คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ไทย,BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
.
.
.
คุณชายคำหอมแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนได้ยินเลยด้วยซ้ำ ต่อให้พบกล้าจะเป็นจะตายอย่างไร สุดท้ายแล้วบิดาของเขาก็ยังคงโยนความผิดทั้งหมดให้กับพบกล้าอยู่ดี
“ท่านพ่อ แม้กระทั่งพี่กล้าแทบจะปางตายถึงเพียงนี้ แต่ท่านก็ยังโยนความผิดทั้งหมดให้เขาอย่างนั้นรึขอรับ”
“หากมิใช่เพราะมัน เจ้าจะมีปากมีเสียงกับคู่หมั้นเจ้ารุนแรงถึงเพียงนี้ฤๅไม่”
“ฮึก...ข้าผิดหวังในตัวท่านพ่อที่สุด”
“ข้าก็ผิดหวังในตัวเจ้าเช่นกัน เจ้าทำให้ข้าหมดความอดทนกับเรื่องมิเป็นเรื่อง!”
พระยาคมศักดิ์โต้กลับทันที และแน่นอนว่าการที่คุณชายคำหอมเอ่ยออกมาเช่นนั้น ทำให้พระยาคมศักดิ์รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
“ท่านพี่! ไยท่านถึงกล้าเอ่ยออกมาเช่นนั้น”
คุณหญิงจันทร์หอมที่ได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ ก็แทบจะร่ำไห้ออกมา เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าสามีของเธอจะกล้าเอ่ยวาจาเช่นนั้นต่อหน้าคนทั้งเรือน
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ คุณหญิงจันทร์หอมกำลังวุ่นวายกับการร้อยมาลัยเหมือนอย่างทุก ๆ วัน แต่ก็ต้องหยุดกลางคัน เมื่อได้เห็นภาพของฉัตร ทาสติดตามของบุตรชายวิ่งร่ำไห้หน้าตาตื่นมาหาตน
“ฮึก...คุณหญิงขอรับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ”
“เกิดอะไรขึ้นเจ้าฉัตร เหตุใดถึงร่ำไห้มาเล่า”
“คุณชายคำหอมขอรับ คุณชายคำหอมกำลังแย่แล้วขอรับ”
ก่อนหน้านี้ฉัตรไม่รู้จะทำอย่างไร เพื่อช่วยเหลือคุณชายของเขาดี และที่สำคัญฉัตรไม่สามารถทนอยู่เฉย ๆ ตามคำสั่งของคุณชายคำหอมได้ ดังนั้นการหาทางออกของเขา คือการนำเรื่องทั้งหมดไปบอกคุณหญิงจันทร์หอม เพราะฉัตรคิดว่าคุณหญิงจันทร์หอมสามารถให้การช่วยเหลือได้
“ใจเย็น ๆ ก่อนเจ้าฉัตร ค่อย ๆ เล่าเรื่องทั้งหมดมา”
“คุณชายคำหอมขอรับ คุณชายกำลังถูกพระยาคมศักดิ์ดุด่า เพราะเข้าใจผิดอยู่ขอรับ”
“เรื่องเป็นมาอย่างไร เจ้าจงเล่ามาให้หมดเสีย”
หลังจากสิ้นสุดคำพูดนั้น ฉัตรก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้คุณหญิงจันทร์หอมฟัง และแน่นอนว่าคุณหญิงจันทร์หอมไม่สามารถทนนิ่งดูดายได้เช่นกัน เธอจึงให้ฉัตรรีบนำทางไปหาพวกเขาทันที
ใช้เวลาไม่นานเธอก็มาถึงจุดหมาย ภาพของเหล่าทาสในเรือนต่างพานั่งคุกเข่าก้มหน้าก้มตา ไม่มีใครกล้ามองดูเหตุการณ์ตรงหน้า ก่อนที่สายตาของเธอจะมองเห็นทาสหนุ่ม ที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีนอนแน่นิ่งแทบปางตายอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ โดยที่ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปช่วยเหลือ เหตุน่าจะมาจากพระยาคมศักดิ์ ผู้เป็นสามีของเธอกำลังมีปากเสียงกับบุตรชายอยู่เป็นแน่
หลังจากที่คุณหญิงจันทร์หอมแอบมองดูสถานการณ์อยู่ เธอได้ยินถ้อยคำทำร้ายจิตใจของผู้เป็นสามีที่ต่อว่าบุตรชายไม่ใช่เพียงครั้งสองครั้ง และนั่นไม่อาจทำให้เธอทนเฉยได้ ในเมื่อสามีเอาแต่เข้าข้างแต่ว่าที่คู่หมั้นของบุตรชาย แถมยังดุด่าบุตรชายโดยไม่สนใจสิ่งใด คุณหญิงจันทร์หอมจึงจำเป็นต้องปกป้องคุณชายคำหอมอย่างสุดความสามารถเช่นกัน
.
.
“เหตุใดข้าถึงเอ่ยมิได้ เจ้าก็ดูสิ...บุตรชายของเจ้าเคยเชื่อฟังข้ารึไง” พระยาคมศักดิ์ที่กำลังอารมณ์เสียโต้ตอบภรรยาของตนขึ้นมา
“แต่ท่านพี่ก็มิควรดุด่าคำหอม ต่อหน้าทุกคนเช่นนี้”
“แล้วการที่เจ้ามาต่อล้อต่อเถียงกับข้าต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ เจ้าว่ามันเหมาะสมอย่างนั้นรึ” พระยาคมศักดิ์ถามกลับ
“ข้ามิคิดเลยว่าท่านพี่จะเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้”
“หึ...เป็นเพราะข้างั้นรึ มิใช่เพราะเจ้ารึไง หากวันนั้นเจ้าเลือกที่จะเชื่อฟังข้า และมิยอมปล่อยให้คำหอมไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีก เรื่องทั้งหมดมันจะมิเป็นเช่นนี้”
หากเป็นเมื่อก่อน พระยาคมศักดิ์ไม่มีทางกล้าพูดให้ภรรยาของตนต้องอับอายต่อหน้าคนทั้งเรือนเช่นนี้ แต่หลังจากที่ภรรยาสุดที่รักพยายามปกป้องทาสหนุ่มอย่างพบกล้า อีกทั้งยังสนับสนุนให้บุตรชายทำอะไรตามใจจนไม่สนเรื่องความเหมาะสมและความถูกต้องใด ๆ ก็ทำให้พระยาคมมศักดิ์เลือกที่จะไม่สนใจความรู้สึกของผู้อื่นเช่นกัน
“ท่านพ่อ!ไยต้องเอ่ยเช่นนี้ด้วย ท่านแม่ของข้ามิใช่คนผิด เรื่องนี้คนที่ผิด ก็คือท่านพ่อ”
คุณชายคำหอมที่ต้องมาทนเห็นบิดาเอาแต่กล่าวโทษมารดาของเขาอยู่ฝ่ายเดียว ก็รู้สึกไม่พอใจและผิดหวังในตัวบิดามากขึ้นไปอีก
“คำหอม...นี่เจ้า!”
“ท่านพ่อมิเคยโทษตัวเอง ท่านพ่อมิเคยเชื่อคำพูดข้าเลยด้วยซ้ำ ท่านเอาแต่สั่งนู่นสั่งนี่สั่งนั่น กีดกันข้าแทบจะทุกเรื่อง”
“จันทร์หอม...เจ้าเห็นรึยัง เห็นรึยังว่าบุตรชายเจ้ามันดื้อด้านมากเพียงใด”
“ฮึก...ข้าเกลียดที่สุด เกลียดที่ท่านพ่อมิเคยเชื่อข้าเลยสักนิดเดียว” ความอัดอั้นตันใจที่ติดอยู่ในใจคุณชายคำหอม ถูกระบายออกมาจนหมด
“ดี...เกลียดเข้าไป ข้าจะทำให้เจ้ารู้เอง ว่าสิ่งที่ข้าบังคับ สิ่งที่ข้าเลือกให้เจ้า ย่อมดีกว่าสิ่งที่เจ้าเลือกเองอยู่แล้ว ไอ้จอมเอ็งไปเอาไม้เรียวมาบัดเดี๋ยวนี้!”
สิ้นสุดคำพูดนั้นพระยาคมศักดิ์ก็ออกคำสั่งกับทาสติดตาม และทันทีที่สิ้นสุดคำสั่งนั้น บรรยากาศรอบด้านก็เงียบขึ้นมาอีกครั้ง มีเพียงสะอื้นร่ำไห้แทบขาดใจของคุณชายคำหอมเพียงผู้เดียว คุณหญิงจันทร์หอมมองไปยังบุตรชายด้วยความสงสาร ก่อนจะเข้าไปกอดปลอบโดยไม่สนใจสายตาแข็งกร้าวของผู้เป็นสามีเลยแม้แต่น้อย
“ใจเย็น ๆ สิวะไอ้ศักดิ์ เอ็งคิดจะลงไม้ลงมือกับคำหอมจริง ๆ อย่างนั้นรึ”
ภาพคุณหญิงจันทร์หอมที่กำลังกอดปลอบคุณชายคำหอมนั้น ช่างเป็นภาพที่น่าสงสารในสายตาของพระยาไตรเทพเป็นอย่างมาก แม้พระยาไตรเทพอยากจะให้สหายรักหาวิธีจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังจะให้คุณชายคำหอมเจ็บตัวเช่นนี้ ต่างจากขุนไตรภพ ที่ไม่ได้รู้สึกสงสารคุณชายคำหอมเลยแม้แต่น้อย
“ใช่ขอรับท่านอา ได้โปรดใจเย็น ๆ ก่อนขอรับ เฆี่ยนตีไปก็มีแต่เจ็บตัวกันไปเปล่า ๆ”
ขุนไตรภพเองก็ไม่ลืมที่จะแสร้งเป็นคนดี แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อคุณชายคำหอม ทั้ง ๆ ที่ความรู้สึกภายในของเขากลับสะใจเสียมากกว่า
“หากข้ามิสั่งสอนคำหอมก็คงมิจดจำ”
“ฮึก...สุดท้ายแล้วข้าก็ผิดเสมอ เช่นนั้นแล้วท่านพ่อคิดจะทำอะไรก็ทำเถอะขอรับ”
คุณชายคำหอมเลือกที่จะยอมแพ้ ปล่อยให้บิดาทำตามใจตนเอง เพราะไม่ว่าเขาจะพยายามอธิบายหรือพูดความจริงไปมากเพียงใด สุดท้ายแล้วทุกสิ่งที่เขาเอ่ยออกไปก็ไม่มีประโยชน์เพียงพอที่จะเปลี่ยนใจบิดาได้ และพระยาคมศักดิ์เองที่ได้ยินเช่นนั้น ก็เกิดบันดาลโทสะขึ้นมาอีกครั้ง
“ไอ้จอมมารึยัง ชักช้าเสียจริงไอ้เวรนี่!”
“แฮ่ก ๆ นะ...นี่ขอรับนายท่าน” ไม้เรียวขนาดยาวเกือบเทียบเท่าเข็มขัดหนึ่งเส้นในมือของทาสหนุ่ม ถูกยื่นให้พระยาคมศักดิ์ทันที
“ดี ข้ามิได้ใช้มันมานานมากเพียงใดแล้ว”
ไม้เรียวในมือ ทำให้พระยาคมศักดิ์หวนคิดไปถึงอดีต เขาจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ใช้มัน ก็ตอนลงโทษบุตรชายสมัยวัยเยาว์
“มิได้นะท่านพี่ คำหอมโตเกินกว่าจะถูกเฆี่ยนตีอีกแล้ว ไยท่านพี่มิใช้เหตุผลมาคุยกันเล่า” เมื่อเห็นสามีตวัดไม้เรียวในมือ คุณหญิงจันทร์หอมรีบวิ่งมาห้ามปรามสามีของตน
“ใช้เหตุผลงั้นรึ ข้าใช้เหตุผลเสมอ เพียงแต่พวกเจ้ามิยอมฟังข้าเอง”
“ฮึกกก…ท่านพี่ ได้โปรดหยุดเถอะ ข้าขอร้อง” คุณหญิงจันทร์หอมไม่อาจทนมองสามีลงโทษบุตรชายได้
“ปล่อยข้าจันทร์หอม อย่าให้ข้าต้องลงโทษเจ้าด้วย”
“ฮึก...ท่านแม่ ออกมาเถอะขอรับ ข้ามิเป็นไร”
ภาพของคุณหญิงจันทร์หอมที่พยายามใช้ตัวเองกอดสามีอย่างสุดกำลัง เพื่อหวังจะให้สามีล้มเลิกความพยายามในการจะลงโทษคุณชายคำหอม แต่ยิ่งคุณหญิงจันทร์หอมกอดรัดพระยาคมศักดิ์มากขึ้นเพียงใด พระยาคมศักดิ์ก็ยิ่งสะบัดตัวหนีออกจากภรรยาอยู่ดี และนั่นก็ทำให้คุณชายคำหอมกลัวว่ามารดาของตนจะได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของบิดา เขาถึงได้เอ่ยออกไปเช่นนั้น
“ฮึก...มิต้องห่วงแม่ คำหอมแม่จะปกป้องเจ้าเอง”
“ไอ้ศักดิ์เอ็งคิด ๆ ก่อน ทำเช่นนี้จะมิเจ็บปวดกันไปหมดรึไง ข้าอยากให้เอ็งคิดดี ๆ เสียก่อน”
พระยาไตรเทพที่รู้สึกสงสารก็พยายามกล่าวเตือนสหายของตนอีกครั้ง
“ในเมื่อข้าพูด ข้าเตือนมิยอมฟัง ก็ต้องลงโทษถึงจะดีที่สุด”
“ท่านพี่...” คุณหญิงจันทร์หอมเริ่มรู้สึกสู้แรงของสามีไม่ไหว เลยพยายามพูดเกลี้ยกล่อม แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะพระยาคมศักดิ์ไม่คิดจะฟังเลยสักนิด
“จันทร์หอม! ปล่อยข้า...ข้ามิอยากทำร้ายเจ้า”
“ท่านพี่...ได้โปรดคิดไตร่ตรองอีกสักครั้งเถิด”
“ข้าบอกให้เจ้าปล่อยข้า!”
เพราะคุณหญิงจันทร์หอมไม่ยอมปล่อยเสียที พระยาคมศักดิ์ที่ไม่มีทางเลือกจึงเป็นฝ่ายผลักภรรยาของตนออกไปจากกาย
“อ๊ะ!” ส่งผลให้คุณหญิงจันทร์หอมที่ไม่ทันได้ระวังสะดุดล้มลงไปกับพื้นทันที
“ไอ้ศักดิ์!” พระยาไตรเทพที่เห็นภาพนั้นก็ตกใจอยู่ไม่น้อย
“ท่านแม่!” คุณชายคำหอมเองก็ตกใจไม่น้อยกว่าใคร เขารีบวิ่งเข้ามาประคองมารดาให้ลุกขึ้นทันที
“แม่...ฮึก แม่มิเป็นไร”
“ข้าเตือนเจ้าแล้วจันทร์หอม ส่วนเจ้าหากอยากจะให้เรื่องนี้มันจบเร็ว ๆ ก็จงอยู่เฉย ๆ ให้ข้าลงโทษเสีย”
“ท่านพ่อใจร้าย ใจร้ายได้แม้กระทั่งกับท่านแม่ของข้า”
“ข้าจะใจร้ายกว่านี้ หากเจ้ามิรีบมารับโทษของตนเอง”
คุณชายคำหอมที่ไม่มีทางเลือกอื่น ในที่สุดเขาก็ยอมจำนนต่อบิดา ค่อย ๆ ก้าวเดินไปหาบิดาช้า ๆ อย่างน้อยก็แค่เจ็บตัวจากไม้เรียวนั้น ดีกว่ายื้อเวลาให้นานกว่านี้จนอาจมีบุคคลอื่นต้องเจ็บตัวไปด้วย และยังมีสิ่งที่สำคัญที่สุดรอเขาอยู่ นั่นคือการรีบพาพบกล้าที่นอนไม่ได้สติไปรักษาตัวโดยเร็ว คุณชายคำหอมจะมามัวเสียเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้
“ท่านพ่อจะทำอะไรก็รีบทำเถอะขอรับ ข้าจะได้รีบพาพี่กล้าไปรักษาตัว”
“ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด เจ้ายังคิดเป็นห่วงมันอีกงั้นรึ”
“ใช่ขอรับ...ข้าเป็นห่วงเขา และข้ามิอาจทนอยู่เฉย ๆ ปล่อยให้พี่กล้านอนเจ็บอยู่เช่นนั้นได้”
“ก็ดี...หลังจากที่ข้าลงโทษเจ้าแล้ว ค่อยพามันไปรักษาเสีย แต่อยู่ที่ว่าเจ้าจะมีปัญญาพามันไปด้วยตัวเองฤๅไม่”
ทันทีที่สิ้นสุดคำพูดนั้น พระยาคมศักดิ์ก็ง้างวงแขนของตนออกไปให้ไกลที่สุด เขาต้องการใช้แรงส่งเพื่อหวังให้คุณชายคำหอมได้รีบลองความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด คุณชายคำหอมจะได้รู้สึกเจ็บปวดจนไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้
ไม่แม้แต่จะมีแรงพาตัวพบกล้าที่นอนไม่ได้สติอยู่ไปรักษาตัว เพราะพระยาคมศักดิ์ตั้งใจจะขัดขวางไม่ให้คุณชายคำหอมพาตัวเองไปข้องเกี่ยวกับพบกล้า และที่สำคัญพระยาคมศักดิ์ต้องการจะให้คุณชายคำหอมได้จดจำบทลงโทษในครั้งนี้ให้ขึ้นใจ จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์อย่างวันนี้ ในครั้งต่อ ๆ ไปตามมาอีก