‘‘เพราะแบบนี้ใช่ไหมฉันถึงได้มาอยู่ในร่างของคุณหนูรองแห่งสกุลจาง เมื่อก่อนเธอเป็นคนที่เรียบร้อยเกินไปฉันจะทำให้เธอเข้มแข็งเองจะได้ไม่ถูกรังแกอีก”
จีน,รัก,ผู้ใหญ่,ย้อนยุค,คุณหนูรองเยว่,จีนโบราณ,#Nc18+,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ลิขิตรักท่านอ๋องหน้าโหด(จบแล้ว)‘‘เพราะแบบนี้ใช่ไหมฉันถึงได้มาอยู่ในร่างของคุณหนูรองแห่งสกุลจาง เมื่อก่อนเธอเป็นคนที่เรียบร้อยเกินไปฉันจะทำให้เธอเข้มแข็งเองจะได้ไม่ถูกรังแกอีก”
ซิ่วอิง เป็นครูสอนวิชาการต่อสู้ให้กับเด็กๆ เธอเปิดโรงเรียนสอนการต่อสู้และยังได้รับรางวัลชนะเลิศหลายรายการจากการที่เธอไปแข่งขันการต่อสู้จนชนะมาอีกด้วยซิ่วอิงเป็นที่รักของเด็กๆ ทุกคนร่วมถึงผู้ปกครองที่ส่งให้เด้กได้มาเรียนการต่อสู้กับเธออีกด้วย ซิ่วอิงเป็นคนที่เก่งรอบด้านมากแถมเธอยังมีเพื่อนรักและสนิทมากอย่าง อ้ายฉิง สาวสวยนักเขียนนิยาย เรื่องสั้น บทประพันธ์ บทละครที่มีผลงานให้ติดตามและทำให้เธอเป็นที่รู้จักอีกมากมายวันหนึ่งระหว่างที่ซิ่วอิงกำลังจะเดินทางกลับบ้านก็มีอันธพาลตามมาหวังจะทำร้ายเธอ
ซิ่วอิงจึงใช้วิชาต่อสู้กับอันธพาลเมื่อสบโอกาสเธอจึงรีบวิ่งหนีไปซ่อนตัวที่บ้านไม้โบราณหลังหนึ่งเมื่อเธอเข้าไปในห้องนอนก็พบกับกล่องไม้แกะสลักสวยงามเมื่อเธอเปิดกล่องไม้นั้นก็พบกับปิ่นปักผมโบราณชิ้นนึงเธอจึงนำมือไปสัมผัสที่ปิ่นปักผมก็เกิดแสงสว่างขึ้นจากนั้นซิ่วอิงจึงหมดสติไปตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองมาอยู่ในร่างของคุณหนูรองแห่งสกุลจาง คุณหนูรอง “จางซูฮวา” เป็นบุตรสาวคนที่สองของ ฮูหยิน “จางเยว่ชิง” กับท่านขุนนาง “จางหย่ง” ท่านขุนนางจางหย่งเป็นขุนนางที่มีชื่อเสียงและยังน่าเกรงขามเป็นอันดับสองของเมืองนี้อีกด้วยคุณหนูรอง “จางซูฮวา” ยังมีพี่สาวต่างแม่อย่าง คุณหนูใหญ่ “จางซูมี่” ที่มีนิสัยขี้อิจฉาตั้งแต่เด็กเพราะถูกแม่สั่งสอนให้เกลียด และมีน้องสาวจากแม่เดียวกันที่นิสัยดีอย่าง คุณหนูเล็ก “จางซูฉี” คุณหนูจางซูฮวามักจะถูกกลั่นแกล้งสารพัดจากฮูหยินใหญ่ “จางซูหนี่” และพี่สาวแถมยังถูกก่นด่าว่าเธอเป็นแค่เพียงลูกเมียรอง คุณหนูจางซูฮวาถูกพี่สาววางยาพิษที่ปิ่นปักผมทำให้ซิ่วอิงหญิงสาวจากยุคปัจจุบันที่เก่งการต่อสู้มาอยู่ในร่างของคุณหนูจางซูฮวาที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับฝาแฝดซิ่วอิงเธอจึงจะลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเองจนผู้คนต่างคิดว่าเธอนั้นวิปลาส เธอจะทำสำเร็จไหมแล้วความรักของเธอจะเป็นอย่างไรต่อต้องติดตามใน ลิขิตรักท่านอ๋องหน้าโหด
📣 คำเตือน ⚠️
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น อาจจะมีฉากNCบ้างโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านไม่มีเจตนาทำให้ตัวละครหรือใครเสื่อมเสียชื่อเสียงหากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537
ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนใดในนิยายไปเผยแพร่ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน
เมื่อ 28 ปีก่อน ณ คฤหาสน์หลังใหญ่แห่งหนึ่งบ้านหลังนี้มีสมาชิกอาศัยอยู่ทั้งหมดหกคนพ่อของซิ่วอิงมีภรรยาทั้งหมดสองคนภรรยาคนแรกคือแม่เลี้ยงส่วนภรรยาอีกคนของพ่อเธอนั้นคือแม่ของเธอ แม่เลี้ยงของซิ่วอิงมีลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวหนึ่งคนซึ่งก็คือพี่ชายกับพี่สาวของเธอพี่ชายกับพี่สาวทั้งสองของเธอนิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว พี่ชายคนโตนิสัยดีและดูแลเอาใจใส่เธอดีมากส่วนพี่สาวชอบแกล้งและหลอกใช้เธอแถมยังดูถูกเธอว่าเป็นลูกของเมียน้อย ซึ่งแม่ของเธอที่มาก่อนนั้นไม่มีสิทธิ์ได้แต่งงานกับพ่อของเธอเพราะปู่กับย่าไม่ชอบแม่ของซิ่วอิงเพราะแม่เป็นแค่ลูกของชาวสวนไม่มีหน้ามีตาในสังคมปู่กับย่าจึงบังคับให้พ่อแต่งงานกับแม่เลี้ยงที่เป็นถึงลูกสาวของคนใหญ่คนโตมีฐานะมีหน้ามีตาในสังคม
“ซิ่วอิงแกมันก็เป็นแค่ลูกเมียน้อย ถึงพี่ชายฉันจะรักและดูแลแกเป็นอย่างดีแกก็ไม่มีสิทธิ์มาเทียบกับฉัน แกอย่ามาเหยียบบนเรือนใหญ่อีกนะ ถ้าแกมาให้ฉันเห็นหน้าฉันจะตบแกไม่ยั้งเลย”
ถีงฉันจะเป็นแค่ลูกเมียน้อย ฉันก็เป็นน้องของพี่เหมือนกันนะพี่ไม่เคยเห็นฉันเป็นน้องเลยหรอ
ใช่ฉันไม่มีน้องแบบแกฉันมีแค่พี่ชายเท่านั้น อย่าลืมเอาเสื้อผ้าของฉันไปซักด้วยนะนังลูกเมียน้อย ซักมือเท่านั้นนะเสื้อผ้าชั้นมีแต่แบรนด์เนมแพงๆ
ซิ่วอิงกำหมัดแน่นก่อนจะระงับอารมณ์พร้อมกับหยิบตะกร้าผ้าของพี่สาวออกไปซักพี่สาวของเธอจึงนั่งทำเล็บมือต่อและทำสายตารังเกลียดน้องต่างแม่ของเธอ
“คำก็ลูกเมียน้อย สองคำก็ลูกเมียน้อยคอยดูนะฉันจะทำให้พี่เห็นเองว่าคนแบบซิ่วอิงก็มีดีเหมือนกัน”
หลังจากนั้นมาซิ่วอิงตัดสินใจพาแม่ออกมาซื้อบ้านอยู่ข้างนอกเธอตัดสินใจเรียนวิชาการต่อสู้เมื่อเธอมีเงินเก็บที่มากพอจึงเปิดโรงเรียนสอนวิชาการต่อสู้ให้กับเด็กๆ และพาเด็กๆ ไปแข่งขันจนชนะได้รับรางวัลชนะเลิศมาแถมซิ่วอิงยังเก่งรอบด้านอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรในวันที่เปิดโรงเรียนสอนการต่อสู้พี่ชายต่างแม่ของเธอก็มาร่วมแสดงความยินดีกับเธออีกด้วยพี่สาวของเธอเมื่อรู้ข่าวจึงทวีความเกลียดขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
น้องสาวของพี่คนนี้เก่งจังเลยนะ
“ขอบคุณนะคะพี่ชายที่มาแสดงความยินดีกับน้อง พ่อเป็นอย่างไรบ้างคะสบายดีไหม”
พ่อสบายดี ซิ่วอิงกับแม่เล็กสบายดีนะ
น้องสบายดีจ้ะแต่แม่ก็มีเจ็บป่วยบ้างเล็กน้อย
พี่ชายต่างแม่ของซิ่วอิงลูบผมของน้องสาวและขยี้ผมเบาๆ ด้วยความรักและความเอ็นดูน้องสาวคนนี้
“ถ้างั้นพี่ก็ขอให้แม่เล็กหายไวๆ นะพี่ต้องไปก่อนเพราะพี่มีคุยงานต่อกับลูกค้ารายใหญ่ฝากบอกแม่เล็กด้วยว่าพี่คิดถึง”
รับทราบค่ะคุณพี่ชาย
พี่ชายของซิ่วอิงเมื่อคุยธุระเสร็จจึงขึ้นรถคันหรูก่อนรถหรูจะออกไปพี่ชายของเธอจึงเปิดกระจกและยิ้มให้กับน้องสาวจากนั้นรถหรูจึงขับออกไปจากหน้าโรงเรียนสอนการต่อสู้ของซิ่วอิงเมื่อ
ซิ่วอิงกำลังจะหันหลังกลับเข้าไปด้านในก็มีเสียงที่คุ้นหูตามหลังเธอมาซิ่วอิงจึงหันหน้ากลับไปหญิงสาวหน้าตาสะสวยริมฝีปากชมพูระเรื่อผมยาวประบ่าร่างบางคนหนึ่งในชุดทะมัดทะแมงถือช่อดอกไม้มาแสดงความยินดีกับเพื่อนรักที่ทำตามฝันสำเร็จ
“ยินดีด้วยนะซิ่วอิงในที่สุดเพื่อนฉันก็ทำได้แล้ว”
ขอบคุณนะอ้ายฉิง เข้าไปด้านในกันเถอะ
อ้ายฉิง นักเขียนนิยาย บทประพันธ์ เรื่องสั้น บทละครที่เป็นที่รู้จักของทุกคนมาร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนรักคนเดียวของเธออย่างซิ่วอิงทั้งสองรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันและคบหากันมาจนถึงตอนนี้
จะว่าไปแล้วที่นี่ตกแต่งสวยดีนะ ซิ่วอิงแกนี่เข้าใจตกแต่งดีนะไว้ถ้าฉันแต่งงานมีลูกจะส่งมาเรียนการต่อสู้กับแกนะ
ได้สิฉันจะดูแลลูกแกเป็นอย่างดี แล้วแกจะแต่งงานเมื่อไหร่ล่ะแกก็คบกับแฟนแกมานานแล้วนี่
“ที่ฉันมาวันนี้ก็อยากจะมาบอกข่าวดีแกเนี่ยแหละอาทิตย์หน้าฉันจะแต่งงานแล้วมาด้วยนะ”
อ้ายฉิงหยิบการ์ดแต่งงานที่อยู่ในกระเป๋าของตนออกมาและยื่นให้กับซิ่วอิงเพื่อนรักของเธอ
แล้วแม่แกเป็นอย่างไรบ้าง หายป่วยหรือยัง
“ก็เหมือนเดิมแหละ ฉันก็ไม่อยากกลับไปรบกวนพ่ออีกเพราะฉันไม่อยากเจอหน้าแม่เลี้ยงกับพี่สาวที่คอยดูถูกเหยียดหยามฉัน”
ถ้าแกอยากให้ฉันช่วยอะไรบอกได้นะอย่างไรแกก็ยังมีฉันอยู่
ซิ่วอิงกับอ้ายฉิงนั่งพูดคุยกันตามประสาของเพื่อนจนเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงเวลาอาหารเที่ยง
“เที่ยงแล้วไปหาอะไรทานกันเถอะเดี๋ยวฉันเลี้ยงเองถือว่าเป็นการเลี้ยงสละโสดไปเลย”
ซิ่วอิงกับอ้ายฉิงช่วยกันเก็บของปิดประตูห้องเรียนการต่อสู้และไปขึ้นรถของซิ่วอิงเพราะอ้ายฉิงให้แฟนหนุ่มของตนมาส่งแล้วแฟนของตนก็เลยไปทำงานเพราะโรงเรียนสอนการต่อสู้ของซิ่วอิงเป็นทางผ่านที่จะไปบริษัทของแฟนอ้ายฉิงสักพักต่อมารถของซิ่วอิงก็มาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งอ้ายฉิงเห็นรถคันหนึ่งดูคุ้นตาเธอมากรถคันนั้นเป็นรถของแฟนเธอนั่นเองเมื่อรถของซิ่วอิงจอดสนิทอ้ายฉิงจำรถของแฟนตนได้จึงลงจากรถและรีบเข้าไปในร้านอาหาร
“รถแฟนฉันนี่ ไหนเขาบอกจะไปทำงาน”
เขาอาจจะมาแวะทานอาหารก็ได้อย่าคิดมากเลยเข้าไปในร้านกันเถอะ
ซิ่วอิงกับอ้ายฉิงเดินเข้าไปในร้านระหว่างนั้นก็เดินสวนเข้ากับชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินโอบเอวกันออกไปอ้ายฉิงจำได้ทันทีว่าคือแฟนหนุ่มของตัวเองอ้ายฉิงจึงรีบปลี่เข้าไปดึงตัวของแฟน
“ที่รักไหนที่รักบอกจะไปทำงานไงแล้วทำไมถึงมาเดินโอบเอวผู้หญิงคนอื่นแบบนี้”
“เบบี๋ขา ผู้หญิงคนนี้เป็นใครหรือคะ”
ฉันกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้แล้วเธอเป็นใคร
ฉันเป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาเราสองคนแต่งงานกันมาได้สามปีแล้วและเราสองคนกำลังจะมีลูกด้วยกัน
อ้ายฉิงเมื่อได้ฟังจากปากของผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างแฟนหนุ่มของตนก็เข่าทรุดเพราะแฟนที่คบกันมาหลายปีมีภรรยาอยู่แล้วเธอกับเขากำลังจะมีลูกด้วยกันอ้ายฉิงจึงถอดแหวนที่ฝ่ายชายขอแต่งงานปาใส่หน้าอกของฝ่ายชายก่อนจะวิ่งออกไปที่รถของซิ่วอิงทั้งน้ำตาก่อนที่ซิ่วอิงจะวิ่งตามเพื่อนของตนไปจึงชกหน้าฝ่ายชายหนึ่งหมัด
“ผู้ชายหลายใจแบบนายอย่ามายุ่งกับเพื่อนฉันอีก ไอ้หน้าตัวเมีย”
เบบี๋เจ็บตรงไหนหรือเปล่า