พอฉันมีใจ อยากเป็นแฟนนายจริงๆ นายกลับบอกว่ามันไม่เวิร์ก แต่พอฉันถอยออกมา นายกลับบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน หึ! กราบเท้าฉันสิ แล้วฉันจะคิดเรื่องของนายดูอีกที
รัก,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ,พระเอกโบ้,พระเอกหล่อ,พระเอกเลว,redsun,yaygoh,เนปจูน,แฮค,หล่อรวย,อร่อย,ฟินแซบ,ออริ,นางแบบ,โมเดลลิ่ง,งาน N,พริตตี้,ช่างเครื่อง,อกหัก,ชาย-หญิง,ความรัก,แฟน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“เออ พี่คริสสนใจจูนอยู่นะ งานแข่งทางการรอบหน้าถ้าจูนมาเป็นเรซควีนให้ทีมเราก็น่าจะดี ครั้งก่อนมีคนชอบจูนเยอะเลย ในแอปฯก็ได้หัวใจเยอะด้วย”
กุนเอ่ยขึ้นเป็นเชิงชักชวนระหว่างกำลังกินข้าว จีบให้ไปร่วมงานด้วย ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ฉันคงไม่คิดอะไรมาก แต่ว่าได้ยินชื่อ ‘คริส’ ภาพจำไม่ดีก็ผุดขึ้นมาในหัว ความกลัวที่โดนผลักใส่ตู้คอนเทนเนอร์ฝังลึกอยู่ในใจ
“แน่ใจเหรอว่าคริสอยากให้เราไปน่ะ เขาไม่ชอบเราไม่ใช่เหรอ”
“ใครบอก พี่คริสออกจะสนใจจูน”
“ฮ่าๆ ไม่เห็นตอนเขาหัวร้อนใส่เราก็พูดได้สิ”
กุนเลิกคิ้วเหมือนฟังฉันพูดไม่เข้าใจ อึดใจต่อมาเขาก็ผ่อนลมหายใจ เอ่ยสิ่งที่ทำให้ฉันเสียวท้องวูบออกมา
“จูนกลัวคนที่ผลักจูนใส่กำแพง แต่ไม่กลัวคนที่พาจูนเข้าโรงแรมตอนไม่ได้สติเนี่ยนะ”
หัวใจฉันกระตุกวูบ!
เขารู้เรื่องนั้นแล้วเหรอ แอบไปสืบมางั้นสินะ
...แต่คำพูดกุนมันก็น่าคิด ทว่าฐานะของแฮคตอนนั้นเขาเป็นลูกค้าฉัน บริบทมันเอื้อให้เกิดเรื่องอย่างว่าอยู่แล้ว ฉันคิดแบบเป็นกลางนะ ไม่ได้เข้าข้างใคร
“รู้ได้ยังไง” ฉันมองกุนอย่างสงสัย ไม่รู้แล้วว่าตัดสินใจถูกหรือเปล่าที่มา อีกอย่างไม่แน่ใจว่ากุนรู้ตื้นลึกหนาบางแค่ไหน ฉันไม่กล้ากระโตกกระตากพูดอะไรเยอะ
“เรื่องจูนมีปัญหากับโมเดลลิ่งเพราะงาน ‘N’ รวมถึงเรื่องที่แฮคมันเดิมพันตัวจูนในงานแข่งกลายเป็นหัวข้อใหญ่ของสาวๆ ในวงการเลยนะ”
“งั้นเหรอ แล้วกุนรู้อะไรมาล่ะ” ฉันยิ้มมุมปาก อยากรู้ว่ากุนได้ยินอะไรมา
“พูดไปแล้ว จูนจะกลัวเราหรือเปล่า”
“โหกุน พูดมาเถอะ ขนาดนี้แล้ว” ฉันยิ้มขำขันกับท่าทีกังวลของคนตรงหน้า บางครั้งเขาก็เหมือนจะเด็ดขาด แต่บางคราวก็ดูคิดเยอะไป
“แล้วมันจริงอย่างที่เขาลือกันหรือเปล่าล่ะ”
“เขาลือว่าไงเหรอ” ฉันดึงเชิง ไม่แสดงอารมณ์ร้อนใจให้เขาเห็น กลัวโดนจับไต๋ได้
“แน่ใจเหรอว่าจะให้พูด”
“อื้มพูดมาเลย ไม่เป็นไรหรอก”
“พวกสาวๆ พูดกันว่าจูนมีอะไรดีถึงขนาดเข้าโรงแรมกับไอ้แฮคแค่ครั้งเดียวก็ทำให้มันคลั่งได้ขนาดนั้นน่ะ”
เอาซะนึกภาพพวกผู้หญิงนั่งเกาะกลุ่มนินทาฉันออกเลย ไม่รู้ว่ากุนได้ยินมาผ่านๆ หรือไปนั่งซุบซิบกับเขาด้วย
“แล้วกุนคิดว่าไงเหรอ”
“ถ้ายังแค่เริ่ม... ถอนตัวตอนนี้ยังทันนะ อย่าถลำลึกไปกว่านี้ดีกว่า”
แสดงว่าไม่ได้ระแคะระคายเรื่องที่แฮคจ้างฉันเป็นแฟน? หรือเปล่านะ ฟังแค่นี้ก็ยังฟันธงไม่ได้อยู่ดี สงสัยฉันนิ่งคิดไปนานกุนถึงได้ทักขึ้นมาอีก
“หรือว่าจูนจริงจังกับมัน”
“แฮคน่ะเหรอ”
“....” กุนยักไหล่ เหมือนจะบอกว่าถ้าไม่ใช่แฮคแล้วจะหมายถึงใคร ฉันเหม่อไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติ รีบเค้นความคิดในหัวตอบ
“ก็ไม่รู้สิ แฮคก็ดูแลจูนดีอยู่นะ”
“ช่วยอธิบายคำว่าดูแลดีให้ฟังหน่อยสิ” กุนถามกลับทันควัน สายตามีทั้งแววเยาะหยันและจริงจังแปลกๆ ทำเอาฉันถึงกับกดดันขึ้นมา
“ทำไมเหรอ กุนจะอยากรู้ไปทำไม นี่คือธุระที่เรียกออกมาเหรอ” ฉันมองใบหน้าสงสัยใคร่รู้ของกุนตรงๆ เตือนให้เขารู้ว่ากำลังล้ำเส้น
กุนส่ายหน้า “อย่าเข้าใจผิดสิ ในแชตก็บอกไปแล้วนี่ว่าอยากเจอ อยากทำความรู้จักกับจูนน่ะ”
“แต่ถามเรื่องแฮคไม่หยุด?”
“ลำบากใจเหรอ”
“ก็นิดหนึ่ง” ฉันยักไหล่ “บอกว่าอยากรู้จักกันแต่คุยเรื่องแฮค มันน่าดีใจตรงไหน”
“โทษที ต่อไปไม่พูดถึงมันแล้วก็ได้” กุนมองฉันด้วยสายตารู้สึกผิด “เรื่องเรซควีนล่ะ ว่าไง”
ฉันเบิกตาโตแบบยังไม่ได้คิด ...ก็นึกว่าลืมไปแล้วซะอีก ยังอุตส่าห์วนกลับมาที่เดิมอีกเนอะ
“ขอคิดดูก่อนได้มั้ย”
“รับค่าตัวเต็มนะ ไม่ต้องผ่านโมเดลลิ่ง ถ้าสนใจก็ทักแชตมาบอก หรือจะโทรมาก็ได้ แต่อย่านานล่ะ เพราะต้องคอนเฟิร์มก่อนที่ทีมจะตัดสินใจเลือกคนอื่น”
“....” น่าสนใจตรงที่รับค่าตัวเต็มนี่แหละ
คอนโดแฮค
กลับจากกินมื้อเย็นกับกุนแฮคก็ยังไม่กลับ คอนโดยังคงว่างเปล่าและเงียบกริบ... ทีแรกกุนจะขับรถมาส่งแต่ฉันปฏิเสธจนเมื่อยปากกว่าเขาจะยอมถอยให้
ได้อยู่ตามลำพังมันก็ดีอยู่หรอกในแง่ของความเป็นส่วนตัว แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกเหงา เหมือนโดนบรรยากาศที่ราวกับโดนทอดทิ้งของห้องนี้กลืนกินยังไงก็ไม่รู้ ปกติแล้วแฮคไม่ค่อยกลับคอนโดอย่างนี้หรือเปล่านะ
ฉันอาบน้ำเสร็จ นั่งไล่ดูภาพบทเรียนของวันนี้ที่ถ่ายเก็บเอาไว้ทบทวนแบบผ่านๆ ก่อนเปิดแอปฯ เข้าไปดูหน้าร้านออนไลน์ว่ามีคำสั่งซื้อหรือเปล่า ยอดไม่ค่อยปังหรอก แต่ก็มีสั่งอาทิตย์ละ 2-3ออร์เดอร์ พอให้มีกำลังใจหล่อเลี้ยงนิดหน่อย
แต่พอวันนี้ไม่มีคำสั่งซื้อ... รู้สึกเหงากว่าเดิมอีก ทักไปหายะหยาก็ไม่อ่านน่าจะกำลังดูซีรีส์ ฉันปัดมือมาถึงชื่อแฮค กดพิมพ์ไปแล้วว่า ‘จะกลับตอนไหน’ แต่ลังเลไม่รู้ควรส่งไปดีหรือเปล่า แต่สุดท้ายฉันก็กลั้นใจส่งไปจนได้... หัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันที ลุ้นว่าเขาจะตอบมาว่ายังไง ทว่าจนตีสองหมอนั่นก็ยังไม่อ่าน... แถมห้องก็ยังไม่กลับ แล้วนี่ฉันก็บ้าบอ นั่งรออยู่ได้ เฮ้อ!
เช้าวันต่อมา... ฉันตื่นขึ้นพร้อมกับอาการวิงเวียนเพราะนอนไม่พอ แต่วันนี้มีงานเที่ยงก็เลยตื่นสายไม่ได้ เป็นงานถ่ายแบบกางยีนยี่ห้อหนึ่งที่ดีลเอาไว้ตั้งแต่เดือนก่อน เจ้าของแบรนด์ติดต่อเข้ามาเองจากการเห็นคลิปออกกำลังกายในไอจีของฉัน
เป็นอีกงานที่ฉันตั้งตาคอยเลยแหละ ถึงไม่ใช่แบรนด์ดังแต่ก็น่าจะพอเก็บเข้าโปรไฟล์ได้ ค่าตัวก็สมเหตุสมผลดี ไม่กดกันเกินไปแม้ว่าฉันจะไม่ดังและไม่ใช่นางแบบมืออาชีพก็ตาม
ได้ยินเหมือนเสียงประตูดังระหว่างที่กำลังหาอะไรในครัวกิน ไม่รู้ว่าหูฝาดหรือเปล่า แต่สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรล้ม มันน่าสงสัยจนต้องเดินออกมาดู
“แฮค...”
ร่างสูงนอนคว่ำหน้าอยู่บนโซฟาเบด ท่าทางหมดแรง หรือว่าตายแล้วก็ไม่รู้
“นี่? หืม... ทำไมกลิ่นเหล้าแรงแบบนี้”
พอเข้าไปดูใกล้ๆ กลิ่นละมุดนี่หึ่งขึ้นจมูกเลย จะอ้วกแล้วเนี่ย
“ดื่มอะไรขนาดนี้เนี่ย แล้วนี่กลับมายังไง”
“แฮค...” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับหมุนควงกุญแจรถและคีย์การ์ดในมือ เธอชะงักเท้ากึกทันทีที่สบสายตาเข้ากับฉัน โพล่งถามเสียงเย็นชา “เธอเป็นใคร!”
“แล้วเธอเป็นใคร เกิดอะไรขึ้นกับแฮค”
ฉันมองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เธออยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีดำสั้น สวมทับด้วยคาร์ดิแกนปักเหลื่อมชมพูทอง แต่งหน้าจัด ผมยาวประบ่าดัดลอนเป็นทรงสวย มองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าเป็นสายปาร์ตี้ แต่ไม่แน่ใจว่ามาจากงาน ‘N’ หรือจากผับบาร์
“ฉันเห็นว่าเขาเมา ก็เลยขับรถมาส่ง” ยัยนั่นพูดอย่างเสียดาย พร้อมกับเบะปากบ่น “ถ้ารู้ว่ามีคนอยู่ คงพาไปที่อื่นละ หึ เสียแผนหมด”
ฉันขมวดคิ้ว ท่อนสุดท้ายนั่นจงใจพึมพำให้ฉันได้ยินชัดๆ
ฉันสูดหายใจลึก แค่นเสียงเย็นตอบ
“ส่งเสร็จแล้วก็กลับไปสิ” ฉันไม่คิดจะเจรจากับหล่อนไปมากกว่านี้ แค่เห็นท่าทางไร้ยางอายนั่นก็นึกอยากจิกหัวลากออกไปจากห้องแล้ว
“หรือว่าเธอคือเรซควีนที่เขากำลังลือกัน?”
ฉันขมวดคิ้ว จู่ๆ ยัยคนตรงหน้าก็แสดงท่าทีสนใจเรื่องของฉันขึ้นมา
“นี่ถึงขั้นมาอยู่คอนโดเลยเหรอ ไม่อยากจะเชื่อ”
“ขอบใจนะที่มาส่งแฮค แต่หมดธุระแล้วเธอก็ควรกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันดูแลแฮคต่อเอง”
“เหอะ! ไม่ต้องไล่หรอก ยังไงฉันก็จะกลับอยู่แล้ว แต่ว่านะ อย่าเพิ่งมั่นใจอะไรให้มันมากนักเลย ถ้าอย่างเธอ...” หยุดพูดแล้วใช้สายตาประเมินมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า “...ทำให้แฮคสนใจได้ คนอย่างฉันก็มีสิทธิ์เหมือนกัน”
“หา!? นี่เธอกำลังฝันกลางวันอยู่หรือไง”
“เธอน่ะสิฝันกลางวัน ตื่นจ้ะ! แฮคไม่ใช่สมบัติของเธอคนเดียว เธอมีดีอะไร ถึงคิดว่าตัวเองจะหยุดเขาได้ล่ะ เหอะ! อย่ามั่นหน้านักเลย ไปละ ไว้เจอกันใหม่นะแฮค” ยัยนั่นข่มฉันเสร็จก็ก้มลงไปกระซิบข้างหูแฮคด้วยท่าทีเย้ายวนไม่แคร์ฉันเลยสักนิด ก่อนจะเดินออกประตูห้องไปแบบเชิดๆ
นี่มันบ้าอะไรเนี่ย ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องที่ชวนหงุดหงิดแต่เช้าแบบนี้ด้วยเนี่ย
ฉันเตะขายาวๆ ของแฮคไปทีหนึ่งด้วยความโมโห