อยากคุยตรงไหนก็ว่ามา ระเบียง โซฟา หรือว่าหน้ากระจก
รัก,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ,ผู้ใหญ่,พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,พล็อตหาเรื่อง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปกปักษ์ชญามินทร์อยากคุยตรงไหนก็ว่ามา ระเบียง โซฟา หรือว่าหน้ากระจก
มินทร์ ชญามินทร์
22y
รักอิสระ มีเสน่ห์ ดื้อรั้น
ลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้าน 'ปริญาภัสร์สกุล'
คุณหนูไม่ได้เรื่อง ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เน้นทำให้ 'เขา' ปวดหัวเล่นวันละแปดร้อยรอบ
"ให้มันหมาแค่สมญานามก็พอ ปากไม่ต้อง"
⛓️
Chapter 1 ༒
เหตุผลที่เกลียด
{PAKSA ; Talk}
“ไหนล่ะที่บอกว่าวันนี้มีรางวัลจะให้เบลล์” เจ้าของเสียงที่มีรูปร่างเรียวผอม ผิวขาวที่ได้รับจากพันธุกรรมทุกอณูของร่างกายกำลังใช้นิ้วชี้ไล้ไปตามแนวแผงอกของผม สายตาเชื้อเชิญคู่นั้นมองมาเหมือนต้องการสื่อความหมายในประโยคที่พูด
“ใจร้อน?” จำได้ว่าเธอพึ่งจะเข้ามาเหยียบในบ้านหลังนี้ได้ไม่ถึงสิบนาที ยังไม่ทันหายใจได้ทั่วท้องหญิงสาวก็ผลักร่างผมให้ล้มลงนอนบนโซฟาก่อนจะรีบมาคร่อมทับ
เธอชื่อเบลล์ เป็นลูกสาวของคุณไตรภพ ซึ่งคุณไตรภพก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทที่ผมกำลังทำงานอยู่ วันนี้ออกไปคุยงานเรื่องเซ็นสัญญา ที่นอกจากจะได้สัญญากลับมาแล้วยังได้ลูกสาวของคู่ค้าทางธุรกิจติดมือกลับมาด้วยเป็นของแถม
ก็ไม่รู้เธอถูกใจอะไรในตัวผมมากมายขนาดนั้นถึงได้ขอตามกลับมากินข้าวที่บ้านด้วย ทั้งที่ตอนนั้นเรากำลังนั่งคุยงานกันอยู่ในร้านอาหารแท้ ๆ
ผมมันดันเป็นคนที่ปฏิเสธไม่ค่อยเก่ง เน้นสนองตอนมีคนมาเสนอ
“ก็แหม ปักษ์น่ารักซะขนาดนี้” หางคิ้วเริ่มกระตุกเมื่อได้ยินชื่อเรียกเพียงสั้น ๆ ออกจากปากของคนที่พึ่งจะเจอกันได้เพียงแค่ครั้งสองครั้ง
ผมไม่ชอบให้คนที่ไม่สนิทเรียกชื่อนั้น ฟังแล้วมันขัดหู
“เรียกปักษา” ถือว่ายื่นโอกาสให้อีกครั้งก่อนที่จะหมดอารมณ์
“ทำไมล่ะคะ อีกเดี๋ยวเราก็จะต้องกระชับมิตรกันอยู่แล้ว”
“…” ผมตวัดสายที่เฉี่ยวคมดุจเหยี่ยวมองเธอ ดึงมือที่กำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกได้เพียงสามเม็ดออก ถ้าพูดไม่รู้เรื่องแม้แต่แผงอกก็อย่าหวังว่าจะได้เห็น
“โอเค ๆ เบลล์ยอมแล้ว” หญิงสาวรีบหันหัวเรือกลับลำ ใช้สายตาที่เว้าวอนมองมาแล้วรีบกุมมือผมไว้ “เรียกปักษาก็ได้ อย่าอารมณ์เสียเลยนะ”
เธอยอมจำนนในที่สุด ทั้งที่ถ้าว่ากันตามฐานะทางการค้ามันเป็นผมต่างที่ต้องคอยเอาใจเธอ แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้เราจะสลับบทบาทกันอย่างสิ้นเชิง
เพราะถ้าว่ากันไปตามเกมใครที่มีความต้องการมากกว่าก็ถือว่าแพ้ไป
“เบลล์ไม่ดื้อแล้วทีนี้ปักษามีรางวัลอะไรจะให้ล่ะ”
อย่าถามว่ามีอะไรจะให้ ถามว่าเธออยากได้อะไรจะดีกว่า
“...” ผมไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงมองตามการเคลื่อนไหวของมือเล็กที่กำลังบรรจงแกะกระดุมเสื้อของผมออกทีละเม็ดอย่างไม่รีบร้อน
“ที่เขาว่าปักษาชอบออกกำลังเนี่ย คงจะจริงนะ” เธอพูดเสียงเคลิบเคลิ้มพร้อมกับใช้มือลูบวนไปบนหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวสวยของผม
“อะไรที่ได้ใช้กำลังก็ชอบหมดนั่นแหละ” ขอแค่เป็นกิจกรรมที่เสียเหงื่อผมชอบหมด
“เหรอคะ เบลล์อยากกลองเป็นเครื่องเล่นให้ปักษาได้ลองเล่นจัง อยากรู้ว่าคลั่งออกกำลังกายอย่างที่เขาว่ากันจริง ๆ รึเปล่า” เธอเคลื่อนสายตาขึ้นมามองหน้าผม แสร้งใส่ความใสซื่อเคลือบแฝงเข้าไปในดวงตาคู่นั้น
เธอไม่ใสตั้งแต่ขอตามผู้ชายกลับมาที่บ้านแล้วเบลล์
“ไม่กลัวเหนื่อย?”
“…” เธอส่ายหัว “เบลล์ชอบเหนื่อย ยิ่งเหนื่อยยิ่งชอบ”
เก่งจริง อย่ามาร้องทีหลังล่ะ
แกร๊ก!
เสียงพื้นไม้ดังเสียดสีกันจากทางด้านนอก ผมตวัดสายตามองที่ประตูก่อนจะเงี่ยหูฟังแต่ก็ได้รับเพียงความเงียบกลับมา เสียงแบบนั้นมั่นใจว่ามีคนอยู่ข้างนอกแน่ ๆ
เบลล์ยืดตัวขึ้น ปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกต่อหน้าผมทีละเม็ด ทั้งสายตาและท่าทางดูช่ำชองไม่น้อยไปกว่าผมเลย
ผมยังคงไม่ละความสงสัยไปจากประตู เอี้ยวหน้าออกมาทางด้านข้างแล้วเพ่งมองไปที่ช่องเล็ก ๆ ระหว่างบานประตูกับขอบประตูที่ถูกแง้มออกเป็นช่องเล็ก ๆ นั่นทำให้สายตาของผมปะทะเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน ม่านตาของคนที่อยู่ด้านนอกขยายใหญ่เมื่อรู้ตัวว่าถูกเจอตัวเข้าให้แล้ว
“ใคร!” ผมตะโกนเสียงดังเมื่อมั่นใจว่าอีกด้านของประตูมีคนอยู่จริง ๆ
“อะไรคะปักษา” เบลล์มีทีท่าตื่นตระหนก รีบตะครุบเสื้อตัวเองเอาไว้หลังจากที่ปลดกระดุมออกหมดทุกเม็ดแล้ว
ผมดันตัวเธอออกแล้วเดินตรงดิ่งมาที่ประตู สบตาเข้ากับคนเสียมารยาทหลังจากที่เปิดประตูบานใหญ่ออก
ผู้หญิงที่มีส่วนสูงถึงแค่หน้าอกของผมเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตากลมโตที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเกลียดชังส่งตรงมาถึงความรู้สึกของผม เราสบตากันนานนับเกือบนาทีก่อนที่คนตรงหน้าจะเป็นฝ่ายขยับปากเอื้อนเอ่ยออกมาก่อน
“ลุงชัชมา บอกให้ฉันมาตามนาย”
“เคาะประตูมันยากกว่าการมาแอบดูคนอื่นรึไง”
“ไม่ได้แอบดู” เธอเถียงกลับมาทันควัน ยังจะกล้าเถียง
“ไม่ได้แอบดูแล้วเมื่อกี้ทำอะไร"
“ก็แค่จะมาตาม แต่เห็นรองเท้าเลยคิดว่านายน่าจะมีแขก”เธอว่าพร้อมกับเบนสายตาลงต่ำมองรองเท้าส้นสูงที่ถอดวางไว้คู่กันกับผม
“พอเห็นว่ามีคนเลยแอบดูว่างั้น?”
“เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่ได้แอบดูไง”
----