พอฉันมีใจ อยากเป็นแฟนนายจริงๆ นายกลับบอกว่ามันไม่เวิร์ก แต่พอฉันถอยออกมา นายกลับบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน หึ! กราบเท้าฉันสิ แล้วฉันจะคิดเรื่องของนายดูอีกที

แฟนจ้างก็มีหัวใจ - 36 ผีเข้าผีออก โดย Yaygoh @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ,พระเอกโบ้,พระเอกหล่อ,พระเอกเลว,redsun,yaygoh,เนปจูน,แฮค,หล่อรวย,อร่อย,ฟินแซบ,ออริ,นางแบบ,โมเดลลิ่ง,งาน N,พริตตี้,ช่างเครื่อง,อกหัก,ชาย-หญิง,ความรัก,แฟน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แฟนจ้างก็มีหัวใจ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกโบ้,พระเอกหล่อ,พระเอกเลว,redsun,yaygoh,เนปจูน,แฮค,หล่อรวย,อร่อย,ฟินแซบ,ออริ,นางแบบ,โมเดลลิ่ง,งาน N,พริตตี้,ช่างเครื่อง,อกหัก,ชาย-หญิง,ความรัก,แฟน

รายละเอียด

พอฉันมีใจ อยากเป็นแฟนนายจริงๆ นายกลับบอกว่ามันไม่เวิร์ก แต่พอฉันถอยออกมา นายกลับบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน หึ! กราบเท้าฉันสิ แล้วฉันจะคิดเรื่องของนายดูอีกที

ผู้แต่ง

Yaygoh

เรื่องย่อ

รื่องเริ่มต้นที่ งานปาร์ตี้หนึ่ง เนปจูนเผลอนอนกับแขกระหว่างรับงาน พอตื่นมาก็นึกได้ว่าตัวเองเสียเปรียบเพราะไม่ได้เซ็นสัญญารับงาน(เอนหลัง) แค่เอนเตอร์เทรนอย่างเดียว 

จึงไปทวงส่วนต่างจากแขก(แฮค) ประจวบกับแฮคถูกแม่คลุมถุงชนพอดี จึงจับเนปจูนมาเป็นแฟนจ้างแลกกับค่าตัว


ความโอนเก่ง โอนไว ของแฮคทำให้เนปจูนปฏิเสธไม่ออก

แุถมความใกล้ชิดก็ค่อยๆ ทำให้หัวใจสาวหวั่นไหว เผลอมีใจให้แฮค ทั้งที่แฮคมันชอบหาย ไลน์ไม่ตอบ มาเจอเฉพาะตอนอยาก 


แต่ก็โดนแฮคปฏิเสธ  บอกว่าคบกันมันไม่เวิร์ก เนปจูนก็เลยหนีไปหาหนุ่มคนใหม่แบบเจ็บๆ 

แต่ไอ้โบ้ดันมานึกได้ทีหลังว่าชีวิตนี้ขาดเนปจูนแล้วเหมือนจะตายให้ได้ งานง้อก็มา เล่นใหญ่ถึงขั้นตกบันไดหนีไฟ 😌


มาดูกันว่า ผัวที่ดีคือผัวใหม่ หรือ จะกินของเก่า

สารบัญ

แฟนจ้างก็มีหัวใจ-บทนำ -,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-1 สูญเสียการควบคุม,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-2 เศษความหวาน,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-3 คู่กรณี,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-4 ปุบปับไหว้แม่,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-5 ผลพลอยได้,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-6 แพ้คนโอนเก่ง,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-7 งานกินข้าว,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-8 ริมทาง (NC),แฟนจ้างก็มีหัวใจ-9 ดั่งการเสพติด NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-10 ขอบเขต,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-11 ไม้กันหมา,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-12 อยู่ดีๆ โลกกลมเฉยเลย,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-13 ชุมนุมนักแข่ง (1),แฟนจ้างก็มีหัวใจ-14 ชุมนุมนักแข่ง (2),แฟนจ้างก็มีหัวใจ-15 หนีเสือปะจระเข้,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-16 ค่าปิดปาก,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-17 การแข่งนัดพิเศษ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-18 ไม่ทันตั้งตัว NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-19 ข้อผูกมัด NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-20 แฟนจ้าง,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-21 ปากแจ๋ว,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-22 ทิ้งขว้าง,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-23 เจตนาแฝง NC++,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-24 เขาสั่งให้รอ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-25 หมาหวงก้าง,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-26 ต่างจังหวัด NC++,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-27 ความใส่ใจของเขา NC++,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-28 ตัวแถม,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-29 เครื่องมือคลายเครียด NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-30 วิกฤตเป็นตาย,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-31 คนเสียอาการ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-32 การไถ่โทษ NC20++,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-33 ภัยความเงียบ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-34 หาย ไลน์ไม่ตอบ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-35 หายมา หายตอบ ไม่โกง,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-36 ผีเข้าผีออก,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-37 สมบทบาท,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-38 หลุดอาการ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-39 ข้อต่อรอง NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-40 จิตใจทำด้วยอะไร NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-41 แค่เป็นห่วงก็ผิด,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-42 แค่เป็นห่วงก็ผิด NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-43 คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-44 รุ่นน้องโรงเรียนเก่า,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-45 คุณแม่สามี,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-46 หลุมหลบภัย,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-47 กดทับอยู่ในใจ,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-48 หวานอมขมกลืน NC,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-49 ไม่สำคัญก็เหนื่อยหน่อย,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-50 อารมณ์ดึงดูด,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-51 ความอยาก NC++,แฟนจ้างก็มีหัวใจ-52 ติดลม NC++

เนื้อหา

36 ผีเข้าผีออก



♆ เนปจูน ♆



“เอ่อ ขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ยครับ”

หลังจากยืนโชว์ตัวคู่กับคริสข้างรถคันที่จะใช้แข่งเสร็จ เดินออกจากตำแหน่งไม่ถึงครึ่งก้าว น้ำเสียงเจียมเนื้อเจียมตัวก็โพล่งออกมาจากผู้ชายสวมแว่น

“....” ฉันเหลือบมองคริส ตอนนี้เขากำลังโอบเอวฉันอยู่ รู้สึกว่าต้องให้เขาอนุญาตก่อนถึงจะถ่ายได้

คริสขมวดคิ้วแต่ไม่ได้ชักสีหน้าหงุดหงิดแต่อย่างใด คงเพราะมีกล้องหลายตัวจ่ออยู่เขาจึงไม่แสดงอารมณ์ให้คนเอาไปซุบซิบต่อ

“ระวังตัวด้วยล่ะ” เขาก้มลงกระซิบข้างหูฉัน ริมฝีปากร้อนนิ่มเฉียดผ่านแก้มหวุดหวิด ฉันกลั้นหายใจสะกดอารมณ์วูบไหวไม่ให้ลุกลาม

ปากเหมือนจะหวังดีแต่คนฟังอย่างฉันรู้สึกเหมือนกำลังโดนดูถูกอยู่ยังไงก็ไม่รู้

“ขอโทษครับ”

คริสออกไปแล้ว คนที่ขอถ่ายรูปก็รีบก้าวเข้ามายืนข้างฉันเหมือนอัดอั้นมานานนม... ใบหน้าแอบหื่นนิดหน่อยด้วย น่ากลัวเลยแหละ

“ค่ะ” ฉันพยักหน้า รักษารอยยิ้มจริงใจเอาไว้ ให้ความร่วมมือถ่ายรูปกับทุกคนที่หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด...

เอ่อ... นี่มันจะเยอะไปแล้วนะ มาจากไหนกันเนี่ย ยิ้มจนเหงือกแห้งแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าคนจะลดลงเลย

ฉันจะปลีกตัวออกไปก็ไม่กล้า พยายามมองหาตัวช่วยแต่ก็ไม่เจอ มีสตาฟฟ์คอยสอดส่องความปลอดภัยก็จริง แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะเข้ามาดึงฉันออกจากกลุ่มคน ตรงข้ามยิ่งเห็นว่าพริตตี้หรือที่เรียกว่าเรซควีนสำหรับงานแข่งรถได้รับความนิยมก็ยิ่งชอบใจเพราะเท่ากับว่างานหรืออีเวนต์นี้ก็จะพลอยได้หน้าไปด้วย

แย่จริง สมาร์ตโฟนฉันก็ไม่ได้พก มีแค่ตัวเปล่าๆ นุ่งน้อยห่มน้อย ยืนโชว์หวิวให้ผู้ชายเข้ามากระทบไหล่จนเมื่อย เอาไงดีนะ ฉันว่าฉันก็ยืนมาสักพักแล้วนะ ขอตัวไปตอนนี้คงไม่มีใครว่าอะไรหรอกมั้ง

“ขอโทษนะคะ ต้องไป... ว้าย!”

ใครไม่รู้คว้าเอวฉันเข้าไปกอดจากทางด้านหลัง แน่นอนว่าตกใจ ที่อุทานสั้นๆ ออกมาแค่นั้นก็เพราะยังมีเศษเสี้ยวสติเหลืออยู่บ้าง แต่ทันทีที่สบสายตาเข้ากับนัยน์ตาคมดุ หัวใจฉันก็เหมือนจะกระดอนออกมานอกอก

“แฮค...”

นี่เขายังมีชีวิตอยู่หรอกเหรอ นึกว่าตายไปแล้วซะอีก!

“ยังจำผัวตัวเองได้อยู่เหรอ”

ผะผัว! ฉันตะลึงลิ้นจุกปาก ไม่คิดว่าแฮคจะกล้าโพล่งคำนั้นออกมา หายหัวไปหลายวัน กลับมาก็ทำตัวเบ่งเลยเนี่ยนะ คนอะไรหน้าด้าน หน้าไม่อาย!

“นี่ทำอะไรน่ะ ปล่อยก่อน มีอะไรเอาไว้ค่อยคุยกัน คนเยอะไม่เห็นหรือไง” ฉันโวยวาย

เขารัดเอวฉันแน่นขึ้น ท่ามกลางสายตาแตกตื่นของผู้คน แฮคดูไม่สนใจอะไรเลย ขณะที่ฉันกังวลจนความเครียดลงกระเพาะ

“แฮคฉันทำงานอยู่”

“เตือนแล้วไม่ให้รับงานนี้ ทำไมไม่ฟัง ไป”

เขากระตุกมือที่โอบเอว รั้งให้ฉันเดินตาม ฉันไม่ได้ฝืนเพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาอยู่แล้ว แต่เพราะแฮคออกแรงและเดินเร็วเกินไป ทำให้ฉันสะดุด ข้อเท้าพลิกไปสองรอบ

กึก!

ถูลู่ถูกังมาก

“แฮค... โอ๊ย เจ็บ... เท้าฉัน!”

ฉันร้อง รู้สึกเจ็บจนไม่อยากเดินต่อ ย่อตัวลงนั่งทั้งแบบนั้น

โชคดีที่ชุดเป็นแบบกางเกงกระโปรงเลยไม่ต้องห่วงโป๊ แม้จะเป็นตอนกลางคืนแต่บริเวณที่ก็ยังมีคนอยู่จำนวนมาก บอกได้เลยว่าเราสองคนไม่มีทางไม่สะดุดสายตาคน

“ลุกขึ้น!”

“เจ็บเท้า” ฉันขมวดคิ้วหน้างอ จับข้อเท้าตัวเองบีบนวดคลายปวด

“เธอนี่มันเรื่องเยอะจริงๆ”

ฝ่ามือหนารั้งเอวฉันขึ้นยืน ก่อนที่แขนอีกข้างจะรวบต้นขาฉันขึ้นอุ้ม

“แฮค...” ร่างฉันลอยหวือขึ้นไปอยู่กลางอากาศกะทันหัน หัวใจแทบหลุดออกจากอก คล้องแขนเข้าที่ลำคอแกร่งด้วยกลัวตก “นี่?”

ยังไม่ทันทักท้วงอะไร เขาก็เดินตรงไปข้างหน้าด้วยใบหน้าดุดันปนหงุดหงิด เห็นท่าทางรำคาญแบบนั้นแล้วฉันก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก ปิดปากเงียบยอมให้เขาอุ้มจนกระทั่งถึงเต็นท์เรดซัน



ได้ยินไม่ผิด ที่นี่คืออาณาเขตของเรดซัน



“....” สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่เราพร้อมกับความเงียบที่เกิดขึ้นแบบไม่ได้นัดหมาย

“ปริ๊นซ์เก้าอี้”

“ครับ?”

“เก้าอี้! ไม่ได้ยินเหรอวะ”

“เอ่อ ครับๆ นี่ครับเฮียเก้าอี้”

ไอ้เจ้าเด็กเปรตที่เคยทำตัวเย็นชาใส่ฉันรีบลากเก้าอี้มาวางตรงหน้าแฮค ไม่กล้าถามอะไรมาก

แฮควางฉันลงบนเก้าอี้ก่อนที่เขาจะย่อตัวลงตรงหน้า จับข้อเท้าฉันไปดูแบบไม่พูดพร่ำทำเพลง

“เจ็บ!”

ฉันสะดุ้ง ชักเท้าออกแต่ว่าแฮคเลื่อนมือจับในตำแหน่งที่สูงขึ้นอีกนิด รั้งข้อเท้าฉันกลับไปพร้อมกับสั่งเสียงฉุน “อยู่เฉยๆ”

“....” ฉันเม้มปากแน่น มองแฮคถอดสายรองเท้าฉันออก แล้วโยนทิ้งเหมือนเป็นอัปมงคล

“....”

ภาพแฮคที่นั่งคุกเข่าข้างหนึ่งกำลังถอดรองเท้าให้เรซควีนของทีมคู่แข่งคงเป็นอะไรที่พบเห็นได้ยากมากเลยสินะ อย่าว่าแต่สักขีพยานในเต็นท์นี่เลย ขนาดตัวฉันยังคิดไม่ถึงว่าคนที่หัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่ตั้งแต่แวบแรกที่เจอจะมานั่งถอดรองเท้าให้อย่างใจเย็นแบบนี้

ตึกตัก... ตึกตัก...

“เจ็บตรงไหน”

“อึก”

เขาขยับข้อเท้าฉันเบาๆ แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำฉันเจ็บ

“เบาๆ หน่อยสิ”

“ตรงนี้เหรอ”

“อืม”

เขาค่อยๆ แตะ ไม่ลงน้ำหนักเหมือนก่อนหน้านี้ เอาเท้าฉันไปวางพาดไว้ที่หน้าขาข้างหนึ่งก่อนหันไปทางปริ๊นซ์ที่ยืนตาค้างอยู่

“เอาผ้าก๊อซมา”

“หา? ผ้า... ผ้าก๊อซ? คือโทษครับเฮีย ผมจะไปหาที่ไหน”

“....” นัยน์ตาแฮคเย็นยะเยือก ไอ้เด็กปริ๊นซ์อะไรนั่นหน้าหดเหลือสองนิ้วทันที

“เป็นอะไร ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้”

ริกกี้...

ใช่เขานั่นแหละ หมอนั่นมองดูอยู่ห่างๆ มาตั้งแต่ต้น กระทั่งตอนนี้เพิ่งสอดปากเข้ามายุ่งเหมือนทนไม่ไหว

พรึบ... แต่ก่อนที่ใครจะพูดอะไรออกมา แฮคถอดแจ็กเกตมาคลุมขาอ่อนฉันกะทันหัน

เหมือนหวง...

ก่อนหน้านี้เขายังไม่ทำอะไร แต่พอเสียงริกกี้ดังขึ้นมาเท่านั้นแหละ ก็เหมือนโดนกดปุ่มหึงหวงขึ้นมาซะงั้น

“สรุปมีมั้ยผ้าก๊อซ” แฮคถามปริ๊นซ์โดยไม่มองหน้า สายตาจดจ้องอยู่ที่ข้อเท้าฉันเท่านั้น

“ถ้าเฮียอยากได้เดี๋ยวผมรีบไปซื้อให้”

ปริ๊นซ์ตอบกลับมาเสียงสั่นๆ สีหน้าทั้งแปลกใจทั้งสับสน เห็นแล้วตลกพิลึก แต่ฉันไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ใคร รีบห้ามเอาไว้ซะก่อน

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปซื้อหรอก แค่นี้เองนั่งพักเดี๋ยวก็ดีขึ้น”

“แน่ใจเหรอ” แฮคถามย้ำ สายตาเรียบเฉยจนดูไม่ออกว่าในใจคิดอะไรอยู่ แต่ฉันพูดออกไปแล้วจะกลืนน้ำลายตัวเองก็ไม่ได้

“อืม...” ฉันพยักหน้ายืนยันหนักแน่น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตกส้นสูงสักหน่อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้อง” แฮคหันไปทางปริ๊นซ์

“ครับ...” ปริ๊นซ์พยักหน้า ผ่อนลมหายใจเบาๆ เดินหลบออกไปเหมือนยกภูเขาออกจากอก

“มาถึงก็เล่นเอาคนเขาตกอกตกใจกันหมด แล้วไปอุ้มเรซควีนทีมอื่นเข้ามาในเต็นท์ทำไม เดี๋ยวไอ้พวกบ้านั่นก็ตามมาหาเรื่องอีกหรอก” ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งในชุดแข่งผละจากหน้าจอแล็ปท็อป หันมามองฉันแวบหนึ่ง ก่อนที่นัยน์ตาคู่คมจะชะงัก ถ้าจำไม่ผิด เขาคือฮาน?

“หืม” ดูเหมือนเขาจะจำฉันได้ ว่าครั้งก่อนก็เคยมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้น

“กูไม่ทันคิด โทษที”

แฮคถอนหายใจเฮือกยาว มองฉันด้วยสายตาคาดโทษ... ฉันรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาทันที ความรู้สึกประทับใจที่แฮคทำให้ก่อนหน้านี้หายวาบไปจากใจจนหมด

“ก็พอเข้าใจอยู่หรอกว่าทำลงไปแบบไม่ทันคิด” เจ้าของเสียงร่างท้วมปรายสายตากะลิ้มกะเหลี่ยใส่ฉัน แถวนี้มีแต่พวกเหลือบไรหรือไงนะ ให้ตายสิ

แต่ถึงฉันจะอึดอัดกับสายตาของพวกผู้ชายในเต็นท์แค่ไหน ก็ไม่กล้าแสดงท่าทีรังเกียจออกมา เก็บสีหน้านิ่งเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“เฮ้ยอะไรวะ”

ยังไม่ทันเคลียร์กับแฮคให้เข้าใจก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากหน้าเต็นท์ ก่อนที่ร่างสูงของคริสจะเดินดุ่มๆ เข้ามาโดยมีกุนตามเป็นเงาอยู่ด้านหลัง

แฮคลุกขึ้นขวางหน้าคนทั้งสองไม่ให้เข้าใกล้ฉันทันที

“เฮ้! คิดจะทำอะไร” เสียงแฮคเย็นยะเยือก กางแขนข้างหนึ่งขึ้นขวาง ห้ามไม่ให้ใครหน้าไหนผ่านมาเจอฉันทั้งนั้น แต่ระยะแค่นี้มีเหรอจะปิดได้มิด

“สรุปว่าเธอเป็นเรซควีนให้ทีมใคร” สายตาเหี้ยมเกรียมของคริสมองข้ามไหล่แฮคมาที่ฉัน ไล่ต้อนให้รู้สึกผิด

“จูน” เสียงกุน สายตาเขามองมาเหมือนผิดหวังนิดหน่อยที่ฉันทิ้งงานมาอยู่กับแฮคที่นี่ แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะกุน ยังไม่ทันที่ฉันจะอธิบายอะไร แฮคก็โพล่งขึ้นมา

“มึงใช่มั้ยที่หลอกแฟนกูมารับงานนี้ไอ้กุน”

“หลอกพ่องมึงดิ กูชอบต่างหากถึงได้ชวนมาทำงานด้วย”

“....” แฮคเงียบกริบ

“....” ฉันไม่รู้ว่าแฮคคิดยังไงแต่ความชัดเจนอันเบ้อเร่อของกุนทำให้ฉันลำบากใจ ตอนนั้นเสียงประกาศให้นักแข่งเตรียมตัวก็ดังก้องได้ยินกันทั่วถึงทั้งงาน ทำให้บทสนทนาที่หาทางลงไม่ได้ในเต็นท์เรดซันหยุดอยู่แค่นั้น

“โทษนะแฮค ฉันรับงานแล้ว นายอย่าทำให้ฉันลำบากใจเลย” ฉันฝืนลุกขึ้นยืนด้วยเท้าเปล่าข้างหนึ่ง เดินเขย่งไปหยิบรองเท้าส้นสูงที่ถูกแฮคโยนทิ้งมาสวมเงียบๆ ท่ามกลางสายตาคนจำนวนมากที่จ้องมองมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ไหนว่าเจ็บ” แฮคเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า สายตาสงสัยของเขาทิ่มแทงใจฉันจนรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าแผลทางกายอีก แต่ถึงจะเขาจะข้องใจขนาดไหนฉันก็ไม่มีเวลามายืนกรานอาการเจ็บข้อเท้าให้แฮคฟัง เพราะรู้สึกว่าไม่สำคัญเท่ากับงานที่ต้องแสดงความรับผิดชอบ

ฉันเดินหลบร่างสูงของแฮคออกมา ตรงไปเกาะแขนคริสตามหน้าที่

“ขอโทษค่ะพี่คริสที่สร้างปัญหา เราไปกันเถอะ”

“....”