พอฉันมีใจ อยากเป็นแฟนนายจริงๆ นายกลับบอกว่ามันไม่เวิร์ก แต่พอฉันถอยออกมา นายกลับบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน หึ! กราบเท้าฉันสิ แล้วฉันจะคิดเรื่องของนายดูอีกที
รัก,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ,พระเอกโบ้,พระเอกหล่อ,พระเอกเลว,redsun,yaygoh,เนปจูน,แฮค,หล่อรวย,อร่อย,ฟินแซบ,ออริ,นางแบบ,โมเดลลิ่ง,งาน N,พริตตี้,ช่างเครื่อง,อกหัก,ชาย-หญิง,ความรัก,แฟน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
อู่เรดซัน
แฮคไถตัวออกมาจากใต้ท้องรถ วางเครื่องมือ ลุกขึ้นเดินมาหยิบสมาร์ตโฟนที่วางทิ้งเอาไว้ไกลๆ เช็กข่าวสารตามปกติ
หลังจากไล่ดูข้อมูลสำคัญแล้ว นิ้วหัวแม่มือก็แตะเข้าไปในแอปโซเชียลด้วยความเคยชิน
ไลฟ์สดของเทรนเนอร์ฟิตเนสเด้งขึ้นมาในฟีดของเขาทั้งที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ทว่าชื่อที่โดนแท็กในไลฟ์กลับเป็นคนที่เขาคุ้นเคย ‘เนปจูน’
“หือ” แฮคมองเนปจูนออกกำลังกายตามท่าทางที่โบตั๋นกำกับ
ความรู้สึกแรกที่กดเข้ามาดูไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ดูไปสักพักสายตากลับถูกรูปร่างสวยงามของคนในไลฟ์ดึงดูด เรียวขายาว สะโพกผายได้รูป ไหนจะช่วงเอวคอดเว้าและเนินอกขาวนวลผ่องที่ดันชุดออกกำลังกายแนบเนื้อขึ้นมา แม้ว่าเนปจูนจะสวมชุดบอดี้สูทแขนยาวปิดถึงคอ แต่สัดส่วนที่แสนเย้ายวนนั่นกลับดูเด่นชัดขึ้นในชุดแบบนี้
เป้ากางเกงแฮคถึงกับตุงขึ้นมาทันที เขากัดฟันแน่น พ่นลมหายใจไม่สบอารมณ์ออกมา
“นี่มันเกินไปแล้วจริงๆ”
แฮครีบกดออกจากไลฟ์ก่อนที่เขาจะว้าวุ่นไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มหายใจแรงฟึดฟัดสองสามครั้ง มองไปยังรถที่ยังซ่อมไม่เสร็จ ความคิดในหัวคลุมเครือมีหลายเรื่องสะสมปะปนกันยุ่งเหยิง แต่ถึงจะพยายามเบี่ยงเบนความสนใจตัวเองยังไง ความรู้สึกตรงเป้าก็ไม่ได้ลดราวาศอกลงเลย
มีรถวิ่งเข้ามาจอดในบริเวณอู่ ดึงสติแฮคออกจากภวังค์ ทีแรกเขาก็ไม่ได้สนใจ แต่เสียงหวานคุ้นหูที่ดังหลังจากนั้นทำให้จิตใจของแฮคยิ่งปั่นป่วน
เป็นเสียงของเทียนกับเรซ แค่เสียงที่ดังแว่วๆ เข้าหู ก็รับรู้ได้ว่าทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันแล้ว คนเป็นเพื่อนอย่างแฮคจะทำอะไรได้นอกจากกัดฟันยิ้ม ยินดีกับทั้งคู่
เขาสนใจเทียนจริงๆ เพียงแต่เทียนไม่เคยเปิดใจให้เขา แค่นั้นยังไม่เท่าไหร่ ทุกครั้งที่เขาคิดจะทำคะแนนก็มักจะโดนเรซสกัดเอาไว้
ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัดกลุ้ม อารมณ์ขุ่นมัวฉายชัดอยู่ในแววตาของแฮค เขาบ้าถึงขนาดคว้าเอาผู้หญิงที่คล้ายเทียนมาเป็นแฟนจ้างเพื่อตบตาแม่ตัวเอง
ถึงแม้ว่ามองแวบแรกจะใช่ เหมือนเป็นเงาของเทียน แต่พอมองดีๆ แล้วเนปจูนกับเทียนต่างกันโดยสิ้นเชิง
ถึงแม้ว่าสรีระ ทรวดทรง ส่วนสูง ไม่ต่างกันเท่าไหร่
ถ้าจะต่างก็คงเป็นที่เนปจูนมีหุ่นสุขภาพดี ปราศจากไขมัน ทั้งตัวมีแต่กล้ามเนื้อแต่ก็ไม่ล่ำ เป็นหุ่นในอุดมคติที่ต่อให้หลายๆ คนพยายามแค่ไหนก็ยากที่จะปั้นได้
เช่นเดียวกับเทียน... เพียงแต่บนตัวของเทียนจะนุ่มนิ่ม อิ่มฟู น่าจับน่าบีบ ไม่ได้ลีนเท่าเนปจูนที่เข้ายิมเป็นประจำ
แต่เรื่องที่เจอกับเนปจูนนั้นบังเอิญ แฮคไม่ได้เฟ้นหามาเอง เดิมทีแฟนจ้างจะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น เพียงแต่เธอดันโผล่เข้ามาในสายตาของเขาในเวลาที่เขาต้องการพอดี
ไม่รู้ว่าเป็นวาสนาหรือเคราะห์กรรมของเนปจูนกันแน่ ที่มาเจอแฮค
ท่ามกลางเด็กในอู่ที่ต่างก็วุ่นวายอยู่กับหน้าที่ของตัวเองในมุมต่างๆ ของลานซ่อม ร่างสูงของเรซเดินอาดๆ เข้ามา สายตามองปราดไปก็เหลือบเห็นแฮคที่กึ่งนั่งกึ่งยืนพิงขอบโต๊ะอยู่ในมุมลึกสุดแทบจะในทันที
แฮคตื่นตัวเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามา เขาสบตากับเรซ แอบผิดหวังที่ข้างกายเรซไร้เงาของเทียน เขาครุ่นคิดเพียงแวบสั้นๆ ก็ปัดความรู้สึกอยากถามถึงเทียนทิ้ง
...ตอนนี้เทียนคงจะรออยู่ในออฟฟิศ แน่นอนว่าในนั้นน่าอยู่กว่าลานซ่อมที่เต็มไปด้วยกลิ่นไม่น่าอภิรมย์เป็นไหนๆ
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า เรซจงใจเก็บเทียนให้พ้นจากสายตาของเขาหรือเปล่า ถึงไม่พาเดินเข้ามาในนี้ด้วย
“รถนั่นเมื่อไหร่เสร็จ”
“อาทิตย์หน้า”
“ไหนมึงบอกว่าไม่เกินสามวัน” ใบหน้าที่ผ่อนคลายสบายๆ ของเรซตึงเครียดขึ้นมาทันที
“ถ้าอยากได้เร็วก็ให้ช่างคนอื่นทำ แต่ถ้ากูทำก็รออาทิตย์หน้า”
“....” คิ้วเรซกระตุก น้ำเสียงแฮคเรียบลื่นก็จริง แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็จงใจกวนประสาทเขาชัดๆ
“ช่วงนี้กูไม่ว่าง ไปล่ะ ต้องไปรับคน”
แฮคเดินออกมาทันที ไม่สนใจสีหน้าเกร็งกระตุกของเรซ แต่ยังไม่ทันถึงสามก้าวเสียงทุ้มเยือกเย็นของเรซก็ดังขึ้น
“มึงไม่พอใจอะไรก็พูดออกมา อย่าทำให้เสียงาน”
“....” แฮคชะงัก ไม่ได้หันไปมอง แค่ปรายหางตากลับไป ทำเหมือนขี้คร้านจะคุยด้วย
บรรยากาศระหว่างทั้งคู่ก็ยิ่งมึนตึงขึ้นไปอีก
ความตึงเครียดจากสายตาของแฮคกับเรซเหมือนมีคลื่นรบกวนแผ่กระทบเป็นวงกว้าง กระทั่งเด็กอู่ที่อยู่ห่างออกไปยังจับสัมผัสได้ มองเฮียๆ ทั้งสองแล้วก็เกิดรู้สึกกดดันจนไม่กล้าหายใจแรงขึ้นมา
“รถนั่นเส้นตายคือสองอาทิตย์ มีเวลาถมเถ มึงจะเข้มงวดก็ให้มันน้อยๆ หน่อย”
“....” เรซเถียงไม่ออก จริงอยู่ว่าเดดไลน์คือสองอาทิตย์ เขาไม่มีปัญหากับเรื่องนั้น เพียงแต่ติดใจที่แฮคผิดคำพูดตัวเองมากกว่า
ปกติมันบอกว่าสามวันก็คือสามวัน น้อยครั้งมากที่จะปล่อยให้งานล่าช้า และถ้าล่าช้าส่วนใหญ่ก็เกิดจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดทั้งนั้น เช่นอะไหล่ไม่มี ไม่ก็เวลากระชั้นชิดมากเกินไป
แต่ว่าครั้งนี้ไม่มีปัญหาอะไรที่ว่ามาเลย ทั้งเวลา ทั้งทรัพยากรล้วนพรั่งพร้อม แฮคกลับทำตัวเหลวไหลซะเอง จะไม่ให้เรซฉุนได้ยังไง
ข้อนี้แฮคก็ตระหนักได้ว่าตนงอแงจริงๆ
แต่ทำยังไงได้ ก็คนมันไม่มีใจจะทำนี่หว่า แค่คิดเรื่องเทียนกับเรซรักกันก็อยากจุดไฟเผารถให้มอดไหม้เป็นจุณแล้ว
เมื่อเห็นเรซเงียบนิ่งไป แฮคก็ไม่คิดจะต่อปากต่อคำอีก สาวเท้ายาวๆ ออกมาที่รถ ขับออกจากอู่พร้อมกับความรู้สึกขุ่นมัวที่โถมทับอยู่ในใจไม่จืดจาง
ท้องถนนยามค่ำคืนเงียบสงัด แสงไฟซีดอ่อนตามตึกรามบ้านช่องและไหล่ทาง ค่อยๆ ปลุกปลอบก้อนอารมณ์ที่ขมวดตึงของแฮคให้คลายออกได้ประมาณหนึ่ง
ระหว่างติดไฟแดง แฮคใคร่ครวญความคิดในหัวไปเรื่อย ก่อนจะนึกถึงกรีนขึ้นมา ถ้าจำไม่ผิดวันนี้กรีนไปขายของที่ตลาดนัดหลังมอวันแรก ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง เขามัวแต่ยุ่งจนลืมไปซะสนิท พอคิดได้แบบนั้นก็หยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมากดโทรหา ถามไถ่ด้วยความห่วงใย
หลังวางสายกรีน เขาเคาะนิ้วกับพวงมาลัยอย่างใช้ความคิด ครู่หนึ่งก็ติดต่อไปหาเนปจูน บอกให้เธอรู้ว่าเขากำลังจะไปรับที่ยิม
[เดี๋ยวไปรับ]
คำสั้นๆ ของแฮคแต่เขย่าจิตใจเนปจูนได้อย่างไม่น่าเชื่อ จู่ๆ เขาก็โทรมาบอกว่าจะมารับแล้วก็ตัดสายไปทันที เนปจูนที่ไม่ได้คาดหวังอะไร เป็นต้องงงงัน ปั่นป่วนไปทั้งใจ
แต่ว่า ก็ไม่ใช่จะไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพียงแต่ทุกครั้งที่เขาออกตัวมารับเธอเอง ก็มักจะจบลงด้วยค่ำคืนบนเตียงที่เร่าร้อนเสมอ
เนปจูนสั่นสะท้านเมื่อนึกถึงเรื่องหวิวไหวเหล่านั้น
แต่เร่าร้อนทุกวัน วันละหลายๆ ครั้งก็ไม่ไหว เพราะงั้นความรู้สึกแรกที่รู้ว่าแฮคกำลังจะมาหาจึงเป็นความขยาดมากกว่าจะตื่นเต้นดีใจ
“คนหื่น” เนปจูนพึมพำเหมือนตำหนิ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดความรู้สึกอุ่นวาบบางเบาแผดขยายไปทั้งหัวใจ
เนปจูนยังไม่เปลี่ยนชุดด้วยซ้ำ แฮคก็มาถึงแล้ว
เขาใช้สายตามองเรือนร่างในชุดออกกำลังกายที่ท่อนบนเป็นเสื้อแนบเนื้อครึ่งตัวแขนยาวปิดถึงคอกับกางเกงรัดรูปขายาวสีเข้มเอวสูง นัยน์ตาคมกริบฉายแววแทะโลมอย่างไม่ปิดบัง ทำเอาคนถูกมองรู้สึกร้อนวูบวาบและอับอายจนแทบตวาดเสียงดังออกไป แต่โชคดีที่เนปจูนยังพอมีสติ ระงับอารมณ์เอาไว้ได้ ถ้าขืนเธอโมโหไม่ดูทิศทางจะกลายเป็นทำให้ตัวเองขายหน้าหนักกว่าเดิมแทน
เพราะเดิมทีชุดแบบนี้มันก็สุ่มเสี่ยงที่คนใจสกปรกจะเก็บไปคิดถึงเรื่องหยาบคายอยู่แล้ว ถ้าคนใส่ ใจไม่หนักแน่นพอก็จะยิ่งเป็นที่ตลกขบขันให้คนมองเข้าไปอีก
ทั้งนี้ คนในยิมต่างก็ฝักใฝ่แต่การออกกำลังกาย การอวดหุ่นสวยๆ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องจรรโลงใจของชาวยิม ไม่มีใครมองรูปร่างคนอื่นด้วยสายตาโลมเลียอย่างแฮคแน่นอน
แบบนั้นมันเสี่ยงต่อการโดนประณาม ซึ่งแฮคสมควรโดนมาก
แต่เพราะทุกคนรู้ว่าทั้งคู่เป็นอะไรกัน ดังนั้นต่อให้แฮคมองเนปจูนด้วยสายตาที่ปานจะกลืนกินสักแค่ไหนก็ไม่มีใครกล้าออกหน้าตำหนิให้
เรื่องของคนสองคน จะมีใครบ้างที่อยากเป็นหมา