คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ไทย,BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
.
.
.
ทันทีที่ออกคำสั่งกับทาสติดตามอย่างฉัตรไม่ให้ติดตามไป เพราะกลัวฉัตรจะได้รับอันตรายและอาจจะเดือดร้อนไปด้วย คุณชายคำหอมก็รีบย่างกรายไปยังจุดที่พบกล้าอยู่ทันที
แน่นอนว่าคุณชายคำหอมเองก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ว่าขุนไตรภพที่บิดาของเขารักนักรักหนา แถมยังชื่นชอบถึงขนาดตั้งใจให้เขาตบแต่งกับอีกฝ่าย จะกล้าทำร้ายทาสหนุ่มในเขตเรือนของเขาเช่นนี้ มันช่างโหดร้ายเกินกว่าจะทนมองได้
ยิ่งเข้าใกล้มากเพียงใด คุณชายคำหอมก็ยิ่งได้ยินเสียงโอดครวญแทบเจียนตายของพบกล้ามากขึ้นเท่านั้น พบกล้าพยายามขอร้องให้อีกฝ่ายหยุดทำร้าย แต่ขุนไตรภพกลับเลือกที่จะไม่รับฟังเลยสักนิด นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจมากขึ้นเช่นกัน
“จำใส่สมองอันน้อยนิดของมึงเอาไว้ คำหอมเป็นของกู”
ไตรภพยังไม่ล้มเลิกความพยายามในการทำร้ายพบกล้า
“อึก...ได้โปรดหยุดเถอะขอรับ ข้าเจ็บไปทั้งตัวแล้วขอรับ”
พบกล้าไม่อาจกักเก็บความเจ็บปวดเอาไว้ เขาพยายามร้องขอให้อีกฝ่ายหยุด แต่ขุนไตรภพไม่มีท่าทีจะหยุดลงง่าย ๆ
“กูมิหยุด จนกว่ากูจะพอใจ ต่อให้มึงจะร้องไห้จนตายกูก็มิหยุด”
ว่าจบแรงส่งจากเท้า ก็กระทบบนร่างกายของทาสหนุ่มเต็มแรงอีกครั้ง ร่างกายของทาสหนุ่มในยามนี้ เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ตามเนื้อตามตัวมีแผลถลอกเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
“อึก...ท่านขุน ทะ…ท่าน ทำเช่นนี้ มิกลัวผู้ใดมาพบเห็นฤๅขอรับ” แม้จะเจ็บปวด แต่พบกล้าก็ยังเอ่ยถามออกไป
“ไยกูต้องกลัว ต่อให้ผู้ใดจะมาพบเห็นเข้า มึงคิดฤๅว่าคนอย่างกูจะแก้ตัวมิได้ มึงคิดว่าระหว่างคนอย่างกูกับทาสต่ำต้อยเช่นมึง ควรจะเชื่อคำพูดผู้ใดล่ะ”
เป็นอย่างที่ไตรภพว่าไว้ หากเขาถูกคนในเรือนพระยาคมศักดิ์พบเห็นเข้าว่ากำลังทำร้าย ทาสในเรือนของพระยาคมศักดิ์ ก็แค่หาข้อแก้ตัวด้วยการใส่ร้ายพบกล้ากลับว่าไม่ยอมเชื่อฟัง หรือไม่ก็กล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เขาก็แค่ทำร้ายอีกฝ่ายเพื่อเป็นการสั่งสอนให้หลาบจำ ก็เท่านั้นเองถึงแม้จะทำร้ายอีกฝ่ายแทบปางตายก็ตาม มันคงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรสำหรับขุนนางที่จะสั่งสอนทาสหนุ่ม และไตรภพก็เชื่อว่าคนในเรือนพระยาคมศักดิ์จะคิดเช่นเดียวกับเขา ไม่ใช่คิดเข้าข้างทาสหนุ่มผู้ต่ำต้อยแน่นอน
“ท่าน...นี่มัน อึก...ต่ำช้ายิ่งกว่าที่ข้าคิดไว้อีกนะขอรับ”
“ไอ้เวรนี่ ปากเก่งเสียจริง!”
ราวกับถูกทาสต้อยต่ำหยามเกียรติ ฝ่าเท้าของขุนไตรภพ ก็กระหน่ำเหยียบย่ำลงบนลำตัวของทาสหนุ่มทันที
“อ้ากกก…อึก!”
เสียงร้องโอดครวญที่ดังกึกก้องไม่ขาดสายของพบกล้า ทำให้คุณชายคำหอมรู้สึกปวดใจจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ คุณชายคำหอมไม่เข้าใจว่าเหตุใด ผู้คนในเรือนถึงไม่ได้ยินร่ำร้องของพบกล้าเลยสักนิด
คุณชายคำหอมพยายามข่มน้ำตาที่จวนจะไหลเอาไว้ ในยามนี้เมื่อไม่มีผู้ใดสามารถให้การช่วยเหลือพบกล้าได้ เขาจึงไม่ลังเลที่จะให้การช่วยเหลือพบกล้าโดยเร็ว เขาจำเป็นต้องแสดงท่าทีแข็งแกร่ง ไม่หวั่นไหวและหวาดกลัวใด ๆ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะสามารถช่วยพบกล้าให้รอดพ้นจากน้ำมือของขุนไตรภพได้อย่างไรกัน
คุณชายคำหอมรีบเร่งฝีเท้าหวังจะเข้าไปช่วยพบกล้าให้เร็วที่สุด หากแต่เขาก็ต้องหยุดชะงักอีกครั้งหนี่ง เมื่อได้ยินถ้อยคำโหดร้ายที่เอ่ยออกมาจากปากของว่าที่คู่หมั้น และถ้อยคำชวนให้เศร้าสร้อยของชายในดวงใจ
“ไอ้เศษสวะ กูจะบอกมึงเป็นครั้งสุดท้าย เลิกยุ่งกับคำหอมซะ!” ไตรภพเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“อึก...ในคราแรก ข้าตั้งใจจะมิยุ่งเกี่ยวกับคุณชายคำหอมอีกแล้วขอรับ คุณชายคำหอมเหมาะสมและคู่ควรกับคนอย่างท่านจริง ๆ” พบกล้าตอบกลับ
‘พี่กล้า…พี่เองก็มิต้องการข้าอย่างนั้นฤๅ’
คุณชายคำหอมที่ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ก็รู้สึกน้อยใจในคำพูดของพบกล้าขึ้นมา
แม้คุณชายคำหอมจะไม่เคยได้ยินว่าที่คู่หมั้นพูดจาโหดร้ายใส่ผู้อื่นมาก่อน แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดใจเท่ากับถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากของทาสหนุ่มเลยสักนิด
“หากแต่หลังจากนี้ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็มิมีทางปล่อยให้คุณชายคำหอม ต้องทนทุกข์ทรมานกับคนใจยักษ์ใจมารเช่นท่านได้”
พบกล้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงและแววตามั่นใจ ต่อให้หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่กลัวอะไรอีกต่อไป คุณชายคำหอมไม่คู่ควรกับคนที่กล้าแม้แต่จะทำร้ายคนไม่มีทางสู้ อย่างขุนไตรภพอีกต่อไป
ในเมื่อพระยาคมศักดิ์ไม่มีทางล้มเลิกความพยายามในการให้คุณชายคำหอม หมั้นหมายกับขุนไตรภพได้ ตัวเขาเองก็จะเลือกทำหน้าที่ปกป้องคุณชายคำหอมจากคนใจร้ายอย่างขุนไตรภพให้จงได้
‘ฮึก...พี่กล้า ข้าเองก็จะปกป้องพี่ให้ถึงที่สุดเช่นกัน’ และทันทีที่สิ้นสุดคำพูดนั้น คุณชายคำหอมก็อดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมา หากเขาไม่ได้ยินพบกล้าเอื้อนเอ่ยประโยคนี้ออกมา คุณชายคำหอมก็คงรู้สึกน้อยใจอยู่อย่างนั้นก็เป็นได้
“ไอ้เวรนี่!”
แน่นอนว่าท่าทางมุ่งมั่นของพบกล้านั้น สร้างความไม่พอใจให้กับขุนไตรภพอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
“อึก...”
“คำหอมเป็นของกู และกูจะมิยอมปล่อยให้มึงมาขัดขวางแผนการของกูได้”
“…” พบกล้าเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะฝืนทนต่อไปไม่ไหว หากเขายังโดนทำร้ายต่อไป ความตายก็จะคืบคลานเข้ามาหาเขาเรื่อย ๆ
“เช่นนั้นก็จงตายด้วยน้ำมือกูเสียเถอะ”
หมัดหนัก ๆ กำลังจะกระแทกเข้าที่ใบหน้าของทาสหนุ่มอีกครั้ง และพบกล้าเองก็ไม่ได้หลบหลีกหรือกระทำการใด ๆ เพราะในยามนี้ร่างกายของเขามันด้านชาไปหมดแล้ว ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด เขาค่อย ๆ ปล่อยร่างกายตัวให้เป็นไปในแบบที่ควรจะเป็น
‘ข้าขอโทษขอรับคุณชายคำหอม ขอโทษที่ไม่อาจปกป้องคุณชายได้อีกต่อไป’
พบกล้าที่รู้สึกเหนื่อยเกินกว่าทนไหว เขาไม่สามารถฝืนตัวเองได้อีกต่อไป จึงพยายามคิดถึงใบหน้ายิ้มแย้มของคุณชายคำหอมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่สายตาของเขาจะค่อย ๆ พร่ามัวลง เปลือกตาที่หนักอึ้งจวนจะปิดสนิทเต็มที
อีกเพียงแค่นิดเดียวความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายก็น่าจะสิ้นสุดลง ขุนไตรภพที่กำลังเหวี่ยงหมัดลงบนแก้มขวาของเขาเต็มแรงนั้นต้องชะงักลง เมื่อมีเสียงตะโกนห้ามของใครบางคนดังขึ้นมา
“หยุดนะ! หยุดประเดี๋ยวนี้!”
พบกล้าจึงใช้แรงเฮือกสุดท้ายเปิดเปลือกตาขึ้น และเผยรอยยิ้มออกมาช้า ๆ ก่อนที่ภาพทั้งหมดจะดับลง
สิ่งสุดท้ายที่พบกล้ามองเห็นคือ ภาพของคุณชายคำหอมที่วิ่งตรงมาทางเขาอย่างสุดกำลัง พยายามเอ่ยห้ามอย่างเต็มที่ และพบกล้าเองก็สังเกตเห็นว่าคุณชายคำหอมกำลังสะอื้นไห้ แม้ว่าเขาอยากจะใช้มือของตนไปเกลี่ยเอาหยาดน้ำตาพวกนั้นออก แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้ จึงเลือกที่จะส่งยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนที่จะสลบไป
“วางเขาลง วางลงเดี๋ยวนี้ นี่ท่านทำอะไรของท่าน”
คุณชายคำหอมปรี่เข้าไปผลักตัวขุนไตรภพออกจากพบกล้า ก่อนจะฟุบตัวลงประคองศีรษะพบกล้าขึ้นมาแนบตัก
“ข้าก็แค่สั่งสอนมันเท่านั้นเอง”
“ฮึก...พี่กล้า พี่ตื่นสิ!”
คุณชายคำหอมที่พยายามเข้มแข็งมาตั้งนาน พยายามไม่ร้องไห้ออกมา แต่เขาก็ไม่สามารถทนได้ เมื่อเห็นว่าพบกล้าถูกทำร้ายอย่างหนัก ถึงขั้นสลบลงไปเช่นนี้
“มันมิตายหรอกน่า เจ้าอย่าได้ร่ำไห้ไปเลย”
“ไยท่านถึงทำเช่นนี้ ท่านทำกับคนของข้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”
“ข้าก็แค่สั่งสอนมันให้รู้จักที่ต่ำที่สูงไง มันจะได้รู้ว่าอะไรคู่ควรฤๅไม่คู่ควรกับมัน”
“เลว…ท่านมันเลวที่สุด”
“เพราะมัน เจ้าถึงกล้าต่อว่าข้าเช่นนี้เชียวรึ”
“เพราะท่านทำตัวเองต่างหาก หากท่านมิทำร้ายคนของข้า ข้าก็คงมิต่อว่าท่านเช่นนี้”
“มันจะมากไปแล้วนะคำหอม! ข้าเป็นคู่หมั้นเจ้า เจ้าควรเข้าข้างข้า มิใช่เข้าข้างไอ้เศษสวะอย่างมัน”
ทันทีที่ได้ยินถ้อยคำที่ออกมาจากปากของว่าที่คู่หมั้น คุณชายคำหอมก็อาจยอมรับได้ เขาค่อย ๆ ยกศีรษะของพบกล้าอย่างช้า ๆ จัดท่าทางให้อีกฝ่ายเอนตัวนอนลง ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนหันมาเผชิญหน้ากับว่าที่คู่หมั้นอีกครั้ง
“เมื่อครู่ท่านพูดถึงพี่กล้าว่าอะไรหนา”
“เจ้าทนมิได้งั้นรึ ทนได้ยินที่ข้าด่ามันมิได้รึ”
“ข้าถามว่าท่านพูดว่าอะไร!”
“ก็ไอ้เศษสวะอย่างไรล่ะ!”
เพี๊ยะ!
เป็นครั้งแรกที่คุณชายคำหอมโมโหหนักถึงขึ้นทำร้ายอีกฝ่าย ในเมื่อขุนไตรภพไม่มีท่าทีแสดงความรับผิดชอบ หรือแม้แต่จะยอมรับผิดในสิ่งที่ตนทำ แถมยังพูดจาใส่ร้ายพบกล้าเช่นนี้ มันยิ่งทำให้คุณชายคำหอมรู้สึกเกลียดว่าที่คู่หมั้นของตนเข้าไปใหญ่
“นี่เจ้าเป็นหนักถึงขั้นกล้าตบหน้าข้าเชียวรึ เพราะมันใช่ฤๅไม่ เพราะมันทำให้เจ้ากล้าแม้แต่จะทำร้ายข้า!”
“ในยามนี้ท่านได้สติรึยัง” คุณชายคำหอมเอ่ยถามกลับ
“ข้ามิสติอยู่แล้ว เจ้าล่ะมีสติรึยัง มิใช่เจ้าที่เอาแต่เข้าข้างมันเช่นนี้!”
“ข้ามิคิดเลยว่าท่านจะโหดร้ายเช่นนี้”
“ข้าก็มิคิดเลยว่าเจ้าจะเอาแต่เข้าข้างมันมิลืมหูลืมตา ฤๅเจ้าได้เสียกับมันแล้ว ถึงได้พยายามปกป้องมันเช่นนี้”
เพราะถ้อยคำเย้ยหยันที่หลุดออกมาจากปากของขุนไตรภพ ไม่อาจทำให้คุณชายคำหอมทนฟังได้อีกต่อไป และหลังจากนี้เขาเองก็คงไม่มีความรู้สึกดี ๆ ให้อีกฝ่ายอย่างแน่นอน
เพี๊ยะ!
“ข้าเกลียดคนอย่างท่านที่สุด”
คุณชายคำหอมฟาดแรงใส่ใบหน้าอีกฝ่าย ส่งผลให้ขุนไตรภพหน้าหันตามแรงตบทันที แม้ในใจจะรู้สึกโกรธแค้นคุณชายคำหอมอยู่ไม่น้อย แต่ขุนไตรภพกลับรู้สึกพึงพอใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อสายตาของเขาดันเหลือบไปเห็นพระยาคมศักดิ์และบิดามองมาที่พวกเขาพอดิบพอดี
.
.
“พวกเจ้าที่อยู่กงนั้น มีเรื่องอะไรกัน!”
พระยาคมศักดิ์เองก็ตกใจอยู่ไม่น้อย แม้จะรู้ว่าบุตรชายของตนไม่ค่อยชอบเชื่อฟัง ดื้อดึง แถมยังแผลงฤทธิ์เป็นว่าเล่น แต่พระยาคมศักดิ์ก็ไม่คาดคิดมาก่อน ว่าบุตรชายของตนจะแผลงฤทธิ์ใส่ว่าที่คู่หมั้น ด้วยการทำร้ายอีกฝ่ายเช่นนี้ และแน่นอนว่าการกระทำของคุณชายคำหอม สร้างความไม่พอใจให้แก่บิดาอย่างเขาไม่น้อย
“หึ...เจ้าจะต้องเกลียดข้าอีกนาน เพราะเจ้าต้องเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว”
ขุนไตรภพที่เห็นพระยาคมศักดิ์และบิดาเดินเข้ามาใกล้ ก็แสยะยิ้มให้คุณชายคำหอม เพราะเขารู้ดีว่าพระยาคมศักดิ์ต้องเข้าข้างขาไม่ใช่ทาสหนุ่ม หรือแม้กระทั่งกับคุณชายคำหอมเองก็ตาม
“เช่นนั้นก็อย่าได้หวังเลย ว่าชาตินี้ข้าจะยอมตบแต่งกับคนเลวอย่างท่าน”
ว่าจบคุณชายคำหอมก็เลิกให้ความสนใจขุนไตรภพทันที พร้อมกับเตรียมตัวรับมือกับบิดา ที่เห็นว่าเขาทำร้ายขุนไตรภพเต็ม ๆ สองตา