พอฉันมีใจ อยากเป็นแฟนนายจริงๆ นายกลับบอกว่ามันไม่เวิร์ก แต่พอฉันถอยออกมา นายกลับบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน หึ! กราบเท้าฉันสิ แล้วฉันจะคิดเรื่องของนายดูอีกที
รัก,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ,พระเอกโบ้,พระเอกหล่อ,พระเอกเลว,redsun,yaygoh,เนปจูน,แฮค,หล่อรวย,อร่อย,ฟินแซบ,ออริ,นางแบบ,โมเดลลิ่ง,งาน N,พริตตี้,ช่างเครื่อง,อกหัก,ชาย-หญิง,ความรัก,แฟน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“สรุปว่าพาฉันมาเป็นไม้กันหมา?”
ฉันเอ่ยขึ้นทันทีที่อยู่กันตามลำพัง ทีแรกแม่แฮคจะให้แฮคไปส่งพัฟฟินด้วย แต่ว่าแฮคปฏิเสธเพราะต้องไปทำธุระกับฉันต่อ ธุระอะไรฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ช่างเป็นคนที่โกหกได้หน้าตายจริงๆ แล้วก็เป็นเหตุให้ฉันโดนแม่ของเขาเขม่นเพิ่มอีกเท่าตัว เฮ้อ!~ แม้จะไม่มีผลอะไรต่อชีวิตฉันก็เถอะ แต่ก็ไม่อยากถูกเกลียดโว้ย
“ฉลาดนี่”
“ชม?” ฉันจ้องหน้าแฮคอย่างพร้อมจะเอาเรื่องถ้าเขายังพูดจาไม่เข้าหู หมอนั่นหัวเราะฮ่าๆ เห็นเป็นเรื่องตลกพูดออกมาเหมือนไม่ใส่ใจ
“ฉันก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้แกล้งเล่นเป็นเมียน่ะ”
“แต่... พัฟฟินก็ดูน่ารักดีออก ไม่ชอบเหรอ”
“เรื่องของฉันเธอไม่ต้องสนใจหรอก”
เหวอสิ!
โดนตอกกลับมาแบบนั้นน่ะ
“เออๆ แล้วเล่นเป็นเมียให้แล้วฉันได้อะไร?”
ทวงมันซึ่งๆ หน้าเนี่ยแหละ ใครจะยอมโดนเกลียดฟรี เหอะ!
“เคี่ยวจริงๆ เอาเบอร์มา เดี๋ยวโอนค่าตัวให้”
“พูดจริงเหรอ?”
“เร็ว”
“พร้อมเพย์”
อย่างไว ...หลังจากนั้นก็รอแฮคเข้าแอปฯธนาคารแล้วบอกเบอร์ไป
ติ๊ง~
⇢ เงินเข้า +3,000 บาท
สามพันเองเหรอ แต่ก็... ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
“น้อยไปเหรอ” แฮคท้วง
นี่ฉันออกสีหน้าชัดขนาดนั้นเลยเหรอ
“หื่อ ไม่หรอก แต่ว่านี่ไม่เกี่ยวกับค่าตัวคืนนั้นหรอกนะ อย่าลืมเรื่องที่คุยก่อนหน้านี้ล่ะ”
“เหอะ เธอนี่มันช่างจดช่างจำจริงๆ ได้ ไปกันตอนนี้เลย”
“ไปไหน?”
ฉันทำหน้าเลิ่กลั่กเมื่อโดนชักชวนปุบปับ แฮคส่งสายตาพลางยักไหล่บอก “ตามมา”
“....”
แล้วฉันก็ดันบ้าจี้ตามไปจริงๆ
รถแฮคจอดที่ชั้นจอดรถ ไกลจากประตูห้างฯพอสมควร ฉันเดินตามเขาไปเงียบๆ ไม่ได้บ่น จะมีก็แต่อาการสงสัยแกมระแวงนี่แหละ ไม่รู้ว่าเขาคิดจะพาฉันไปไหนอีก แต่พอเห็น Porsche 718 Boxster อยู่ตรงหน้า จิตใจที่กำลังขุ่นมัวก็พลันปลอดโปร่ง ขึ้นมาทันที
“มัวทำอะไรอยู่ ขึ้นรถ”
“เอ๊ะ อะอื้ม”
เสียงแฮคทำฉันรู้สึกตัว รีบเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ หันไปมองแฮคแวบหนึ่ง เมื่อกี้เขาจะดูออกหรือเปล่านะว่าฉันนัยน์ตาลุกวาวแค่ไหน
ทว่าแฮคก็ไม่พูดอะไรอีก สตาร์ทรถขับออกจากห้างฯ เงียบๆ
รถแล่นสู่ถนนใหญ่ ตรงขึ้นทางด่วนซึ่งก็มีความจราจรติดขัดพอๆ กัน
“แล้วสรุปนายจะพาฉันไปไหนเหรอ” ฉันกลั้นใจถามออกไปหลังรอให้แฮคพูดเองแต่รอมาสักพักก็ไม่มีวี่แวว
“สงสัยเรื่องค่าตัวไม่ใช่เหรอ กำลังจะพาไปถามนี่ไง”
“หา? ถาม... กับใคร”
ฉันเลิ่กลั่กอย่างคนที่ไม่มีเวลาได้เตรียมตัวเตรียมใจ
“โมเดลลิ่ง”
“พี่ช่อฟ้าเหรอ”
“ฉันคุยกับไอ้เรซแล้ว มันจ่ายค่าตัวรวมถึงค่าเหนื่อยให้ครบทุกคน ถ้าเธออยากได้ส่วนของเธอ ก็ต้องไปทวงกับโมเดลลิ่ง”
“....” ไปถามกันตอนไหนเนี่ย แต่มานึกดูแล้ว ตอนกินข้าวแฮคก็มีช่วงที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เหมือนกัน น่าจะเป็นตอนนั้น
หน้าฉันชาวาบตอนได้ยินว่าค่าเหนื่อย... มีความรู้สึกหลากหลายขึ้นในอก ทั้งร้อนรน อับอาย เครียด
แต่ให้ไปทวงกับพี่ช่อฟ้าเนี่ยนะ พูดง่ายไปหรือเปล่า
“มันจะไม่เป็นเรื่องใหญ่เหรอ” ฉันเอ่ยสิ่งที่กังวลออกมา เหมือนพึมพำกับตัวเองมากกว่าแต่ก็แอบหวังว่าแฮคจะมีความคิดที่จะทำให้ฉันอุ่นใจขึ้นบ้าง
“กลัวไม่ได้เงิน หรือกลัวเป็นเรื่องใหญ่”
ฉันเงียบ...
นี่คือให้ฉันเลือก? ฉันกะพริบตาปริบๆ มองใบหน้าด้านข้างของแฮคด้วยความรู้สึกปั่นป่วน
“เงินก็อยากได้ แต่ถ้ามันกระทบกับงานฉันก็...”
“งาน N?”
“....”
เขาย้ำ ฉันก็ไม่รู้จะตอบโต้ยังไง จะว่ากลัวเสียงาน ‘N’ มันก็กระดากปากเพราะไม่ใช่งานที่น่าภาคภูมิใจเท่าไหร่ พวกงานรีวิวสินค้า พริตตี้ พีอาร์มันก็มีเหมือนกัน แต่ที่ตกมาถึงมือฉันมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นค่าเหนื่อยแต่ละงวดก็ไม่เท่างาน ‘N’
แถมคนสวยๆ ทุกวันนี้ก็เยอะอีก การแข่งขันสูง จะงานสายไหนก็หายากหมด ฉันก็เลยไม่อยากทำตัวเรื่องมาก แค่ตอนที่ไลน์ไปคุยเรื่องค่าตัวกับพี่ช่อฟ้าก็แทบจะประคองความสัมพันธ์ไว้ไม่ได้อยู่แล้ว นี่แฮคยังจะพาฉันไปเจอตัวเป็นๆ อีกแล้วจะให้ฉันสงบใจได้ยังไง
“ฮัลโหลเจ๊”
ระหว่างที่จมอยู่กับความคิดตัวเองแฮคก็กำลังคุยโทรศัพท์
เสียงของเขาทำให้ฉันตื่นตัว จับจ้องเขาด้วยสายตาหวั่นไหว คงไม่ใช่ว่าคุยกับพี่ช่อฟ้าหรอกนะ?
“อยู่ออฟฟิศเหรอ มีเรื่องจะคุยด้วย อืม... ข้างนอกก็ได้ กี่โมงล่ะ ที่ไหนเดี๋ยวไปรอ ได้สิ ไม่รีบ... แต่ก็ไม่ชอบรออะไรนานๆ รู้ไม่ใช่เหรอ อืม ไว้เจอกัน”
แฮควางสายเสร็จ เขาเหลือบมองฉันแวบหนึ่ง ก่อนพูด “เดี๋ยวไปร้านกาแฟ”
“นัดใครไว้?” ฉันถามเพื่อความแน่ใจ ที่จริงก็พอเดาออกตั้งแต่ที่ฟังเขาคุยโทรศัพท์แล้วล่ะ
“ช่อฟ้า”
“....” สมองมันตีบตันคิดไรไม่ออกอยู่ชั่วขณะ
“หรือว่ามีธุระ”
“แล้วเพิ่งมาถาม?” ฉันแหวกลับทันที
“ถ้ามีจะกลับก่อนมั้ยล่ะ ลงไหน เดี๋ยวไปส่ง”
“หา?”
ง่ายๆ แบบนี้เลย ฉันอ้ำอึ้งเพราะคำพูดไม่อยู่กับร่องกับรอยของแฮค
“แล้วพี่ช่อฟ้าล่ะ นายนัดมาเจอกับฉันไม่ใช่เหรอ”
“ฉันคุยให้ได้ถ้าเธอไม่สะดวก”
ฉันขมวดคิ้ว ถ้าคุยได้แล้วจะนัดมาทำไม ทำไมไม่คุยทางโทรศัพท์ไปให้จบๆ ล่ะ
“ที่จริงมีงานอื่นจะคุยด้วยพอดี”
“....” ชัดเจนว่าเรื่องของฉันมันก็แค่ของแถม ไม่น่าคาดหวังกับเขาตั้งแต่แรกเลยจริงๆ เสียความรู้สึก
“ตกลงจะให้ไปส่งที่ไหน”
“ไม่ที่ไหนทั้งนั้นแหละ ฉันจะไปด้วย” ต่อให้รู้อยู่เต็มอกว่าแฮคนัดพี่ช่อฟ้ามาด้วยจุดประสงค์อื่น แต่ถ้าเขาจะคุยเรื่องฉัน ฉันก็อยากอยู่ฟังด้วยตัวเอง
ร้านกาแฟที่แฮคพามาเป็นคาเฟ่เล็กๆ ในหมู่บ้านจัดสรร บรรยากาศเงียบสงบ มีที่จอดรถไม่เยอะ แต่ก็พอหาได้ ลูกค้าส่วนมากคงจะเป็นลูกบ้านในหมู่บ้านนี่แหละ ที่จอดรถก็เลยว่าง
“อยู่ลึกแบบนี้ยังอุตส่าห์หาเจออีกนะ” ฉันพูดระหว่างเดินเข้ามาในร้าน
“กาแฟอร่อย ที่สำคัญคนขายน่ารัก”
“....” ขอมองบนหนึ่งกรุบกับเหตุผลข้อหลัง คำว่าเสือผู้หญิงคงไม่เกินจริง
“สวัสดีค่ะ อ้าวแฮคยินดีต้อนรับนะ ดื่มอะไรวันนี้” ผู้หญิงที่สวมผ้ากันเปื้อนกำลังนั่งถักเนตติ้งอยู่บนโต๊ะเงยหน้าขึ้นทักทาย พอเห็นว่าเป็นแฮค เธอก็ยิ้มกว้าง ปรับสำนวนการพูดให้เป็นกันเองมากขึ้น
สวยแฮะ... หรือว่าคนนี้จะเป็นเจ้าของร้าน
“ดีครับพี่สกาย ผมขอชาหอมๆ สักแก้ว”
“อื้ม แล้วอีกคนล่ะ รับอะไรดี ดูเมนูก่อนก็ได้เลือกได้แล้วค่อยสั่ง เดี๋ยวพี่ไปทำชาให้แฮคก่อน ตามสบายเลยนะ” พูดเสร็จก็เดินเข้าไปที่หลังเคาน์เตอร์
อัธยาศัยดีมาก ยิ้มเก่งอีกด้วย รอยยิ้มเธอยังติดอยู่ในหัวฉันไม่จาง พลอยทำให้ร้านกาแฟธรรมดาๆ มีบรรยากาศดีน่านั่ง อยากอุดหนุน
ฉันเปิดเมนูบนโต๊ะดูอย่างไม่ได้ตั้งใจ มีเมนูเครื่องดื่มพื้นฐานให้เลือกมากมาย นอกจากนั้นก็มีเมนูขนมปัง กับพวกไอศกรีมปกติ ที่พิเศษกว่าคาเฟ่ทั่วไปก็เห็นจะเป็นเมนูชาร้อนเนี่ยแหละ ทั้งชาตระกูลดอกไม้... ชาตระกูลใบ... ชาเอิร์ลเกรย์... แล้วก็พวกชื่อแปลกๆ ที่ไม่คุ้นอีกเป็นสิบ
“อะไรอร่อย” ฉันหลุดปากถาม ลืมไปว่าเราไม่ได้สนิทกัน
“อร่อยทุกอย่าง”
“....” ไม่น่าถาม สุดท้ายฉันก็สั่งชากุหลาบไปแบบส่งๆ ไม่คาดหวังอะไรมาก แต่...
“เป็นชากุหลาบอีกแล้วเหรอ” เจ้าของร้านถาม
“คะ?”
“ของแฮคก็ชากุหลาบ” เธอพูดโดยที่ไม่หุบยิ้มเลย เป็นรอยยิ้มจริงใจ มองโลกในแง่ดี ทว่ารอบนี้กลับมีแววขี้เล่นปะปนอยู่
“...เหรอคะ”
“อื้ม บังเอิญหรือว่าอะไรน๊า”
“แค่บังเอิญน่ะค่ะ ไปรอที่โต๊ะนะคะ” ฉันบอก ชี้มือกลับไปด้านหลังแบบประดักประเดิดแล้วเดินออกมา โต๊ะนั่งอยู่ห่างจากเคาน์เตอร์ไม่กี่ก้าว แฮคที่นั่งหัวโด่อยู่ไม่มีทางไม่ได้ยินแต่เขากลับไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา นิ่งสงบเหมือนผิวน้ำ