คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ไทย,BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
.
.
.
งานต่าง ๆ และบทสรุปที่พระยาทรงยศต้องการหาทางออกก็ได้รับคำปรึกษาจากเหล่าสหายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ เองก็เห็นสมควรจะได้เวลาเดินทางกลับเสียที เว้นเสียแต่พระยาไตรเทพที่รอให้บุตรชายของตนเสร็จสิ้นจากการไปช่วยว่าที่คู่หมั้นที่โรงครัวเสียก่อน
พระยาคมศักดิ์ผู้เป็นเจ้าบ้านที่ดี ก็ไม่ลืมทำหน้าที่ส่งแขกกลับ ก่อนจะกลับเข้ามาในห้องโถงอีกครั้ง เพื่อพาสหายรักอย่างพระยาไตรเทพ ไปหาบุตรชายตามสัญญาที่ว่าไว้กับบุตรชายของสหายรักก่อนหน้านี้
“ป่านนี้แล้ว ข้าว่าน่าจะเสร็จสิ้นจากการทำของหวานกันเสียแล้วกระมัง เอ็งตามไปดูให้ข้าที ได้เรื่องยังไงกลับมารายงานข้าด้วย”
พระยาคมศักดิ์ออกคำสั่งกับทาสติดตามของตน
“ขอรับนายท่าน”
ระหว่างที่รอให้ทาสติดตามกลับมาแจ้งเรื่องที่เขาสั่งไป พระยาคมศักดิ์และสหายรักอย่างพระยาไตรเทพ ก็ไม่วายที่จะพูดคุยถึงเรื่องบุตรชายของพวกเขาทั้งคู่ไปด้วย
“ข้าหวังว่าคำหอมของข้า คงจะมิได้แผลงฤทธิ์ใส่บุตรชายของเจ้าหรอกหนา” พระยาคมศักดิ์เอ่ยแซวสหายของตน
“หากบุตรชายของเจ้าแผลงฤทธิ์ขึ้นมาจริง ๆ มีรึที่บุตรชายของข้าจะรับมือมิได้” พระยาไตรเทพตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ฮ่าฮ่า…หากเจ้าว่าเช่นนี้ เห็นทีข้าคงจะคิดถูกที่จะให้พวกเขาหมั้นหมายกัน”
“ใช่…เจ้าคิดถูกแล้ว คิดถูกแล้วจริง ๆ หากมีผู้ใดมาแย่งคำหอมไปจากบุตรชายข้า โดยเฉพาะไอ้ทาสชั้นต่ำนั่น ข้าคงมิต้องบอกเจ้าหนา ว่าควรทำเช่นไร”
แน่นอนว่าทาสหนุ่มที่พระยาไตรเทพเอ่ยถึง ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นทาสหนุ่มที่ชื่อพบกล้านั่นเอง
หากเป็นบุคคลอื่นเขาคงจะไม่กังวลเช่นนี้ แต่พบกล้าเป็นคนที่อยู่ในใจคุณชายคำหอมมาตลอด พระยาไตรเทพก็เกรงว่า หากพระยาคมศักดิ์ไม่รีบจัดการเรื่องนี้ มีหวังอนาคตข้างหน้า คุณชายคำหอมจะไม่ยอมตบแต่งกับบุตรชายของตนขึ้นมาก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้นแผนการทั้งหมดที่เขาทำมา มันจะเสียเปล่าทันที และเขาเองก็จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้เช่นกัน
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้พระยาไตรเทพ พยายามพูดกรอกหูพระยาคมศักดิ์ถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ เพราะหากเมื่อใดก็ตามที่พระยาคมศักดิ์ไม่ยอมจัดการเรื่องนี้ เขาจะเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมดเอง
“เจ้ามิต้องห่วงเรื่องนี้ไป หากมิใช่บุตรชายเจ้า ข้าก็มิยอมยกบุตรชายข้าให้ใครหน้าไหนทั้งสิ้น”
“ต้องอย่างนี้สิวะสหายข้า หากเจ้าจัดการมิได้ก็แค่เอ่ยปากบอกข้า ข้าพร้อมที่จะจัดการเรื่องนี้เอง”
.
.
.
ทางด้านคุณชายคำหอมและฉัตร ที่กำลังใจจดใจจ่อกับการตามหาพบกล้าให้เจอ เขาพยายามนึกคิดถึงจุดที่น่าจะเหมาะกับการพูดคุยกันเป็นส่วนตัว จุดที่คิดว่าขุนไตรภพน่าจะพาพบกล้าไปที่นั่น หากไม่ใช่เรือนหลักที่พวกเขารับประทานอาหารร่วมกันก่อนหน้านี้ ก็ต้องอยู่ไม่ไกลจากโรงครัวเสียเท่าไร แต่เหตุใดพวกเขาถึงหาไม่เจอเสียที
“จากโรงครัวกลับไปเรือนหลักก็มิน่าไกลขนาดนั้น แต่เหตุใดเราถึงหาพวกเขามิเจอล่ะพี่ฉัตร” น้ำเสียงตื่นตระหนกดังขึ้นอีกครั้ง
“คุณชาย...ใจเย็น ๆ นะขอรับ เราต้องเจอพวกเขาแน่นอน”
ยิ่งคุณชายคำหอมตื่นตระหนกมากเพียงใด ฉัตรก็ยิ่งต้องพยายามทำให้คุณชายคำหอมใจเย็นมากขึ้นเท่านั้น
“พี่ภพนะพี่ภพ พาพี่กล้าไปคุยกันถึงกงไหนกันแน่”
“…”
“พี่ฉัตร…เราต้องตามหาพวกเขาให้เจอก่อนที่ท่านพ่อจะคุยงานเสร็จหนา มิเช่นนั้นพี่กล้าต้องแย่เป็นแน่”
“บ่าวจะช่วยตามหาเต็มที่ขอรับคุณชาย”
“ขอบใจมากนะพี่ฉัตร”
ด้วยเหตุนี้คุณชายคำหอมจึงเร่งตามหาพวกเขาทั้งคู่ให้เจอ แน่นอนว่าฉัตรเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน สายตาของเขาพยายามสอดส่องไปยังต้นไม้น้อยใหญ่ ตามทางเดินจากโรงครัวกลับไปยังเรือนหลัก ก่อนที่สายตาของเขาจะไปสะดุดกับอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่แถว ๆ ต้นไม้ใหญ่เข้า
แม้จะเห็นไม่ชัดว่าสิ่งที่เคลื่อนไหวนั้นคืออะไรกันแน่ แต่ฉัตรก็มั่นใจว่านั่นคงไม่ใช่พวกสัตว์ป่า หรือสัตว์ที่เลี้ยงเอาไว้แน่นอน ฉัตรคิดได้อย่างเดียวหรือว่านั่นจะเป็นขุนไตรภพกับพบกล้ากันแน่
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉัตรค่อย ๆ ก้าวเดินไปจุดที่ดูน่าสงสัยทันที เขาหวังจะได้เห็นสิ่งนั้นชัดขึ้น และยิ่งเขาก้าวเดินเข้าไปใกล้มากเท่าไร ภาพที่เห็นก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น ชัดเจนถึงขนาดที่ทำให้เขาตกใจจนแทบจะปรี่เข้าไปทันที
ภาพของคนที่พวกเขากำลังตามหา ถูกขุนนางหนุ่มทำร้ายร่างกายแทบปางตายแล้ว เนื้อตัวและใบหน้าของสหายอาบโชกไปด้วยหยาดเลือดสีแดงสด ไม่รู้ว่าพบกล้าโดนทำร้ายมานานแค่ไหนแล้ว แต่จากสภาพที่ฉัตรเห็น น่าจะถูกทำร้ายตั้งแต่มาถึงเลยก็ว่าได้ หากไม่รีบเข้าไปห้ามมีหวังพบกล้าได้เหลือแต่ร่างไร้วิญญาณเป็นแน่
เพราะมัวแต่ใจจดใจจ่อกับการตามหาพบกล้าให้เจอ คุณชายคำหอมจึงไม่ทันได้สังเกตว่า ฉัตรไม่ได้ตามตนมาเหมือนก่อนหน้านี้ และในขณะที่คุณชายคำหอมจะเอ่ยถามอะไรบางอย่าง เขาก็สังเกตเห็นว่าฉัตรไม่ได้ตามตนมา ก็เริ่มรู้สึกเป็นกังวลจึงพยายามมองหาและร้องเรียกอีกฝ่ายไปพร้อม ๆ กัน
“พี่ฉัตร!”
“…”
ก่อนจะสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายแม้จะไม่ได้ตามตนมา แต่ก็ยังคงอยู่ในสายตา นั่นทำให้คุณชายคำหอมรู้สึกโล่งใจและสบายใจมากขึ้น แต่คุณชายคำหอมกลับรู้สึกได้ถึงบางอย่างในตัวฉัตรที่แปลกไป ฉัตรเอาแต่จ้องมองไปยังอีกฝั่งไม่วางตา แม้คุณชายคำหอมจะพยายามเรียกเพียงใด อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีจะหันกลับมาทางเขาเลยสักนิด
“นี่…พี่ฉัตร ข้าเรียกพี่ ไยพี่มิหันมาเล่า” คุณชายคำหอมรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
“…”
“พี่ฉัตร!”
แม้คุณชายคำหอมพยายามร้องเรียกอีกฝ่ายมากเพียงใด แต่ฉัตรไม่ได้ตอบกลับ หรือเดินมาหาเขาอย่างทุกครั้ง นั่นทำให้คุณชายคำหอมรู้สึกแปลกใจมากขึ้น เมื่อเห็นอย่างนั้นคุณชายคำหอมจึงรีบตรงไปยังจุดที่ฉัตรยืนอยู่ทันที
“พี่ฉัตร…พี่จ้องอะไร พี่ถึงมิได้ยินเสียงเรียกข้า” ทันทีที่มาถึงตัวอีกฝ่าย คุณชายคำหอมก็เริ่มบ่นเอ็ดเล็กน้อย
แม้ในยามนี้ คุณชายคำหอมจะเดินไปถึงตัวฉัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากเป็นปกติฉัตรจะต้องรู้ตัวและรีบหันมาหาคุณชายคำหอมแน่นอน แต่ที่ฉัตรไม่ได้แสดงท่าทีเช่นนั้น เพราะเขากำลังตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า ทำให้เขาไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงร้องเรียกของคุณชายคำหอมเลยสักนิด
“มีอะไรน่าสนใจกว่าข้าที่พยายามเรียกพี่นักรึไง”
ทันทีที่สิ้นถ้อยคำนั้น สายตาของคุณชายคำหอมก็ค่อย ๆ มองตามยังจุดที่ฉัตรกำลังจ้องมองอยู่ และนั่นก็ทำให้คุณชายคำหอมเข้าใจในทันที ถึงสาเหตุที่ทำให้ฉัตรทำตัวแปลกไป
ภาพที่เห็นตรงหน้ามันทำให้คุณชายคำหอมแทบร่ำไห้ออกมา เขาทั้งตกใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน คนสองคนที่คุณชายคำหอมกำลังตามหาอยู่ ในที่สุดเขาก็เจอเสียที หากแต่คุณชายคำหอมไม่ได้คาดหวังเอาไว้ ว่าจะเจอทั้งสองคนในสภาพนี้
คุณชายคำหอมเข้าใจความรู้สึกของฉัตรแล้ว เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมฉัตรถึงไม่ได้ยินเสียงเขา เพราะภาพตรงหน้ามันดึงทุกความสนใจรอบด้านของฉัตรไปเสียหมด และอีกไม่นานคุณชายคำหอมก็จะรู้สึกเช่นเดียวกัน
ฉัตรที่กำลังโกรธแค้นขุนไตรภพมากกว่าสิ่งใด เขาแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่เต็มที ยิ่งขุนไตรภพทำร้ายสหายรักของเขามากเพียงใด ฉัตรก็ยิ่งโกรธแค้นมากขึ้นเท่านั้น
เขาโกรธที่ขุนนางหนุ่ม ผู้ขึ้นชื่อเป็นคนดี กำลังทำร้ายร่างกายคนไม่มีทางสู้ ฉัตรจะยอมทนดูอีกต่อไป เขาต้องเขาไปช่วยพบกล้าเดี๋ยวนี้
ในขณะที่เขากำลังจะปรี่เข้าไปช่วยสหายรัก ก็มีเสียงเอ่ยห้ามดังขึ้นมาเสียก่อน
“มิได้!”
คุณชายคำหอมที่เห็นฉัตรจะเข้าไปห้ามขุนไตรภพ ก็รีบคว้าแขนและพยายามห้ามปรามฉัตรทันที
“คุณชาย!”
ฉัตรที่ถูกคุณชายคำหอมห้ามปราม ก็รู้สึกตกใจเล็กน้อยและมึนงงเล็กน้อย ว่าคุณชายคำหอมมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเขาถึงไม่รู้ตัวเลย
“พี่ได้สติแล้วสินะ ข้าเรียกพี่ตั้งนาน”
“เรื่องนั้นบ่าวขออภัยด้วยขอรับ แต่คุณชายได้โปรดอย่าห้ามบ่าวเรื่องนี้เลยขอรับ”
ฉัตรไม่สามารถทนมองสหายของตนโดนทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวได้ ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นถึงขุนนางชนชั้นสูง ฉัตรก็ไม่มีความเกรงกลัวเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ในเมื่อขุนนางผู้นี้ยังไม่ยอมลดละความพยายามในการทำร้ายสหายของเขา ฉัตรก็จะไม่ยอมทนมองอยู่เฉย ๆ เช่นกัน เขาจะปกป้องพบกล้าเอง แม้จะเกิดการวิวาทตามมาฉัตรก็ไม่สนใจ
“มิได้พี่ฉัตร…พี่จะเข้าไปกงนั้นมิได้”
“แต่คุณชายขอรับ ไอ้กล้ามันแทบปางตายแล้วนะขอรับ”
“ข้าเห็นแล้วพี่ฉัตร ข้าเห็นและข้าเองก็มิยอมเช่นกัน”
“เช่นนั้นแล้วคุณชายจะห้ามบ่าวด้วยเหตุผลใดขอรับ”
“เพราะพี่เป็นบ่าว หากพี่เข้าไปมีหวังพี่จะโดนทำร้ายด้วย และข้ามิมีทางยอมให้เกิดเช่นนั้นขึ้นเด็ดขาด”
คุณชายคำหอมเข้าใจถึงความปรารถนาอันแรงกล้าในตัวของฉัตร เพียงแต่หากเขาปล่อยให้ฉัตรทำตามใจตนเอง มีหวังเรื่องนี้ฉัตรจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย แน่นอนว่าคุณชายคำหอมจะไม่ยอมให้ฉัตรเดือดร้อนเด็ดขาด และเขาจะไม่ยอมให้ขุนไตรภพทำร้ายพบกล้าอยู่ฝ่ายเดียวเช่นกัน
“คุณชายคิดจะทำอะไรขอรับ”
“ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง พี่ฉัตรอยู่กงนี้อย่าคิดเข้าไปเด็ดขาดเข้าใจรึไม่”
“แต่คุณชาย...”
“ห้ามพี่เข้าไป นี่คือคำสั่งของข้า”
ว่าจบคุณชายคำหอมก็รีบตรงดิ่งไปยังจุดหมายทันที ปล่อยให้ฉัตรระงับอารมณ์และยืนอยู่กับที่ตามคำสั่งเช่นนั้น
และทันทีที่คำสั่งออกมาจากปากของผู้เป็นนาย ทาสติดตามอย่างฉัตรก็ไม่สามารถขัดขืนคำสั่งได้ แม้จะรู้สึกเคียดแค้นขุนไตรภพมากเพียงใด แต่ฉัตรก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะคำสั่งของผู้เป็นนายถือเป็นคำขาด
ฉัตรจึงได้แต่กักเก็บความโกรธแค้นนั้นเอาไว้ในใจ ก่อนจะแสดงท่าทีตกใจและเป็นกังวลออกมาทันที
เมื่อเห็นว่าคุณชายคำหอมได้พูดอะไรบางอย่างกับขุนไตรภพที่กำลังทำร้ายร่างกายสหายเขา ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะมีปากเสียงกัน และเป็นคุณชายคำหอมที่หยุดการโต้ตอบกัน ด้วยการตบเข้าไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของขุนไตรภพ ผู้เป็นว่าที่คู่หมั้นเข้าเต็มแรง ส่งผลให้บรรยากาศรอบด้านทุกอย่างหยุดชะงักในทันที
ก่อนจะมีเสียงของใครบางคนดังก้องขึ้นมาทำลายบรรยากาศสงบสุขอีกครั้ง
“พวกเจ้าที่อยู่กงนั้น มีเรื่องอะไรกัน!”
แม้ฉัตรจะยังไม่เห็นหน้าเจ้าของเสียง แต่เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นผู้ใดอย่างไม่ต้องสงสัย และใช่เสียงนั้นเป็นเสียงของพระยาคมศักดิ์อย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด
ฉัตรแทบจะหยุดหายใจเมื่อภาพที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด ดันเกิดขึ้นมาจริง ๆ พระยาคมศักดิ์และพระยาไตรเทพ ดันมาเห็นเหตุการณ์ในช่วงที่คุณชายคำหอมตบหน้าว่าที่คู่หมั้นเข้าเต็มแรงพอดิบพอดีนี่สิ