พอฉันมีใจ อยากเป็นแฟนนายจริงๆ นายกลับบอกว่ามันไม่เวิร์ก แต่พอฉันถอยออกมา นายกลับบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน หึ! กราบเท้าฉันสิ แล้วฉันจะคิดเรื่องของนายดูอีกที

แฟนจ้างก็มีหัวใจ - 21 ปากแจ๋ว โดย Yaygoh @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ,พระเอกโบ้,พระเอกหล่อ,พระเอกเลว,redsun,yaygoh,เนปจูน,แฮค,หล่อรวย,อร่อย,ฟินแซบ,ออริ,นางแบบ,โมเดลลิ่ง,งาน N,พริตตี้,ช่างเครื่อง,อกหัก,ชาย-หญิง,ความรัก,แฟน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แฟนจ้างก็มีหัวใจ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกโบ้,พระเอกหล่อ,พระเอกเลว,redsun,yaygoh,เนปจูน,แฮค,หล่อรวย,อร่อย,ฟินแซบ,ออริ,นางแบบ,โมเดลลิ่ง,งาน N,พริตตี้,ช่างเครื่อง,อกหัก,ชาย-หญิง,ความรัก,แฟน

รายละเอียด

พอฉันมีใจ อยากเป็นแฟนนายจริงๆ นายกลับบอกว่ามันไม่เวิร์ก แต่พอฉันถอยออกมา นายกลับบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน หึ! กราบเท้าฉันสิ แล้วฉันจะคิดเรื่องของนายดูอีกที

ผู้แต่ง

Yaygoh

เรื่องย่อ

รื่องเริ่มต้นที่ งานปาร์ตี้หนึ่ง เนปจูนเผลอนอนกับแขกระหว่างรับงาน พอตื่นมาก็นึกได้ว่าตัวเองเสียเปรียบเพราะไม่ได้เซ็นสัญญารับงาน(เอนหลัง) แค่เอนเตอร์เทรนอย่างเดียว 

จึงไปทวงส่วนต่างจากแขก(แฮค) ประจวบกับแฮคถูกแม่คลุมถุงชนพอดี จึงจับเนปจูนมาเป็นแฟนจ้างแลกกับค่าตัว


ความโอนเก่ง โอนไว ของแฮคทำให้เนปจูนปฏิเสธไม่ออก

แุถมความใกล้ชิดก็ค่อยๆ ทำให้หัวใจสาวหวั่นไหว เผลอมีใจให้แฮค ทั้งที่แฮคมันชอบหาย ไลน์ไม่ตอบ มาเจอเฉพาะตอนอยาก 


แต่ก็โดนแฮคปฏิเสธ  บอกว่าคบกันมันไม่เวิร์ก เนปจูนก็เลยหนีไปหาหนุ่มคนใหม่แบบเจ็บๆ 

แต่ไอ้โบ้ดันมานึกได้ทีหลังว่าชีวิตนี้ขาดเนปจูนแล้วเหมือนจะตายให้ได้ งานง้อก็มา เล่นใหญ่ถึงขั้นตกบันไดหนีไฟ 😌


มาดูกันว่า ผัวที่ดีคือผัวใหม่ หรือ จะกินของเก่า

สารบัญ

แฟนจ้างก็มีหัวใจ-บทนำ -,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-1 สูญเสียการควบคุม,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-2 เศษความหวาน,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-3 คู่กรณี,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-4 ปุบปับไหว้แม่,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-5 ผลพลอยได้,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-6 แพ้คนโอนเก่ง,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-7 งานกินข้าว,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-8 ริมทาง (NC),แฟนจ้างก็มีหัวใจ-9 ดั่งการเสพติด NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-10 ขอบเขต,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-11 ไม้กันหมา,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-12 อยู่ดีๆ โลกกลมเฉยเลย,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-13 ชุมนุมนักแข่ง (1),แฟนจ้างก็มีหัวใจ-14 ชุมนุมนักแข่ง (2),แฟนจ้างก็มีหัวใจ-15 หนีเสือปะจระเข้,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-16 ค่าปิดปาก,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-17 การแข่งนัดพิเศษ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-18 ไม่ทันตั้งตัว NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-19 ข้อผูกมัด NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-20 แฟนจ้าง,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-21 ปากแจ๋ว,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-22 ทิ้งขว้าง,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-23 เจตนาแฝง NC++,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-24 เขาสั่งให้รอ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-25 หมาหวงก้าง,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-26 ต่างจังหวัด NC++,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-27 ความใส่ใจของเขา NC++,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-28 ตัวแถม,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-29 เครื่องมือคลายเครียด NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-30 วิกฤตเป็นตาย,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-31 คนเสียอาการ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-32 การไถ่โทษ NC20++,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-33 ภัยความเงียบ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-34 หาย ไลน์ไม่ตอบ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-35 หายมา หายตอบ ไม่โกง,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-36 ผีเข้าผีออก,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-37 สมบทบาท,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-38 หลุดอาการ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-39 ข้อต่อรอง NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-40 จิตใจทำด้วยอะไร NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-41 แค่เป็นห่วงก็ผิด,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-42 แค่เป็นห่วงก็ผิด NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-43 คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-44 รุ่นน้องโรงเรียนเก่า,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-45 คุณแม่สามี,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-46 หลุมหลบภัย,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-47 กดทับอยู่ในใจ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-48 หวานอมขมกลืน NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-49 ไม่สำคัญก็เหนื่อยหน่อย,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-50 อารมณ์ดึงดูด,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-51 ความอยาก NC++,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-52 ติดลม NC++

เนื้อหา

21 ปากแจ๋ว



“พักที่ไหน”

“จะไปส่งเหรอ” ฉันหันไปมองแฮคอย่างประหลาดใจ ปกติเขาไม่เคยถามหรอก มีแต่ขึ้นรถแล้วกูอยากขับไปไหนกูก็ไปเลย

“เก็บของไปอยู่ที่คอนโดด้วยกัน”

“หืม?”

“งงอะไร ถ้าไม่อยู่ด้วยกันจะเรียกว่าแฟนเหรอ”

“ทำไมจะเรียกไม่ได้ คนเป็นแฟนไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันทุกคู่”

“แต่ไม่ใช่สำหรับคู่เรา”

เถียงไม่ออก ไม่รู้จะเถียงยังไงมากกว่าเพราะคำว่า “คู่เรา” ของแฮคฟังแล้วมันแน่นอกไปหมด จะยกออกก็ลำบากใจ เพราะเงินก็อยากได้

“อืมๆ” ฉันพยักหน้าเออออไปกับแฮค เขาว่าไงก็ว่างั้นแหละ จะให้ฉันย้ายของไปอยู่ด้วยที่คอนโดก็ไม่มีปัญหา ดีซะอีก จะได้ประหยัดค่าน้ำค่าไฟที่หอพัก ยังไงเราสองคนก็เกินเลยกันสุดๆ แล้ว ยังมีอะไรให้ต้องห่วงอีก



ฉันย้ายมาอยู่คอนโดแฮคได้หลายวันแล้ว นอกจากเรื่องอย่างว่าเราก็แทบไม่ได้คุยอย่างอื่นกันเลย ไม่เข้าใกล้คำว่าแฟนสักนิด บอกว่าเป็นเด็กเสี่ยยังเข้าข่ายกว่าอีก

“กินไรดี ออกไปกินข้างนอกมะ” ฉันถามยะหยาระหว่างเดินเข้าศูนย์อาหารในตอนเที่ยงของวันหนึ่ง เป็นวันที่มีเรียนตั้งแต่เช้ายันเย็น ฉันตั้งใจเรียนจนสมองรู้สึกเหนื่อยล้า ต้องการสารอาหารมาเติมเต็มขั้นสุด

“เที่ยงกว่าแล้วกินที่นี่แหละ ถ้าไปข้างนอกกลัวจะเข้าเรียนคาบบ่ายสาย”

“อืม กินนี่ก็กินนี่”

ฉันบอกอย่างไม่เรื่องมาก พลางกวาดตามองหาโต๊ะว่าง

“แกไปจองโต๊ะก่อนไป เดี๋ยวฉันแลกเงินให้” ยะหยาเอ่ยขึ้น ฉันเห็นด้วย หยิบแบงก์ร้อยในกระเป๋าให้ยะหยาแล้วเดินมาหาโต๊ะว่าง เพิ่งจะหย่อนก้นเด้งๆ ลงนั่งก็รู้สึกถึงบรรยากาศอึมครึมด้านหลัง พอหันไปมองก็เห็นคนที่ไม่คาดคิดยืนจ้องหน้าทำตาดุใส่

...พัฟฟินกับเพื่อนที่เจอที่ร้านสเต๊กวันนั้น ยัยพัฟฟินสวมชุดไปรเวทที่ค่อนข้างมีสไตล์ ส่วนเพื่อนข้างๆ อยู่ในชุดนักศึกษาปกติ สีหน้าออกไปทางกังวลหน่อยๆ คล้ายถูกบังคับให้มาเป็นเพื่อน

“มีธุระอะไรหรือเปล่า” ฉันมองทั้งคู่สลับกันไปมา

“ฉันได้ข่าวว่าเธอไปก่อเรื่องที่งานแข่งรถ เธอจงใจทำให้เป็นข่าวงั้นเหรอ”

หืม อะไรนะ!

ยัยพัฟฟินนี่เปิดปากก็กล่าวหาฉันทันที ไม่มีทักทายหรือเกริ่นนำก่อนสักนิด ใบหน้าเรียบร้อยว่าง่ายที่เคยเห็นดูไม่จืดขึ้นมาทันที

“ถ้าคิดว่าทำแบบนั้นแล้วคุณน้าจะยอมรับเรื่องเธอกับพี่แฮค เธอคิดผิดแล้วล่ะ ต่อให้เธอคบกับพี่แฮคจริงคุณน้าก็ไม่ยอมหรอก ฉันว่าเธอยอมแพ้ซะตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า”

ฉันยังไม่ทันอ้าปากพูด พัฟฟินก็จัดมาอีกชุดจุกๆ เล่นเอาขำไม่ออกเลยแฮะ

“หมายความว่ายังไง ‘ต่อให้คบกับแฮคจริง’ นี่เธอกำลังจะบอกว่าฉันกับแฮคคบกันไม่จริงเหรอ!?”

ต่อให้มันจะเป็นความจริงแต่ฉันก็ต้องเล่นละครสักหน่อยเพราะรับค่าตัวมาแล้ว อีกอย่างหมั่นไส้ยัยพัฟฟินด้วย ไม่รู้เป็นอะไรมากหรือเปล่า อยู่ดีๆ ก็เข้ามาพูดให้คนอื่นขายหน้ากลางศูนย์อาหารเนี่ย เสียงก็ไม่ใช่เบาๆ จงใจแหกปากให้คนอื่นสนใจกันชัดๆ ยิ่งพอเป็นเรื่องตบตีแย่งผู้ชาย ชาวบ้านชาวมุงก็ยิ่งประสาทสัมผัสดีเป็นเท่าตัว

ยะหยาแลกคูปองกลับมาพอดี ยัยนั่นลดความเร็วลง ค่อยๆ ก้าวมาหาฉันที่โต๊ะด้วยสีหน้ามึนงง กระซิบถาม “มีอะไรกันเหรอ”

“ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ดีๆ ก็เข้ามาพูดตามใจชอบ”

“ฉันมาเตือนเธอดีๆ ต่างหาก” พัฟฟินเชิดหน้าพูดด้วยท่าทางมั่นใจว่าตัวเองทำสิ่งที่ถูกที่ควร

“เตือนดีๆ แปลว่าอะไร ถ้าฉันไม่ยอมแพ้เรื่องแฮคเธอจะเล่นงานฉันงั้นเหรอ”

“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก แค่หวังดี ไม่อยากให้มาเสียเวลากับเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเธอพอใจกับการเป็นแค่ของเล่นแก้ขัดฉันก็คงเตือนเธอไม่ได้เพราะมันคงเป็นนิสัยที่ถูกปลูกฝังมาของเธอ”

“...!!!”

อึ้งกันถ้วนหน้า... ฉันอึ้ง ยะหยาอึ้ง แม้แต่เพื่อนที่ยืนข้างพัฟฟินก็ยังอึ้ง

นี่มันหลอกด่าไปถึงพ่อแม่หรือเปล่าเนี่ย?

แล้วคิดว่าฉันจะงอมืองอตีน ปล่อยให้เธอพูดอยู่ฝ่ายเดียวหรือไง

“ฉันจะเป็นของเล่นแก้ขัดหรือไม่เป็น เธอไม่ต้องมาเดือดร้อนแทนหรอก อ๊ะ! หรือว่าเธอกำลังรอให้เขาเบื่อฉันอยู่ ถ้าจะต่อคิวก็ต้องรอให้ฉันกับแฮคเลิกกันก่อนแล้วเธอค่อยเสนอตัวดีกว่านะ จะได้ไม่ถูกตราหน้าว่าอยากได้ผู้ชายของคนอื่นจนตัวสั่น”

“นี่!” ยัยพัฟฟินทำท่าจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่าง แต่มีเหรอที่ฉันจะยอม ใช้เสียงพูดที่ดังกว่าเดิมข่มเอาไว้

“แต่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเราจะเลิกกันเมื่อไหร่ เพราะว่าแฮคหลงฉันมากๆ เผลอๆ เธออาจจะรอเก้อไปเลยก็ได้ ฉันเตือนด้วยความหวังดี ถ้าไม่อยากเสี่ยงขึ้นคานก็เลิกหวังลมๆ แล้งๆ ได้แล้ว แต่ว่าพูดขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจ ยังคิดที่จะมายั่วผู้ชายของฉันอยู่อีก ก็ไม่รู้แล้วนะว่าโตมายังไง พ่อแม่ไม่บอกไม่สอน”

“กรี๊ด ยัยบ้า!” พัฟฟินเดือดพล่านไปทั้งตัวทันที มองฉันลูกตาแทบทะลุออกจากเบ้า

เหอะ โดนว่ากลับบ้างทำเป็นทนไม่ได้ อ่อนชะมัด

“อาหารที่นี่คงไม่อร่อยแล้วล่ะ เราไปกินที่อื่นกันเถอะยะหยา”

“อืม ไปสิ” ยะหยาพยักหน้าเห็นด้วย



“ไปปากแจ๋วใส่เขาแบบนั้น มันจะดีเหรอจูน เธอพูดซะฉันเชื่อเลยนะว่าหวงแฮคน่ะ นี่เธอไม่ได้หวงจริงใช่มะ?”

ยะหยาผู้รู้ความลับระหว่างฉันกับแฮคท้วงติงหลังจากเดินออกห่างศูนย์อาหารมาไกลแล้ว ที่ที่เราสองคนมุ่งไปคือหน้ามหา’ ลัย หาร้านข้าวแถวนั้นกิน เนี่ยถ้าตัดสินใจมากินข้าวหน้ามอตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องเจอยัยพัฟฟินแล้ว คิดถึงคำพูดยัยพัฟฟินแล้วก็อารมณ์เสีย เหอะ ทำอย่างกับตัวเองสูงส่งนักหนา

“หวงอะไร ไม่ใช่สักหน่อย แค่โมโหน่ะ เธอไม่คิดว่าพัฟฟินพูดแรงไปเหรอ”

“อืม... คำพูดไม่รุนแรงเท่าไหร่แต่ก็เจ็บอยู่นะ เชือดนิ่มๆ ไรงี้”

“ฉันก็เลยเชือดกลับไง”

“เออ ทางนั้นถึงกับหน้าสั่นแหนะ” ยะหยายักไหล่ เหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงอย่างเราต้องมาปากแจ๋วใส่กันเพราะผู้ชายคนเดียว ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกันแหละ แต่ตกกระไดพลอยโจนไปแล้วทำไงได้ล่ะ

“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ แล้วจะกินไรดี โคตรหิวเลยตอนนี้” ฉันตัดรำคาญ

“ไม่รู้ แต่เลือกร้านที่คนน้อยหน่อยแล้วกันจะได้ไม่รอนาน”

“อืม เห็นด้วย”



ในเย็นวันเดียวกันนั้นเอง ฉันได้รับข้อความทาง Messenger จากแอคเคาน์ที่ไม่ใช่เพื่อน แต่จากชื่อและรูปโปรไฟล์ก็เดาออกว่าใคร

กุน จากทีมรถแข่งอีเกิลสปีด

เขาทักมาก่อน ฉันเห็นว่าเป็นคนรู้จักก็เลยตอบตามมารยาท แต่คุยไปคุยมาประวัติแชตนี่ยาวอย่างกับหางว่าว ฉันว่าฉันคุยกับกุนเยอะกว่าไอ้คนที่สมอ้างว่าแฟนซะอีก

ทุ่มหนึ่งแล้วแต่แฮคไม่มีท่าทีว่าจะกลับคอนโดแต่เขาก็กลับดึกเป็นประจำอยู่แล้ว ฉันมองข้อความชวนกินข้าวของกุนอย่างลังเล วันนี้ไม่ได้ทำฟิตเนส งานอื่นก็ไม่มี อย่างกับเช็กตารางเวลาฉันมาแล้วงั้นแหละ

มีผู้ชายชวนกินข้าวก็ไม่อยากไปหรอกแต่แต่งตัวแต่งหน้าจัดเต็มมาก ฉันมาถึงร้านที่นัดกันไว้ก็เห็นกุนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาเหมือนจ้องประตูร้านอยู่ตลอดเวลา พอฉันเดินเข้ามาก็โบกมือส่งสัญญาณให้เห็นทันที ไม่ต้องลำบากมองหาให้เมื่อย

ท่าทางกระตือรือร้นของกุนน่าประทับใจจริงๆ นะ การที่เห็นว่ามีคนตั้งหน้าตั้งตารอเจอเราอยู่เนี่ย มันน่าลำพองใจจริงๆ นั่นแหละ

“มานานแล้วเหรอ” ฉันทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามโดยไม่รอให้เขาเอ่ยปากชวน “ร้านน่ารักดีนะ รู้จักที่นี่ได้ยังไงน่ะ มาบ่อยเหรอ”

เป็นร้านเหล้าสไตล์มินิมอลสองชั้น ชั้นบนเป็นดาดฟ้ามีดนตรีสด ส่วนด้านล่างเป็นโต๊ะนั่งทานข้าวปกติ แน่นอนว่ามีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสิร์ฟ โต๊ะเก้าอี้เป็นไม้สักสีพื้นปูตกแต่งด้วยเฟอร์ขนสัตว์สีขาว และยังมีไฟประดับดวงเล็กดวงน้อยเป็นสายห้อยระโยงระยางตามเพดานกับผนังเพิ่มบรรยากาศน่ารักเข้าไปอีก แค่นั่งเฉยๆ ก็รู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในห้องแห่งความฝันเลยล่ะ

“ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เนี่ยถึงได้บอกว่าจะไปรับ แต่จูนก็ไม่ยอมให้ไป กลัวรู้เหรอว่าอยู่ที่ไหน” กุนหรี่ตาลง พูดทีเล่นทีจริง เล่นเอาฉันกระอักกระอ่วนใจไปชั่วขณะ

“อืม ไม่ใช่อะไรหรอก เราเกรงใจน่ะ”

“คราวหลังไม่ต้องเกรงใจ หรือถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลย”

“อืม ได้... ถ้ามีแล้วจะบอกละกัน แล้วนี่มีอะไรน่ากินบ้าง สั่งอะไรไปบ้างแล้วยัง” ฉันมองโต๊ะโล่งๆ ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากแก้วเบียร์ที่พร่องไปกว่าครึ่งตรงหน้ากุน

“ยัง รอจูนอยู่ไง”

“อ่อ... งั้นสั่งเลยมั้ย?”

“เอาสิ”

“กุนอยากกินอะไรเหรอ” ฉันเปิดเมนู เอ่ยถามระหว่างกวาดสายตาดูรายชื่ออาหาร

“แล้วแต่เลย จูนอยากกินอะไรสั่งมาเลยเต็มที่ มื้อนี้เดี๋ยวเลี้ยงเอง”

“หืม... พูดขนาดนี้ ไม่เกรงใจแล้วนะ”

“เอาเลยครับผม” เขายิ้มหวาน เล่นเอาเกือบเคลิ้มแหนะ คิดอะไรกับฉันหรือเปล่าเนี่ย...

คงคิดแหละเนอะ ก็ฉันออกจะสวยขนาดนี้ แต่ว่าคนที่ทั้งหล่อและก็เท่อย่างกุนน่าจะไม่ขาดแคลนผู้หญิงนี่นา เขาจะมาสนใจคนที่มีแฟนแล้วอยากฉันไปทำไม เฮ้อ ช่างเถอะ ไม่คิดแล้ว ปวดหัว