พอฉันมีใจ อยากเป็นแฟนนายจริงๆ นายกลับบอกว่ามันไม่เวิร์ก แต่พอฉันถอยออกมา นายกลับบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน หึ! กราบเท้าฉันสิ แล้วฉันจะคิดเรื่องของนายดูอีกที
รัก,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ,พระเอกโบ้,พระเอกหล่อ,พระเอกเลว,redsun,yaygoh,เนปจูน,แฮค,หล่อรวย,อร่อย,ฟินแซบ,ออริ,นางแบบ,โมเดลลิ่ง,งาน N,พริตตี้,ช่างเครื่อง,อกหัก,ชาย-หญิง,ความรัก,แฟน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โพสต์ในเพจนักแข่งรถได้รับความสนใจและถูกแชร์ไปเยอะมากในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เฉพาะในวงการรถแข่ง มีแค่คนที่อยู่ในแวดวงนี้เท่านั้นที่รู้สึกตื่นเต้นหรืออิจฉาตาร้อนไปกับข่าวซุบซิบนินทาทำนองนี้
แต่ก็ไม่เสมอไปว่าคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการแข่งรถจะเสพข่าวเรียกกระแสนี่ และทุกคนที่ติดตามเพจนักแข่งรถก็ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ในแวดวงนี้กันทั้งหมด
ณ มุมหนึ่งในห้องเสื้อชื่อดัง
พัฟฟินเลื่อนอ่านคอมเมนต์ใต้โพสต์ไปก็กัดฟันไปด้วย นัยน์ตาเรียวกลมวาวโรจน์ราวกับมีแสงสปอตไลต์ส่องวูบวาบออกมา บรรยากาศอึมครึมแผ่ซ่านรอบตัว ทำให้คนที่ผ่านมาเห็นเอ่ยถามอย่างสงสัย
“มีอะไรน่ะพัฟฟิน ดูอะไรอยู่เหรอ”
“คุณน้า...”
ใช่แล้ว คนที่ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยขนาดนั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ‘เฮเลน’ คุณแม่ของแฮค และที่นี่ก็เป็นห้องเสื้อของเฮเลน
“เอ่อ...”
“อะไรเหรอ”
เห็นพัฟฟินอ้ำๆ อึ้งๆ ลังเลไม่กล้าพูดแบบนั้น เฮเลนก็ยิ่งสงสัย มองไปที่หน้าจอสมาร์ตโฟนซึ่งพัฟฟินคว่ำปิดเอาไว้เหมือนไม่อยากให้เห็นว่ากำลังดูอะไรอยู่
“ข่าวไร้สาระน่ะค่ะ”
“ข่าวอะไร ถึงกับทำให้หนูอารมณ์เสียเลยเหรอ”
“เอ่อ... ข่าวพี่แฮคค่ะ”
“แฮค? ทำไมเหรอ หรือว่ามีข่าวเรื่องผู้หญิงอีกแล้ว ช่างเถอะ หนูไม่ต้องไปสนใจหรอกจ้ะ แฮคไม่จริงจังอะไรกับยัยพวกนั้นหรอก”
พัฟฟินยิ้มอ่อน... เธอคงจะเชื่ออยู่หรอกถ้าหากว่าคนที่ตกเป็นข่าวกับแฮคไม่ใช่เนปจูน
ผู้หญิงคนเดียวกับที่แฮคควงมาหักหน้าที่ร้านอาหารในห้างฯ วันนั้น
ไหนจะพาไปที่เขาค้อด้วยอีก... ถ้าพี่แฮคไม่จริงจัง แล้วทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้วนเวียนอยู่ข้างกายเขาไม่ไปไหนสักที
ตอนแรกก็เชื่อน้าเฮเลนอยู่หรอก ว่าอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร รอให้แฮคเบื่อผู้หญิงพวกนั้นแล้วเวลาของเธอก็จะมาถึงเอง
แต่เมื่อไหร่ล่ะ... เมื่อไหร่แฮคจะเบื่อเนปจูน
แล้วระหว่างทาง มีอะไรรับรองได้ว่าแฮคจะไม่มีคนอื่นอีก ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกร้อนรน
“ไหนขอน้าดูหน่อยสิ คราวนี้เป็นผู้หญิงแบบไหน” เฮเลนสังเกตเห็นแววตากระวนกระวายของพัฟฟิน ยื่นมือออกไปขอดูสมาร์ตโฟน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กระทั่งเห็นภาพของผู้หญิงที่อยู่ในโพสต์
“นี่มันนังเด็กนั่นหนิ...” เฮเลนพึมพำ นัยน์ตาลุกวาว วันก่อนก็พูดชัดแล้วนะว่าอย่ามายุ่งกับแฮค ทำไมยังจะหน้าด้านอยู่อีก
“ใช่ค่ะ คนเดียวกับที่พี่แฮคพามาวันนั้น ได้ยินว่าตอนไปเขาค้อก็เอาคนนี้ไปด้วย แถมยังลือกันในกลุ่มพริตตี้ด้วยว่าพี่แฮคจริงจังกับคนนี้ ถึงขนาดพาไปอยู่ด้วยที่คอนโด”
ข่าวลูกชายพาผู้หญิงไปพักคอนโดนั้นลอยมาถึงหูเฮเลนเช่นกัน เพราะงั้นวันนั้นถึงได้ไปตรวจสอบด้วยตัวเอง ...และก็เจอจริงๆ
“พัฟควรทำยังไงดีคะคุณน้า หรือว่าจะให้พัฟรออยู่เฉยๆ เหมือนที่คุณน้าบอก”
พัฟฟินปรึกษา... หางเสียงเจือแววประชด
➰➰➰➰
♆ เนปจูน ♆
คริสดูแปลกใจที่กลับมาเจอฉัน เขาคงไม่ได้คิดว่าฉันจะหนีกลับเพราะเรื่องแฮคหรอกใช่มั้ย? ถึงฉันจะอาย แต่ก็ไม่ใช่คนขาดความรับผิดชอบแบบนั้นสักหน่อย
“ผิดคาด นึกว่าเธอจะโดนให้แฮคลากกลับไปแล้วซะอีก”
คริสเหลือบมองฉันขณะถอดเสื้อแข่งออก
“เฮียดูในเพจ” คนที่รับเสื้อจากคริสบอกเบาๆ
“น่าสนุกดีนี่ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เธอก็มาเป็นคู่ควงของฉันเลยสิ”
“เอ่อพี่คริส” กุนที่นั่งเอาอกเอาใจอยู่ข้างๆ รีบลุกขึ้น ออกตัวห้าม “จูนเท้าเจ็บ ผมว่าให้กลับไปพัก-”
“มารับแล้ว” เสียงแฮคดังมาจากทางหน้าเต็นท์ ร่างสูงปรากฏตัวขึ้นได้จังหวะพอดิบพอดีราวกับจงใจ
จากเต็นท์เรดซันมาที่นี่ก็ไม่ใกล้นัก แต่นี่คริสเพิ่งกลับจากสนามได้ไม่นานเขาก็มาถึงเต็นท์แล้วแสดงว่ารีบมาทันทีที่การแข่งจบลง
การเห็นแฮคให้ความสำคัญกับฉันขนาดนั้นทำให้ในอกรู้สึกสับสนแปลกๆ แม้จะรู้ว่าเขาทำไปเพราะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง แต่ก็ไม่คิดว่าจะแฮคทุ่มเทขนาดนี้
ดูเขาต้องการจะพาฉันกลับไปให้ได้
“หือ เสียงหมาที่ไหนเห่าวะ” คริสพูดขึ้น นัยน์ตาเย็นยะเยือกจ้องมองไปทางแฮค
“เสร็จงานแล้วนี่ ไปกันเถอะ” แฮคทำหูทวนลม แต่แบบนั้นกลับให้ความรู้สึกกวนประสาทยิ่งกว่า เขายิ้มระรื่นตรงเข้ามาจับมือฉันแบบไม่แคร์สายตาใคร
“เดี๋ยว!”
คริสก้าวขายาวๆ เข้ามายื่นมือขวางทางพวกเราไว้
การเคลื่อนไหวของคริสทั้งคมและเร็วมาก ขณะที่กุนยืนอ้ำอึ้ง กระสับกระส่ายไม่รู้จะรับมือทางไหนก่อนดี
“ผู้หญิงคนนี้ยังอยู่ในการดูแลของทีมกู มึงจะพาไปไม่ได้”
“งานแข่งจบแล้ว”
“แต่มีนอกรอบมึงก็รู้” คริสยิ้มหยันแฮค และถึงคริสจะย้ำแบบนั้นฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเขาจะเอาชนะแฮคไปเพื่ออะไร
ศักดิ์ศรี?
“ไม่ได้! จูนเป็นของกู กูไม่อนุญาต” แฮคก็ไม่ยอม
“หืม แต่ยัยนี่อยู่ภายใต้สัญญาจ้างทีมกู”
คริสยังไม่หยุดเล่นสงครามประสาท ฉันยอมรับว่าไม่ได้อ่านสัญญาทุกข้อ จึงไม่รู้ว่าในนั้นมีเงื่อนไขอะไรบ้าง เห็นว่ามาจากกุน ด้วยความเชื่อใจก็เลยเซ็นๆ ไปพอเป็นพิธี ไม่คิดว่าจะมีประเด็น…
“เท่าไหร่” เสียงเย็นยะเยือกของแฮคดังขึ้น ใบหน้าคมเข้มเรียบนิ่ง ทว่านัยน์ตากลับดุดันน่ากลัว
บรรยากาศระหว่างคริสกับแฮคตึงเครียดจนไม่มีใครกล้าขยับตัว
ก่อนที่รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมจะผุดขึ้นบนมุมปากคริส นัยน์ตาคมกริบฉายแววสะใจ
“กูชอบความหัวไวของมึงจริงๆ ทุกปัญหาแก้ได้ด้วยเงินจริงมั้ย”
เขาตบหลังมือเข้าที่อกขวาของแฮค ก่อนชำเลืองมองไปทางกุน “เอาสัญญาค่าปรับให้มันดู อย่าให้ขาดแม้แต่บาทเดียว”
“พี่คริส แต่จูนทำงานครบ-”
“....”
“ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้”
กุนไม่เห็นด้วย เขาคิดจะแย้งแต่ถูกสายตาเยือกเย็นของคริสกดดัน พยักหน้ารับคำสั่งของหัวหน้าทีมด้วยความลำบากใจ
“ขอโทษนะจูน เราไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ จูนโอเคใช่มั้ย?”
กุนเอ่ยขึ้นระหว่างทางเดินมาส่งที่รถหลังจากจัดการเรื่องในเต็นท์อีเกิลสปีดเสร็จ ฉันห้ามเขาแล้วว่าไม่ต้องมาเพราะเกรงใจ แต่เขาก็ยืนกรานด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิด ทำให้ฉันใจอ่อน สุดปัญญาจะต้านทาน
“โอเคสิวะ เพราะกูนี่เป็นคนจ่ายค่าปรับ สัส! อย่างกับวางแผนมาแล้วงั้นล่ะ มิจฉาชีพชัดๆ”
แฮคก็ปากหมาไม่หยุด
“มึงว่าไงนะ” กุนกระชากคอเสื้อแฮค ทนฟังคำสบประมาทไม่ได้ เป็นเรื่องแล้วไง โธ่เอ๊ย จะได้พักกี่โมงเนี่ย
“กุนใจเย็นๆ”
หัวใจฉันร่วงไปอยู่ตาตุ่ม รีบจับแขนกุนเตือนเขาไม่ให้มีเรื่อง แค่นี้ก็รู้สึกวุ่นวายมากอยู่แล้ว ถ้าสองคนนี้ยังจะมาต่อยกันอีก ฉันได้เหนื่อยกว่าเดิมแน่ ง่วงจะตายอยู่แล้ว อยากกลับห้องนอน
“ทำไม แค่นี้รับไม่ได้ กูชักสงสัยแล้วสิว่าที่มึงมายุ่งกับจูนของกูบ่อยๆ เพราะมีแผนอะไรหรือเปล่า”
จูนของกู? อี๋!... ทำไมฟังแล้วขนลุกงี้ล่ะ
“แผนเหี้ยอะไรของมึง กูบริสุทธิ์ใจโว้ย”
“กู ไม่ เชื่อ!”
“มึง!”
“กุนอย่า!”
ฉันผวาคว้าแขนกุนที่ง้างขึ้นจะต่อยหน้าแฮคแต่กลับโดนเหวี่ยงซะเอง ไม่รู้เพราะกุนแรงเยอะหรือฉันข้อเท้าเจ็บทรงตัวลำบากหรือทั้งสองอย่าง
“ว้าย!”
ฉันเสียหลักท่ามกลางผู้ชายสองคนที่กำลังจะมีเรื่องกัน ข้อเท้าข้างที่เจ็บทำให้เสียงการทรงตัว ยั้งตัวเองไม่อยู่ เซจะล้ม
ทว่า...
“จูน!”
“...!!!”
ลำตัวฉันถูกโอบเอาไว้ด้วยมือสองข้างของสองคนพร้อมกัน
แฮคโอบเอวล่าง ส่วนกุนโอบกลางหลัง
“เอ่อ... ขะขอบคุณ แต่ไม่เป็นไรแล้ว”
ฉันยิ้มเจื่อน ส่งสัญญาณบอกให้ทั้งคู่ปล่อยด้วยการผลักอกแต่ละคนออกห่าง
“โทษที เราไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายจูน”
“ไม่เป็นไร” กุนคงรู้สึกผิดมาก ฉันยิ้มพลางส่ายหน้า รู้ว่าเขาไม่มีเจตนาร้ายจึงไม่ได้โกรธเคืองเขาเลยแม้แต่น้อยตรงข้ามคนที่สมควรโดนวีนคือแฮคต่างหาก ถ้าเขาไม่ปากเสียก่อน กุนก็คงไม่ขาดสติแบบนี้หรอก
“ชิ! รำคาญว่ะ” แฮคสบถ อาศัยช่วงที่กุนปล่อยมือรั้งเอวฉันเข้าไปยืนข้างๆ
อึก! แล้วฉันก็ลงน้ำหนักผิดเท้า ปวดจี๊ดขึ้นมาทันที ไอ้บ้าเอ๊ย! ถ้าวันไหนไม่ได้ทำฉันเจ็บมันจะนอนไม่หลับหรือไงห๊ะ!
ฉันสะบัดแฮคออกอย่างหัวเสีย แต่เขากระชับมือที่เอวฉันแน่น ความพยายามครึ่งๆ กลางๆ จึงไม่สำเร็จ
“หมดธุระแล้วมึงก็ไปสักทีสิ” แฮคไล่
“ให้เราไปส่งดีกว่ามั้ยจูน” กุนมองข้ามเสียงเกรี้ยวกราดของแฮค นั่นยิ่งทำให้แฮคโกรธ เขาทำเหมือนจะกระโจนเข้าไปเล่นงานกุนทั้งที่มือก็โอบเอวฉันอยู่
“หยุดนะแฮค”
“หึ!”
ฉันรั้งเขาเอาไว้ และแน่นอนว่าข้อเท้าได้รับการกระทบกระเทือนอีกแล้ว เจ็บแต่ฉันไม่ได้สนใจ คิดแค่อยากยุติสถานการณ์บ้าบอคอแตกนี่ไวๆ
“ขอบคุณนะกุน แต่ไม่เป็นไรดีกว่า จูน... จะกลับกับแฮคน่ะ”
ฉันเสียงแผ่วลงในตอนท้ายเมื่อเห็นสายตาเศร้าหมองลงต่อหน้าต่อตาของกุน มันเจ็บปวดนะ... ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจใคร แต่ว่าฉันไม่อยากสร้างปัญหาให้กุน อีกอย่างฉันกับแฮคก็มีสัญญากันอยู่ ไหนจะเรื่องที่เขาเพิ่งจ่ายเงินค่าปรับให้คริส ฉันรู้สึกว่าเขาต้องคิดบัญชีย้อนหลังแน่ เพราะงั้นถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากขัดใจเขาอีก
“งั้นเหรอ ถ้าจูนยืนยันว่าจะกลับกับมัน เราก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็ติดต่อมาได้ตลอดนะ”
“อื้ม”
“ไปสักทีเหอะ แล้วก็เลิกจ้องเมียกูด้วยสายตาแบบนั้นได้แล้ว”
“....” กุนมองตอบสายตาเกรี้ยวกราดของแฮคด้วยสายตาดุดันไม่แพ้กัน ก่อนจะหันหลังเดินออกไปเงียบๆ
เฮ้อ...
ในที่สุดก็จะได้พักสักที
ซะที่ไหนล่ะ!