พอฉันมีใจ อยากเป็นแฟนนายจริงๆ นายกลับบอกว่ามันไม่เวิร์ก แต่พอฉันถอยออกมา นายกลับบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน หึ! กราบเท้าฉันสิ แล้วฉันจะคิดเรื่องของนายดูอีกที
รัก,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ,พระเอกโบ้,พระเอกหล่อ,พระเอกเลว,redsun,yaygoh,เนปจูน,แฮค,หล่อรวย,อร่อย,ฟินแซบ,ออริ,นางแบบ,โมเดลลิ่ง,งาน N,พริตตี้,ช่างเครื่อง,อกหัก,ชาย-หญิง,ความรัก,แฟน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“เอาล่ะค่ะ เวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว ขอเชิญนักแข่งที่จะลงแข่งจับฉลากหมายเลขรถที่เต็นท์อำนวยการภายในสามสิบนาทีด้วยค่ะ เราจะได้อัปเดตข้อมูลเพื่อให้ผู้ชมร่วมทายผลการแข่งกันก่อน คุณผู้ชมอย่าลืมโหลดแอปฯ สปีดเวย์เพื่อร่วมสนุกกันนะคะ ใครยังไม่โหลดรีบโหลดเลยค่ะ เราจะปิดให้ทายก่อนแข่งประมาณห้าทีนะคะ บลาๆ”
เสียงพิธีกรดังก้อง ได้ยินกันทั่วทั้งบริเวณ
“ไปดิวะ มัวยืนบื้ออยู่ทำไม” เสียงตวาดทำให้คนที่อยู่รอบๆ แตกตื่น
“อ้าว ผมเหรอพี่คริส” กุนชี้ตัวเอง หันไปสบตากับคนน้อง เหมือนยังไม่แน่ใจว่าได้ยินถูกหรือเปล่า
แต่คนน้องที่มีเส้นผมกับนัยน์ตาสีครามกลับถือโอกาสสำทับซ้ำไปอีก
“งงอะไร ไปสิ ก็มึงเป็นคนแข่ง”
“เอ้า... แล้วพี่คริส?” กุนมองไปทางสุดหล่อของฉัน ไม่รู้อ่ะ ฉันชอบเค้า~ เห็นแล้วทำให้นึกถึงพี่ชายในอุดมคติที่ดูเข้มแข็งปกป้องเราได้ ถึงการแสดงออกเมื่อกี้จะดูหัวร้อนไร้เหตุผลไปหน่อยก็เถอะ
“หรือมึงอยากให้กูไปจริงๆ”
“ไม่ๆ ผมไปดีกว่า” กุนยิ้มกว้างแบบยอมแล้ว ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ “ต้องพาสาวไปด้วยใช่มั้ยพี่”
“เออ เลือกเอาสักคน เฮ้ยเดี๋ยว! หาคนที่สวยที่สุด อย่าให้แพ้ไอ้พวกเรดซัน”
พอคริสท้วงออกมาแบบนั้น กุนที่ทำเหมือนจะกวักมือเรียกคนแบบส่งๆ ก็ชะงัก นัยน์ตาคมดูคิดหนักขึ้นมาทันที
“คิดว่าพวกมันจะเลือกใครวะ” คริสมองคนน้องคล้ายถามความเห็น
“ไม่แน่ใจ เทียนหรือเปล่า?”
“เทียน... แม่สาวหุ่นเซี๊ยะนั่นน่ะเหรอ” กุนเลิกคิ้ว
“ไม่แน่ใจ แค่เดาเอา...” เจ้าของนัยน์ตาสีครามกวาดตามองไปรอบๆ พิจารณาผู้หญิงภายในเต็นท์ทีละคนๆ จนกระทั่งสายตามาตกอยู่ที่ฉัน แล้วเพ่งมองนานเป็นพิเศษ “...ถ้าเป็นเทียน คนนี้น่าจะพอสู้ไหว”
“ตาแหลมเหมือนกันนี่หว่า” กุนมองฉันอีกคนพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม
“เพิ่งเคยเห็นคนนี้” คริสมองตามสายตาของทั้งสองมาที่ฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขาพูดกับฉันหรือว่าสองคนนั่น แต่ด้วยสายตาสามคู่ที่จ้องมองมาทำให้ฉันประหม่า วางสีหน้าไม่ถูก
“มานี่สิ ชื่ออะไร”
กุนเรียก พอฉันเดินมาใกล้หน่อยเขาก็ถามชื่อทันที
“เนปจูน”
“ทำไมไม่คุ้นหน้า” คริสหรี่นัยน์ตาคมกริบลงมอง ฉันก็ดีใจอยู่หรอกที่เขาสนใจฉันแต่พอมาอยู่ใกล้ๆ แล้วแรงกดดันไม่ธรรมดาเลย
“จูนมาแทนคนอื่นค่ะ เพิ่งเคยมาอีเวนต์แข่งรถแบบนี้ครั้งแรก” ฉันบอก พยายามรักษารอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ เผื่อคริสจะประทับใจบ้าง
“ว่าไงถูกใจมั้ย” กุนมองคริสกับเจ้าของนัยน์ตาสีครามสลับกัน
“อืม ถ้าเป็นคนนี้น่าจะวัดกับเทียนได้” เจ้าของนัยน์ตาสีครามพยักหน้า
วัดกับเทียน? อะไรล่ะนั่น
“เธอไปที่เวทีกับฉัน” กุนหันมาบอก
“เวที? เต็นท์อำนวยการที่ประกาศตะกี้น่ะเหรอ”
“ตามมา”
กุนพูดจบก็เดินนำออกไป ไม่ถามความสมัครใจฉันสักคำ แล้วฉันเคยเลือกอะไรได้บ้าง ฉันมองหน้าคริสกับอีกคนสลับกันไปมาครู่หนึ่งก่อนจะรีบเร่งก้าวเท้าตามกุนออกมา ในหัวเต็มไปด้วยความสงสัย
ระยะทางไปเต็นท์อำนวยการเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายแบบ มีตั้งแต่เด็กหน้าอ่อนประมาณมัธยมต้นไปจนถึงหนุ่มใหญ่ทรงเสี่ยวัยกลางคน ฉันละสายตาจากรอบข้าง จ้องมองช่วงไหล่กว้างของกุน เร่งฝีเท้าขึ้นมาเดินข้างๆ
“จะให้ไปทำอะไรเหรอ”
“ไม่ต้องทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ” กุนหันมายิ้มตาหยี มองช้อนใบหน้าฉันไวๆ รอบหนึ่ง “มีรางวัลเรซควีนด้วย แต่ขึ้นอยู่กับคะแนนโหวตนะ ทีมงานจะเก็บภาพตอนจับฉลาก ผู้หญิงที่นักแข่งพามาด้วยจะขึ้นธรรมเนียบเรซควีน แล้วก็จะมีคนเข้ามาโหวตให้หัวใจ ใครได้หัวใจเยอะที่สุดก็จะเป็นเรซควีนของการแข่งนัดนี้ มีรางวัลด้วยนะ”
กุนอธิบายทั้งๆ ที่กำลังเดิน ช่วยให้ฉันเข้าใจภาพรวมมากขึ้น
“โหวตผ่านแอปฯสปีดเวย์อะไรนั่นน่ะเหรอ”
“อืม แต่ไม่ต้องห่วงหรอก เรซควีนไม่ใช่ตำแหน่งสำคัญอะไรขนาดนั้น แค่โหวตกันเล่นๆ แต่ถ้าได้ที่หนึ่งก็ดีจริงมั้ย?” กุนขยิบตาขี้เล่น ดูๆ ไปก็เป็นคนมีเสน่ห์พูดจาน่าฟังเหมือนกันแฮะนายคนนี้
บรรยากาศระหว่างเราเป็นกันเองมากขึ้น ฉันฟังกุนพูดจนกระทั่งถึงเต็นท์อำนวยการ แน่นอนว่ามีคนมาถึงก่อนเราแล้วและกำลังจับหมายเลขอยู่ ช่วงที่รอคิว ทีมงานก็จัดแจงให้เราไปถ่ายรูปที่แบล็กดรอปรอ
กุนโอบไหล่ฉันอย่างเป็นธรรมชาติเวลาอยู่หน้ากล้อง เขาดูไม่เคอะเขินกับการถ่ายรูปเลยแม้แต่น้อยราวกับนายแบบมืออาชีพจริงๆ
“โพสต์เก่ง ถ่ายบ่อยเหรอ” ฉันกล้าแซวเพราะความเป็นกันเองกับรอยยิ้มเป็นมิตรที่มักจะฉายอยู่บนใบหน้าหล่อละมุนของเขา
“อืม เรื่องปกติ ชินแล้ว ว่าแต่... เอวนี่จับมันมือดีเหมือนกันนะ”
ฉันชะงักเพราะคำพูดที่ชวนคิดดีไม่ได้เลย คิดจะหันไปจิกกัดเขาให้หายรำคาญใจสักหน่อย สายตากลับเหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งท่ามกลางคนมากมายเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ
“...!!!”
ใครคนนั้นกำลังจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาดุดันจนน่าขนลุก
แฮค... เขาอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ
ถึงก่อนหน้านี้จะได้ยินคำว่าเรดซันก็เถอะ แต่เพราะพื้นที่จัดงานและจำนวนผู้คนที่มากมายขนาดนี้ ฉันไม่คิดว่าเราจะเจอกันง่ายๆ เลย
“จูน?”
“ห๊ะ?”
ฉันละความสนใจจากแฮคหันกลับมาที่กุน
“เหม่ออะไร คนอื่นมารอแล้ว” กุนก้มลงกระซิบข้างหู แสดงความสนิทสนมเกินความจริง มือหนารั้งเอวฉันออกจากแบล็กดรอปไปที่แท่นจับหมายเลข พอชำเลืองกลับไปมองทางเดิมก็ไม่เห็นแฮคอยู่ตรงนั้นแล้ว
เอ๊ะ… หรือว่าฉันจะตาฝาด?
ฉันไล่ความฟุ้งซ่านออกจากใจ ดึงสติกลับมา มองกุนที่กำลังล้วงมือลงไปในกล่องลูกบอล เขาควานอยู่ไม่กี่ทีก็หยิบบอลกลมๆ ขนาดเท่าอุ้งมือจับขึ้นมาส่งให้กับทีมงาน โดยมีเสียงพูดของพิธีกรที่คอยปลุกเร้าบรรยากาศให้สนุกครึกครื้นไม่หยุด
“และหมายเลขของทีมอีเกิลสปีดที่จับได้ก็คือ… 07!”
ทันทีที่พิธีกรประกาศจบ รูปของกุนที่มีชื่อทีมก็ปรากฏบนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างเต็นท์ตามด้วยเอฟเฟกเลข 07 ลอยมาแปะกลางจอ
จากนั้นทีมงานก็พาเราออกมาจากแท่นจับหมายเลขเพื่อให้คิวต่อไปขึ้นมาจับ
“แค่นี้เหรอ” ฉันถามกุนหลังจากออกมาแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในบริเวณเต็นท์อำนวยการ
“อืม แค่นี้แหละ ว่าแต่”
“มาทำอะไร!”
กุนกำลังจะพูดอะไรสักอย่างแต่ท่อนแขนฉันโดนฉุดจากด้านหลังซะก่อน ทุกอย่างหยุดชะงักและดูอุตลุดไปหมด
“แฮค!” หัวใจกระตุกวาบเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนจับแขน
“แฮค? อะไรของมึง เฮ้! เดี๋ยวสิวะ” กุนท้วง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเคลื่อนไหว แฮคก็ดึงฉันออกไปไกลแล้ว
รู้ตัวอีกที ฉันก็แทบปลิวตามแรงกระชากของเขา
“แฮค… แฮค!? นี่อะไรของนายเนี่ย ปล่อยนะ!”
ฉันตะโกนเรียกคนตรงหน้าอย่างหัวเสีย สะบัดแขนอยู่หลายครั้งกว่าจะหลุด หรือแฮคจงใจปล่อยเองไม่แน่ใจ ที่ที่เราอยู่ตอนนี้มีผู้คนน้อย ไม่พลุกพล่านเท่าบริเวณเต็นท์อำนวยการ เรียกว่าเป็นบริเวณรอบนอกก็ไม่ผิดนัก
“เธอไปทำอะไรตรงนั้น” แฮคชี้มือไปยังทางที่เขาเพิ่งลากฉันมา
“อะไร? แล้วนายจะโมโหทำไม ฉันก็แค่ทำงานป่ะ!”
“นี่เธอไป ‘N’ ให้พวกอีเกิลงั้นเหรอ”
ฉันกลอกตาไปมากับท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงของแฮค ถึงจะรู้สึกเหมือนโดนดูถูกจากคำพูดนั้น แต่ก็กัดฟันตอบออกไปอย่างไม่คิดจะแก้ตัว
“ใช่ ทำไม?”
“เหอะ แล้วที่บอกว่าเหนื่อย หมายความว่าไง”
“เดี๋ยวนะ แล้วนายยุ่งอะไรด้วย”
“ไป”
แฮคจับข้อมือฉันกระตุกให้เดินตาม ฉันรั้งข้อมือเอาไว้ จ้องแฮคนัยน์ตาตื่น
“เดี๋ยวดิ ไปไหน”
“ไปที่เต็นท์เรดซัน”
แฮคดึงลากข้อมือฉัน ฉันงัดแรงสู้แต่ว่าก็ไถลไปตามแรงฉุดที่มากกว่า รองเท้าส้นสูงก้าวสะเปะสะปะหวิดจะพลิกเสียหลักอยู่หลายรอบ
“ทำไมต้องไปเต็นท์เรดซัน โอ๊ยนี่ มันจะล้ม”
“ก็เลิกขัดขืนแล้วตามมาดีๆ สิ”
“หา!” ฉันอ้าปากพะงาบๆ อยากด่าแต่ด่าไม่ออก
“เฮ้ย!” เสียงปริศนา
หมับ
ข้อมืออีกข้างโดนฉุดจากทางด้านหลัง ร่างฉันตึงผึงเหมือนหนังยางถูกดึงทันควัน เสียงกระดูกลั่นกร๊อบแกร๊บเลยทีเดียว
“อึก… คริส!?”
หัวใจฉันกระตุกวาบเมื่อรู้ว่าเจ้าของแรงฉุดกับเสียงปริศนาคือเขา
ชะช่วยด้วย… ฉันส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากคริสโดยไม่รู้ตัว
“คริส” แฮคหรี่ตาลง ผ่อนแรงที่ข้อมือฉันแต่ไม่ได้ปล่อย หันกลับมามองหน้าคริสตรงๆ “ทำอะไร”
“กูต่างหากที่ต้องถามว่ามึงทำอะไร นี่มันเรซควีนของทีมกู มึงถือสิทธิ์อะไรมาฉุดดึงตามใจชอบ”
“อ้อ!…” แฮคลากน้ำเสียงยียวนกวนประสาทยาว นัยน์ตาคมฉายแววเย็นยะเยือกอย่างคนที่พร้อมปะทะกับทุกสิ่งที่ขวางหน้า
“เมียกู ทำไมกูจะไม่มีสิทธิ์”
“…!!!” คริสเงียบกริบ
“….!!!” ส่วนฉันทั้งอึ้งทั้งอาย คลื่นความร้อนแผดกระจายไปทั่วร่าง เพิ่งรู้ตัวก็ตอนนี้เองว่าเกลียดการถูกตีตราเป็นเจ้าของต่อหน้าคนอื่นมากขนาดไหน
แล้วฉันกลายเป็นเมียแกตั้งแต่เมื่อไหร่ แฮค!