณชายคำหอมถามหาเอ็งตลอดเลย”
“อืม…ว่าแต่คุณชายคำหอมมีเรื่องจะคุยกับข้าอย่างนั้นรึ”
พบกล้าเอ่ยถามฉัตรอย่างสับสนอยู่หน่อย ๆ เพราะการที่คุณชายคำหอมพยายามถามหาเขา เป็นไปได้มากว่าอีกฝ่ายอาจจะมีธุระสำคัญหรือต้องการใช้งานเขาก็เป็นได้
ว่าแต่คุณชายคำหอมถามหาเขาทำไมกัน นั่นเป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจของพบกล้า แต่เขากลับไม่มีความกล้ามากพอในการเดินเข้าไปถามคุณชายคำหอม เนื่องจากคุณชายคำหอมคงไม่อยากให้ผู้อื่นเข้าไปขัดจังหวะบทสนทนาที่ดูน่าจะสนุกสนานระหว่างเขากับขุนไตรภพก็เป็นได้
“ข้าว่ามิใช่เรื่องใหญ่โตอะไรขนาดนั้น คุณชายคำหอมคงกลัวว่าเอ็งจะมิได้กินกล้วยบวชชีนี่กระมัง”
“จะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ รึ”
“ก็เออสิวะ คุณชายกำชับข้าให้ตามเอ็งมาลองกินกล้วยบวชชีให้ได้ สงสัยคงอยากให้เอ็งได้กินจริง ๆ อีกอย่างคุณชายยังตั้งใจทำกล้วยบวชชีสุดฝีมือเลยนะเว้ย”
ฉัตรไม่ได้ปิดบังเรื่องที่คุณชายคำหอมตั้งอกตั้งใจในการทำกล้วยบวชชีเพื่อให้พบกล้าประทับใจให้กับอีกฝ่ายให้รับรู้ แต่ยิ่งเขาพูดความจริงมากเพียงใด แต่ดูเหมือนพบกล้าจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เขาพยายามบอกเลยสักนิด แถมไม่มีความคิดเข้าข้างตัวเองเลยสักนิดเลยเดียว พบกล้าช่างเป็นคนซื่อและเป็นคนดีมากกว่าที่ฉัตรคาดการณ์เอาไว้เสียอีก
“เอ็งก็พูดเกินไป คุณชายคงตั้งใจทำให้ทุกคนได้ลองกินนั่นแหละ”
“ถ้าเช่นนั้นก็ดีไป แต่คุณชายคำหอมเลือกทำของโปรดเอ็งเลยนะเว้ย ไอกล้าเอ็งมิคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยฤๅ”
“ข้าจะไปคิดเช่นนั้นได้อย่างไร ไอ้ฉัตรเอ็งมองดูพวกเขาสิวะ พวกเขาเหมาะสมกันมากขนาดนั้น จะให้ข้าคิดเข้าข้างตัวเองได้เช่นไร”
ภาพของคุณชายคำหอมและขุนไตรภพ ที่นั่งสนทนาด้วยท่าทางยิ้มแย้มและดูเขินอายนั้น ช่างดูเหมาะสมกันมากจริง ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร ฉัตรก็ยังเชื่อในคำพูดของคุณชายคำหอมที่เคยบอกกับเขาอยู่เสมอ ว่าคุณชายคำหอมนั้นไม่เคยมีชายคนใดอยู่ในสายตา และเขาจะไม่มีทางยอมตบแต่งกับชายที่ไม่ได้รักเป็นอันขาด และชายคนเดียวที่เขารักและอยากตบแต่งด้วยมากที่สุดนั้น ก็คือพบกล้าเพียงคนเดียวเท่านั้น
และเพราะสาเหตุนี้ที่ทำให้ฉัตรพยายามบอกกล่าวให้พบกล้ารู้ตัว ถึงเรื่องที่คุณชายคำหอมกำลังชอบพอพบกล้าอยู่นั้นเป็นความจริง แต่ดูเหมือนยิ่งฉัตรพยายามบอกกล่าวเรื่องนี้มากเพียงใด พบกล้าก็ยิ่งสร้างกำแพงในใจขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น กำแพงเรื่องความเหมาะสมที่แม้แต่ฉัตรเองก็ยังต้องยอมจำนน
“ข้าก็บอกอยู่ว่าคุณชายของข้ามิได้ชอบพอขุนไตรภพ คุณชายของข้ามีใจให้เอ็งจริง ๆ แต่เอ็งก็ยังมิเชื่อข้าอีก”
“ต่อให้เอ็งจะพูดความจริง ต่อให้เอ็งจะพูดกรอกหูข้าอยู่ทุกวี่ทุกวันมากเพียงใด แต่ข้าก็รู้ตัวดีว่าคนอย่างข้า มิคู่ควรกับคุณชายอยู่ดีนั่นแหละวะ”
“เฮ้อ…ข้าเหนื่อยกับเอ็งเสียจริง เหตุใดคุณชายของข้า ถึงต้องมาชอบพอคนซื่อบื้ออย่างเอ็งด้วยวะ”
“ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น ถึงอย่างไรซะทาสต่ำต้อยอย่างข้า มิมีทางสมหวังในเรื่องความรัก ยิ่งกับคุณชายคำหอมที่ถึงจะมีใจให้ข้าจริง ๆ ก็ตาม นั่นยิ่งมิมีทางเป็นจริงไปได้เข้าไปใหญ่”
“…”
“ต่อให้พยายามมากเพียงใด สุดท้ายแล้วเรื่องของความเหมาะสมและความจริงที่ควรยอมรับ จะคอยย้ำเตือนจิตใจข้ามิเปลี่ยนแปลงอยู่ดี”
“เฮ้อ…เรื่องนี้มันยากเกินกว่าที่ข้าจะรับมือได้ แต่เอ็งจงเชื่อข้าเถอะ ต่อให้เอ็งจะปฏิเสธมากเพียงใด แต่เรื่องที่คุณชายคำหอมมีใจให้เอ็ง นั่นเป็นเรื่องจริง”
สุดท้ายแล้วบทสนทนาของทั้งคู่จำต้องหยุดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมีผู้มาเยือนใหม่เริ่มทยอยเข้ามาต่อคิวรับกล้วยบวชชี พบกล้าลอบมองไปยังคุณชายคำหอมและขุนไตรภพที่กำลังพูดคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุข ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มยินดีให้กับทั้งสองฝ่าย
ส่วนตัวพบกล้านั้น ต่อให้พยายามทำใจยอมรับความจริงมากเพียงใด แต่ในใจลึก ๆ ของเขานั้น ยอมรับว่ากำลังสั่นไหวเพราะเสียใจที่ต้องคอยแอบมองคนที่ตนชอบพอ กำลังมีความสุขกับคนที่อีกฝ่ายคู่ควรมากกว่าตัวเขาเอง
.
.
.
“หลังจากนี้เจ้าจะทำอะไรต่อรึ”
ไตรภพเอ่ยถามคุณชายคำหอมอีกครั้ง เพื่อรั้งไม่ให้อีกฝ่ายหันไปให้ความสนใจกับทาสหนุ่มที่เฝ้ารอพบเจอมาตลอด
“อืม…ข้าว่าจะไปร้อยมาลัยเสียหน่อยน่ะขอรับ”
และเพราะถ้อยคำเอื้อนเอ่ยของอีกฝ่าย ทำให้คุณชายคำหอมจำเป็นต้องตอบคำถามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นทาสหนุ่มที่เขาต้องการพบเจอ กำลังช่วยเหลือทาสคนครัว แจกจ่ายกล้วยบวชชีให้กับทาสในเรือนอยู่
“ตัวก็เล็กแค่นี้ แต่เจ้ากลับเก่งไปเสียทุกอย่าง นั่นยิ่งทำให้ข้าชอบเจ้าเข้าไปใหญ่เลยหนา”
“ท่านพี่ก็เอ่ยชมข้าเกินไปแล้ว ข้ามิได้เก่งอะไรขนาดนั้นหรอกขอรับ”
“เก่งสิ…สำหรับข้า เจ้าน่ะเก่งที่สุดในโลกแล้วล่ะ”
“ท่านพี่เอ่ยชมข้าเช่นนี้ ข้าก็ทำตัวมิถูกสิขอรับ”
“นี่เจ้า รู้สึกเขินอายกับคำเอ่ยชมของข้าอย่างนั้นฤๅ ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้”
คุณชายคำหอมไม่ได้ตอบกลับใด ๆ เขาเลือกที่จะนั่งมองอีกฝ่ายอย่างเงียบ ๆ แน่นอนว่าทุกถ้อยคำเอ่ยชมของไตรภพนั้น ไม่ได้ทำให้หัวใจของคุณชายคำหอมหวั่นไหวเลยสักนิด เพียงแค่ทำตัวไม่ถูกยามถูกเอ่ยชมจากคนที่ตนไม่ได้ชอบพอมากขนาดนั้น แต่ดูเหมือนอีกจะคิดเข้าข้างตัวเองและคิดว่าคุณชายคำหอมกำลังเขินอายกับถ้อยคำเอ่ยชมพวกนั้น
เพราะเริ่มเบื่อหน่ายกับการให้ความสนใจกับคู่สนทนาตรงหน้าอยู่นาน ก่อนจะพยายามละสายตาออกไปทางอื่น คุณชายคำหอมถึงเพิ่งจะสังเกตเห็นพบกล้า ที่ในยามนี้กำลังช่วยเหลือฉัตร และทาสคนครัวอีกสองสามคน ในการส่งมอบกล้วยบวชชีให้กับทาสในเรือนที่กำลังต่อแถวเข้าคิวรับของหวานอยู่
ความรู้สึกดีอกดีใจที่ได้พบเจอพบกล้าอีกครั้ง หลังจากรอคอยมานานหลายชั่วโมง ทำให้คุณชายคำหอมเผลอส่งเสียงดังตะโกนเรียกอีกฝ่าย โดยไม่สนใจสายตาที่จับจ้องมองมาของบรรดาทาสในเรือน หรือแม้กระทั่งสายตาไม่พอใจของไตรภพเช่นกัน
“พี่กล้า!”